<< HELP ME , PLEASE !!!! >> รอยดำจากสิว + สิวอุดตันบานเบอะ >o<

ใช้เจลว่านหางจระเข้100% ของ Vincente' คะ กลิ่นเป็นธรรมชาติมาก ไม่ฉุนด้วย ใช้มาได้ 3 กระปุกกว่าๆ แล้ว ชอบมากกกกก ของดี ราคารับได้ อ่อ เราใช้สูตรผสมน้ำนมข้าว ถ้าหมดเมื่อไหร่จะซื้อมาใช้อีก แนะนำๆ ราคาไม่เกิน 500 ด้วยคะ อิอิ

ขอบคุณ visa aromdee มากมายค่ะ เหมือได้คำแนะนำจากคุณหมอ เลย ^o^

ในระยะเวลาแบบนี้พักหน้าจากการโบกด้วยเมคอัพนะ  พักหน้ากันแป๊บนึง แหะ ๆ นี่ก็พักมาตั้งแต่เมษาถึงกรกฎา  ยังไม่กล้าตบแป้งเลยค่ะโบกกันแดดกับแป้งเด็ก ทาลิปกลอสมั่งลิปสติกมั่ง แต่หน้าดีขึ้นมากค่ะ
แต่ก่อนยิ่งเป็นสิวก็โบ๊ะแป้งผสมรองพื้นกลบ ยิ่งกลบก็ยิ่งขึ้นกันใหญ่สิวตรงไหนที่เกิดมาไม่เคยขึ้นพี่แกขึ้นได้ทุกตารางหน้าเลยค่ะ จากหน้าแห้งก็กลายเป็นหน้ามันเยิ้มไม่น่าเชื่อ  สุดท้ายต้องพักหน้ามาประมาณสี่เดือน ต้องอดทนค่ะ  ส่วนมากผู้หญิงจะหน้าพังจากการใช้เครื่องสำอางที่ไม่เหมาะกับผิวตน เชื่อโฆษณามาก ดูมาแล้วเคลิ้ม ( มีใครเหมือนเราไหมนะ ) สุดท้ายมานั่งรักษา    สำคัญเรื่องความสะอาดในการล้างหน้าค่ะ
ตอนนี้เราไม่ได้แต่งหน้าแต่มีการใช้ครีมกันแดดทุกวัน  เวลาล้างหน้าตอนเย็นก็เลยใช้ cleansing oil หรือ cleansing cream ส่วนบำรุงหน้าขาวเอาไว้ก่อนแช่ตู้เย็นไว้เดี๋ยวให้จัดการเจ้าสิวอุดตันให้หายไปจากหน้าอย่างแท้จริงก่อนแล้วค่อยมาบำรุงกัน หากมั่วตอนนี้เดี๋ยวผิวหน้าพังค่ะ บอกตามตรงเข็ดหลาบอย่างที่สุดเลยค่ะ

ไม่เป็นค่ะ  แต่มีวิธีใช้ดังนี้  ให้ดีให้หมอผิวหนังเป็นคนจ่ายยาจะดีที่สุด เราใช้แบบ vit A 0.5% ชนิดเจล รักษาตั้งแต่เดือนเมษาที่ผ่านมา ตอนนี้สิวอุดตันหายหมดเกลี้ยงเหลือแต่รอยเป็นจุด ๆ ก็ใช้สกาเจลหรือฮีรูสกาก็ได้  วันไหนไม่ได้ออกข้างนอกหรือก่อนจะนอนก็ทาเจลว่านหางจระเข้ขององค์การเภสัชกรรมค่ะ
กรดวิตามินเอ


Tretinoin หรือกรดวิตามินเอ มีความเข้มข้นตั้งแต่ 0.01% 0.025% 0.05 และ 0.1% มีชื่อทางการค้าด้วยกันหลายยี่ห้อ เช่น Retin-A , Stiewa-A , Renova เป็นต้น

เป็นตัวยาที่ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวชั้นนอก กระตุ้นคอลลาเจน ทำใหรูขุมขนกระชับ แก้สิวอุดตัน เนื่องจากจะทำให้คอมิโดนที่มีอยู่หลวม และหลุดออกไป แต่หากไม่ระวังในการใช้ จะเกิดผลข้างเคียง เช่น ระคายเคือง แสบ แดง หน้าลอก หน้าใหม้จากแดด
การใช้ยาที่ถูกต้อง

1. เริ่มใช้จากความเข้มข้นต่ำ 0.01 หรือ 0.025 เท่านั้น ห้ามอยากรวดรัดไปใช้เข้มข้นสูงเด็ดขาด

2. ทาตอนกลางคืนหลังล้างหน้า ซับให้แห้ง รอประมาณ 20 นาที แล้วค่อยทายา โดยเริ่มจากคืนเว้นคืนก่อน เพื่อให้ผิวปรับได้ค่อยทาทุกคืน หากต้องการลดริ้วรอยควรใช้แบบครีม หากรักษาสิวควรเลือกใช้กรดวิตามินเอแบบเจล โดยหากผิวแห้ง ทาครีมบำรุงผิวทับได้ แต่ต้องแน่ใจว่าเป็นครีมที่ไม่ก่อให้เกิดสิว และไม่ควรใช้ครีมมากมายหลายตัวในช่วงนี้ ควรใช้เป็นครีมบำรุงธรรมดา

3. ห้ามใช้ร่วมกับ AHA , BHA เด็ดขาด

4. หากรักษาสิว แล้วต้องการใช้ BP ควรทาคนละเวลา เช่นทา BP 2.5% ก่อนล้างหน้า 5 นาที (บริเวณสิวอักเสบ) แล้วก่อนนอนค่อยทากรดวิตามินเอ หากมีการอักเสบร่วมด้วย ควรใช้ 1% clindamycin lotion แต้มสิวอักเสบระหว่างวัน

5. กลางวันต้องหลบแดด ทาครีมกันแดดทุกเช้า *****หากใช้ยาแล้วต้องตากแดด แนะนำว่าอย่าใช้เลยค่ะ******

6. อย่าดันทุรัง ถ้าช่วงใหนหน้าเริ่มแห้ง ตึง หยุดใช้ชั่วคราว เว้นสัก 2 คืน แล้วค่อยทาใหม่

7. ระหว่างการใช้ ห้ามขัดผิว เช็ดหน้าแรงๆ ไม่ควรล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น หลีกเลี่ยงการใช้แอลกอฮอล์

***********ห้ามใช้เวลาตั้งครรภ์เด็ดขาด********

ระยะเวลาการใช้กรดวิตามินเอ

หากเป็นเรื่องสิวอุดตัน จะเห็นผลหลังจาก 1-2 เดือน หากเป็นเรื่องริ้วรอย จะเห็นผลหลังจาก 4-6 เดือน
หลังจากการใช้ไปแล้ว 6 เดือน ควรลดปริมาณการใช้ลง เหลือเพียง สัปดาห์ละ 1-2 คืน ค่ะ
ผลที่ได้ จะอยู่ในระยะที่ทายา หากเลิกใช้แล้วมีการดูแลผิวที่ไม่ถูกต้อง สิวอุดตันก็อาจกลับมาอีกได้ นั่นเป็นเหตุผลที่คนมักบอกว่า หมอเลี้ยงไข้ คือเมื่อเลิกใช้ยาแล้ว ก็กลับไปใช้ครีม หรือเครื่องสำอางที่เกิดการอุดตันอีก จึงเป็นสิวอีกค่ะ

กรดวิตามินเอ ไม่ใช่เครื่องสำอาง แต่เป็นยานะคะ การใช้ยา ต้องศึกษาการใช้ให้ละเอียด หากใช้โดยรู้เท่าไม่ถึงการณืจะเกิดผลข้างเคียงได้ค่ะ
จริงๆแล้ว หากเป็นสิวมาก ไม่ควรรักษาด้วยตนเอง ควรพบแพทย์ผิวหนังค่ะ