คาร์บอกซี่ ลดไขมันและสัดส่วน
zazny-srcret 0 86นี่เป็นครั้งแรกเลยที่นุ้ยมาตั้งทู้ถามตอบ เพราะคิดว่าสาวๆอาจจะมีความรู้หรือประสบการณ์ในเรื่องนี้กันบ้าง
เรื่องของเรื่องคือ นุ้ยเป็นคนน่องใหญ่มาก มากแบบสุดตรีนอ่ะค่ะ ทีนี้เวลาใส่กระโปรงหรือขาสั้นจะไม่สวย
ลองลดความอ้วนดูแล้วน้ำหนักลดจาก 50 เหลือ 45 ผอมมากแต่มันผอมแต่ช่วงบนคือตั้งแต่หน้าอกถึงสะโพกจะแบนแต๊ดแต๋เลย
แต่ขาเท่าเดิมค่ะ พระเจ้า นี่ชาติที่แล้วนุ้ยทำบุญด้วยการสร้างเสาเอกมาหรืออย่างไร
บริหารมาทุกท่า ทั้งนวดกดต่อมน้ำเหลือง แต่ก็มิได้นำพา
ทีนี้นุ้ยก็ได้พบว่ามีนวัตกรรมในการสลายไขมันเพื่อลดสัดส่วนให้เล็กลงนั่นก็คือการทำ คาร์บอกซี่
คือเค้าจะฉีดสารคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปที่ชั้นไขมันใต้ผิวของเราแล้วก็ปล่อยก๊าซเข้าไป
คุณหมอก็บอกว่าก๊าซคาร์บอนฯนั้นจะทำปฏิกิริยากับไขมันแล้วไขมันก็จะสลายตัวไป
นุ้ยเลยอยากจะลองปรึกษาสาวๆหน่อยค่ะว่ามีใครพอจะมีความรู้หรือว่าเคยทำมาก่อน
มันได้ผลจริงไหมคะ เพราะนุ้ยก็กะว่าจะลองไปทำดูน่ะค่ะเพราะราคามันก็พอสู้ไหวแล้วก็ไม่เจ็บตัวเท่าไหร่
เพิ่มเติมค่ะ พอดีไปค้นหาข้อมูลในเน็ตเลยไปเจอบทความที่น่าสนใจมาจาก www.ladytip.com ค่ะ
การใช้ ก๊าซคาร์บอน-ไดออกไซด์ หรือ CARBOXY THERAPY ในการบำบัดเซลล์ลูไลท์และรอบแผลเป็นที่ใช้มานานกว่า 70 ปี ในประเทศฝรั่งเศษ อิตาลี จนเป็นที่แผร่หลายมาในปัจจุบันเนื่องประสิทธิภาพที่ชัดเจนและความทันสมัยของ CARBONIZE ในด้านความปลอดภัยต่อผู้รับบำบัด
ก๊าซคาร์บอน-ไดออกไซด์จะส่งผ่านเข้าสู่ชั้นใต้ผิวหนังของวร่างกาย ในระดับที่เราจะรับรู้สึกตึง ๆ เล็กน้อย หรือไม่รู้สึกอะไรเลย เนื่องจากการใช้เข็มที่มีขนาดเล็กมาก และยังมีตัวควบคุมแรงดันของก๊าซ เมื่อลงชั้นผิว จะทำให้ไม่เกิดความแรงดันมากจนเกินไป เพื่อความปลอดภัย อีกทั้งมีระบบ TEMPERATURE CONTROL เพื่อให้ CO2 ที่ผ่านสู้ชั้นผิว มีระดับอุณหภูมิ เท่ากับของร่างกายเราทำให้เกิดการไหลเวียนอันเนื่องมาจากหลอดเลือดขยายตัวได้ดีไม่เกิดอาการ เหน็บชา หรือ ปวดขณะที่ทำCO2 เข้าสู่ชั้นใต้ผิวหนัง ส่งผลให้หลอดเลือดดำและแดงขยายตัว เส้นใยผังผืดที่ยึดระหว่าง เซลล์ไขมันจะค่อย ๆ จางหายไป และเมื่อมีการไหลเวียนของหลอดเลือดดีขึ้น ปริมาณออกซิเจนก็เพิ่มขึ้นมากตามระดับด้วย เช่นกัน การเผาผลาญของเสียออกจากร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพพร้อม ๆ กัน การเกิดขบวนการ LYPOLYSIS หรือการกระตุ้นการนำพาไขมันส่วนเกินออกไป กล่าวคือการเพิ่มของก๊าซคาร์บอน-ไดออกไซด์และออกซิเจนที่ผ่านเข้ามาทางการไหลเวียนที่ดีขึ้นของหลอดเลือด จะทำให้ไขมันที่อยู่ใต้ผิวหนังถูกดึงออกมาใช้งานมีการแปรรูปเป็นพลังงานและสลายตัวโดยทันที จากนั้นจึงขับถ่ายออกทางร่างกายทางต่อมน้ำเหลือง และระบบขับถ่ายของร่างกาย เป็นการฉีดก๊าซคาร์บอน-ไดออกไซด์ในชั้นผิวหนัง ซึ่งเดิมทีใช้ร่วมกับการผ่าตัดแบบส่องกล้องเพื่อขยายพื้นที่ภายในบริเวณรอบ ๆ จุดที่จะทำการผ่าตัดเพื่อป้องกันการกระทบกระเทือนอวัยวะอื่นๆ แต่ด้านความสวยงาม เชื่อว่า การฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ผ่านเข็มขนาดเล็กจะกำจัดเซลล์ไขมันเฉพาะส่วน เพิ่มการไหลเวียนของเลือด แก้ไขปัญหาเซลลูไลท์และผิวลาย การศึกษาเรื่อง Carbon Dioxide Therapy in the Treatment of Localized Adiposities: Clinical Study and Histopathological Correlations(2) ผลการศึกษา พบผลข้างเคียงเพียงเล็กน้อย และทุกอาการสามารถหายไปในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งมีรายงาน ดังนี้ ผลการรักษา การศึกษานี้สรุปผลว่า carbon dioxide (CO2) therapy มีประสิทธิภาพในการลดไขมันเฉพาะส่วน และไม่พบว่าทำให้เกิดผลข้างเคียงจากการรักษาที่รุนแรง การศึกษาเรื่อง Carbon Dioxide Therapy: Effects on Skin Irregularity and Its Use as a Complement to Liposuction (3) วัตถุประสงค์ของการศึกษา การศึกษานี้สรุปผลว่า carbon dioxide therapy ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวหนังและลดไขมันที่สะสม โดยพบว่าเมื่อรักษาด้วยวิธีการดูดไขมันช่วยลดขนาดของเส้นรอบวงของต้นขาและหัวเข่าได้มากกว่าการรักษาด้วยวิธีการดูดไขมันร่วมกับ carbon dioxide therapy แต่เหตุผลที่ใช้ carbon dioxide therapy เนื่องจากช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวหนัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการดูดไขมันได้ดี ซึ่งจะเห็นได้ว่าค่าความยืดหยุ่นของผิวหนังในกลุ่มที่รักษาด้วยวิธีการดูดไขมันร่วมกับ carbon dioxide therapy จะมีค่ามากกว่ากลุ่มที่รักษาด้วยวิธีการดูดไขมันอย่างเดียว และจากการศึกษายังไม่พบผลข้างเคียงที่สัมพันธ์กับการใช้ carbon dioxide therapy จึงสรุปว่าสามารถใช้ carbon dioxide therapy ได้อย่างปลอดภัย อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ช่วยสลายไขมันนี้สามารถคงทนอยู่ประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการดำรงชีวิต หากมีการออกกำลังกาย และควบคุมอาหารร่วมจะช่วยให้เซลลูไลท์ก่อตัวช้าขึ้น นอกจากนี้การตัดสินใจเลือกเทคโนโลยีเพื่อลดเซลลูไลท์ ควรได้รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์ประจำสถาบันต่าง ๆ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์หรือวิธีการที่มีความเหมาะสมมากที่สุด เพราะผู้ที่มีน้ำหนักมากหรือมีโรคประจำตัวบางประเภทอาจไม่เหมาะสมกับบางวิธี หรือบางคนอาจต้องใช้หลาย ๆ วิธีประกอบกัน(1) เอกสารอ้างอิง ที่มา : https://drug.pharmacy.psu.ac.th/Question.asp?ID=5804&gid=9 และ https://www.cosmatic-center.com/main/Untitled-11.htm |
ขอบคุณนะคะขอให้ทุกท่านแต่งหน้าอย่างมีฟามสุขค่ะ บุ๊ยบุย