ราคามันต่างมากน้อยแค่ไหนระหว่างดิวตี้ฟรี กับเคาเตอร์

ลอร่า โลล่า ลูนาซอล ไม่มี อย่างอื่นถูกกว่าประมาณ 15 เปอร์เซนต์ ถ้ามีบัตรดิวตี้ฟรีลดอีก 10 แต่ เอสเค 2 ถูกกว่าประมาณ 20 เปอร์เซนต์ แต่ไม่ลดแล้วค่ะ

เคยซื้อรองพื้นเรฟลอนในดิวตี้ฟรี ประมาณ375 บาทคะ แต่ในบูทและวัตสันราคาแพงกว่าประมาณร้อยถึงสองร้อยนะคะ

 ส่วนใหญ่จะซื้อที่ King power ที่รางน้ำอะคะ

1 M.A.C. นี่เพิ่งเปิดเมื่อปีที่แล้วนะคะรุสึก ราคาก็ถูกกว่า แต่ไม่แน่ว่ากว่าเยอะมั๊ย คิดว่าแล้วแต่รุ่นด้วยคะ
2. NARS ราคาบลัชจะอยู่ที่ประมาณ 900 คะ พาเลทนี่ไม่แน่ใจค่ะ
3 Bobbi brown ก็ไม่เคยเชคราคาเคาเตอร์ปกติอะคะ
4 Laura นี่รุสึกจะไม่มีนะคะ
5Clinique มีคะ  แต่แนะนำว่าถ้ามีเพื่อนไปเมกา ก็ฝากื้อดีกว่าคะ เพราะว่าราคาในไทยสูงคะ รวมไปถึง duty free ที่ประเทศต่างๆ เช่นญี่ปุ่น ราคาจะแพงเท่าตัวเรยคะ
6. lola ไม่มีคะ
7 estee
8.lunasol ไม่มีนะคะ

ปกติที่บ้านจะใช่บัตรลด 20% ด้วยคะเรยถูกกว่าเยอะ ยังไงลองดูนะคะ แต่แนะนำว่าถ้าจะซื้อที่ King power ไปที่รางน้ำคะ  ชองเยอะกว่าแล้วก็ไม่ต้องรีบด้วยคะเดินเลือกสบาย ^^   จะมีพวกของแถมเยอะด้วยค่ะ เพราะที่สุวรรณภูมิจะไม่มีจัดรายการเท่าไหร่ค่ะ 

ถูกกว่าจริงชัวร์คะ อย่าง 3 อาทิตย์ก่อนเราไปสอยบลัชแม็คมา 1 อันๆละ 950

เมื่อ 5 วันก่อนกลับจากฮ่องกง แม็คบลัชรุ่นเดียวกัน 700กว่าบาท ค่ะ

ลิปสติกของแม็ค ที่ช็อปพาราก้อนก็ 800กว่า แต่duty free 600กว่า เราจำไม่แม่นจำแต่เลขหลักแรกคะ ชัวร์ว่าถูกกว่าจริง

คนซื้อกันเพียบ แต่เราว่าคลินิก ไม่ถูกกว่ามากนะ แนะนำอย่าซื้อคลินิกใน duty free ราคาไม่ดึงดูด แต่ลังโคมอะถูกกว่าชัวร์

ถ้า Duty Free ต่างประเทศ ต่างกันค่อนข้างเยอะคะ แล้วแต่ยี่ห้อด้วยคะ อย่าง clinique, estee lauder ซื้อที่ duty San francisco ราคาบางอย่างต่างกันเป็นพันเลยคะ โดยเฉพาะน้ำหอม  No Tax แล้วก็ยังลดราคาอีก 10%
ส่วน MAC เราชอบไปซื้อ Duty free Vancouver (Canada) คะ เพราะ Duty free ที่นี่ถูกสุด LA เมกา ก็มีคะ แต่เราแวะซื้อไม่ได้
เราเห็นราคาในห้าง ถึงกับซื้อไม่ลง รอบินไปซื้ออย่างเดียวดีกว่า ถ้ามีเพื่อนบินเมกา ก็ฝากเพื่อนซื้อดีกว่านะคะ