[HAUL/REVIEW] **DIP DYED HAIR:Blonde-Pink จริงจัง!!!

สำหรับคนที่สงสัย Dip Dyed ก็คือการย้อมผมด้วยเทคนิคที่ให้เอฟเฟคเหมือนการจุ่มผมตรงปลายลงไปในสี [dip] น่ะค่ะ

เราก็อยากทำมานานแสนนานแล้ว ตั้งแต่ต้นปีน่ะค่ะ เพราะมีคนรู้จักคนนึงที่เรียนอยู่ออสเค้าทำมานานหลายปีดีดักตั้งแต่ปีที่แล้วแล้วน่ะค่ะ แล้ว เราก็เลยเกิดแรงบันดาลใจตั้งแต่ตอนนั้น แต่ก็ยังไม่ได้ทำซักที...
จนพี่จีนสุดเปรี้ยวไปทำผม two-toned บวกกับกระทู้พี่ฟะร้าที่ว่าด้วยเรื่องสีผมแบบ dip dyed
สุดท้ายเมื่อวันอาทิตย์เราก็เลยได้ฤกษ์ไปทำผมจนได้

ครั้งนี้โทรไปจองวันเสาร์แบบกระทันหันที่ร้าน WWW.RED ที่เซ็นทรัลพระรามสาม
เราก็นัดเค้าว่าจะเข้าไปทำวันอาทิตย์ ซึ่งเรารีเควสว่าช่างจะต้องเป็นพี่ป๋อมเท่านั้น
(ซึ่งพี่ บี beyondjealous ยกให้เป็นช่างสีประจำนะคะ และพี่ป๋อมก็ทำผมสีแดงให้เราคราวที่แล้วนานมาแล้ว แล้วเราติดใจมากกกก... ทั้งทำสีและตัดค่ะ ดูรูปตอนผมแดงกันก่อนเนอะ ไม่ได้กัดนะคะ)

ร้าน WWW.RED เนี่ยเป็น chain ของ ToB1 (2b1) นะคะ

ซึ่งร้านนี้ stylist ที่มีชื่อก็คือพี่ป๋อม
พี่ป๋อมทำงานละเอียดมากค่ะ และก็ให้เวลากับงาน เก็บรายละเอียดดี ใส่ใจสุขภาพเส้นผม และฟังลูกค้าค่ะ
จะไม่ใช่ช่างแนวทำลวกๆเร็วๆขอไปที หรือเอาแต่ใจตัวเองแบบบอกให้เล็มนิดนึงล่อไปครึ่งหัว ไม่ใช่เลยค่ะ
พี่ป๋อมวัยรุ่นมากๆและก็เข้าใจเทรนด์และบุคลิกของลูกค้าเป็นอย่างดีค่ะ

เข้าเรื่องคราวนี้เลย..
เราไปถึงก็ให้พี่ป๋อมดูรูปสีที่เราอยากได้ ซึ่งพี่ป๋อมทำเป็นค่ะ เพราะเมื่อวันเสาร์พี่ป๋อมก็ไปช่วยที่สาขา 2b1 สยาม
ดิพผมให้ทีมพี่ๆจีบันออฟฟิศมา..
พี่เค้าบอกว่าไปช่วยที่สยามทำ dip hair มา ให้เว็บอะไรน๊าา.. เว็บความสวยความงามผู้หญิง..
เราก็เอ๊..... เห็นพี่จีนไปทำที่นั่นมา หรือว่าจะ.. จีบันใช่มั๊ยคะ?
พี่เค้าก็บอกว่าใช่เลยย มากันทั้งออฟฟิศ อิอิ
ตอนเราไปสภาพผมเป็นเยี่ยงนี้นะคะ ย้อมน้ำตาลเข้มมาตั้งแต่ต้นปี หลุดหมดละ เราก็ได้ถ่ายภาพ before เอาไว้

สภาพผมเราตอนไปนะคะ ฮ่าๆๆ ที่เห็นเบี้ยวๆ เราตัดเองนะคะ มันยาวมากเลยกลางหลังมาแล้ว
เราก็มัดต่ำข้างหลังแล้วตัดตรงเลยระดับสูงกว่าอกหน่อย ชอบมาก สบาย
สภาพผมก็เสียพอสมควรแต่ก็ไม่ได้แย่อะไรค่ะ และเราเป็นคนไม่หวีผมเลยล่ะ 555

เราคิดว่าจะ dip ทั้งทีทำสีสวยๆไปเลยดีกว่า อยากได้ บลอนด์อ่อนๆ เจือหม่นๆหน่อยๆ แบบแพลตตินัมน่ะค่ะ และก็ปลายชมพู cotton candy
น่าสนใจแล้วใช่มั๊ยคะ? ^ ^
เราก็เปิดมือถือ เอารูปต่างๆให้ดู พร้อมกับถามให้แน่ว่าทำได้ใช่มั๊ย จะออกมาเป๊ะใช่มัย และก็ไม่เอา dip แบบ solid ตัดกันทื่อๆนะ ต้องไล่ๆโทนให้ด้วยแบบ ombre สมู๊ทๆนะคะ เหมือนเป็น gradation น่ะค่ะ
พี่ป๋อมบอกว่า "แหมม...ด้ายยยค่าาา"
เราก็เอ้อ! เอาเลยเชื่อใจสุดๆ
เริ่ม 4 โมงนิดๆค่ะ ไว้บอกตอนจบนะว่าเสร็จกี่โมง 5555 ช็อคโลกอ่ะ

ขั้นตอนแรก พี่ผู้ช่วย ชื่อซานิ ก็ลงทรีทเม้นต์ป้องกันผมเสียให้นะคะ สารเคมีจะได้ไม่เข้าไปในเกล็ดผมให้เสียจนเกินไปค่ะ
แล้วพี่เค้าก็เริ่มลงน้ำยาฟอกผมให้ค่ะ
น้ำยารอบแรกที่ฟอกเป็นน้ำยาที่มี ออกซิไดซ์ สูง ซึ่งเราเน้นว่าห้ามผมเป็นวุ้นหรือขาดเด็ดขาดนะคะ
พี่ป๋อมเลยบอกว่า รอบแรกใช้น้ำยาฟอกแบบแรงหน่อย และลงน้ำยาบนช่อผมที่แบ่งมาบางๆ และเริ่มห่อฟอล์ย
พี่ซานิ (สาวประเภทสองที่หน้านิ่งมาก แต่ตลกสุดๆนะคะเวลาพูดแต่ละที น่ารักมากค่ะตอนแรกแอบกลัว หน้าแกนี่กินหัวเราได้อ่ะ)
พี่เค้าตอนแรกจับห่อแบบพับๆ.. แล้วพี่ป๋อมคอยดูอยู่ข้างๆ ติดลูกค้ายุ่งสุดๆ แต่คอยดูทุกขั้นตอนนะคะตอนแรก
พี่ป๋อมบอกว่า ไม่ได้นะ! ห่อแบบยาวๆดีกว่าไม่ต้องพับ

นี่ค่ะ พี่ป๋อมเดินมาทำเองต่อ (เบรคจากลูกค้าคนอื่นมา) พี่เค้าละเอียดและใจเย็นมากค่ะ
บอกว่า จะไม่เข้าเครื่องที่ใช้ความร้อนที่เร่งปฏิกิริยา เพราะจะทำให้ผมเป็นวุ้นและขาดได้
พี่ป๋อมบอกว่า ห่อบางๆ และใช้ความร้อนจากร้างกายและอากาศให้น้ำยาค่อยๆทำปฏิกิริยากับเส้นผมดีกว่า
เสียเวลา แต่ไม่เสียผมค่ะ
รอบแรกยังไม่ลงโคนนะคะ

ห่อจนจะหมดหัวละค่ะ พี่ซานิก็ห่อไป พี่ป๋อมก็ห่อไปเช็ครายละเอียดไป
อ่อ.. ร้านนี้ที่กันหูไม่ธรรมดานะคะ 555 ทิชชู่ฉีดน้ำค่ะ ให้หมาดๆและเอามาครอบ พี่ซานิไปได้เทคนิคมาจากร้านลุงแถวไหนเนี่ยแหละ 555

ถึงตอนนี้ห่อไว้ประมาณ 15 นาทีแล้วมั๊งคะถ้าจำไม่ผิด..
พี่ป๋อมก็มาแกะทีละอัน และเช็คทีละช่อๆ
พี่ป๋อมบอกว่า เราไปอบรมที่เมืองนอกมา ทำแบบปราณีตมาก ห่อสวยๆ ใจเย็นๆ ผลลัพธ์ก็จะสวยไม่เสีย
เราไปอบรมมายังไง ก็ต้องกลับมาทำให้ได้มาตรฐานเป๊ะๆสิ ! เนี่ย! เลิศป่ะ

พี่ป๋อมก็เช็คไป ทุกคนมารุมอยู่กะหัวหนูตอนนี้ ช่วยกันฉีกฟอล์ย ช่วยกันตีน้ำยาฟอกไม่ให้เป็นก้อนค่ะ
ตรงไหนที่สีเริ่มออกแล้ว พี่ป๋อมก็จะฉีดน้ำใส่ เพื่อเจือจาง จะได้ไม่วุ้น ไม่ยืด นะคะ และก็ห่อต่อ

ชาตินึงผ่านไป มาเช็คสี และมาแกะออกแล้วค่ะ

สีที่เห็นจะหลอกตานะคะ มันมีน้ำยาสีขาวอยู่ จะทำให้ดูขาวสว่างกว่าความเป็นจริง ตอนล้างจะไม่ใช้แบบนี้ค่ะ

ล้างแล้วค่ะ รอบแรก
เป็นไงคะ ทองสก๊อยมั๊ยคะ (สก๊อยไม่ได้ผิดอะไรนะคะ 555 แค่เป็นการเปรียบเทียบที่เข้าใจได้ง่ายเนาะ)
และก็ลงทรีทเม้นต์ด้วยค่ะ บำรุงเต็มที่มากๆ

อื้มมม.... พี่เค้าถามว่าเดินออกไปสีเนี้ย เอาม๊ะ...
ไม่เอาอ่ะพี่.. เป่าไปเป่ามา... ก็โอนะพี่ หนูโอเค.. แต่ทำต่อเถอะ ดีกว่านะ.... 555

รอบสองจ้าววว...
คราวนี้น้ำยาจะเปลี่ยนตัวที่ไม่มีออกซิไดซ์แล้วนะคะ และใส่สิ่งที่พี่ป๋อมเรียกว่า "วาย-แบน"..
ไรง่ะ.. ไรฟระ... เราไม่รู้จริงๆค่ะว่าเขียนยังไงกันแน่
แต่มันก็คือ น้ำนมค่ะ
ผสมน้ำนมลงไปเพื่อให้เจือจางและถนอมเส้นผม
เนื่องจากเราบอกว่า หนูไม่อยากให้ติดเหลืองเลยนะคะ
พี่ป๋อมเลยใส่แม่สีลงไปด้วย สีที่ฆ่าสีเหลืองก็คือน้ำเงินค่ะ
ใส่น้ำเงินลงไป แล้วก็ตีๆๆ ต้องตีและคนจนกว่าก้อนๆผงๆจะหายไปนะคะ เป็นการไล่กลิ่นด้วย
น้ำยาฟอกตัวสองนี้ แทบไม่มีกลิ่นเลยค่ะ
เห็นมั๊ยคะ ว่าขาวขึ้นแล้ว.. คราวนี้ลงชิดโคนเลยค่ะ
แสบนิดหน่อย ไม่แย่ค่ะ..
แต่ตอนนวดติดหนังหัวหลังทิ้งไว้ซักพักเนี่ย อื้อหือออ... ใช้ได้อยู่
เราก็เดินค่ะ เดินๆๆ ให้มันเย็นๆ มันจะได้ไม่แสบ
อ้อ เรามีอาวุธเป็นยาดมด้วยนะคะ 55
ถึงจุดนี้ คนหมดห้างแล้วค่า...
มีเบรคกินของว่าง ข้าวเย็นด้วยนะคะ
คือนานจริงๆจนจำไม่ได้ว่าอะไรนานแค่ไหน
แต่รอบนี้ประมาณ 10กว่านาทีค่ะ ไม่นับตอนลงน้ำยานะ

ล้างแล้ว... ก็ยังเหลืองอยู่นิดๆนะคะ แต่ถือว่าอ่อนมากแล้ว
เพราะเม็ดสีผมคนไทย ไม่เหมือนฝรั่งนะคะ คนเอเชียเม็ดสีผมจะออกแดงค่ะ กัดแล้วเลยเหลืองส้มค่ะ
พอล้างเสร็จ ก็ต่อด้วยทรีทเม้นต์อีกค่า บอกแล้วป้องกันสุดๆ
แล้วก็ล้างออก แล้วก็ถึงเวลาลงสีแล้วค่ะ
สีที่ลงเป็น แพลตินัมบลู นะคะ พี่เค้าผสมให้ได้ตามต้องการ
และก็เพื่อลดความระคายเคือง ก็ผสมแชมพูเข้าไปค่ะ เยอะๆๆๆๆ เลย
แต่ที่สุดแล้วค่ะ แสบแบบ จิกเตียงสระอ่ะเออ...
ถีบได้ถีบแล้ว
พี่สองคนช่วยทำงานกันสุดฤทธิ์ค่ะ
และรีบล้างออก
วิธีนี้คือการนวดสีนะคะ
ของเราก็ลงแค่ติดโคนถึงตรงกลาง เหลือปลายไว้สำหรับชมพูค่ะ
พอล้างปั๊บก็ลง ดีทอกซ์ หนังสีสระเลยค่ะ เพื่อล้างสารเคมี ซึ่งมันสุดยอดมากอ่ะค่ะ
มันคลายความเจ็บอย่างกะเวทมนตร์ อิอิ

สีและแสงไฟตรงนี้ทำให้ดูออกเขียวกว่าความเป็นจริงนะคะ
ตอนนี้โคนจะไม่ค่อยเท่ากับที่เหลือนิดๆนะคะ แค่นิดเดียวจริงๆ เพราะแสบมากเกินละคะ
ซึ่งไม่ได้เป็นปัญหาเลยค่ะ

มา.. ถึงขั้นตอนการ dip แล้ววว..
ตอน dip ต้องเอาครีมนวดโชลมที่เหลือส่วนบนก่อนนะคะ เป็นทริคไม่ให้สีติดค่ะ
วิธีที่ให้ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ตัดต่อแบบทื่อๆ ก็คือการรวบผมขึ้นมาเป็นหางม้าและจุ่มลงในถ้วยสีค่ะ dip จริงๆนะ อิอิ
ทำรอบนึงแบบทิ้งไว้แป๊บเดียว แล้วล้างออก และทำอีกรอบให้ปลายกว่าเดิมและทิ้งไว้นานกว่าเดิมนิดหน่อย ก็จะได้การไล่สีที่สมู๊ทแล้วค่ะ
ชมพูที่พี่เค้าผสม พี่เค้าใช้สีแดงกับม่วงเข้าด้วยกันนะคะ

น่ากลัวนะเหมือนเลือดดดด...
ล้างๆๆ แล้วก็ลงทรีทเม้นต์อีกแล้วค่ะ!!! 55

เป่าแล้ว.. ตอนนี้คือยังหมาดๆอยู่นะคะ แค่นี้ก็ชอบละคะ
ไม่มีเวลาตัดแต่งใดๆทั้งสิ้นละ

เสร็จแล้ววว... กลับมาถ่ายที่หอค่ะ เพราะจะบอกว่าเริ่ม 4โมงกว่าใช่มั๊ย.....
เสร็จ 5ทุ่มกว่าจ้าาาา... ห้างปิดตั้งแต่ สามทุ่มครึ่งอ่ะค่ะ  7ชม.นะ

แสงต่างกันสีก็เปลี่ยนค่ะ

ถ้าดูในชีวิตจริง สีจะใกล้เคียงกับแบบนี้เลยค่ะ

ใต้ไฟส้มค่ะ

ไม่จบๆ.. วันต่อมาไปตัดปลายออก ก็จะไม่เสียแล้วค่ะ เพื่อนๆจับแล้วบอกว่าเฮ้ยไม่น่าเชื่อ แทบไม่เสียเลยค่ะ เรียกได้เลยว่าสภาพผมปรกติมากๆค่ะ นุ่มด้วยซ้ำ

สีแบบนี้จะม้วนปลายเล็กๆให้ดูผู้หญิงๆหน่อยก็ทำได้้นะคะ

สีชมพูตรงปลาย ถ้าสระผมก็อยู่ได้ประมาณ 2-3 อาทิตย์ค่ะ
พี่ป๋อมทำมาให้เข้มกว่าที่อยากได้นิดหน่อยค่ะ เผื่อสระ ^ ^
ตอนนี้พี่ป๋อมกำลังจะไปออสเตรเลียค่ะ ไปดูงานเกี่ยวกับผม และก็สัญญาไว้ว่าจะไปเอาสีชมพูสวยๆที่ติดทนๆกลับมา
แล้วถ้าเบื่อชมพูแล้วก็เปลี่ยนได้เรื่อยๆเลยค่ะเมื่อไหร่ก็ได้ จะฟ้า เขียว ม่วง เทา ได้หมดค่ะ เพราะตอนนี้สีพื้นอ่อนเล่นกับสีอะไรก็สนุกค่ะ
มีคนถามว่าทำไมไม่ย้อมคิ้ว.. เราชอบคิ้วสีเข้มค่ะ เรารู้สึกว่าหน้าจะไม่จืด และสำหรับเราเราว่าไม่แปลกค่ะ
มีผู้หญิงผมบลอนด์เยอะค่ะ ที่คิ้วสีเข้มเนอะ เราชอบของเราซะอย่าง ^ ^

หวังว่าจะได้เกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆจากที่พล่ามมายาวเหยียดไปไม่มากก็น้อยนะคะ
สำหรับใครที่สนใจจะทำสีแบบนี้ แนะนำเลยนะคะ
ร้าน WWW.RED พี่ป๋อม
เซ็นทรัลพระรามสาม ชั้น1 ข้างๆ lacoste ค่ะ

สำหรับคราวนี้เผื่อมีใครสงสัยนะคะ ค่าเสียหาย 9,xxx บาทค่ะ
ที่แพงเพราะเราผมหนามากกกก ผมเยอะมาก และลงทรีทเม้นต์ และดีทอกซ์ด้วยเนื่องจากแพ้ง่ายน่ะค่ะ
เลยออกมาราคาสูงหน่อย.. แต่เราว่าคุ้มมากนะคะ กับคุณภาพ และความตั้งใจบริการที่ได้รับมา

ลากันไปก่อนด้วยภาพนี้นะคะ ถ่ายรูปสนุกมากค่ะสีผมใหม่ แค่เปลี่ยนฟิลเตอร์ก็ได้เฉดใหม่ๆแล้ว
ฝาก instagram นะคะเผื่อใครอยากดูรูปเพิ่มเติมรีเควสได้นะค้า
@PEARRAWWR
ขอบคุณที่ติดตามค่า เจอกันใหม่กระทู้หน้านะคะ
สวัสดีค่ะ