THANN Restaurant : Natural Cross - Cultural Cuisine

10 13
      ถ้าเอ่ยถึงชื่อ THANN หลายๆ คนคงจะนึกถึงผลิตภัณฑ์ดูแลผิว สปาหรือเครื่องหอมกันเป็นอันดับแรก วันนี้กรเลยจะพาสาวๆ มารู้จัก THANN ในอีกเวอร์ชั่นนึงที่เป็นในแบบร้านอาหารกันดูบ้างนะคะ :)


 

Location : สำหรับสถานที่ตั้งของร้านก็เรียกได้ว่าเป็นทำเลทองทีเดียวค่ะ เพราะร้านตั้งอยู่ใจกลางของสยามพารากอนชั้น M ตัวร้านก็หาง่ายค่ะ อยู่ในโซนร้านนาฬิกาและจิวเวลรี่ พอเดินไปแถวๆ นั้นก็จะเห็นร้านตั้งอยู่ตรงลานกลางห้างเลย โดดเด่นสะดุดตาดีทีเดียว เพราะแค่เสาร้านก็ตกแต่งแบบ Vertical garden หรือสวนแนวตั้ง ขอบอกว่าเหมือนจริงมากๆ ทางแบรนด์เมเนเจอร์ คุณเจษบอกว่า อยากสื่อให้ THANN เป็นแบรนด์ที่นำธรรมชาติและการดีไซน์มาผสมให้เข้ากันอย่างลงตัวค่ะ

 


 

ดูดีๆ จะเห็นว่าแอบมีชื่อร้านซ่อนอยู่ตามมุมต่างๆ ดูกลมกลืนกับเสาแบบ vertical garden สวยและน่ารักดีค่ะ :)


  


วันนี้ทีมจีบันมากัน
4 คนค่ะ ส่วนภาพด้านขวาคือมุม display ที่ตั้งอยู่หน้าร้าน
ซึ่งจะมีผลิตภัณฑ์ของ
THANN ให้ทดลองด้วยนะ




     บรรยากาศภายในร้านจะตกแต่งให้ดูแล้วสบายตาและสดชื่น เพราะใช้วัสดุที่เราเห็นแล้วจะนึกถึงธรรมชาติเป็นหลัก จากภาพก็จะเห็นว่าพื้นร้านจะให้ความรู้สึกเหมือนไม้จริงๆ แม้กระทั่งตัวเก้าอี้ก็ยังเป็นผลิตภัณฑ์ถักแฮนด์เมดเลยนะคะ ทางร้านให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ มากทีเดียว และเนื่องจากโซนที่ร้านตั้งนั้นไม่ได้อยู่ในจุดที่คนพลุกพล่าน เลยค่อนข้างจะสงบเงียบ อากาศก็จะเย็นๆ สามารถนั่งชิวได้เรื่อยๆ หรือจะมาทานเป็นกลุ่มกับเพื่อนก็ได้





Food : มาดูกันที่เมนูอาหารบ้างดีกว่าค่ะ เชฟที่เป็นคนสร้างสรรค์เมนูอาหารของที่นี่คือ พี่นก-ขวัญชัย เชฟชื่อดังประจำร้าน THANN แห่งนี้ โดยพี่นกจะมีคอนเซ็ปต์คือ Natural Cross – Cultural Cuisine คือนำอาหารสไตล์ฝรั่งเศสมาผสมผสานกับสมุนไพรและเครื่องเทศไทยค่ะ (ขอบอกว่า THANN จัดหนักให้กับทีมจีบันจริงๆ ค่ะ!! กระทู้จะยาวก็เพราะงี้แหละน้า 555)

     
     รีเฟชรร่างกายให้สดชื่นกันก่อนกับน้ำฝรั่งสีชมพูปั่นกับน้ำแครนเบอร์รี่ปั่น รสชาติหวานอมเปรี้ยวนิดๆ จากนั้นก็ตามมาด้วยขนมปังอบร้อนๆ กับเนยที่เสิร์ฟคู่กัน เนยที่นี่จะไม่ใช่เนยสำเร็จรูปเหมือนที่อื่นนะคะ แต่จะเป็นเนยสดที่หอมและไม่เลี่ยนเหมือนเนยทั่วไปค่ะ ทานคู่กับขนมปังอบใหม่ๆ อร่อยมากทีเดียว 

     แล้วก็มาถึงเมนูเรียกน้ำย่อยกันต่อค่ะ เมนูนี้เป็นหนึ่งใน signature dish ของที่นี่นะคะ (ชื่อยาวใช้ได้ :D) Grilled Australian Lamb Loin with Miso & Shiso แต่อร่อยสมความยาวของชื่อ หน้าตาจะเป็นอย่างที่เห็นในภาพบนนั่นเลย จานนี้เป็นเนื้อสันแกะเสิร์ฟเป็นชิ้นพอดีคำ โดยจะหมักกับมิโสะก่อนและเสิร์ฟบนใบชิโสะค่ะ อร่อยมากๆ กลิ่นของใบชิโสะจะเป็นเอกลักษณ์มาก ใครที่เคยได้ทานก็คงจะจำได้ตั้งแต่ครั้งแรก ส่วนตัวแล้วชอบกลิ่นที่หอมติดจมูก นอกจากนี้ยังมีประโยชน์คือ เป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ด้วยค่ะ คงคอนเซ็ปต์ของ THANN จริงๆ ที่ต้องมีเอี่ยวเรื่องการรักสุขภาพเข้ามาด้วย


 

     อันนี้อร่อยมาก (อีกแล้ว!) คือปกติแล้ว กรเป็นคนไม่ทานเครื่องในใดๆ ตอนแรกได้ยินว่าจะมีฟัวกราส์ก็หวั่นนิดๆ จะเป็นไงหว่า...ปรากฎว่าทานเข้าไปแล้ว...อยากทานอีกอ่ะ =w=  อันนี้มีชื่อว่า Larb Foie Gras ซึ่งก็คือ ตับเป็ดฝรั่งเศสที่คลุกเคล้ากับเครื่องของลาบไทยและเสิร์ฟมาในรูปแบบของสลัด เป็นอะไรที่เข้ากันอย่างน่าประหลาดมาก ฟัวกราส์จะนัวๆ ส่วนรสชาติกับกลิ่นสมุนไพรไทยจะจัดจ้านเล็กๆ อร่อยจริงนะคะ เวลาทานพี่นกบอกว่า ให้จิ้มยาวผ่านตับ, ผักและเครื่องเคียงทั้งหลาย จากนั้นนำเข้าสู่ปากพร้อมๆ กันในคำเดียว เพื่อความอร่อยครบรส 5555

 

     
     สลัดที่นี่ถ้าสั่งก็เสิร์ฟกันสดๆ แบบเป็นหัวเลยนะคะ แต่พอตัดส่วนท้ายออกก็จะทานได้แล้วค่ะ พี่นกบอกว่า สาเหตุที่เสิร์ฟแบบนี้ก็เพราะนอกจากจะไม่มีที่ไหนเหมือนแล้ว ลูกค้าจะได้สัมผัสกับความสดกรอบของผักจริงๆ ค่ะ


     ต่อจากสลัดก็มาถึงเมนูเส้นๆ ของที่นี่กันบ้าง ฝั่งซ้ายเป็นสปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล ซึ่งหอยแมลงภู่ชิ้นใหญ่มาก ขอย้ำว่ามาก...แล้วก็สดด้วย เส้นเหนียวนุ่ม รสชาติกำลังดีไม่เผ็ดเกิน จัดจ้านเล็กๆ ส่วนทางฝั่งขวาก็เป็นข้าวซอยน่องเป็ดอบแบบฝรั่งเศส อันนี้ก็อร่อยค่ะ ซุปเข้มข้น เสิร์ฟพร้อมเครื่องปรุงและเครื่องเคียงต่างๆ เหมือนต้นตำรับชาวเหนือมาเอง แต่เป็นชาวเหนือแบบอินเตอร์นะ เพราะฟิวชั่นกับฝรั่งเศสด้วย 555 (นอกเรื่องนิดนึง จะบอกว่าภาชนะที่ใช้เสิร์ฟของที่นี่น่ารักมาก อย่างเครื่องเคียงก็จะเป็นถ้วยเล็กๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับถาดสีดำอย่างในรูป...มินิมอลแบบมีสไตล์)



 

     อันนี้ก็น่านำเสนอใช่ย่อย ด้านซ้ายเป็นเปาะเปี๊ยะทอดแฮมชีส เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มที่ทำจากเสาวรสค่ะ รสชาติจะออกหวานนิดนึง ตัวเปาะเปี๊ยทานตอนร้อนจะอร่อยมาก เพราะชีสจะเยิ้มและหอมมาก ส่วนด้านขวาเป็นขาเป็ดอบค่ะ ในภาพที่เห็นจะเสิร์ฟมาพร้อมกับมันฝรั่งอบและสับปะรดย่างนะคะ ขาเป็ดจะกรอบนอกนุ่มในค่ะ ทานคู่กับมันอบแล้วเข้ากันดีเลยค่ะ ส่วนสับปะรดก็จะหวานๆ ค่ะ 

 
     ข้ามฟากมาที่อาหารพื้นบ้านไฮโซกันดีกว่า จานนี้เหมาะกับคนที่ชอบรสจัดนิดๆ กลิ่นข้าวคั่วกับกลิ่นสมุนไพรจะหอมนำเลยค่ะ จานนี้มีชื่อว่าน้ำตกอกเป็ดรมควันค่ะ ทานคู่กับผักสดแช่เย็นที่เสิร์ฟมาเป็น
portion เล็กๆ ในแก้วใส อีกอย่างสำหรับใครที่ทานรสจัดได้ ลองทานคู่กับพริกแห้งที่โรยมานะคะ จะช่วยเพิ่มรสชาติให้อร่อยได้อีกด้วยล่ะ

     มาถึงอาหารคาวจานสุดท้ายกันบ้าง (อิ่มจนไม่รู้จะขยับตัวไปทางไหนดีแล้ว =.=) จานนี้ก็คือ ปีกไก่ทอด...ชื่อดูพื้นๆ แต่เดี๋ยวก่อนมาที่ร้าน THANN ไม่มีคำว่าพื้นค่ะ 555 ดูจากภาพจะเห็นได้ว่า แค่เสิร์ฟก็ไม่ธรรมดาแล้ว ข้างใต้จัดแต่งด้วยตะไคร้สด วางกับปีกไก่ทอดร้อนๆ ที่ปรุงได้รสชาติมาแล้ว จากนั้นโรยด้วยตะไคร้ทอดข้างบน แถมด้วยใบมะกรูดกับพริกแห้ง...ซึ่งเครื่องเคียงเหล่านี้ทานคู่กับปีกไก่แล้ว จะช่วยเสริมรสชาติได้ด้วยค่ะ แถมยังได้เรื่องสุขภาพไปด้วย เพราะตะไคร้ก็เป็นสมุนไพรที่ช่วยเรื่องเลือดลมได้ด้วย น้ำจิ้มที่เสิร์ฟคู่กันจะเป็นซอสพริกกับแจ่วสูตรเฉพาะ ที่ใส่ข้าวคั่วเยอะมาก ส่วนตัวเป็นคนชอบข้าวคั่ว...ก็เลย...เสร็จเรา! =w=




     ใครที่คิดว่ากระทู้จะหมดแล้ว...ยังค่ะ มาต่อที่ THANN Afternoon Tea Set อลังการไม่แพ้กัน! ก่อนอื่นมาดูภาพก่อน จะได้รู้ว่าไม่ได้โม้...จริงๆ นะ (=w=)


 

     Baguette แบบนี้ไม่รู้จะเรียกว่าคานาเป้ (canape') ได้มั๊ย เพราะคงทานไม่หมดกันในหนึ่งคำแน่ๆ รสชาติแต่ละชิ้นก็จะแตกต่างกันไปค่ะ รวมไปถึงขนมหวานด้วย วันนั้นแอบเสียใจว่า ทำไมร่างกายทรยศ อิ่มเร็วมาก! ...สำหรับฟากขนมหวานมีเมนูที่กรอยากจะเรียกว่าโปรดปรานอยู่ 2 อย่างจาก set นี้ค่ะ ตัวแรกคือ Passion Fruit Pana Cotta คือมันละมุนลิ้นอ่ะ ตัว Pana Cotta ก็โอเคมาก ลงตัวไม่เลี่ยน แถมมี Passion Fruit ที่เป็นรสชาติหวานอมเปรี้ยวด้วย อร่อยจริงๆ นะคะ เสิร์ฟมาในถ้วยเล็กๆ ขนาดกำลังดี (ยิ่งกับคนที่อิ่มขนาดนี้ รู้สึกไม่เสียดาย เพราะทานหมดเกลี้ยง =w=)

     แถมอีกอัน...อันนี้เป็น สโคนที่สั่งทำพิเศษเพื่อร้าน THANN โดยเฉพาะ จานนี้เค้าเสิร์ฟแบบอบร้อนๆ เลยค่ะ ตัว สโคน นุ่มมาก หลายๆ คนที่เคยทานจากร้านอื่นๆ อาจจะเคยเจอ สโคน ที่ทิ้งไว้จนแข็ง กัดเข้าไปแล้วก็จะเอิ่ม...นิดๆ 55 แต่ที่นี่จะเสิร์ฟมาแบบเพิ่งอบเสร็จใหม่ๆ ทานคู่กับเนยสดที่ทำเองและแยมสตรอว์เบอร์รี่ เห็นจากภาพอาจจะชะล่าใจ ดูเหมือนชิ้นจะเล็ก ของจริงชิ้นเท่าถ้วยที่ใส่เนยค่ะ...555 สองเมนูนี้ส่วนตัวโปรดมาก...จริงจัง :D

     นอกจากนั้นก็มีเค้กช็อคโกแลต แล้วก็ Pana Cotta ต่างๆ ซึ่งก็ต้องแบ่งให้คนอื่นทานมั่งนะคะ 555 อีกอย่างวันนั้นอิ่มมากมหัศจรรย์...ถ้าคิดว่าไม่น่าจะอิ่มขนาดนั้น ขอให้ย้อนขึ้นไปเมนูแรกของกระทู้อีกทีนึง แล้วจะพบว่า...ไม่อิ่มก็เกินกำลังสุภาพสตรี(?)ไปแล้ว...

     มีของหวานไปแล้ว...เดี๋ยวจะผิดคอนเซ็ปต์ Tea Break นี่เลย...มาที่ชาร้อนอย่าง THANN Hot Tea กัน เมนูนี้อยากนำเสนอวิธีการเสิร์ฟมาก ให้ดูความละเอียดลออและมีศิลปะของแบรนด์นี้<3

   
     ใบชาจะใส่มาในตลับสำหรับแช่และเสิร์ฟมาในถ้วยดำ ส่วนกาจะบรรจุน้ำร้อนที่อุณหภูมิพอเหมาะไม่ทำให้ใบชาไหม้ พอมาเสิร์ฟปั๊บ พนักงานจะนำที่ใส่ใบชาแช่ลงในกาใส พร้อมพลิกนาฬิกาทรายที่มีจำนวนนาทีกำกับอยู่ โดยชาแต่ละชนิดจะแช่นานไม่เท่ากันนะคะ อย่างที่
ได้ลองชิมวันนั้นก็จะมีชา Vanilla และ Earl Grey ค่ะ ระหว่างที่รอให้ชาร้อนได้ที่ เราก็จะค่อยๆ เห็นน้ำเปลี่ยนสี...พอนาฬิกาทรายไหลจากด้านหนึ่งไปสู่อีกด้านหนึ่งจนหมด...ก็สามารถดึงใบชาขึ้นจากกามาพักไว้ที่ถ้วยสีดำได้ จากนั้นก็ใช้เวลาดื่มชาได้ตามสบายเลยค่ะ :)

     ยังไม่หมดนะ...ก่อนจะไป...ขออีกสักเมนูที่เป็น Signature ของที่นี่ ที่สำคัญคือ มีเป็นบางวันแถมจำกัดปริมาณชิ้นด้วยนะคะ ไม่ใช่ว่าไปถึง อยากทานสั่งแล้วได้เลยนะ ต้องวัดดวงกันนิดนึง :) อันนี้จะเป็นเค้กมะพร้าวอ่อนค่ะ สาเหตุที่ทำให้เมนูนี้ไม่สามารถมีได้ทุกวันก็คือ ทาง THANN จะต้องดูก่อนว่า วันนั้นมีมะพร้าวอ่อนรึเปล่า หรือมีแล้วตัวมะพร้าวโอเคที่จะนำมาทำเป็นเค้กมั๊ย...เพราะความละเอียดในทุกจุดแบบนี้ เค้กชิ้นนี้ก็อร่อยสมความตั้งใจและสมชื่อ THANN ดีเลยค่ะ แถมก่อนจะทานยังแอบเล่นเค้กเค้าด้วย ด้วยความที่มันหยุ่นมาก เวลาสั่นๆ ก็จะเด้งดึ๋งๆ น่ารักดี 555 เค้กจะนุ่มและหอมมะพร้าวมาก ไม่เลี่ยนนะคะ จริงๆ แล้วกรเป็นคนที่ไม่ค่อยถนัดกับของหวานจริงจัง แต่กับเค้กชิ้นนี้ถือว่าเป็นมิตรกันได้ หอมหวาน ได้กลิ่นมะพร้าวอ่อนจริงๆ ที่สำคัญไม่เลี่ยนเลย ทานกับชาร้อนเข้ากันดีมากค่ะ แนะนำๆ :)





     วันนั้น THANN จัดเต็มให้จีบันมากกก ทั้งปริมาณและคุณภาพ อร่อยจริงๆ ค่ะแต่ละเมนูที่นี่...ใครผ่านไปผ่านมาแถวพารากอน ขอแนะนำให้แวะไปเลย...แล้วจะไม่ผิดหวังจริงๆ อร่อยยประทับใจ ได้สุขภาพดีเป็นของแถมด้วย :)

 
 

Service : ร้านนี้บริการดีเลยนะคะ พนักงานน่ารัก อาหารก็เสิร์ฟไม่ช้าด้วยค่ะ

 
 

Value : คุ้มกับคนที่ชอบลองเมนูใหม่ๆ และเสพติดว่า การทานอาหารเป็นศิลปะอย่างนึง 55 ขอแนะนำที่นี่เลยจริงๆ ค่ะ ทั้งเรื่องการตกแต่ง คุณภาพอาหาร วัตถุดิบที่ใช้ในการปรุง ฯลฯ ละเมียดละไมมาก อีกอย่างจะได้ลองเมนูที่ไม่เหมือนที่ไหนๆ ด้วย ตามลิสต์ signature ที่กรเขียนไว้ข้างบน...โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ดีค่ะ ลองดูสักครั้งแล้วอาจติดใจนะ :)

 
 

Dress Code : ใส่ตามที่ไปห้างปกติเลยค่ะ 55 เพราะร้านนี้ตั้งอยู่กลางสยามพารากอน ไม่ต้องพิธีรีตรองกันมากมาย

 

 

...แถมให้นิดนึงสำหรับใครที่เป็นขาประจำของแบรนด์ THANN ที่ร้านจะมีผลิตภัณฑ์ของ THANN วางอยู่รอบๆ นะคะ สามารถเดินดูได้ ส่วนด้านหน้าก็มีจัดเป็น display ให้ไปทดลองใช้กันได้ด้วยนะคะ :)


passita

passita

IG: @dimancherose

FULL PROFILE