เคล็ดลับการลดความอ้วนแบบคุมประพฤติ ได้ผลแน่นอนค่ะ

เห็นมีน้องๆโพสต์หลายคนเรื่องวิธีการลดความอ้วน กินอาหารเสริมโน่นนี่นู่น แล้วก็ยังไม่ได้ผลค่ะ เลยอยากมาแชร์ประสบการและวิธีการดีๆเผื่อว่าจะเป็นประโยชน์นะคะ

ประวัติน้ำหนัก ก่อนมีลูก 54kg อวบระยะสุดท้าย  ก่อนคลอด 84kg  หลังคลอดเจ็ดวัน 75kg หลังคลอด 6 เดือน ลดเหลือ 56kg ค่ะ  หลังจากนั้นภายใน 8 ปี น้ำหนักเพิ่มขึ้นมา 9kg เป็น 65kg ค่ะ น้ำหนักขึ้นๆลงๆ บางครั้งทานอาหารเสริมที่เค้าว่าลดความอ้วน ก็ลงไปได้นิดหน่อยแล้วก็กลับขึ้นมา เคยทานชากาแฟที่โฆษณาว่าลดหุ่น คราวนี้น้ำหนักวิ่งขึ้นมาแบบคุมไม่อยู่ละค่ะ กินนี้ดเดียวก็เพิ่มขึ้นมาแล้ว จนงงว่าเราผิดปกติไปแล้วแน่เลย ปกติจะชอบออกกำลังด้วยการว่ายน้ำครั้งละ 1 กิโลเมตรต่อเนื่อง หรือเดินเร็ว 5 กิโลเมตรค่ะ ร่างกายโดยรวมแข็งแรง ไม่มีโรคอะไรเป็นพิเศษ รู้สึกไปเองว่าแข็งแรง สบายมาก จนกระทั่งตื่นมาแล้วงงงงค่ะ พอไปหาหมอ คุณหมอเช็คอย่างละเอียด แล้วบอกว่าความดันสูงแต่ไม่เห็นมีสาเหตุอื่น หลอดเลือดแข็งแรง ปริมาณไขมัน น้ำตาล ฯลฯ ปกติ มีอย่างเดียวที่ดูแล้วไม่ปกติคือน้ำหนักค่ะ  คุณหมอสั่งให้ลดน้ำหนักโดยไม่มีตัวช่วย ห้ามกินยา อาหารเสริม ทุกชนิด แต่ให้ออกกำลังทุกวันค่ะ

Mission possible คุณหมอตั้งเป้าให้ลดสัปดาห์ละ 1kg โดยไม่มีตัวช่วย น้ำหนักเริ่มต้น 65kg ต้องลดเหลือ 50kg ตอนนั้น บอกคุณหมอไปว่า น้ำหนัก 50kgนี่ไม่รู้ว่ามันผ่านมาในช่วงไหนของชีวิตค่ะ ขอเป็นซัก 55kg ก่อนได้ไหมคะ คุณหมอตกลงค่ะ แต่ขอเช็คน้ำหนักทุก 2 สัปดาห์

สัปดาห์ที่ 1-2  ว่ายน้ำ 1km หรือ เดิน 5km ทุกวัน กินข้าวน้อยๆ กินผักเยอะๆ  ลดลงแค่ 2ขีด เฮ้อ หมอและคนไข้ขำไม่ออกค่ะ ไม่เป็นไรพยายามต่อไป

เดือนที่ 2-6  พยายามออกกำลังกายตามเดิมแต่เป็นอาทิตย์ละ 4 วันค่ะ ทุกมื้อทานไม่เยอะ (คิดเองว่าน้อย) ยังทานขนมบ้างโดยเอาลูกมาอ้าง น้ำหนักลดรวม 3kg เหลือ 62kg แต่รู้สึกว่าทรมานเหมือนกันค่ะ ทำไมมันเหนื่อยยังงี้ ถ้าเผลอไปทานอะไรแบบหยุดไม่อยู่ น้ำหนักก็จะเพิ่มขึ้นมา 1kg ในวันรุ่งขึ้นเลยค่ะ

เดือนที่ 6-12 เริ่มเข้าที่และหาวิธีที่เหมาะกับตัวเองเจอแล้วค่ะ  ช่วง 6 เดือนหลัง ลดลงมาได้อีก 7kg แบบสบายๆ และมีความสุข สุขภาพทุกอย่างดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดค่ะ ความดันปกติดีมาก ผลเลือดดีมาก วิธีการง่ายๆตามนี้เลยค่ะ

1.  ออกกำลังกายเหมือนเดิม แต่ลดจำนวนวันลงเป็นอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ระหว่างวัน ก็เดินเล่นบ้าง ไปตลาดนัดบ้าง แต่เดินให้เร็วหน่อยค่ะ ทำให้ไม่เหนื่อยมาก ไม่เพลีย และไม่เครียดกับการออกกำลัง

2.  งด ลด ชา กาแฟ เย็นของโปรดค่ะ เป้าหมายคือลดความมันจากนมข้นจืดและนมข้นหวานที่ร้านเค้าใส่ให้เราค่ะ แต่ยังอยากดื่มอยู่ ก็ไม่ต้องทรมานตัวเองมาก  แก้ปัญหาด้วยการชงเองค่ะ ใส่นมข้นหวานได้ 1 ช้อนชา (ร้านใส่ให้เรา 4 ช้อนโต๊ะ) ใช้นมสดแทนนมข้นจืด  อาจอร่อยน้อยไปหน่อย แต่ก็ใช้วิธีค่อยๆปรับและมีความสุขกับการดื่มชาที่เราชงเองค่ะ เอาใส่กระติกไปทำงานด้วยก็ได้ค่ะ

3.  ของหวาน อาหาร ของมันทุกชนิด ทานได้หมด แต่มีข้อแม้คือ  ทานทุกอย่าง อย่างมีสติค่ะ คือก่อนทานหรืออ้าปากงับอะไร ให้คิดก่อนว่า เราหิวมั้ย เราจะกินแล้วนะ อืมมมมอร่อยจริงๆ ค่อยๆลิ้มรสไปค่ะ เคี้ยวช้าๆ เดี๋ยวหมดเร็วค่ะ  พอทานไปได้ซักพัก คะแนนความอร่อยมันจะค่อยๆลดระดับลงค่ะ ขอให้มีสติในการหยุด แล้วทิ้งของเหลือทั้งหมดลงขยะไปเลยค่ะ  ไม่ต้องเสียดาย ไม่ต้องเก็บ คิดซะว่า เสียเงินค่าของเหลือยังดีกว่าต้องไปเสียเงินค่ะลดความอ้วนนะคะ

4. ค่อยๆ ลดระดับความหวาน ความเค็ม ของอาหารที่กินค่ะ ถ้าสะดวกทำอาหารไปกินเองได้ก็ทำค่ะ จะทำให้เราลิ้มรสชาติได้ sensitive ถ้าเราเจออาหารที่หวานเกินไป เราจะแสบลิ้นแล้วเลิกกินไปเอง ทั้งๆที่แต่ก่อนเราก็กินได้นะคะ แต่ตอนนี้ไม่ไหวซะแล้ว

5. ทานอาหารเช้าแบบเต็มที่ค่ะ เอาให้อิ่มและมีประโยชน์ แนะนำให้ทานข้าวนะคะ ทานแบบไม่ต้องเกรงใจใครกันละค่ะ  จะทำให้อิ่มนาน สายๆ จิบกาแฟหรือชาที่ชงไปเอง บางครั้งเที่ยงก็ยังไม่หิว  ถ้ายังไม่หิว ก็ไม่ต้องกินค่ะ หิวนิดหน่อยก็กินเข้าไปนิดหน่อย ที่สำคัญคือ สติ.....

6.  ถ้ามีประชุม มีของว่างอร่อยๆ ก็ต้องงด หรือไม่ให้เอามาวางค่ะ ยกเว้นไม่ไหวก็เอาเลยค่ะ แต่ต้องงดมื้อต่อไป ต้องเลือกเอาค่ะ และต้องมีวินัยกับตัวเองด้วย

7.  มื้อเย็น ทานแป้งน้อยๆค่ะ เน้นผักลวก กินกับกับ ทำให้ร่วมโต๊ะกับครอบครัวได้อย่างมีความสุขค่ะ

8. ทานข้าวกับเพื่อนๆ ได้ ทาน buffet ได้ แต่ต้องจำไว้ว่า การไปทานข้าวเพื่อสังสรรค์และมีความสุขในการคุยค่ะ อาหารเป็นเพียงส่วนประกอบ ทานแต่พออิ่มนะคะ ไม่ต้องทานทุกอย่าง  ความคุ้มค่าไม่ได้อยู่ที่ปริมาณ แต่อยู่ที่ได้ทานของอร่อยอย่างละนิดหน่อยและได้คุยกับเพื่อนๆค่ะ

หวังว่าจะเป็นประโยชน์และไม่ยากจนเกินไปนะคะ ใครทำแล้วได้ผลก็มาช่วยบอกต่อด้วยค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ