แชร์เรื่องหาหมอผิวหนังรักษาสิวที่โรงพยาบาลศิริราชคะ

        ขอแชร์ประสบการณ์การไปหาหมอผิวหนังรักษาสิวที่โรงพยาบาลศิริราช ให้กับผู้ที่สนใจจะไปและยังไม่เคยไปเผื่อจะเป็นประโยชน์กับบางท่านคะ

- ก่อนอื่นเลยเราเปิดเน็ตศึกษาข้อมูลทั่วไปก่อนว่าผู้ป่วยใหม่ต้องไปที่ไหน อะไรยังไง กันเหวอคะ แล้วก็ตัดสินใจไปเลยในช่วงเช้าของวันที 18 เมษายน 2555 ( วันนี้นี่เองคะ - ใจร้อนเอาให้จบๆไปคะ)

เราเดินทางนั่งรถเมล์ไปลงที่ท่าพระจันทร์ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าช่วงนี้โป๊ะท่าพระัจันทร์ซ่อมแซมคะั ใครที่จะช่วงนี้ต้องเดินไปข้ามเรือที่ตรอกวัดมหาธาตุแทนนะคะ เรายอมรับว่าวันนี้ไปแบบเป็นไงเป็นกันจริงๆคะ ไปแบบงงๆกล้าๆเดินฉับๆไปยังตึก OPD ผู้ป่วยนอก แบบไม่รู้เส้นทางคะแต่ดีที่ว่าเค้ามีป้ายตึกไว้ให้ก็เลยมั่วๆเดินไปแต่สักพักป้ายหายก็เลยถามพี่พนักงานแถวนั้น แล้วลุยต่อคะ ซึ่งเราเป็นผู้ป่วยใหม่และเวลานั้นประมาณ 8.10 น.ที่แล้ว เราเห็นในเน็ตบางคนบอกว่าถ้าเลย 8.30 น. จะช้าและอดตรวจเราเลยเดินแบบเหาะไปเลยคะ บวกกับป้าๆลุงๆที่มาตรวจ โหๆๆๆขอบอกว่าขวางเส้นทางอย่างแรงเราเลยต้องพยายามแทรกตัวไม่ให้ชนป้าๆลุงๆ แล้วพุ่งไปที่ชั้น 1 ของตึกคะ เดินเข้าไปเรือยๆก็จะมีป้ายบอกว่าทำบัตร ผู้ป่วยใหม่ เราก็เดินงงๆไปมองๆแล้วจับใจความได้ว่าต้องใช้สำเนาบัตรประชาชนด้วย เลยวิ่งไปถ่ายด่วนแล้วกลับมาหยิบเอกสารกรอกผู้ป่วยใหม่ ซึ่งจะจัดวางไว้บริเวณโต๊ะกรอกเอกสารแถวๆนั้นคะ มองหาง่ายๆไม่ยาก 

กรอกเสร็จแล้วเราก็เอาไปยื่นที่โต๊ะนางพยาบาล 2 นางที่นั่งตรงป้ายที่ว่า "จุดคัดกรองผู้ป่วยใหม่" เค้าก็จะถามๆว่าเป็นอะไำรมา มาตรวจอะไร เค้าก็เขียนลงในใบสี่เหลี่ยมเล็กๆ แล้วเราก็ไปต่อที่โต๊ะทำบัตรใหม่คะ อันนี้จะเสียเวลาหน่อยเพราะเจ้าหน้าที่มีน้อยแต่โชคดีจะมีเจ้าหน้าที่อื่นมาดึงเราไปยื่นที่ช่อง 3 แทน เลยไวนิดนึงแล้วเราก็จะได้บัตรตรวจให้ไปติดต่อที่ชั้น 4 ห้อง 400 คะ อันนี้เสร็จไปแล้ว 1 ขั้นตอน อ่อ...ลืมบอกไปคะว่าสำหรับผู้ป่วยใหม่ บัตรจะถูกแนบไปกับแฟ้มประวัติเราไม่ต้องกังวลคะ

พอมาถึงชั้น 4 ห้อง 400 จะเจอคนเยอะมากๆๆๆที่มาเช้ากว่าเรา แต่เราต้องมีสติคะอย่างง รีบไปนั่งโต๊ะเล็กๆที่หน้าห้อง 400 เป็นโต๊ะวัดความดัน ซึ่งเราก็ไ่ม่รู้ว่าจะวัดทำไมมาตรวจสิวแท้ๆ แต่ก็ทำตามกติกาไปวัดแล้วพยายาลก็บอกว่าให้ไปนั่งรอแบบไม่มีจุดหมายคะ เพราะบัตรคิวอะไรก็ไม่มีแต่ก็เนียนๆไว้ไม่ให้เสียฟอร์ม

ผ่านไป 30 นาที พยาบาลตรงทะเบียนห้อง 400 จะประกาศรายชื่อใส่ไมค์ให้เราเอาบัตรที่ตรวจความดันไปยื่น พอยื่นเค้าก็จะทำหน้ามึนๆใส่เรานิดหน่อยแล้วให้ไปนั่งรอด้านในอีก 1 ขั้นตอน แล้วก็นั่งรอแบบไม่มีจุดหมายต่อไปคะ แต่ตรงนี้ำไม่นานนะคะ ไม่เกิน 10 นาที เค้าก็เรียกชื่อเราให้ไปที่ช่อง 5 เพื่อ Screening ประมาณว่าพยาบาลที่นั่งโต๊ะจะถามแอีกครั้งว่าเป็นอะไรมา จุดไหน เราก็บอกๆๆๆๆเค้าไปคะ เค้าก็จะให้บัตรคิวที่แม๊คติดมากับแฟ้มประวัติเรา แล้วก็รับบัตรใหม่ตอนนั้นเลย ค่อนข้างเร็วคะ แล้วก็ไปต่อในรอบต่อไปคะ

พอได้รับบัตรคิวมาก็เดินไปหาหมายเลขห้องตรวจตามที่พยาบาลบอก แล้วก็นั่งรอแบบยาวๆในชะตากรรมต่อไปคะ เราได้คิว 909 ห้อง 8 และ ณ ตอนนั้น 9.45 น. แถมในจอที่เรียกเข้าตรวจที่แสดงหมายเลขคิดไม่มีเลข 900 กว่าๆเลย ก็เลยคิดว่าต้องรอไปอีกนานแค่ไหนแต่ก็อดทนต่อไปคะ 

ขอบอกนิดนึงคะ....ว่าการนั่งรอเข้าตรวจจะช้าจะเร็วเนี่ยอยู่กับว่าหมอคนนั้นมีคนไข้ที่นัดไว้แล้วรึเปล่า หมอบางท่านมีนัดกับคนไข้อยู่ก่อนหน้า เราๆที่ไปหาใหม่ก็จะต้องรอต่อไปเพราะคนไข้เก่าจะได้รับตรวจไวกว่าคะ แต่โชคดีหน่อยก็ไม่นานมากนะคะ เรานั่งรอเกือยชั่วโมงก็ได้คิวแล้วคะ

ซึ่งขอบอกว่าหน้าเราเนี่ยปกติไม่มีสิวและเนียนในระดับหนึ่ง แต่ว่าตั้งแต่น้ำท่วมหน้าเราก็เริ่มมีสิวอุดตันเยอะขึ้นทั้งๆที่แต่งหน้าบางๆ และเป็นเรื้อรังมาเรื่อยๆ จนกระทั่งไปบีบมันแล้วอักเสบแล้วไปถึงขั้นเป็นจุดด่างดำช่วงล่างแก้มเหนือคางทั้งสองข้าง และด้วยช่วงนี้นอนดึกเลยได้สิวสดมาอีก 2 คะ ซึ่งคุณหมอบอกว่าสิวอุดตันยังไงสุดท้ายมันก็ต้องกลายเป็นสิวอักเสบแน่นอน แค่จะ้ช้าหรือเร็วแค่นั้น 


คุณหมอเลยสั่งยาให้ 3 ตัว คะ คือ ยาแต้้มสิวอักเสบ AHA ทาตอนเช้า และก็ อะไรอีกอย่างนี่ละทาตอนกลางคืน แถมหมอสั่งให้หยุดครีมทุึกอย่างแต่สามารถคงไว้ที่ครีมกันแดดคะ แล้วหมอก็ขอให้ใช้แป้งอัดแข็งพวก press powder ทาวันละ 2 รอบ ถ้าหากปัดแก้มให้หมั่นล้างอุปกรณ์ที่ใช้ปัด แล้วก็ต้องใช้ Cleansing ล้างเครื่องสำอางค์ทุกครั้งแล้วล้างหน้าด้วยโฟมที่ไม่มี Scrub และไม่มีฟองคะ ห้ามมาร์คหน้าขัดหน้าหมอสั่งหยุดยาวๆ และที่สำคัญถูกสั่งให้ล้างเล็บห้ามทำเล็บ ห้ามไว้เล็บยาว เพราะหมอบอกว่ายาทาเล็บอาจมีผลกับครีมที่ทาคะ ทั้งหมดนั่นแทบร้องไห้จริงๆเพราะเพิ่งสั่งที่มาร์คหน้ามาจากเกาหลีล็อตใหญ่เลย T^T แต่ยังไงก็เพื่อความสวยคงต้องทำตามคะ


สรุปแล้วได้ยา 3 ตัว ตามที่บอก แล้วหมอก็จะให้แฟ้มประวัติถือออกมายื่นข้างนอกเค้าจะดึงใบอะไรออกสักอย่างนี่แหละคะ ก่อนจะให้เดินไปยังโต๊ะนัดหมายแล้วเราจะได้ใบนัดหมออีกครั้งตามที่หมอตรวจแจ้งในห้อง กรณีของเราอีก 2 เดือนค่อยไปหาใหม่คะ เสร็จขั้นตอนนี้ก็รับแล้วก็หมดภารกิจคะ แต่ขอบอกนิดนึงตอนรอรับยาจะนานหน่อยเพราะเราต้องรอเรื่องจากชั้น 4 ส่งมาชั้น 3 แล้วรอช่องการเงินประกาศเรียกชื่อเพื่อชำระัคะ ในส่วนนี้อาจถูกเรียกชำระ 2 ครั้งนะคะ เพราะอาจมีการจ่ายยาเพิ่ม จ่ายเงินเสร็จก็มารอรับยาต่อไปคะ

สรุปแล้ว 3 ตัวยา โดนไปทั้งหมด 506 บาท + ค่า หมอในเวลา 50 บาท รวม 556 บาทคะ แล้วอีก 2 เดือนค่อยว่ากันใหม่คะ 

ขอจบการรายงานการแชร์ประสบการณ์ดีๆแค่นี้นะคะ ขอบคุณที่อ่านกันคะหวังว่ากระทู้ของเราจะช่วยคนที่สนใจได้บ้างนะคะ  ^ ^