เมื่ออาจารย์โยนปากกาใส่ตาฉัน!!
greenmelon57 ก่อนอื่นขอเกริ่นนำก่อนละกันนะคะตอนนี้เราเรียนอยู่ชั้น ม.6 ปีสุดท้ายแล้วววว
เราเรียนที่ รร. ชื่อดังแห่งหนึ่งใครที่ติดตามเรามาอาจจะรู้ว่าเราเรียนที่ไหน
เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อวานค่ะ แบบว่าเป็นเรื่องที่ทำให้เราปี๊ดแตกมาก ๆ
ก่อนอื่นขอบอกไว้ก่อนนะคะเราเองจัดได้ว่าเป็นเด็กเรียนเลยละค่ะ
อาจจะไม่ใช่แบบเนิดจัดพูดภาษาคนไม่รู้เรื่อง เก็บตัว เงียบหงิมอะไร
แต่เราก็ตั้งใจเรียนมากเลยทีเดียวจนได้ผลการเรียนเป็นอันดับ 1 ของแผนศิลป์-คำนวณ
เราอาจจะเป็นคนที่ค่อนข้างพูดมากค่ะ เวลาจารสอนอะไรเราก้อตอบตลอดนะ
เข้าเรียนก็ไม่เคยสายเลย ขาดเรียนน้อยมาก ๆ ยกเว้นช่วงไหนมีสอบอาจจะหยุดบ้าง
ทีนี้เมื่อวันศุกร์เรามีเรียนเลขคาบแรกคาบ 1 ของรร.เราเริ่มตอน 8.10 น.
เราเข้ามาในห้องตอน 8.00 น.หลังเลิกแถวเราก้อมานั่งจัดของแล้วก็อ่านการ์ตูนรออาจารย์
พอกริ่งคาบแรกเริ่มซักพักอาจารย์ก็เข้าห้อง แต่เพื่อนอีกครึ่งห้องยังไม่มาอาจารย์ก็เลยนั่งทำงานรอก่อน
เราก็เห็นเค้ายังไม่สอนก็เลยอ่านการ์ตูนต่อ
ทีนี้พอผ่านไปซัก 20 นาทีเพื่อนเริ่มมาเยอะแล้วอาจารย์ก็จะเริ่มสอน
เค้าก็เดินมาหน้าห้องแล้วก็พูดประมาณว่าเอาล่ะจะเริ่มเรียนกันแล้วนะ
ปกติเค้าจะมายืนซักพักถึงจะเริ่มสอนเราก็เงี่ยหูและเด้วเค้าเริ่มพูดเนื้อหาเมื่อไหร่จะเริ่มจดแล้ว แต่ยังไม่ได้วางการ์ตูนนะ
แล้วทีนี้อยู่ดี ๆ ก็มีปากกาลอยมาปึ้ก!!
แว่นเราหลุดลงมาเลยค่ะปากกามันถูกโยนแล้วมาเข้าลูกตาเรา!!
เน้นว่าเข้าตาจริง ๆ แสบมากตอนนี้ตกใจทำอะไรไม่ถูกเลยแสบตาลืมตาไม่ขึ้น
เราก็เงยหน้าขึ้นไปมองเห็นเค้ายืนมองหน้าเรา มองหน้าเราแบบหน้านิ่งเลยอ่ะไม่มีปฎิกิริยาไรเลย
เพื่อนข้าง ๆ เราทุกคนนี่แบบอึ้งช็อคตกใจกันทั้งห้อง เราเดินออกไปที่ห้องน้ำจะดูว่าตาเป็นอะไรมั้ยแต่ตอนนั้นลืมตาไม่ขึ้นเลย
เราเลยคิดว่าสงสัยมันไม่ไหวแล้วต้องไปห้องพยาบาลแล้ว
เราเดินกลับเข้าห้องไปหยิบกระเป๋าตังค์กับมือถือก่อนเพราะมีอะไรจะได้ติดต่อได้ทันที
แล้วอาจารย์เค้าก็พูดกับเราว่า "ไปห้องพยาบาลซิ" วินาทีนั้นเราปรี๊ดแตกมากกกกกโมโหสุด ๆ ไม่รู้จะโมโฆยังไงแล้ว
เราวิ่งออกจากห้องใกล้จะร้องไห้แล้ว ไปเจออาจารย์อีกคนพอดีเค้าเห็นหน้าเราเลยถามว่าเราเป็นอะไร
เท่านั้นแหละค่ะเราโฮเลย น้ำตาท่วมจอเลยค่ะ
มีต่อคะขอเรียบเรียงคำพูดแปปนึงของกำลังขึ้น
เราเรียนที่ รร. ชื่อดังแห่งหนึ่งใครที่ติดตามเรามาอาจจะรู้ว่าเราเรียนที่ไหน
เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อวานค่ะ แบบว่าเป็นเรื่องที่ทำให้เราปี๊ดแตกมาก ๆ
ก่อนอื่นขอบอกไว้ก่อนนะคะเราเองจัดได้ว่าเป็นเด็กเรียนเลยละค่ะ
อาจจะไม่ใช่แบบเนิดจัดพูดภาษาคนไม่รู้เรื่อง เก็บตัว เงียบหงิมอะไร
แต่เราก็ตั้งใจเรียนมากเลยทีเดียวจนได้ผลการเรียนเป็นอันดับ 1 ของแผนศิลป์-คำนวณ
เราอาจจะเป็นคนที่ค่อนข้างพูดมากค่ะ เวลาจารสอนอะไรเราก้อตอบตลอดนะ
เข้าเรียนก็ไม่เคยสายเลย ขาดเรียนน้อยมาก ๆ ยกเว้นช่วงไหนมีสอบอาจจะหยุดบ้าง
ทีนี้เมื่อวันศุกร์เรามีเรียนเลขคาบแรกคาบ 1 ของรร.เราเริ่มตอน 8.10 น.
เราเข้ามาในห้องตอน 8.00 น.หลังเลิกแถวเราก้อมานั่งจัดของแล้วก็อ่านการ์ตูนรออาจารย์
พอกริ่งคาบแรกเริ่มซักพักอาจารย์ก็เข้าห้อง แต่เพื่อนอีกครึ่งห้องยังไม่มาอาจารย์ก็เลยนั่งทำงานรอก่อน
เราก็เห็นเค้ายังไม่สอนก็เลยอ่านการ์ตูนต่อ
ทีนี้พอผ่านไปซัก 20 นาทีเพื่อนเริ่มมาเยอะแล้วอาจารย์ก็จะเริ่มสอน
เค้าก็เดินมาหน้าห้องแล้วก็พูดประมาณว่าเอาล่ะจะเริ่มเรียนกันแล้วนะ
ปกติเค้าจะมายืนซักพักถึงจะเริ่มสอนเราก็เงี่ยหูและเด้วเค้าเริ่มพูดเนื้อหาเมื่อไหร่จะเริ่มจดแล้ว แต่ยังไม่ได้วางการ์ตูนนะ
แล้วทีนี้อยู่ดี ๆ ก็มีปากกาลอยมาปึ้ก!!
แว่นเราหลุดลงมาเลยค่ะปากกามันถูกโยนแล้วมาเข้าลูกตาเรา!!
เน้นว่าเข้าตาจริง ๆ แสบมากตอนนี้ตกใจทำอะไรไม่ถูกเลยแสบตาลืมตาไม่ขึ้น
เราก็เงยหน้าขึ้นไปมองเห็นเค้ายืนมองหน้าเรา มองหน้าเราแบบหน้านิ่งเลยอ่ะไม่มีปฎิกิริยาไรเลย
เพื่อนข้าง ๆ เราทุกคนนี่แบบอึ้งช็อคตกใจกันทั้งห้อง เราเดินออกไปที่ห้องน้ำจะดูว่าตาเป็นอะไรมั้ยแต่ตอนนั้นลืมตาไม่ขึ้นเลย
เราเลยคิดว่าสงสัยมันไม่ไหวแล้วต้องไปห้องพยาบาลแล้ว
เราเดินกลับเข้าห้องไปหยิบกระเป๋าตังค์กับมือถือก่อนเพราะมีอะไรจะได้ติดต่อได้ทันที
แล้วอาจารย์เค้าก็พูดกับเราว่า "ไปห้องพยาบาลซิ" วินาทีนั้นเราปรี๊ดแตกมากกกกกโมโหสุด ๆ ไม่รู้จะโมโฆยังไงแล้ว
เราวิ่งออกจากห้องใกล้จะร้องไห้แล้ว ไปเจออาจารย์อีกคนพอดีเค้าเห็นหน้าเราเลยถามว่าเราเป็นอะไร
เท่านั้นแหละค่ะเราโฮเลย น้ำตาท่วมจอเลยค่ะ
มีต่อคะขอเรียบเรียงคำพูดแปปนึงของกำลังขึ้น
Discussion (57)
พระราชดำริเกี่ยวกับการศึกษาเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2513
"การแบ่งการศึกษาเป็นสองอย่างคือศึกษาวิชาการอย่างหนึ่งวิชาการนั้นจะเป็นประโยชน์แก่ตัวเองและแก่บ้านเมือง ถ้ามาใช้ต่อไปเมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วอีกอย่างหนึ่ง
ขั้นที่สองก็คือ ความรู้ที่จะเรียกได้ว่าธรรมคือรู้ในการวางตัว ประพฤติและคิด วิธีคิด วิธีที่จะใช้สมองมาทำเป็นประโยชน์แก่ตัว สิ่งที่เป็นธรรมหมายถึงวิธีประพฤติปฏิบัติ คนที่ศึกษาในทางวิชาการและศึกษาในทางธรรมก็ต้องมีปัญญา แต่ผู้ใช้ความรู้ในทางวิชา
การทางเดียวและไม่ใช้ความรู้ในทางธรรม จะนับว่าเป็นปัญญาชนมิได้"
น้องคะ แจ้งความค่ะ แฟนพี่เป็นอาจารย์สอนจุฬานี่แหละ อ่านให้ฟังแกบอก ไม่ถูก! แฟนพี่บอกแจ้งความเลยคะ ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลง ครูก็คน นักเรียนก็คน มีสิทธิเท่ากันค่ะ ถ้าเค้าทำร้ายร่างกาย มันละเมิดกันเกินไปค่ะ มันล่วงล้ำเ้ส้นเกินไป ไม่ว่าน้องจะพูดเข้าข้างตัวเองรึป่าวแต่..ถ้ายัยครูันั่นขว้างใส่ตาจริง ไปแจ้งความคะ ถ้าไม่ทำไร ก็ต้องอดทนให้เรียนจบไป น้องมีทางเลือก 2 ทาง คือ ชน กับ ถอยคะ
ครูต้องสำนึกไว้ด้วยว่านักเรียนเป็นผู้จ่ายค่าเทอมให้เค้ามีเงินเลี้ยงครอบครัวอยู่ทุกวันนี้นะคะ ถ้าเค้าวุฒิภาวะทางอารมณ์ไม่ดีพอก็อย่ามาเป็นครู ถ้าเครียด หรือรับไม่ได้กับงานแบบนี้ ก็ลาออกไปซะ ไม่ได้ยาก แต่อย่ามาใช้กำลังอันนี้ เค้าเรียกว่า ครูถ่อยๆ คะ
ครูต้องสำนึกไว้ด้วยว่านักเรียนเป็นผู้จ่ายค่าเทอมให้เค้ามีเงินเลี้ยงครอบครัวอยู่ทุกวันนี้นะคะ ถ้าเค้าวุฒิภาวะทางอารมณ์ไม่ดีพอก็อย่ามาเป็นครู ถ้าเครียด หรือรับไม่ได้กับงานแบบนี้ ก็ลาออกไปซะ ไม่ได้ยาก แต่อย่ามาใช้กำลังอันนี้ เค้าเรียกว่า ครูถ่อยๆ คะ
พวกเรา(เรามีหลายคน) อยากบอกว่า จขกท พูดเข้าข้างตัวเอง ชอบพูดจาแย่ๆก่อนอาจารย์เค้าก้ว่าทุกคนถ้าทำผิดอยู่แล้ว แต่ จขกท ทำตัวหน้าหมั่นไส้อาจารย์และเพื่อนๆเกือบทุกคนก้ไม่ชอบ ชอบทำตัวมีปัญหาขวางโลก เคยทำให้อาจารย์หลายๆคนโกรธมากๆมาแล้ว อย่าไปฟังคำพูดคนอย่างนี้ ที่คิดว่าเก่งแล้วทำอะไรก้ได้
พี่โดนชอล์กอ่ะ เมื่อตอนขึ้นมอปลาย พี่เป็นพวกช่างเม้าท์ด้วยโดนบ่อยจนชินเลย มีวันนึงเพื่อนพี่อีกคนมันโดนชอล์กบ่อยๆ
มันเลยปาชอล์ก โดนกระดานเปรี้ยงเลย อาจารย์พูดกับเพื่อนพี่ว่าเค้าจะไม่สนใจเพื่อนพี่อีกเลย แล้วมันก็จริงๆอ่ะ พอปีถัดมาก็เปลี่ยนอาจารย์ละ พี่ว่าเรื่องแบบนี้มันสีสันวัยมัธยมเหมือนกันนะ พอผ่านพ้นมันไปแล้วมานั่งเล่าวีรกรรมแบบนี้กัน
มันกลายเป็นเรื่องตลกไปซะงั้น ทั้งที่ตอนอารมณ์นั้นสมัยมัธยม มันปรี๊ดมากกกก พี่ก็โดนบ่อยนะอะไรแบบนี้ พี่ก็เคยผ่านอารมณ์แบบไม่ชอบอาจารย์ ไรงี้มาเยอะนะ แบบพอถึงคาบเค้าเราก็ประชดไม่เรียนนั่งอ่านการ์ตูน วาดรูป เล่นมือถือ
จะยึดไรก็ยึดไปไม่แคร์ แต่พอกลับมาคิดทีหลัง พี่ว่าเป็นเพราะเราอคติมากเกินไปไรงี้อ่ะ เหมือนอารมณ์เด็กๆ พึ่งมาคิดได้คือ เข้ามหาลัยแล้วอ่ะ พี่ว่าตอนนี้ใจเย็นก่อนนะ เรียนไปเหอะทำอะไรเพื่อตัวเองก่อน ใกล้จะจบแล้วก็สู้ๆนะจ๊ะ :)
มันเลยปาชอล์ก โดนกระดานเปรี้ยงเลย อาจารย์พูดกับเพื่อนพี่ว่าเค้าจะไม่สนใจเพื่อนพี่อีกเลย แล้วมันก็จริงๆอ่ะ พอปีถัดมาก็เปลี่ยนอาจารย์ละ พี่ว่าเรื่องแบบนี้มันสีสันวัยมัธยมเหมือนกันนะ พอผ่านพ้นมันไปแล้วมานั่งเล่าวีรกรรมแบบนี้กัน
มันกลายเป็นเรื่องตลกไปซะงั้น ทั้งที่ตอนอารมณ์นั้นสมัยมัธยม มันปรี๊ดมากกกก พี่ก็โดนบ่อยนะอะไรแบบนี้ พี่ก็เคยผ่านอารมณ์แบบไม่ชอบอาจารย์ ไรงี้มาเยอะนะ แบบพอถึงคาบเค้าเราก็ประชดไม่เรียนนั่งอ่านการ์ตูน วาดรูป เล่นมือถือ
จะยึดไรก็ยึดไปไม่แคร์ แต่พอกลับมาคิดทีหลัง พี่ว่าเป็นเพราะเราอคติมากเกินไปไรงี้อ่ะ เหมือนอารมณ์เด็กๆ พึ่งมาคิดได้คือ เข้ามหาลัยแล้วอ่ะ พี่ว่าตอนนี้ใจเย็นก่อนนะ เรียนไปเหอะทำอะไรเพื่อตัวเองก่อน ใกล้จะจบแล้วก็สู้ๆนะจ๊ะ :)
เคยเจอเหมือนกัน เรื่องแบบนี้เพราะประเทศมันมีระบบอาวุโสอยู่ เลยทำอะไรโผ่งผ่างไม่ได้
เราชอบคนมีสัมมาคาราวะนะ ถ้ารู้จักแยกแยะกาลเทศะได้ เล่นๆก็เล่น ทางการก็ทางการ
แต่เรื่องกับครูนี่แบบนี้อาจจะเกินไปหน่อย
อยากบอกว่าเจอมาเหมือนกัน ว่าก็ว่ากัน ครูเป็นผู้ใหญ่ต้องเคารพ
แต่ถ้ามองในด้านสิทธิมนุษยชน เราก็คนเหมือนกัน มีสิทธิเท่าเทียมกัน
มองกลับกัน เราเคยเอาปากกาไปขว้างใส่ครูมั้ย? ก็ไม่
แล้วครูมาทำแบบนี้ มันก็ไม่สมควร
เรื่องนี้ต้องแก้ไข ภายในโรงเรียนนะ ทุกโรงเรียนมีเหมือนกันหมดแหละ เพียงแต่มองข้าม
เวลามีเรื่องก็ทำให้มัน จบๆ ไป
เจอแบบนี้เป็นเราก็ไม่ไหวเหมือนกันคะ
เข้ามาว่าผู้ใหญ่แต่เราก็อดทนมามากพอแล้ว พอถึงจุดๆหนึ่งเป็นใครก็ไม่ไหวเหมือนกันนั่นแหละคะ
เข้าใจ จขกท. น้า สู้ต่อไปน้า ใกล้จะจบแล้ว