เสียค่าโง่เกือบ 6000บาท กับรถมอเตอร์ไซค์คลาสสิก
daijobu_710 วันนี้ขอมาระบายบ้างน่ะค่ะ
พอดีช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาเรากำลังมองหามอเตอร์ไซต์ จะเอาไว้ขี่ไปทำงานก้อดูไว้ทั้งมือ1 มือ2
บังเอิญช่วงวันหยุดเราได้กลับบ้านไปเยี่ยมแม่แล้วไปเดินตลาดนัดแห่งนึง (ขอไม่บอกน่ะค่ะ) มีร้านของพี่คนนึงเค้า
ขายพวกรถญี่ปุ่นคลาสสิกน่ารักมากเป็นรถ 50 ซีซีแบบไม่ต้องมีทะเบียน (ขอบอกว่าตอนนั้นเราชอบแฟนก้อชอบ)
พี่เค้าก็ใจดีพูดจาดีเป็นกันเองคือ ต่างฝ่ายต่างถูกใจกัน เจ้าของก็ให้เราลองขี่ แบบว่าอารมณ์เราตอนนั้นถูกใจมากก
ชอบเราต่อราคาพี่เค้าพี่เค้าก้อบอกว่าลดได้ 2000 พี่ได้กำไรไม่เยอะหรอกน้องเราก้อตกลงกันว่าจะซื้อด้วยเราทำงาน
อีกจังหวัดนึงก้อเลยต้องมีค่าส่งรถอีก(ส่งบริษัทขนส่งทั่วไปคือถ้าของหัก แตก หรือถลอกไม่รับิดชอบใดๆทั้งสิ้น
ไม่เหมือนไปรษณีย์) พี่เค้าบอกว่าไม่แน่ใจพี่เค้าก้อบอกไม่น่าจะเกิน 1500 ถ้าเกินเด๋วพี่เค้ารับผิด
ชอบเองเราก้อโอเคแบบพูดจาถูกคอกันสุดๆๆ
สภาพรถตอนนั้นโอเคสุดๆ สรุปวันนั้นเราก้อได้วางมัดจำไป 2000 บาท แล้ววันถัดไปเราก้อไปจ่ายส่วนที่เหลืออีก
28500 บาท (ค่ารถ 29000+ค่าส่ง1500 = 30500 บาท) หลังจากที่พี่เค้าส่งรถให้เราก้อติดต่อคุยกันพี่เค้าก้อบอกว่า
พี่ได้กำไรจากค่าสงแค่ 200 เองนู้นนี่นนั้นเราก้อโอเคไม่ได้ว่าอะไรไป
สองสามวันถัดมาเราก้อได้รับรถ สภาพรถที่ได้คือถลอกไปจุกนึง แล้วเราก้อเอาใบส่งของมาดูค่าส่ง เอ๊ะ!!! 750บาท
(ไหนบอกตูว่าได้กำไร 200 จาก1500 แต่ก้อไม่ได้โยวายอะไรอีกน่ะ)
พอขี่ทุกอย่างก้อโอเค จนแฟนเราเอารถคันนี้ออกไปใช้ดูขี่ไปทำงานได้สองวัน
วันที่สองแฟนเราเลิกงาน กำลังขี่กลับบ้าน จู่ๆรถก้อดับวูบ สตาร์ทไม่ติดเลยเอาไปร้านซ่อม ช่างก้อบอกว่าต้องล้างคาร์บู
ค่าล้างก้อปาไป 400 บาท เราเลยรีบโทไปบอกพี่เค้า พี่เค้าก้อดีน่ะค่ะรีบบอกเราว่าจะจ่ายค่าซ่อมให้
หลังจากซ่อมเสดขี่ได้อีก1วัน รถกลับมาเป็นอาการเดิมอีก เราก้อยังไม่ลดละความพยายามเอาไปร้านซ่อม
(แต่ครั้งนี้เป็นร้านญาติเราเอง) ใช้เวลาซ่อมไป 2-3 วันเพราะช่างต้องลองเครื่องดูว่าใช้ไช้ดีรึยัง
ครั้งนี้ก้อซ่อมไปอีก 1200 บาท(เปลี่ยนลูกสูบกับคว้านลูกสูบ) ระหว่างที่ให้ร้านญาติเราซ่อมเราก้อให้พี่เค้าคุยกับช่าง
เองเลยเผื่อจะมีอะไรแนะนำกัน หลักจากซ่อมเสดพี่เค้าก้อโอนตังค่าซ่อมทั้งหมดห้เรารวมเป็น 1600 บาท
หลังจากนั้นก้อขี่ได้อีก 2 วันแล้วก้อเป็นอาการเดิมอีก คือขี่ๆอยู่แล้วก้อดับ สตาร์ทก้อไม่ติด
แฟนเราก้อหมดความอดทนเลยคุยกับพี่เค้า(ในใจเรากับแฟน อยากขายคืนกลับไเพราะซื้อมาก้อแพงแทนที่จะได้ใช้
ดีๆ กลับต้องพาไปร้านซ่อมทุกๆ 2 วัน อย่างนี้ก้อไมไหว) แฟนเราเลยตัดสินใจโทไปเคลียกับพี่เค้า พี่เค้าก้อได้พูดว่า
พี่ขายรถมาก็หลายคันไม่เคยเจออาการแบบนี้ พี่ไม่สบายใจเลบ บลา บลา บลา พี่เองก็งงว่าซ่อมขนาดนี้แล้วทำไม
ยังมีอาการแบบนี้อีก ทีนี้พี่เค้าเริ่มกล่าวถึงช่างและค่ะ อาการแบบนี้น่าจะมีสาเหตุ 2 กรณีน่ะครับ
พอดีช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาเรากำลังมองหามอเตอร์ไซต์ จะเอาไว้ขี่ไปทำงานก้อดูไว้ทั้งมือ1 มือ2
บังเอิญช่วงวันหยุดเราได้กลับบ้านไปเยี่ยมแม่แล้วไปเดินตลาดนัดแห่งนึง (ขอไม่บอกน่ะค่ะ) มีร้านของพี่คนนึงเค้า
ขายพวกรถญี่ปุ่นคลาสสิกน่ารักมากเป็นรถ 50 ซีซีแบบไม่ต้องมีทะเบียน (ขอบอกว่าตอนนั้นเราชอบแฟนก้อชอบ)
พี่เค้าก็ใจดีพูดจาดีเป็นกันเองคือ ต่างฝ่ายต่างถูกใจกัน เจ้าของก็ให้เราลองขี่ แบบว่าอารมณ์เราตอนนั้นถูกใจมากก
ชอบเราต่อราคาพี่เค้าพี่เค้าก้อบอกว่าลดได้ 2000 พี่ได้กำไรไม่เยอะหรอกน้องเราก้อตกลงกันว่าจะซื้อด้วยเราทำงาน
อีกจังหวัดนึงก้อเลยต้องมีค่าส่งรถอีก(ส่งบริษัทขนส่งทั่วไปคือถ้าของหัก แตก หรือถลอกไม่รับิดชอบใดๆทั้งสิ้น
ไม่เหมือนไปรษณีย์) พี่เค้าบอกว่าไม่แน่ใจพี่เค้าก้อบอกไม่น่าจะเกิน 1500 ถ้าเกินเด๋วพี่เค้ารับผิด
ชอบเองเราก้อโอเคแบบพูดจาถูกคอกันสุดๆๆ
สภาพรถตอนนั้นโอเคสุดๆ สรุปวันนั้นเราก้อได้วางมัดจำไป 2000 บาท แล้ววันถัดไปเราก้อไปจ่ายส่วนที่เหลืออีก
28500 บาท (ค่ารถ 29000+ค่าส่ง1500 = 30500 บาท) หลังจากที่พี่เค้าส่งรถให้เราก้อติดต่อคุยกันพี่เค้าก้อบอกว่า
พี่ได้กำไรจากค่าสงแค่ 200 เองนู้นนี่นนั้นเราก้อโอเคไม่ได้ว่าอะไรไป
สองสามวันถัดมาเราก้อได้รับรถ สภาพรถที่ได้คือถลอกไปจุกนึง แล้วเราก้อเอาใบส่งของมาดูค่าส่ง เอ๊ะ!!! 750บาท
(ไหนบอกตูว่าได้กำไร 200 จาก1500 แต่ก้อไม่ได้โยวายอะไรอีกน่ะ)
พอขี่ทุกอย่างก้อโอเค จนแฟนเราเอารถคันนี้ออกไปใช้ดูขี่ไปทำงานได้สองวัน
วันที่สองแฟนเราเลิกงาน กำลังขี่กลับบ้าน จู่ๆรถก้อดับวูบ สตาร์ทไม่ติดเลยเอาไปร้านซ่อม ช่างก้อบอกว่าต้องล้างคาร์บู
ค่าล้างก้อปาไป 400 บาท เราเลยรีบโทไปบอกพี่เค้า พี่เค้าก้อดีน่ะค่ะรีบบอกเราว่าจะจ่ายค่าซ่อมให้
หลังจากซ่อมเสดขี่ได้อีก1วัน รถกลับมาเป็นอาการเดิมอีก เราก้อยังไม่ลดละความพยายามเอาไปร้านซ่อม
(แต่ครั้งนี้เป็นร้านญาติเราเอง) ใช้เวลาซ่อมไป 2-3 วันเพราะช่างต้องลองเครื่องดูว่าใช้ไช้ดีรึยัง
ครั้งนี้ก้อซ่อมไปอีก 1200 บาท(เปลี่ยนลูกสูบกับคว้านลูกสูบ) ระหว่างที่ให้ร้านญาติเราซ่อมเราก้อให้พี่เค้าคุยกับช่าง
เองเลยเผื่อจะมีอะไรแนะนำกัน หลักจากซ่อมเสดพี่เค้าก้อโอนตังค่าซ่อมทั้งหมดห้เรารวมเป็น 1600 บาท
หลังจากนั้นก้อขี่ได้อีก 2 วันแล้วก้อเป็นอาการเดิมอีก คือขี่ๆอยู่แล้วก้อดับ สตาร์ทก้อไม่ติด
แฟนเราก้อหมดความอดทนเลยคุยกับพี่เค้า(ในใจเรากับแฟน อยากขายคืนกลับไเพราะซื้อมาก้อแพงแทนที่จะได้ใช้
ดีๆ กลับต้องพาไปร้านซ่อมทุกๆ 2 วัน อย่างนี้ก้อไมไหว) แฟนเราเลยตัดสินใจโทไปเคลียกับพี่เค้า พี่เค้าก้อได้พูดว่า
พี่ขายรถมาก็หลายคันไม่เคยเจออาการแบบนี้ พี่ไม่สบายใจเลบ บลา บลา บลา พี่เองก็งงว่าซ่อมขนาดนี้แล้วทำไม
ยังมีอาการแบบนี้อีก ทีนี้พี่เค้าเริ่มกล่าวถึงช่างและค่ะ อาการแบบนี้น่าจะมีสาเหตุ 2 กรณีน่ะครับ
1. ช่างซ่อมไม่ตรงจุด
2. แฟนน้องขับไม่ดีบิดคนเร่งค้างรึป่าว.... (แฟนเราก้อรู้เรื่องรถพอสมควรว่าควรจะขี่รถแบบนี้ยังไงน่ะ)
2. แฟนน้องขับไม่ดีบิดคนเร่งค้างรึป่าว.... (แฟนเราก้อรู้เรื่องรถพอสมควรว่าควรจะขี่รถแบบนี้ยังไงน่ะ)
แล้วพูดแถมมาว่าตามหลักแล้วน้องซื้อของไปหน้าที่พี่ก้อจบ พี่ไม่จำเป็นต้องมารับผิดชอบค่าซ่อมเลยด้วยซ้ำ
(เริ่มพูดจาแบบไม่รับผิดชอบ แต่ใช้คำพูดดูดีมากแต่ความหมายเนี่ยทำให้เราขึ้นสุดๆแต่ยังคงเก็บอาการอยู่)
แล้วพี่เค้าก้อเสนอมาว่าน้องจะส่งกลับมาให้พี่ซ่อมก้อได้น่ะแต่น้องคงต้องรับผดชอบค่าใช้จ่ายเองเพราะพี่เองก้อทำ
สุดความสามารถแล้ว เราเองก้อแบบอึ้งงงง!!! คือเราซื้อรถมาก้ออยากจะใช้มันในสภาพดีๆๆ อีกอย่างไม่ได้ซื้อมา
ในราคาถูกด้วย มีที่ไหนซื้มาขีได้ 2 วัน พังต้องซ่อม ซ่อมแล้วซ่อมอีก แล้วถ้ายังจะเก็บไว้ก้อต้องซ่อมเรื่อยๆไม่มีวันหาย
จนสุดท้ายเข้าเรื่องซักที พี่เค้าก้อเริ่มจะรู้ตัวว่าเราอยากขายกลับเค้าก้อให้เราประเมินราคาไปเค้าบอกว่าเค้า
ประเมินไม่ถูกทางเราก้อคิดไปว่าเอาอเอาคารถเดิมหักค่าซ่อมออกไป 1600 บาท ก้อเหลือ 27000 พี่โอเคมั้ย
พี่เค้าก้อรีบตัดบทว่าเด๋วพี่โทบอกอีกทีพี่ติดธุระอยู่ พอมาอีกวันเราก้อโทไปหาพี่เค้า สรุปว่าพี่เค้าให้ได้แค่ 25000
เท่านั้นพี่สู้ได้แค่นี้ ค่าส่งรถกลับน้องก้อต้องจ่ายเอง (เราก้อคิดว่า เอาว่ะขาดทุนก้อขาดทุนแต่ก้อยังดีกว่าเสียเปล่า
ถือว่าฟาดเคราะห์ไป)
สรุป
เราได้ไปศึกษาราคารถรุ่นนี้ร้านอื่นขายแค่ 22000-26000 บาท
ค่าส่งตามจิงแค่ 750บาท (ซึ่งราคา 1500 ที่เราจ่ายไปเป็นราคาที่ส่งกับไปรษณีย์ซึ่งจะรับผิดชอบค่าเสียหายถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับของชั้นนั้น)
สุดท้ายเราก้อต้องขาดทุนไป 5500+750 ค่าส่งรถคืน= 6250 บาท เวรกำจิง T_T
Discussion (10)
ยังไงก้อถือว่าเสียเงิน 6000 แต่ได้เรียนรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับรถคลาสสิก
(ตอนแรกแอบเสียดายเงิน เอาเงินไปช็อปปิ้งคงได้หลายอย่าง แต่ก้อเหอะน่ะ คนเราไม่ตายก้อหาเงินใหม่ได้ )
ขอบคุณทุกความคิดเห็นมากๆค่ะ จุ๊ฟ จุ๊ฟ
ไม่เกิน 25000เลย แต่คนขับต้องเป็นคนซ่อมรถเป็นนะ เพราะจุกจิกอ่ะ
แต่ส่วนมาก ราคานี้นี่ดีเริ่ด เปลี่ยนเครื่องใหม่ทำโครงให่ ทุกอย่างอ่ะ
ปัญหาทั่วไปรถพวกนี้คือ คาร์บู แม่มชอบทำรถดับ น้ำเข้าจึ๋งนึงก็ดับละ 5555
ลองหาที่อื่นดูค่ะ ถ้าใจรักก็ดูดี ๆ หรือ ซื้อซากมาทำเองก็ได้นะ
พ่อ เราไปซื้อซากมาไม่กี่พันเอง มาแต่งนู่นนี่ ขาย 25000 กำไรอื้อเลย
จิ๊บๆ ค่ะ สำหรับ คนเล่นรถคตลาสสิค สำหรับเรา ถือเป็น " ค่าเข้าวงการ " เสมอ - -" ( ไม่อยากหรอก)
เราเองก็เล่นอยู่ในระดับนึงค่ะ
เข้าใจว่า จะซื้อรถสักคัน ก็ไม่อยากเจออะไร ที่โดนหลอก
แต่รถคลาสสิค คือรถเก่า
รถเก่าที่ สมบูรณ์เลย ตั้งแต่ซื้อมา " ไม่มี "หรือ " ไม่ค่อยมี" หรอกค่ะ
ต้องเอามาเก็บงานเล็กน้อยเสมอ
จริงๆ คราวหน้า ถ้าจะซื้อ อยากให้ใจเย็นสุดๆๆๆๆๆ
กำเงินไว้ ีรถให้ซื้อเยอะแยะแน่นอนค่ะ " มีเงินในมือ รถหาได้เสมอ "
ให้ศึกษาในหลายๆทางค่ะ
รถพวกนี้ใจต้องรัก ขี่ไปซ่อมไป "สุขยามขับ เศร้ายามซ่อม "
แต่ถ้ารักเขาจริงๆ เขาจะพาเราไปที่ต่างๆ อย่างมีความสุข ที่รถใหม่ ให้ไม่ได้ค่ะ
ไปแวะเยี่ยมเราได้น๊าาา ฟบ./NomyenAdventure/ ค่ะ ^^
แล้วต้องทำใจด้วยว่าต้องเข้าอู่บ่อย เพราะมันเป็นรถเก่า
ถ้าจะเอาไว้ใช้งานเราแนะนำพวกฟิโน่ไรงี้ดีกว่า ทนกว่าเยอะ ค่าซ่อมถูกด้วย