สวัสดีพ่อแม่พี่น้องทุกคนค่ะ วันนี้ขอนอกเรื่องทำฮาวทูอาหารแทนฮาวทูแต่งหน้า ให้สาวๆได้ผลของแปลกกันบ้าง จะเป็นอย่างไรนั้น ไปเริ่มกันเลยค่ะ
น้ำท่วมตอนนี้นอกจากจะเป็นจิตอาสาแล้วก็ไม่รู้จะทำอะไร
วันนี้เลยปิ๊งไอเดียการทำอาหารที่เหมาะแก่ช่วงน้ำท่วมนี้ขึ้นมาค่ะ
ถ้าว่ากันถึงอาหารยามน้ำท่วมแล้ว บางคนอาจจะนึกถึง มาม่า ไข่เค็ม น้ำพริก ข้าวเหนียวหมูทอด แต่อย่างเราจะให้จัดอาหารเหล่านี้เป็นฮาวทูก็แลดูจะธรรมดาไป เปิดตู้เสบียง เจอก้อนแกงกะหรี่ญี่ปุ่นที่ซื้อตอนเซลล์มาจากเจ้เล้ง แล้วจัดแจงทำหม้อใหญ่ขึ้นมาทันที ถ้าถามว่าจะเป็นอาหารยามน้ำท่วมอย่างไร เพราะใช้แต่ของที่ตุนในเสบียงเท่านั้น แล้วหม้อเดียวสามารถใส่ตู้เย็นกินได้หลายวัน
ลองไปปรับสูตรให้เหมาะกับแต่ละบ้านดูนะค๊า
แท่น แทน แท๊น มาเริ่มกันที่หม้อนี้ขอเรียกว่า แกงกะหรี่แบบกากๆค่า
มาเริ่มกันที่เมนูแรก ข้าวหน้าแกงกะหรี่หมูทอด หรือ Tonkatsu Kare นี่เอง
แต่ต้องมาเริ่มกันที่หม้อแกงกะหรี่หม้อใหญ้นี้กันก่อนนะคะ
มาเริ่มที่วัตถุดิบที่รื้อได้ก่อนเลยคะ
(ปล.ถ้าท่านใดไมสามารถเอียงคออ่านได้ มาอ่านตรงนี้แทนได้ค่ะ^^)
- เนื้อหมูที่รื้อได้จากช่องแช่แข็ง ไม่แน่ใจว่าส่วนใดของน้องหมูแต่ตามสูตรที่ใช้กันทั่วไปจะแนะนำเนื้อสันคอค่ะ
- มันฝรั่ง จำนวนแล้วเเต่ศรัทธาและพลเรือนในเคหะสถานณ ที่นี้ใช้เเค่ลูกเดียวค่ะ ก็อิ่มกันสองคนพี่น้องแล้ว
- หอมหัวใหญ่ เนื่องจากผักยามน้ำท่วมแพง เลยใช้แค่ 1 หัว เก็บไว้ทำเมนูอื่นค่ะ
นำทุกอย่างปอกเปลือกและหั่นเป็นชิ้นค่ะ เล็กใหญ่แล้วแต่อานุภาพการเคี้ยวของบุคคลภายในบ้านเลยค่ะ มีน้องน้อยอาจชิ้นเล็กหน่อย ไม่ว่ากัน
หลากหลายสูตรจะแนะนำใส่เนื้อแอ๊ปเปิลสับเพิ่มรสชาติ แต่เนื่องจากยามนี้ขาดแคลนยิ่งนักถือว่าหยวนๆไปก็แล้วกันค่ะ
(บอกแล้วว่าเป็นแกงกะหรี่แบบกากๆจริงๆ = =)
แท๊นแทน!!!
แกงกะหรี่ก้อนนี่เอง
แนนเลือกมาแบบเผ็ดน้อย แล้วแต่ศรัทธารสชาติแต่ละบ้านนะค่ะ เลือกเลเวลกันได้ตามสะดวกเลยค่ะ
นำมาหักเป็นชิ้นๆเล็กๆเตรียมไว้ต้มค่ะ
พระรองของสามัญประจำบ้านที่ทุกคนน่าจะมีก็คือ
น้ำตาลทราย (ถ้าเป็นน้ำตาลทรายแดงเขาว่ากันว่าจะหอมกว่าน้ำตาลทรายขาว)
พริกไทย จะดำหรือขาว แล้วแต่กำลังในครัว
เนย (ใช้หรือไม่ก็ได้ เพิ่มความหอมค่ะ)
น้ำมันพืชฝาเหลือง(แบบผัด)
หลังจากมีวัตถุดิบทำแกงกะหรี่แล้ว มาลุยกันเลยค่ะ
เริ่มที่การหมักน้องหมูก่อน
- หั่นหมูเป็นชิ้นๆ แยกเป้นสองส่วน ส่วนนึงสำหรับต้ม อีกส่วนสำหรับทำเครื่องเคียง รูปร่างตามแต่จินตนาการเลยค่ะ จะเต๋า จะแผ่น จะสไลด์ ตามสบาย ชิวๆตามอารมณ์ ใครกำลังสวีตหวานตัดเป็นรูปหัวใจได้ไม่ว่ากันค่ะ ^^
- หมักง่ายๆสูตรบ้าน แต่อร่อยนะตัวเธอ ใส่น้ำมันหอย น้ำปลา น้ำตาล พริกไทย คลุกให้เข้ากัน ทิ้งเอาไว้ระหว่างเราหั่นผัก หรือหมักเก็บในตู้เย็นก็ได้ค่ะ ใครมีผงปรุงรสก็ใส่ได้ หรือมีสูตรพิเศษแต่ละบ้านก็ตามศรัทธาเลยค่ะ สัดส่วนกากๆตามอารมณ์ แต่แอบบอกมือใหม่จริงๆว่าถ้าใส่น้ำมันหอยแล้วไม่ต้องใส่น้ำปลาเยอะนะค่ะตัวเอง เดี๋ยวจะยิ่งเค็มไปกันใหญ่ค่ะ
หมักได้ที่ ของพร้อมก็ลุยโลดเลยค่ะ เมนูนี้ถ้าใครกลัวเปลืองแก๊ส เผื่อใช้ยามน้ำท่วม แนะนำให้หาหม้อต้มไฟฟ้าหม้อสุกี้หรือ กระทะไฟฟ้าดูก็ได้นะค่ะ เพราะใช้พลังงานเยอะอยู่ จะได้เซฟพลังงานได้ด้วยจ้า(เป็นวิธีคิดของเราเองผิดถูกของประทานอภัยไว้ล่วงหน้านะจ๊ะ)
- เริ่มจากใส่เนยไปในหม้อ ซักหนึ่งก้อนเล็ก ตามด้วยน้ำมันซักสามช้อนโต๊ะ ผัดกับหัวหอมใหญ่ซักพัก ใส่หมูที่จะต้มลงไปผัด แล้วตามด้วยผักที่เหลือลงไปค่ะ ผัดจนรู้สึกเข้าที่ ดูสุกเล็กน้อย (ถ้าใครมีแอปเปิ้ลสับก็ใส่ตอนขั้นตอนนี้นะคะ)
- หลังจากนั้นก็ใส่น้ำลงไปประมาณ 800 mL (หรือประมาณขวดกรอกน้ำหนึ่งขวด) มากน้อยตามเครื่องที่ใส่เลยค่ะ แต่อย่ามากจนเกินไปเพราะอาจทำให้แกงกะหรี่เราไม่เข้มข้นก็เป็นได้
- ถ้าบ้านใครมีครีม(วิปปิ้งครีม) ก็ลดปริมาณน้ำแล้วใส่ครีมเพิ่มไปนะค่ะ จะเพิ่มความมันกลมกล่อมขึ้นค่ะ(แต่เสบียงน้ำท่วมบ้านเรายังไม่นิยมตุนครีมเพิ่มความอ้วน) เคี่ยวต่อไปประมาณหนึ่งชัวโมง (เปิดไฟหรี่เบาตุ๋นก็ได้ค่ะ)
- พอผักเริ่มเปื่อยซักพักใส่แกงกะหรี่หั่นลงไป เคี่ยวให้ละลาย หลังจากนั้น ปรุงรสด้วยเกลือประมาณหนึ่งช้อนชา และน้ำตาลประมาณหนึ่งช้อนโต๊ะ (แนนแอบกินหวานเล็กน้อย) แล้ว เคี่ยวทิ้งไว้เลยค่ะ ยิ่งนานยิ่งซึมเข้าเนื้อ ยิ่งอร่อย
แต่นี้ก็ได้แกงกะหรี่หม้อใหญ่ อยู่ติดบ้านได้หลายวันแล้วค่ะ^^
ขอต่อด้วยการทำทงคัสสึง่ายๆเลยนะค่ะ^^
เพิ่่มออฟชั่น ขนมปังป่น ไข่ และแป้งโกกิเข้าไปค่ะ
- นำหมูที่หมักไว้ชุบไข่ แป้งโกกิและเกล็ดขนมปัง แล้วทอดด้วยน้ำมันร้อนๆไฟอ่อนๆพอเหลืองกรอบ แล้วยกขึ้นซับน้ำมันด้วยกระดาษ
ส่วนไข่ที่เราไว้ชุบแป้งทอดเหลือก็มาทำเป็นไข่หวานโรยหน้าค่ะ
แทนแท๊น เสร็จแล้วค่ะกับเมนูแรก ข้าวหน้าหมูทอดทงคัสสึ!!
วันที่สอง แกงกะหรี่ที่เก็บไว้ในตู้เย็น นำมาอุ่นพร้อมกับเมนู
"ข้าวหน้าแกงกะหรี่ออมเร็ด"
เมนูนี้ทำง่ายแสนง่ายเลยค่ะ เป็นของที่มีอยู่ในกรุทุกคนแน่
เพียง ไข่สองฟองและนม เท่านั้น
- ขั้นแรกตีไข่ให้ขึ้นฟู ใส่นมไปประมาณหนึ่งส่วนสี่ถ้วย ถ้าใครต้องการให้ออมเล็ตดูนิ่มก็ใส่มากขึ้นเลยค่ะ
เพิ่มรสชาติด้วยซีอิ้วหรือแม็กกี้ บางท่านอาจเพิ่มแฮม หมู หรือแครอทลงไป เพิ่มคุณค่าสารอาหารได้
-จากนั้นใส่เนยในกระทะ แนะนำเป็นกระทะเทฟลอนนะค่ะ จะพลิกได้ง่าย ไม่ค่อยติด
แค่นี้ก็ได้เมนูที่สองอันแสนง่ายซะแล้วว
เมนูสุดท้าย อยากบอกว่าอร่อยมากเพราะได้เจ้าชีสนี่แหละค่ะเป็นตัวชูโรง
-เราก็หมักหมูตามวิธีข้างต้น ใช้หมูสไลต์บางๆนะค่ะ หลังจากนั้นนำไปห่อชีสให้แน่น แล้วนำไปชุบไข่ แป้งโกกิแล้วก็เกล็ดขนมปังทอด นำไปทอดไฟอ่อนๆ
ใครกลัวหมูไม่สุกแนะนำให้ไปลวกก่อนนะค่ะ นอกจากจะทำให้ห่อได้แน่นแล้ว
ไส้ยังไม่หลุดง่ายด้วยค่ะ (เราพลาดมาแล้ว)
