♥ REVIEW :: กันแดดเนื้อฟลูอิด Bioderma

จะมารีวิวนานแล้วหล่ะค่ะ แต่ผลัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อย เพราะขี้เกียจมาก
แต่นะ เห็นว่ามันเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีจริงๆ เลยอยากแบ่งปันใ้ห้คนที่อยากได้กันแดดดีๆไว้ใช้

มาดูพื้นเพกันคร่าวๆ.....

โดยปกติแล้ว ผลิตภัณฑ์ที่เป็นเนื้อฟลูอิดจะมีเนื้อสัมผัสที่เบาบางกว่าเนื้อครีม และโลชั่น ไม่ทำให้หน้ามันเยิ้ม และไม่ซึมแมทเข้าไปในหน้าแบบเนื้อเจล (ถ้าเข้าใจผิด โปรดแก้ไขด้วยค่ะ) ผลิตภัณฑ์เนื้อฟลูอิดมีความเหมาะสมที่ใช้กับผิวผสม ผิวธรรมดา ไปจนถึงผิวที่ค่อนข้างมีความมัน


สภาพผิวหน้าของจขกท. :: เป็นแบบผิวผสม แห้งช่วง U-Zone มัน T-Zone แต่ไม่ได้มันเยิ้มมาก
ผิวค่อนข้างมีปัญหาเรื่องการระคายเคืองง่าย มีสิวอักเสบขึ้นประปรายช่วงก่อนและระหว่างมีประจำเดือนเป็นประจำ
มีร่องรอย ดำ-แดง จากสิวเป็นบางพื้นที่



ฟลูอิด 2 ตัวที่จะรีวิืวในวันนี้ มีลักษณะที่เป็น สีเนื้อ และ สีขาว
สาเหตุที่ ใช้ 2 สีนีู้คู่กัน เพราะว่าไม่ชอบกันแดดที่เป็นสีขาวโดดๆ และสีเนื้อของเค้ามันค่อนข้างเข้ม
เราจึงอยากได้สีที่เข้ากับผิวหน้าตัวเองมากที่สุด จึงเลือกสองตัวนี้มาเพื่อผสมสีเอง 

ตัวซ้ายมือ-หลอดสีขาว ฝาขาว
Bioderma Photoderm Mineral SPF 50+ (UVA 22) Sun Fluid Ultra-light texture
- For Allergic skin
- No chemical filters
- Fragrance Free
- Water Resistant

 ฟลูอิดผสมน้ำแร่ ทำให้ลดการระคายเคืองมากเป็นพิเศษ เหมาะสำหรับผิวที่มีความระคายเคืองง่าย

ตัวขวามือ-หลอดขาว ฝาสีส้ม
Bioderma Photoderm Max SPF 50+ (UVA 40) Tinted Ultra-Fluid Suncare
- For Intolerant skin
- Tanned effect, even complexion
- Fragrance Free - Hypoallergenic

 ฟลูอิดสีเนื้อ ใช้ได้กับทุกสภาพผิวแม้แต่ผิวที่มีความทนน้อย ไม่มันเยิ้ม

 สามารถใช้ได้ดีกับผู้ที่มีผิวขาวและมีกระด้วยค่ะ มันช่วยในการปกปิดได้เลย

เมื่อผสมแล้วสีที่ได้จะมีลักษณะคล้ายรองพื้นเลยนะ เป็นข้อดีที่เราชอบมากเพราะไม่ชอบใช้รองพื้นซึ่งมีโอกาสก่อให้เกิดการอุดตันและหนักใบหน้า นอกจากออกงานที่ต้องการความเนี้ยบมากจริงๆ 

รูปนี้คือทากันแดดลงบนผิวหน้่าแล้วค่ะ สามารถเห็นได้ว่า ผิวไม่มันมากแค่ฉ่ำเล็กๆ กลืนไปกับสีผิว ช่วยเกลี่ยและปิดรอยดำ-แดง ต่างๆได้ดีเลยนะคะ ไม่จำเป็นต้องใช้เบส บีบี หรือรองพื้น หลังจากลงกันแดด เราปัดแก้ม และ ตบแป้งฝุ่นโปร่งแสงก็เรียบร้อยสำหรับชีวิตประจำวันแล้วค่ะ

ส่วนตัวแล้ว ชอบมากกว่าผลิตภัณฑ์กันแดดฟลูอิดยี่ห้ออื่นๆ เพราะทาแล้วไม่เป็นขุย และไม่มัน ไม่แพ้ และดีกว่าเนื้อซิลิโคนที่เคลมว่าไม่มันและไม่อุดตันของผลิตภัณฑ์อื่นที่เคยใช้มาด้วย

ระหว่้างวันมีความเงาเพียงเล็กน้อย(เล็กน้อยมากจริงๆ) บริเวณทีโซนเท่านั้น หากไม่ซับหรือตบแป้งฝุ่นซ้ำก็ไม่มีปัญหา หน้าจะดูโกลว์ๆธรรมดาค่ะ แต่หากให้ดูแมทเล็กน้อยก็ซับหน้าและปัดแป้งฝุ่นธรรมดาก็พอค่ะ

- ผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 ตัวนี้ เราแยกซื้อมาใช้ทีละตัวนะคะ
- การนำมาผสมกันเอง เป็นความคิดส่วนตัว เพื่อก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงที่ต้องการมากที่สุดแก่ตนเอง
- การทาผลิตภัณฑ์กันแดด 2 ตัวนี้ไม่ได้ทำให้ค่า SPF เพิ่มมากขึ้น โดยหลักทั่วไป หากทากันแดด 2 ชนิดขึ้นไป ค่า SPF ที่ได้คือค่าตัวที่มากกว่า ตัวอย่าง ทา Product A มีค่า SPF 35 และทา Product B ที่มีค่า SPF 20 ตาม ค่าปกป้องจะอยู่ที่ 35 , ไม่ใช่ 35+20 แล้วเป็น 55 นะคะ


สรุปข้อดี-ข้อเสียค่ะ

ข้อดี 
1. เป็นเนื้อสัมผัสที่บางเบา ไม่ทำให้รู้สึกหนักหน้า และหน้าไม่มันเยิ้มระหว่างวัน
2. สามารถผสมสีได้เองตามสีผิวของแต่ละคน
3. ใช้ได้นานมาก เพราะใช้คู่กันสองสี สีละหลอด เท่ากับคุณใช้กันแดด 2 หลอด 
4. ปกปิดสีและความไม่สม่ำเสมอของผิวหนังได้ดี ไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์หรือครีมต่างๆอื่นๆ มาทาก่อนหรือหลัง เกลี่ยได้ง่ายมาก ช่วยลดความยุ่งยากและขั้นตอนการดูแลผิวหน้าในแต่ละวัน
5. เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีสารก่อให้เกิดความระคายเคืองน้อยมาก ทำให้ความเป็นไปได้ต่อการเกิดอาการแพ้ต่ำมากเช่นกันค่ะ

ข้อเสีย
1. ค่าใช้จ่ายสูงกว่าปกติ เท่าตัว เพราะต้องซื้อ 2 หลอดคู่กัน (แต่หา่กใครชอบใช้สีใดสีหนึ่งเพียวๆ ข้อเสียข้อนี้ตัดไปได้เลยค่ะ)
2. หาซื้อยาก ตัวนี้เราพรีออเดอร์มาค่ะ ไม่แน่ใจว่าตอนนี้ประเทศไทยมีวางขาย 2 ตัวนี้หรือยัง


ถ้าต้องให้คะแนน ก็ให้ 5/5 ค่ะ การหาซื้อแม้จะยาก ก็ไม่เป็นอุปสรรค ตามใดที่ยังหาล่าซื้อได้อยู่ เราถือว่ามันเป็นตัวที่ดีที่สุดที่เคยใช้มาแล้วค่ะ 

ผิดพลาดประการใด และ รูปขนาดไม่เท่ากัน ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ