[Review] ศัลยกรรมจมูก ที่รพ.เลอลักษณ์ + เคล็ดลับการดูแล

2 47
สวัสดีคะ ~
แนะนำตัวเองก่อนเลย ชื่อ จอย นะคะ อายุ 17 ปี 
เพิ่งสมัครเข้าเป็นสมาชิจีบันวันนี้เอง ยังงงงวยเล็กน้อย
ก็ไม่รู้จะมา รีวิวหรือสอนอะไร แต่อยากมากก็เลยนึกขึ้นได้ 
ว่ามา รีวิว เรื่องศัลยกรรมจมูกดีกว่า
 


ที่ตัดสินใจทำจมูกเพราะ ปกติเป็นคนชอบถ่ายรุป(มาก) ก็มีถ่ายกับเพื่อนเล่นๆ ถ่ายกับพี่ตากล้องที่รู้จักบ้าง
แต่เพราะด้วยความที่ไม่มีดั้ง มันเลยลำบากมากถ้าจะถ่ายรูปด้านข้าง อีกอย่างใส่แว่นแล้วมันไม่เกาะอะ 
ใส่แล้วแว่นตกตลอดเลย 
 รันทดจริงๆเลย 5555

และนี้คือรูปก่อนทำศัลยกรรมคะ 
แอบเอารูปตอนเด็กมาให้ดูด้วย แหมบและบานแต่เด็กเลยค่าาาาาาาา 55555 


หลังจากที่ตัดสินใจแล้วว่าฉันจะทำจมูก !! พอดีมีพี่สาวที่สนิทมากๆทำจมูกมาด้วยเมื่อนานมาแล้ว พี่เขาทำที่คลิกนิคสวยงามคะ
ปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็น โรงพยาบาลเลอลักษณ์แล้ว ก่อนไปทำพี่ก็ศึกษาหาข้อมูลให้ เพราะด้วยความที่พี่เขาทำตั้งแต่สมัยเรียน
ม.ปลาย แต่ตอนนี้พี่เขาอยู่มหาลัยแล้ว ก็เลยต้องค้นคว้าหาข้อมูลกันหน่อย 
ไหนก็จะทำแล้วแฟนพี่สาวเราเขาก็ดูฤกษ์ให้ด้วยคะ 5555555 
และฤกษ์งามยามดีของเราคือวันที่ 29 เมษายน 2554 คะ 
(เป็นวันที่เจ้าชายวิลเลียนและเจ้าหญิงแคทเทอลีนเข้าพิธีอภิเสกสมรส) บังเอิญมาก >.<

สถานที่ทำ : โรงพยาบาลเลอลักษณ์
ซิลิโคน : ญี่ปุ่น
ราคา : 8900 (รวมค่ายา + ยาสลบเรียบร้อยแล้ว)

วันที่ไปถึงที่โรงพยาบาล อย่างแรกเลยคือ ประทับใจโรงพยาบลามากของมากที่สุดดดดดดดดด
โรงพยาบาลอะไรสวยได้ขนาดนี้ มันจ๊อดมาก ออกแนวย้อนยุคยังไงอะ ประมาณในหนังวนิดาอะ 
แต่ตอนนั้นที่ไปยังไม่เสร็จเรียบร้อยดี ข้างหน้ารพ.ยังทำไม่เสร็จเลย 

อย่างที่สอง ประทับใจพนักงานบริการของที่นี้ สวยทุกนาง จัดเต็มมาก ยังเป็นวัยรุ่นอยู่เลย
ยกเว้นเคาน์เตอร์ใหญ่ ที่จะออกแลดูมีอายุขึ้นมานิดนึง แต่ก็ยิ้มแย้มแจ่มใสดีทุกคนเลย

จากนั้นกรอกประวัติ รับบัตรคิว จากนั้นจะมีพี่พนักงานสาวสวยพาเราขึ้นไปชั้นสองเลย
พี่เขาจะดูแลเราและส่งเราหน้าประตูห้องผ่าตัดคะ จากนั้นก็ไปรับยาและจ่ายตังพร้อมบอกวิธีทานยาคะ 

และหลังจากนั่งรอได้ซักพัก พี่สาวสวยก็มาเรียก และส่งเราหน้าประตูห้องผ่าตัด (ตื่นเต้นมาก)
เขาให้เราเปลี่ยนรองเท้า ใส่ผ้าคลุม หมวก และ ล้างหน้าคะ จากนั้นก็ขึ้นเขียงคะ

พอเขาไปปุ๊ปพี่พยาบาลบอกให้นั่งบนเตียงก่อนเดี๋ยวคุณหมอจะมาคุยด้วย 
ซักพักคุณหมอก็มา แล้วก็ถามว่าเราต้องการแบบไหน ซึ่งตอนนั้นแม่ไม่ได้ไปด้วย
แต่ยังมิวายโทมาหาบอกขอคุยกับคุณหมอเองเลย เราไม่ต้องยุ่ง 
ระหว่างที่คุยกับแม่คุณหมอก็มาจับเนื้อตรงดั้งจมูกแล้วคุณหมอก็บอกว่า
" น้องเขาเนื้อจมูกเยอะ สามารถทำให้โ่ด่งได้ แต่คุณหมอจะทำออกมาให้เธรรมชาติ "

พอวางสายปุ๊ป คุณหมอก็บอกเราอีกทีว่าจะทำแบบนี้ให้ ซึ่งเราก็บอกว่า เอาโด่งๆเลยคะโด่งๆ


จากนั้นก็นอนบนเตียงคะ พยาบาลจับมือแนบลำตัวเราแล้วก็จับมัดเหมือนข้าวต้มมัดเลยคะ 
เพราะกลัวตอนสลบเราดิ้นหรือลเมอ มือหรือแขนอาจจะไปโดนมือคุหมอได้คะ 
แล้วคุณหมอก็ชวนคุยไปเรื่อยคะ ประมาณว่า จะเริ่มผ่าตัดหลังจากที่พยาบาลฉีดยาสลบเข้าที่แขนเรา บลาๆๆ
คุณมือก็เอาดินสอมาขีดๆบนจมูกเรา แล้วก็ทำความสะอาดข้างในโพรงจมูกคะ 

และหลังจากนั้นก็ไม่รู้สึกอะไรอีกเลย ......  

จนกระทั้งถูกพยาบาลดึงให้ลุกออกมาจากเตียงคะ 
แล้วก็ ฉุดกระชากลากถู
 เราไปนอนอีกห้องนึง เป็นห้องพักคะ พยาบาลต้องประคองเราไว้
คือมึนและง่วงได้อีก นอนห้องนั้นได้ซักพักเราก็โทหาแม่เลย บอกว่าเสร็จแล้วแม่ก็ตกใจเสร็จเร็วจัง 
จากนั้นก็วางสายแม่ขอนอนพักต่อ แล้วเราก็โทหาพี่สาวที่รออยูาข้างนอก พี่เขาก็ตกใจว่าทำไมทำเสร็จเร็วจัง
พี่เขาเพิ่งเล่นเกมส์เสร็จไป 2 ตาเอง =[]=! คือเข้าไปประมาณ เที่ยงนิดๆ ออกมาประมาณเที่ยงกว่าๆคะ 

มีพลาสเตอร์ติดไว้ที่สันจมูกคะ รู้สึกหน้าตึงๆ ปากชาได้อีก แต่ตอนนี้ยังไม่เจ็บหรือปวดคะ

หลังจากที่ทำจมูกเสร็จแล้วก็แฟนพี่สาวก็มารับ เสร็จแล้วก็พาไปกินอาหารที่ฟู็ดแลนด์(ในสภาพนั้น)เพราะ
เราไม่กินอะไรมาเลยตั้งแต่เช้า คนก็มองแต่หาได้แคร์ไม่
ฉันน่าเกลียดเฉพาะตอนนี้ละ อีกสองอาทตย์ฉันก็จะสวยแล้ว 
  55555555555555 

จากนั้นก็ไปรอแม่มารับที่คอนโดของพี่สาวคะ รตอนนั้นยาชาเริ่มหมดฤทธิ์แล้ว เริ่มปวดขึ้นมาทันใด
เลือดออกตรงจมูก้วยคะ หยดตึ้งๆเลย อยู่ในสภาพนั้นประมาณ 2 - 3 ชม. คะ
ด้วนความที่เราทนไม่ไหวเลยนอนพักเอาซะเลย ก่อนที่แม่จะมารับ ..

พอกลับถึงบ้าน อาบน้ำนอนอย่างเดียวเลยไม่สนไม่ทำไรแล้ว มันปวดได้อีก
คืนนั้นเรียกได้ว่าเป็นคืนแห่งนรกคะ
กว่าจะนอนได้ แต่ก็นอนหลับไม่ค่อยสนิทหรอกคะหลับๆตื่นๆตลอด

ปกติคนทำจมูกแล้วกว่าจะเข้ารูปสามารถออกไปไหนได้ก็ประมาณ 2 อาทิตย์ใช่ไหมคะส่วนใหญ่
แต่เราหายภายใน 1 อาทิตย์เลยคะ 
 มีเคล็ดลับ ไว้จะมาบอก อิอิ 
แต่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวหน้าแต่ละคนด้วยนะคะ คนเราผิวหน้ามันไม่เหมือนกัน 

ีรีวิวอาการในแต่ละวันคะ

DAY 1 ตื่นเช้ามาวันรุ่งขึ้นไม่ปวดเลยคะ ความปวดหายไป รู้สึกเฉยๆมาก
เหมือนเมื่อคืนไม่ได้ผ่านการปวดอะไรมาเลย = = ; เลือดในรูจมูกเริ่มแข็งตัว
อยากจะเกะมันออกมามาก แต่กลัวกระทบกระเทือน เลยไม่ดีกว่า แต่หงุดหงิดๆ 
แล้วบริเวณใต้ตาเริ่มบวมแต่ไม่ช้ำคะ เราก็เอาผ้าเย็นชุปๆตลอดคะสลับกับผ้าอุ่น
DAY 2 ยังบวมอยู่ มากกว่าเดิมนิดนึง และยังไม่ได้แกะพลาสเตอร์ออก แต่ก็คอยประคบอยู่บ่อยๆ 
DAY 3  แกะพลาสเตอร์ออกแล้ว อาการบวมตรงบริเวรณใต้ตาเริ่มหายไปเล็กน้อยแต่เพิ่มตรงแก้มมานิดๆ
* วันที่ 1 - 3 ไม่ได้ล้างหน้าด้วยโฟมเลย เอาผ้าชุดน้ำค่อยๆเช็ดหน้าอย่างเดียว
DAY 4 อาการบวมเริ่มลดลง เริ่มเป็นคนเล็กน้อย 
DAT 5 วันนี้เพื่อนมาบ้าน อยากมาดูจมุก แล้วก็ให้มาเที่ยวบ้านใหม่เราด้วย แต่พวกมันบอกว่าก็โอเคแต่มันยัง
ไม่เข้าที่เท่าไหร แต่ดูแล้วมันไม่โด่งมาก มีรูปให้ดูด้วยคะ 
สังเกตุว่ายังแลดูบวมๆอืดๆอยู่ 5555555 


DAY 6 - 7 อาการบวมหายไปแล้วคะ ออกจากบ้านไปเที่ยว ลัลล้า ล้างหน้าได้แล้วคะ ^.^ 

หมายเหตุ :  พอดีค้นรูปแล้วหาไม่เจอ เปลี่ยนมือถือใหม่ด้วย ลงรูปไว้ที่ไหนก็จำไม่ได้
มันก็นานแล้วเนอะ เกือบ 8 เดือนแล้วนิ ขอโทษด้วยนะคะ จริงๆแล้วเราถ่ายรูปไว้ทุกๆวันเลย  

หลังทำตั้งแต่ 2 เดือน จนถึงปัจจุบันคะ
ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย ความจริงสำหรับเราเริ่มเห็นผลตั้งแต่ เดือนแรกแล้วคะ 

แต่ไม่มีรูปตั้งแต่ตอนทำจนถึงเดือนแรกให้ เพราะ เราเปลี่ยนมือถือ นั้นเอง ไม่ได้เซฟเก็บเอาไว้ด้วย 




 
คำถามที่พบบ่อย 

อายุยังไม่ถึง 20 ทำได้แล้วหรอ ? 
ตอบ ทำได้คะ สมัยนี้เทคโนโลยีกว้างไกล ทำได้ไม่เป็นอันตรายถ้าได้รับการผ่าตัดโดยผู้เชี่ยวชาญ
และทุกคนคงจะเคยเห็นข่าวที่มีคนอายุ 17 ผ่านศัลยกรรมมา 16 ครั้ง (แต่เราคิดว่าทำมากขนาดนั้นคงต้องรอให้โตกว่านี้ดีกว่าคะ)
ถ้าคุณคิดว่าชาตินี้ต่อให้รอถึงอายุ 20 ปีดั้งมันก็ไม่โด่งขึ้นมาหรอก เพราะมันเป็นกรรมพันธุ์ก็ ทำได้คะ 
ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องปรึกษาคุณหมอ และผู้รู้ด้วยนะคะ 

พ่อแม่อนุญาตหรอ? อายุเท่านี้หมอผ่าตัดให้ด้วย ? 
ตอบ คุณแม่อนุญาตคะ และคุณแม่ก็เข้าใจ เพราะเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนจะรักความสวยงาม 
ยิ่งวัยนี้ด้วย อีกอย่างก่อนทำหาข้อมูลเยอะคะ โทไปถามคุณหมอโดยตรงเลยด้วย 
ส่วนคุณหมอผ่าตัดให้คะ แต่ถ้าอายุไม่ถึง 18 ต้องมีเซ็นเป็นลายลักษณ์อักษรจากพ่อแม่คะ 

การดูแลหลังผ่าตัด ทำไมหายเร็วจัง?
ตอบ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนด้วยนะคะ จะบวมมากหรือบวมน้อย ช้ำมากช้ำน้อย
ถ้าช้ำมากแสดงว่าคุณหมอมือหนักไปหน่อยนะคะ ส่วนจอยเหมือนโชคดีมีแค่บวมไม่มีช้ำเลย 
ส่วนทำไมถึงหายเร็ว เพราะปกติบางคน 2 อาทตย์ถึงเริ่มหายคะ
ก็เพราะเราดูแลตัวเองคะ ทั้งการกินยาให้ตรงเวลา การประคบร้อน-เย็นเป็นประจำ
รวมทั้งอาหารการกิน ในส่วนนี้ต้องยกให้คุณแม่คะ โดย เป็นเวลา 2 อาทิตย์ คุณแม่ให้กินแต่ของจืดๆ 
ส่วนพวกของผักของดอง อาหารทะเล ส้มตำปูปลาร้า ไข่ไก่ ไม่ได้กินเลยคะ ทรมานมาก ตั้ง 2 อาทิตย์แหนะ 
ของโปรดทั้งนั้นเลย 
  แม้ว่าจะอาการบวมจะหายแล้วก็ยังไม่ให้กิน
 
แล้วก็การนอน ควรนั่งนอนเป็นเวลา 1 อาทิตย์เต็มๆ นี้ก็ทรมานอีกเช่นกัน เมื่อยหลังได้อีก เพื่อให้ดั้งของเราตั้งตรงคะ
และมันจะหายเร็วกว่านอน คุณหมอบอกมาคะ 


มีคำถามอะไ หรือสงสัยถามได้เลยนะคะ
ผู้หญิงอย่าหยุดสวย 






 


joyletizia

joyletizia

I'm Joy who inlove with all about beauty , cosmetic , food and travel :)
Nice to meet you all
IG : joyletizia

FULL PROFILE