ประสบการณ์ความรักดีๆ กับผู้ชายที่น่ารักในใจฉัน :)

3 4
 
สวัสดีค่ะสาวๆ  ขอมาแบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับความรักหน่อยนะคะ

หลังจากที่เคยแต่ตั้งกระทู้เรื่องอื่นมา ยังไม่เคยตั้งกระทู้เรื่องความรักเลยสักที

แต่เคยเกริ่นๆไปแล้วในกระทู้เดือนที่แล้ว (12 กันยายน 2554)  เราอายุ 16 ปีค่ะ

ตอนนี้เราอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกานะคะ   ก่อนมาเลยเนี่ย อกหักค่ะ!!!

แต่ก่อนอื่นเลยนิสัยเรา คือจะไม่แสดงความรู้สึกเท่าไหร่ค่ะ  กลัวเสียฟอร์ม  ถ้าจะพูดก็พูดเลย

เริ่มแรกเลยคือ รู้จักกับคนๆนึงผ่านสื่ออินเทอร์เน็ตค่ะ  เล่นเกมส์ด้วยกัน คุยกันในเกมส์อะแทบจะทั้งวัน

เล่นมันทุกวัน  ตอนแรกเราไม่ได้คิดอะไรด้วยค่ะ เพราะเราเล่นเกมมานานก็ระวังตัว(มาก)อยู่แล้ว

เกี่ยวกับเรื่องความรักในโลกเสมือนจริง ใช่ว่าจะไม่เคยเจอใครมาจีบอะเน๊าะสาวๆ ในเกมอะ เป็นเรื่องปกตินะเราว่า

แล้วเราเป็นคนที่ไม่สนใจเรื่องความรักเลย เรียกง่ายๆว่ามีอคติกับเรื่องความรักด้วยซ้ำ มันคงไม่มีจริงสำหรับเรา

แต่พอรู้จักกับคนๆนี้  เขาไม่เหมือนคนทั่วไปที่เคยเจอ เขามาก็จีบเลย เขาเป็นเหมือนเพื่อน คุยกันได้หลายๆเรื่อง

แล้วเขาสุภาพ  ให้เกียรติ  ก่อนอื่นเนี่ย เราเป็นคนขี้ระแวงค่ะ  เวลาจะคบใครเนี่ย ไม่ว่าเพื่อนหรืออะไร

เราจะไม่ไว้วางใจค่ะ  เราจะหาทางทดสอบตลอด ซึ่งวิธีทดสอบเราจะทดสอบแบบเนียนๆ แล้วก็หลายครั้ง

แต่ปรากฏว่าคนนี้เขาก็ผ่านค่ะ  รู้จักกันสองอาทิตย์เขาบอกชอบขอเป็นแฟน แต่เราไม่เป็นค่ะ

เราบอกเขาว่ามันต้องดูกันไปก่อน แล้วอีกอย่างไม่เคยเจอกันด้วย   เขาก็โอเค คุยๆกันไป  

ช่วงสองเดือนแรก ต้องยอมรับนะว่าเราไม่ได้อะไรมากเลย   เพราะกลัวว่าจะโดนหลอกสารพัดจะคิด  

เขาอายุมากกว่าเราเกือบ 3 ปีค่ะ แต่พอหลังๆมาก็คุยโทรศัพย์กันบ้าง แต่ข้อความเนี่ยจะส่งตลอดเวลา  

คือรับปุ๊บส่งปั๊บ  ผ่านไปสองเดือนกว่าเขาอยากเจอเราค่ะ  แต่เรายังไม่อยากเจอก็เลยบอกว่ายังไม่พร้อม

เขาก็ขออยากจะเจอตลอด แต่เราก็บอกว่ายังไม่พร้อมทุกครั้งไป  ตอนนั้นเราไม่ได้อยู่กรุงเทพนะคะ  ส่วนเขาอยู่กรุงเทพค่ะ

เขาจะมาหาก็ไม่ให้มา  เขาก็ยอมเราตลอด  เสมอต้นเสมอปลายทุกครั้ง เป็นห่วงเป็นใยดี

จนมันเริ่มจะเป็นเหมือนแฟนกันน่ะแหละ แต่ไม่ได้พูดกันให้ชัดเจน  เขาขี้งอนค่ะ

ช่วงแรกก็อาจจะวันละครั้ง  หลังๆมา อย่างต่ำวันละ 5 ครั้ง มากสุดเคยนับได้ 11 ครั้ง

ครั้งแรกที่เขางอนหนักเลย เราโทรไปง้อ  ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไร  ฟังเสียงไป  จับสังเกตได้ว่าร้องไห้  

ก็อึ้งเลยค่ะ  เราก็เลยยอมง้อทุกครั้ง  ปกติเราเป็นคนแข็งๆไม่ยอมใคร  แต่ก็ง้อเขา

แต่หลังๆมาเริ่มหนักขึ้น  คือไม่ใช่เขาไม่ดีค่ะ  แต่เหมือนมันเติมไม่เต็มกันทั้งคู่

หน้าก็ไม่เคยเจอกัน  ทะเลาะกันอีก  เราก็เลยบอกเขาไปว่า งั้นก็เป็นแฟนกันไปเลย จะได้ไม่ต้องทะเลาะ

เขาก็เลยบอกมากับประโยคที่เราเคยบอกเขาไปครั้งแรก  แล้วบอกว่า เป็นแฟนแล้วใช่ว่าจะไม่ทะเลาะ

เราก็ ok เพราะเท่าที่ดูเขาไม่ใช่คนเจ้าชู้ ไม่กินเหล้า สูบบุหรี่  คุยกันตรงเวลเสมอ  ไปไหนมาไหนบอก

ข้อนี้ถือว่าดี เพราะมันต้องอาศัยความเชื่อใจกัน  เราเชื่อใจเขาตลอดค่ะ ไม่ระแวงอะไรทั้งสิ้น 

แต่เขาไม่เชื่อใจเรา กลัวเราจะไปมีคนใหม่  เราก็งง ทำไมคิดอย่างงั้น

ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่ดีนะคะ จากที่เราได้สัมผัสมา  เขาจะค่อนข้างมีปัญหากับครอบครัว  เราก็จะให้กำลังใจเสมอ

เขาเลยกลัวจะเสียเราไปอีกคน (อันนี้คิดเองค่ะ  อาจจะไม่จริงก็ได้นะ)

พอเขาไม่ไว้ใจ  ปัญหาก็มาคืองอนบ่อย  เราก็ง้ออยู่ประมานสองเดือนทุกวันนอะแหละค่ะ  ตามจำนวนครั้งที่บอกไป

เหนื่อยน่ะเหนื่อยนะ  แต่ก็คิดว่ายังง้อได้

แต่หลังๆมาคือ  ไม่ได้ทะเลาะกัน  แต่ไม่เข้าใจกัน  คือเราก็หาสาเหตุไม่ได้เลยนะคะ

จนวันนึงเราอยากลองใจเขาว่าจะโทรหามั้ย  เลยไม่โทรไปทั้งวัน ข้อความก็ไม่ส่ง คืนก่อนหน้านั้นเพิ่งทะเลาะกัน

วันนั้นเขาก็ไม่ส่งเหมือนกัน เราก็แอบสงสัยนะ จนตอนบ่ายสามโทรมา เขาก็พูดแบบน้อยใจเลยที่เราไม่ส่งข้อความไป

เราก็แปลกใจว่าทำไม  เขาก็เลยบอกว่าเพื่อนเขาบอกให้เขาลองใจเราดู ลองไม่โทร ไม่ส่งข้อความดู ว่าเราจะส่งมั้ย

คือทำเหมือนกันในวันเดียวกัน  เราก็อึ้งค่ะ  เพราะทำไมจะบังเอิญขนาดนั้น  สักพัก เขาร้องไห้

ใจเราเนี่ยจะขาดเลยล่ะ 5555 ลืมบอกไปว่าตอนนั้นรักไปแล้ว  กับคนที่ไม่เคยเห็นหน้าด้วย

หลังจากนั้นมาทุกอย่างก็เปลี่ยนไป  คือความสม่ำเสมอ พูดคุย ทุกอย่างเหมือนเดิม แต่มีความรู้สึกว่า

เราเข้ากันไม่ได้เหมือนเดิม  ตอนนั้นยอมรับว่าทุกข์ค่ะ

จนเราไม่ไหวแล้ว แล้วมันก็มีเรื่องมาให้ทะเลาะกันด้วย  เราเลยเผลอพูดประโยคนึงไป

"ถ้าเป็นแบบนี้  เราก็คงเป็นได้เพื่อนกันนั้นแหละ"  แรงเน๊าะ

แล้ววางสาย  พอสำนึกผิดโทรไปเขาก็ไม่รับ ผ่านไปสามวัน  โทรไปใหม่ เขารับค่ะ

เขาบอกว่าตอนนี้มันไม่สายไปแล้วเหรอ  ระหว่างคุยเขาร้องไห้นะคะ  ตอนนั้นเราไม่สบายด้วย

ตอนนั้นพยายามยื้อสุดๆ  แต่เหมือนเขาไม่ไหว  เราก็เลยบอกว่าเดี๋ยวค่อยคุยกัน

ก่อนวางเขาก็ยังเป็นห่วงอยู่  มีขึ้นเสียงด้วย ตอนที่เราไม่ยอมพัก  บอกจะคุยกับเขาก่อน

พอวางไป เราเลยส่งข้อความไปหาเขาว่า อยากรุ้ว่าตอนนี้เขายังเหมือนเดิมอยู่มั้ย

เขาส่งกลับมาประมานว่า ขอโทษนะ ตอนนี้เขาเปลี่ยนไปแล้ว

เราเลยไม่ส่งข้อความอะไรไปอีก  เลิกคุยไปเลย

แต่ใจก็ยังไม่ลืมนะคะ  ตอนนั้นคือเรายุ่ง  งานเยอะด้วย เตรียมตัวจะมาอเมริกา ไหนจะต้องอ่านหนังสือสอบอีก

แล้วดันอกหักด้วยนี่สิ  ระหว่างนั้นก็อาการคนอกหักทั่วไปค่ะ

ผ่านไปสองเดือนหลังจากเลิกคุยกันไป  เราต้องบินแล้วค่ะ ก่อนบินก็ส่งข้อความไปบอกลาเขา

คืออย่างน้อยก็เคยรู้สึกดีๆด้วยกัน  แต่ไม่คิดว่าเขาจะส่งกลับมาค่ะ

พอเขาส่งกลับมาเราไม่อ่านทันที  เราไปเปิดอ่านที่ญี่ปุ่น  ร้องไห้ค่ะ

เพราะข้อความที่เขาส่งมา  ก็แสดงถึงความเป็นห่วงเป็นใย  อวยพรให้เราโชคดี

ขอโทษที่ไม่ได้ทำตามสัญญา แต่ตั้งแต่คบกันมา ไม่ว่าจะทะเลาะกันครั้งไหนเราไม่เคยโกรธเขาสักครั้งเลยค่ะ

เรื่องสัญญาเราเป็นคนๆนึงที่จะไม่ทวงสัญญา  เราจะให้เวลาเป็นเรื่องพิสูจน์

ตอนนั้นคือ สองเดือนที่ผ่านมาก็ใช่ว่าจะไม่ช่วยอะไร  แต่มันก็ยังเจ็บอยู่

ประกอบกับตอนนั้น  เราต้องเดินทางคนเดียวอีก  อายุก็ยังไม่เท่าไหร่เอง

เราเปิดอ่านข้อความนั้นซ้ำๆบนเครื่องบิน  พอมาถึงบ้านโฮสที่อยู่ด้วยที่นี่ก็อ่านครั้งสุดท้ายก่อนนอน

เพราะคิดว่าถ้ายังอ่านต่อไป  จิตใจเรามันต้องแย่ต่อไปแน่ๆ

ระหว่างนั้นจนกระทั่งวันที่ 22 กันยายนก็ไม่เปิดอ่าน แล้วก็ยังคิดหาทาง

จะทำยังไงให้กลับไปเจอเขาอีก  กลับไปเป็นเหมือมเดิม  วันที่ 23 เราเลยเปิดข้อความอ่าน

มันไม่ได้เจ็บมากค่ะ  แต่มันเจ็บแบบลึกๆ เจ็บแบบเสียดาย

เราก็เลยถามเพื่อน  เพื่อนผู้ชายนะคะ  เป็นเพื่อนที่เราจะปรึกษาเฉพาะเรื่องที่สำคัญจริงๆ  ไม่อยากกวนมัน

สนิทกันมาก  มันบอกว่าข้อความสุดท้ายน่ะ  จะเขียนให้สวยหรูยังไงก็ได้  เพราะมันก็เป็นข้อความบอกลาอยู่ดี

โห  ได้ฟังละแทงใจดำเลยค่ะ  มันเอามีดมาแทงนี่หว่าๆ    เราก็ถามมันไปว่า เขาจะกลับมารักเราได้มั้ย

 เห็นภาพลางๆมันถือดาบมาพร้อมกับพูดว่า  ไม่รู้นะ  ถ้าเป็นฉัน  ฉันไม่เหลือเหตุผลจะรักอ่ะ  

ตอนนั้นเราเย็บแผลแรกยังไม่เสร็จเลยค่ะ  มันมาอีกแผลละ  ตอนนี้ถึงกับต้องให้เลือดกันเลยทีเดียว 5555

ตอนนั้นจุกกับคำพูดเพื่อนค่ะ  เจ็บจริงๆ  เรื่องความรักในครั้งนี้เราก็ปรึกษาเพื่อนนะคะ

เพื่อนเรามันบอกว่าทำแบบไหนมีความสุขก็ทำไป  ซึ่งตอนนี้ถ้าเราเลือกได้  เราก็จะเลือกให้มันเกิดขึ้นแบบเดิมค่ะ

หลังจากฟังคำตอบเพื่อนก็ยังไม่เลิกล้มความหวังที่จะรอนะคะ  จนตอนเย็นระหว่างกลับจากรร.นั่งๆคิดไป

รอแล้วเราได้อะไร  เราไม่เคยเจอหน้ากัน  เราจะไปหาเขาได้จากไหน  เราไม่ต่างจากคนเพ้อฝันเลยนะ

ตอนนี้เราเลิกคุยกันไปแล้ว  มันก็ไม่ต่างจากเด็กที่ยังฝัน  ฝันเห็นเจ้าชายที่ตัวเองรัก

รอเขามาหา  เราก็ประมานเดียวกันเลยนี่  ถ้าก่อนหน้านี้ก็ว่าไปอย่างตอนที่ยังคุยกัน

มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอกนะ  ตอนนั้นคือต้องยอมรับเลยว่า เพิ่งคิดได้ค่ะ  โง่มาตั้งนาน ---=3=

แล้วความรู้สึก รอ มันก็หายไปทันทีเลยค่ะ  หายไปเลยจริงๆ  หลังจากที่คุยกับเพื่อนวันเดียว

แผลตอนนี้มันไม่ใช่แผลสดแล้ว  เพราะมันผ่านมา 4 เดือนแล้วค่ะ  ตอนนี้มีแต่ภาพความทรงจำดีๆ

ความประทับใจที่มีให้เขา  แล้วเราบริสุทธิ์ใจจริงๆถ้าได้รู้ว่าเขาคบใครใหม่แล้วเขามีความสุขไม่ทำให้เขาร้องไห้

อยู่ใก้ลๆกับเขาได้ดูแลเขาได้  ตอนนี้เราก็ยังรักยังเป็นห่วงอยู่  แต่เราเลือกที่จะเดินต่อไปในเส้นทางที่มีเขาเป็นภาพความทรงจำ

ทุกวันนี้  กำลังใจส่วนหนึ่งก็มาจากความทรงจำที่มีเขาค่ะ  ต้องยอมรับเลยว่าคนๆนี้ ทำให้เราเปลี่ยนแนวความคิดในหลายๆด้าน

ต้องขอบคุณเขาเลยค่ะ  ทั้งๆที่เรารู้จักกันได้ 5 เดือน  แต่เขาเปลี่ยนเราในหลายๆอย่าง




ตอนนี้เห็นข่าวประเทศไทยน้ำท่วม เราดูข่าว  อ่านข่าวในเน็ต  เราร้องไห้ค่ะ  สงสารประเทศ และคนไทย

เพราะเรามาอยู่ในประเทศที่เขาพัฒนาแล้ว  มันทำให้มองดูที่ประเทศเราไม่ได้  อยากให้ประเทศไทยเป็นอย่างที่นี่บ้าง

จากที่ได้ฟังคนต่างชาติถาม  เขามองว่าไทยไม่ต่างจากเขมรเลยค่ะ  เราไม่รู้ว่าเขมรเป็นยังไงนะคะ

แต่เขาถามว่า  ประเทศเราเล่นมนต์ดำ สัยศาสตร์กันเยอะใช่ไหม  อึ้งมาก ~ 



ตอนนี้เราทำใจได้แล้วค่ะ  แค่อยากจะให้กำลังใจใครหลายๆคน  บางครั้งถึงเราจะเลิกกับใครไป พอเวลาผ่านไป

คุณอาจจะไม่รู้สึกโกรธเขาแล้วก็ได้  แต่ก็แล้วแต่คนแหละค่ะ  บางคนอาจจะโดนทำไม่ดีเยอะ  แต่กรณีเรา

ไม่เคยรู้สึกเลยว่าโดนทำไม่ดี  รู้สึกแต่ว่าตัวเองทำไม่ดีให้กับเขาไว้เยอะอยู่

สำหรับสาวๆคนไหนที่มีรักอยู่แล้ว  รักษามันใหดีนะคะ  เพราะมันทำให้โลกสดใสจริงๆ

วันไหนที่ทะเลาะกัน  ก็คิดถึงช่วงแรกที่เป็นแฟนกัน  รักกันให้มากๆค่ะ


ปล.ถ้าพิมพ์ผิดยังไงขออภัยด้วยนะคะ  คือเราไม่อ่านซ้ำค่ะ  เพราะกลัวความรู้สึกมันกลับมาใหม่ 5555
 


seasonmai

seasonmai

ฉันมันก็แค่เด็กม.ปลาย ที่มาอยู่ต่างบ้านต่างเมือง เฮ้อ...

FULL PROFILE