เบื่อเพื่อนสนิทค่ะ ขี้โม้มากๆ

ตามหัวข้อเลยค่ะสาวๆ คือเรามีเพื่อนสนิทมากๆอยู่แค่สองคน คนนึงก็ปกติธรรมดาไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยกว่าคนนี้
เพราะคนนี้ไม่ค่อยยอมไปไหนเลย
ตั้งแต่ท จบ ม.6ก็แยกย้ายกันไผปเรียนแต่นัดเจอกันบ้างตามประสา ไปเที่ยวกันอะไรแบบนี้ค่ะ
คือเพื่อนคนนี้อ่ะนิสัยดีนะไม่ใช่ไม่ดี ช่วยเหลือเพื่อนทุกอย่าง รักเพื่อนค่ะ
แต่สิ่งนึงที่ทำให้เราเบื่อเพื่อนมากๆคือสิ่งนี้ค่ะ ความขี้โม้ของเค้า
แบบเป็นพวกชอบยกตนข่มท่าน ชอบพูดจากดคนอื่นให้ต่ำกว่าตัวเอง
ใครพูดอะไร เล่าอะไรให้ฟังก็จะพูดข่ม ให้ตัวเองเหนือกว่า ดูดีกว่าอะไรแบบนี้่อะ
เบื่อมากค่ะ เวลาใครพูดเรื่องอะไรก็หมืทอนรู้ดีไปหมดทุกอย่าง ขี้โม้มากกกกกก
เพื่อนคนนี้ทำงานเป็นพนักงานบริษัทนึง เกี่ยวกับโปรแกรมซอฟท์แวร์พวกนี้อ่ะ
เลยถามเรื่องเงินเดือน เพื่อนบอกว่าได้ 17000 อ่ะ จริงๆแล้วก็ไม่อยากเชื่อหรอก เพราะนักศึกษาจบใหม่
ฝีมือก็เก่งแต่ไม่ได้เทพอะไรมากมาย ไม่เคยผ่านงาน ไม่เคยฝึกงานอะไรเลย ไม่มีประสบการณ์เลยค่ะ
คือก็โอเคได้งานดี เงินดีก็แล้วไป
แล้วอยู๋ดีๆมันก็พูดว่า
เพื่อน....กูทำงานเป็นจ๊อบยังได้เยอะกว่าเลยค่ะ เงินเดือนมันไม่เวิร์ค เป็นจ๊อบเวิร์คกว่า กูรับงานมาทำิอ่ะ
วันสองวันกูเสร็จและ
งานนึงได้ตั้งสามหมื่น เดือนมีสองงานกูทำงานลัวันสองวันกูได้และ หกหมื่น
คือแบบ เพื่อนๆจะเชื่อมั้ย คือเราไม่เชื่อมากๆอ่ะ คือจบใหม่ ไม่มีอะไรเลย ทั้งประสบการณ์และการฝึกงาน
รวมถึง การได้ค่าจ้างงานละสามหมื่น มันต้องพวกโปรแกรมฝีมือเทพๆ อ่ะถึงจะได้
แล้วพอเพื่อนอีกคนนึงถาม คือไปกันสามคนนะ เพื่อนคนนี้มาทีหลังมันก็คุยกันเราก็ดินอยู่ด้วย ก็ได้ยิน เพื่อนคนนั้นถามว่าได้เงินเดือนเท่าไหร่
เพื่อนคนนี้บอกว่าได้ 14000 นั่นไง คนละเงินเดือนที่บอกเราเลย แล้วชีก็พูดต่ว่า กุทำงานเป็นจ๊อบดีกว่า ได้จ๊อบนึงหลายหมื่น
เนี่ยถ้ากูทำงานครบปีนะ พ่อจะซื้อรถให้ คือเพื่อนที่ถามอ่ะมันก็หันมามองหน้าเรา มอืงหน้ากันเอือมๆอ่ะ
แต่เพื่อนคนนั้นไม่รู้เรื่องหรอกนะว่าเพื่อนกำลังเอือมอ่ะ
แล้วไปๆมาๆ พูดถึงเรื่องแฟน ของแต่ละคนแล้วมีเราคนเดียวที่ตั้งแต่เลิกกับคนล่าสุดมาก็ยังไม่มีใคร
แต่มันก็ยังคาราคารซัง แล้วก็มีคนใหม่เข้ามา แล้วแฟนของเพื่อนอีกคนนึงอ่ะ คือมันทะเลาะกันบ่อย มีปัญหาเยอะ
อืม มันก็พูดเหมือนรู้ดีไปหมดอ่ะ ให้เลิกๆ แบบนั้นแบบนี้ แล้วทีนี้อ่ะ มาที่ของเราบ้าง
เราบอกว่ามีคนมาจีบบ้างแต่ยังไม่มีแฟน แล้วเพื่อนก็ถามขึ้นมาคำนึงทำให้เราโกรธเหมือนกัน
มันพูดว่า  แล้วเค้ารับได้ป่าวที่่มึงเป็นแบยบนี้ รับครอบครัวมึงได้มั้ย ที่มึงเป็นแบบนี้อ ะ
เอ่อ เราคิดในใจว่า กูเลวร้ายถึงขนาดใครจะมาคบนี่ต้องมานั่งคิดเลยหรอว่ารับได้มั้ย
เราเลยถามว่า ทำไมอ่ะ คนที่มาคบกูมีอะไรที่ต้องรับไม่ได้อ่ะ กูไม่เข้าใจ มึงหมายถึงอะไรเนี่ย
กูว่ากูก็ไมไ่ด้เลวร้ายอะไรขนาดนั้นนะ
เพื่อนคนนี้ก็บอกว่า ก็ดีรับได้ก็ดี กูกลัวเค้ารับมึงไม่ได้  ที่มึงเป็นแบบนี้่อะ
อ้าว แล้วกูเป็นยังไงวะ ไม่เข้าใจเลยไม่ถามต่อ ช่างมัน
เสร็จแล้วมันพูดเรืร่องของแฟนมันบ้าง แฟนมันเพิ่งจบ ป..ตรี ท้ัที่อายุ 27แล้ว เป็นลูกชายคนเดียว ไปทำงานที่ชลบุรี
เราเลยถามว่า เงินเดือนเท่าไหร่ มันบอกว่า อ๋อ ก็สี่หมื่นกว่าๆอ่ะ
เพื่อนอีกคนเลยถามว่า โห สี่หมื่นกว่า ไม่มีประสบการณ์เนี่ยนะ งานอะไรวะ อายุตั้ง 27แล้วเพิ่งจบ เงินเดือนตั้งสี่หมื่นกว่า
เพื่อนคนนี้ก็รีบแก้ตัวว่า แฟนกูอ่ะ เค้าทำวงานช่วยที่บ้านเลยจบช้า แล้วเงินเดือนอ่ะ เค้าไมไ่ด้เรียกทางนั้นให้เอง
เลยถามว่างานอะไร มันบอกว่าวิศวกรฝึกหัด
เลยบอกว่า โหวิศวกรฝึกหัดยังได้ตั้งสี่หมื่น นี่ถ้าผ่านงานแล้วมันไม่ได้เป็นแสนหรอ  มันก็เงียบไป แล้วมาพูดเรื่องเราว่า
กับแฟนอ่ะเลิกกันไปแล้วเพราะอะไร แล้วพ่อแม่เค้าว่าไง เค้าไม่ชอบมึงไม่ใช่หรอ
เราเลยบอกว่า กูไม่เคยพูดว่าเค้าไม่ชอบกู กูยังไม่เคยพูดเรื่องแฟนให้พวกมึงฟังเลย แล้วมึงนู้ได้ไง
ทุกวันนี้ยังคุยกับแม่เค้าอยู่ ไปกินข้าวกับแม่เค้า เค้าไปเมืองนอกก็ซื้อจของมาฝาก ก็ไปเอา เค้ายังดีกับกูอยู่เหอะ
เพื่อนก็เงียบไปแล้วบอกว่า แม่แหนกูอ่ะ อยากได้กูเป็นลูกสะไภ้มาก เดี๋ยวมาหาเดี๋ยวเรียกไปหา ทั้งที่ก่อนหน้านี้
เราไปค้างบ้านมันเราแอบได้ยินมันคุยกับแหนมันว่า แม่แฟนไม่ชอบมันเลย เพราะพูดจาไม่ดี
เพราะชอบไปชวนลูกชายเค้าให้ออกจากบ้าน
ให้พาไปเที่ยวอะไรแบบนี้อ่ะ  เรานึกถึงตอนนั้นเราก็เงียบไป  แล้วเพื่อนก็พูดต่ตออีกว่า
เนี่ยแ่แฟนจะซื้อลัมโบกินี่ให้แฟนกู แล้วแฟนกูจะซื้อ mac proให้ก
ูด้วย กูอ่ะไม่อยากได้เล้ยยยย แต่มันดื้อจะซื้อ กูเลยต้องยอมคือเบื่ออ่ะ ไปเที่ยวแทนที่จะสนุก ไปเดินเล่น พาเพื่อนไปซื้อไอโฟน ได้เดินคุยกัน ได้ปรึกษากัน แต่แบบนี่อะไร ไม่มชอบเลยอ่ะ ย่างอื่นดีนะ แต่ ตรงนี้อ่ะ ทำให้เรากับเพื่อนอ่ะ ไม่อยากจะชวนเพื่อนคนนี้อ่ะไปไหนเลย เราเดินเข้าไปในร้าน loft ที่สาขาสยามดิส เราก็ยืนดูพวก วิตามิน ครีมบำรุง มาส์ฏหน้าอะไรพวกนี้อ่ะ
เพื่อนคนนี้ก้พูดขึ้นมา หัดซื้อไปใช้มั่งหน้ามึงจะได้ดีๆกับเค้ามั่ง คือหน้าเราอ่ะไม่มีอะไรเลยนะ สิวก็ไม่มี เมื่อก่อนอาจจะมีเยอะ แต่ตอนนี้มันไม่มีแล้วไง รอยอะไรก็ไม่มี เราเลลยบอกว่า มึงเอาหน้ามึงให้รอดก่อน มันก็สวนขึ้นมา หน้ากูก็ดีกว่าหน้ามึงอ่ะ
เราเลยบอกว่า อ้าวหรอ กูเพิ่งรู้นะเนี่ย มันก็บอกว่า หน้ากูอ่ะสวยกว่ามึงอีก แล้วเดินหนีไปดูอย่างอื่น
อึ้งค่ะ ทำไมพูดแบบนี้ แล้วพอเดินมาก็พูดติการแต่งตัวของเรา คือเรากางเกงขาวยาว ใส่เสื้อที่เป็นแบบแฟชั่นอ่ะ
แล้วใส่เสื้อแขนยาวทับ มันบอกว่าเราแต่งตัวเชย
ดูไม่ดีเลย หน้าจะแต่งทำไม แต่งมาแล้วเหงื่อออก เน่าพอดี เราก็เลยส่องวกระจก หน้ากูก็ไม่เน่ารี่นา เราเลยบอกว่า
มึงด่ากูเนี่ย มึงใส่เสื้อตัวใหญ่ๆลายสก๊อต กางเกงยีนขาสั้น รองเท้าแตะ เหมือนพวกอีโมตัดอ้อยอ่ะ มึงส่องกระจกป้ะ มาเทียบกับกูดิ
เพื่อนเราคนนี้หุ่น อวบๆ เตี้ยๆตันๆ เป็นคนไม่แต่งตัว ไม่แต่งหน้า และไม่ชอบที่เรากับเพื่อนอีกคนนึงแต่งหน้ามา
หาว่า อีพวกโบ๊ะหน้ามากูล่ะเบื่อ เราเลยบอกว่า ถ้ามึงว่าพวกกูโบ๊ะ แต่โบ๊ะแล้วมันดูดีขึ้นมึงก็โบ๊ะมั่งเหอะ
หน้าไม่ได้ใสอะไรเลย ดำด้วย ถ้ากลัวเหงื่ออออคนอื่นเค้าคงไม่ต้องแต่งหน้าแล้วมึง กระดาษทิชชู้มีก็ซับไปเหอะ
แล้วทีนี้มาติทีื่ทรงผมเรา มันบอกว่า ผมยาวน่าเกลียด น่ารำคาญ ผมก็ไม่สวย อ้าวววววววว
คือเราเป็นรักผมมาก ไม่เคยทำสี ไม่เคยยืดเลยนะ เรามั่นใจว่าผมเรา ตรง สวย วันนั้นต้องใัดเพราะอากาศร้อน เราเลยบอกว่า
มึงนยี่ช่างตินะ ถ้าไม่ใช่พวกกูจะมีใครรับฟังมึงได้เนี่ยอย่าเป็นแบบนี้กับคนอื่นนะเค้าจะว่ามึงได้ว่ามึงอ่ะว่าคนอื่นไม่ดูตัวเอง
ตอนกลับบ้านเพื่อนคนนี้อ่ะแยกกลับไปเองเรากับอีกคนไปด้วยกัน ก้เลยได้คุยกันว่า เออ เบื่อ กับนิสัยแบบนี้ของมัน
แต่ไม่อยากจะพูดอะไรมากกลัวมันจะโกรธเพราะคบกันมานานแล้ว
โม้มากกกกกกมีอีกเยอะนะ เยอะมาก จนเพื่อนบอกว่า ทีหลังไปไหนก็ไม่ต้องชวน ชวนไปแปปๆพอที่ไปไม่นาน จะได้ไม่ต้องฟัง
เพื่อนๆล่ะคะ มีใครมีเพื่อนแบบนี้มั้ย แล้วพูดกับเค้ายังไง
นิสัยดีนะเพื่อนเราอ่ะ แต่ช่างติ ชอบว่าคนอื่น ชอบกดหัวคนอื่น ชอบทำให้ตัวเองดูเด่นแล้วก็เหนื่อยกว่าเพื่อนๆ เพื่อนกันแท้ๆไม่น่าจะมาเอาชนะคะคานกันได้ขนาดนี้
ยาวมากใช่มั้ย ออภัยค่ะ