ขอถาม ค่ะ เกี่ยวกับค่าแรงขั้นต่ำ

 ขอบ คุณ ทุกความคิดเห็นมาก ๆๆ  เลยยย ค่ะะ   

เราจะเอาทุกข้อ ความไป ทำรายงาน ส่งอาจารย์  !!!

ได้ความรู้ เยอะเลยยยย   

ราคาสุกร ราคาไก่ มีแนวโน้มสูงขึ้นมาตั้งแต่ช่วงเลือกตั้งแล้วค่ะ ก็เป็นไปตามการบริหารต้นทุนที่มีมาก่อนหน้า ช่วงที่เริ่มมีข่าวว่า "ราคาสุกรสูง" นั่นยังไม่มีการประชุมสภา เลือกนายก เลือกรัฐมนตรี เลยด้วยซ้ำ

 

กลับมาที่ค่าแรงขึ้นต่ำอีกสักนิด ที่เราบ่นๆ กัน คือไม่พอใจนะโยบาย หรือไม่พอใจรัฐบาลกันแน่คะ ชักงงๆ มีเรื่องนอก Toppic บ่นกันมากมาย คิดแทนรัฐบาล ซึ่งยังไมได้เอ่ยถึงหลักการในการ Reduce Cost จะเป็นอย่างไร ก็ตัดสินโน่นนี่กันมากมาย รอดูแล้วค่อยด่าก็ยังได้นะคะ

 

อธิบายเพิ่มอีกหน่อย เราเอาตัวเลขมาจาก กระทรวงแรงงาน ใน 10 ปีที่ผ่านมา มีการปรับขึ้นค่าแรงขึ้นต่ำเพียง 2% (ปรับครั้งล่าสุด ตั้งแต่รัฐบาลทักษิณ 1 เข้ามาเป็นรัฐบาลโน่น)  แต่ Real GDP เพิ่มขึ้น 50% นั่นแปลว่าผลผลิตไม่สัมพันธ์กับค่าจ้าง เท่ากับว่า ลูกจ้างเหล่านั้นถูกนายจ้างเอาเปรียบ โดยที่นายจ้างไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเอาเปรียบอยู่ พอมีการขึ้นค่าจ้าง ไปเบียดกำไร หรือเงินปันผลหุ้น ที่ตนเองได้อย่างเคยชิน จะไม่พอใจเป็นธรรมดา ลองเปรียบเทียบราคาสินค้าบริการและบริการ/กับค่าแรงกับประเทศที่มีความเป็นธรรมในการจ้างงานสิ เช่น.. ราคากาแฟ Starbuck แก้วละ 3.75$ - 4.00$ หรือ 110-160 บาท ซึ่งราคาใกล้เคียงกับ Starbuck ที่ขายในไทย แต่ค่าแรงขึ้นต่ำของ Staff ชั่วโมงละ 23-24 บาท ในขณะที่ ค่าแรงขึ้นต่ำของ Staff ในอเมริกาอยู่ที่ชั่วโมงละ 10$ หรือ 300 บาท !!! ต่างกัน 10 เท่านะ

 

จะบอกว่า "ประเทศเราทำแบบนั้นไม่ได้ ทำแบบนี้ไม่ได้ เป็นอย่างเดิมหน่ะดีแล้ว เศรษฐกิจจะได้อยู่ได้อย่างมั่นคง" เราว่าความคิดแบบนี้ เห็นแก่ตัวไปหน่อยนะ

การจะปรับเป็น 300 ได้นั้น เขาคงคุยกันยาวคะ
เพราะปัจจุบัน ค่าแรงของแต่ละพื้นที่ ไม่เท่ากัน เช่น กทม. กะ อุดร (ยกตัวอย่างเฉยๆนะคะ) แล้วบางพื้นที่ค่าแรงขั้นต่ำแค่ ร้อยบาท
- การที่จะปรับเป็น 300 กระทันหัน จะส่งผลกระทบกับ SME หรือธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดย่อม ทั้งหลาย เนื่องมาจากมีการใช้แรงงานคนเยอะกว่าธุรกิจขนาดใหญ่ (ที่มีการแข่งขันกันด้านเทคโนโลยีมากกว่า)
- เมื่อวาง 300 บาทมา หากไม่มีแนวทางอื่นมาช่วยเหลือธุรกิจเหล่านั้น ต้นทุนเขาสูง เขาก็อยู่ไม่ได้ เมืออยู่ไม่ได้ก็ต้องปิดตัวลง เมือปิดตัวลงก็ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจประเทศ (อย่าลืมนะคะว่า เศรษฐกิจประเทศส่วนหนึ่งขับเคลื่อนด้วย SME)
- ส่วนธุรกิจขนาดใหญ่ที่ทุนการจดทะเบียนสูงๆ เมื่อมีต้นทุนของค่าแรงที่เพิ่มมากขึ้น เขาก็ต้องมองหาพื้นที่ในการย้ายฐานผลิต ที่จะทำให้ต้นทุนของเขาน้อยลง เพราะ กำไร = ราคาขาย - ต้นทุน อยากได้กำไรเยอะๆ ต้นทุนจะต้องต่ำ
หากเขาไม่ย้ายฐานการผลิต เขาก็ต้องสรรหาแรงงานที่ถูกกว่ามาทำ
- สินค้าต่างๆแพง ขึ้น เนื่องมาจากเมื่อ่ค่าแรงขึ้น บริษัทที่ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ ก็ต้องขายราคาสูงขึ้น ให้ได้กำไรมากขึ้น (เพราะต้นทุนค่าแรงเพิ่มขึ้น)  ......เพราะเค้าคิดว่า ให้ค่าจ้างมากขึ้น คนต้องมีรายได้มาก กำลังซื้อก็เยอะ เงินเยอะ  เหอๆๆ
- ป.ตรี 15000 บาท คนเก่าๆ มีประสบการณ์ย่อมอยากได้เงินเดือนเยอะกว่าเด็กจบใหม่ใช่มั๊ยค่ะ เพราะฉะนั้น การปรับจึงโยนตูมเดียวไม่ได้ ......การจะได้ซึ่งค่าแรงที่แพงๆ จากนายจ้างแสดงว่า เราต้องทำงานได้คุ้มค่ากับเงินที่เขาจ้าง ดังนั้น การแข่งขันจะสูงขึ้น อาจจะต้องมีการวัดทักษะ ต่างๆ มากยิ่งขึ้น คนที่ทำอะไรได้หลายๆอย่าง นอกเหนือจากที่ร่ำเรียนมาอาจจะได้เปรียบหน่อย ...แต่คนที่ทำงานได้หน้าเดียวอาจจะต้องเพิ่มศักยภาพให้ตัวเองมากขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่ตลาดแรงงานที่ราคาแพง !!

ส่วนอื่นๆที่ลึกซึ้งกว่านี้ไม่ทราบเหมือนกัน เพราะเราคงต้องรอความชัดเจนจากนโยบายมากกว่าคะ

ไข่จะขายเป็นกิโลด่ากันใหญ่ แระตอนนี้หมูโลละสองร้อยกว่าไก่อีกขึ้นกันเป็นว่าเล่น ไม่เห็นด่ากันอ่ะคะ เห๊อออออออ

 คิดว่า จขกท ไปสอบสัมภาษณ์ แบงค์ชาติแล้วเค้าถามมาซะอีก
ช่วงนี้แบงค์ชาติเพิ่งประกาศผลป่าวคะ ฮ่าๆ