หน้าติดสเตียรอยด์มาเกือบ 9 ปี ตอนนี้ รักษาหายแล้วค่ะ :)

7 81
อยากแชร์ประสบการณ์ที่หน้าติดสเตียรอยด์แล้วรักษาหายให้ทุกคนฟังคะ คิดว่าคงจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังเป็นและกลุ้มใจอยู่ ขอเล่าตั้งแต่เริ่มแรกเลยแล้วกันนะคะ
... ปกติเป็นคนผิวผสม ไม่ได้มีปัญหาเรื่องสิว นานๆจะมีขึ้นที่ตรงบริเวณทีโซน มีสิวผดตรงหน้าผากบ้าง แต่รวมๆผิวแข็งแรงดีค่ะ ทีนี้เมื่อประมาณ 9 ปีก่อน เพิ่งกลับมาจากไปเรียนที่ต่างประเทศ พอกลับมาเมืองไทยซักพักหน้าก็เหมือนมีฝื่นขึ้น และจะแบบตึงๆ และช่วงนั้นจำได้ว่าเปลี่ยนมาใช้ครีมบำรุงผิวยี่ห้อใหม่ เลยคิดว่าสาเหตุที่ผื่นขึ้นคงเป็นเพราะเปลี่ยนสภาพอากาศ น้ำและไหนจะครีมยี่ห้อใหม่ ทีนี้บ่นๆให้เพื่อนฟัง เพื่อนเลยแนะนำไปหาหมอที่คลินิกนึง เป็นคลินิกเล็กอยู่แถวสะพานกรุงเทพ ไปถึงหมอก็ให้ยามาทา มีสเตอรอยด์ 1 ตลับ ยาหลอดเล็กๆอีกหลอดนึงที่หมอบอกทาแล้วหน้าจะขาวใสเพราะเป็นกรดวิตามินเอ และสุดท้ายคือ AHA หมอบอกว่าสเตียรอยด์ที่ให้อ่อนมากๆ ทาได้ไม่มีผลข้างเคียง ทาเช้า-เย็นไปเลย จนกว่าจะหาย (ไม่ได้จำกัดจำนวนวันทาด้วยค่ะ) แล้วยังบอกว่าสเตียรอยด์สำหรับทาผิวหน้าไม่มีผลเท่าไหร่ ไม่เหมือนกับกินเข้าไป โดยเฉพาะคนเอเชียอย่างพวกเรา ไม่เหมือนพวกคนผิวขาวที่จะเกิดผลข้างเคียงได้ง่าย  ก็กลับมาบ้านทายาตามที่หมอบอกเช้าเย็น ผ่านไป 3 วัน หน้าเด้งมากค่ะ ผิวดูใส ผ่องและขาว อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ใครๆก็ทักว่าหน้าใสมาก จากวันนั้นก็ติดใจเลยใช้มาตลอดเพราะทำให้หน้าใส ราคาก็ถูก แต่ตัวที่เป็นสเตียรอยด์ไม่ได้ใช้บ่อยนะคะ ใช้แค่เวลาเป็นผื่น ที่ใช้ประจำก็จะเป็น ยาหลอดเล็กๆที่หมอบอกว่าเป็นกรดวิตามินเอ เหมือนหมอจะเรียกชื่อย่อว่า VLR ถ้าจำไม่ผิดค่ะ และก็ AHA จะใช้คู่กับ day & night cream ของ clarins ทีนี้ใช้ไปปีกว่าๆ ก็เริ่มเบื่อ อยากหยุดแล้วลองไปใช้ครีมบำรุงยี่ห้้ออื่นบ้าง ตอนนั้นไปซื้อ SHU ยกชุดมา พอเริ่มใช้ก็หยุดยาหมอทุกอย่าง ปรากฎว่ามีเหมือนสิวผดขึ้นมาเริื่อย ยิ่งวันที่ 3 ไปแล้วขึ้นมาแบบน่ากลัวมากก เลยคิดว่าแพ้ SHU  ชัวร์ๆ คราวนี้ก็เลยกลับมาให้ยาหมอต่อ ทีนี้ผ่านไปอีกเป็นเดือนๆได้ ตอนนั้น Lamer กำลังฮิต เลยอยากลองเปลี่ยนไปใช้ ก็ไปซื้อมา ทีนี้พอใช้ก็เป็นอาการเดียวกับ SHU อีก ทำให้งงว่าทำไมหน้าเราอ่อนแอได้ขนาดนี้นะ ไปๆมาๆก็เริ่มรู้ว่าคงเป็นเพราะยาที่ใช้อยู่ หยุดใช้แล้วจะทำให้เป็นแบบนี้ แต่ก็ยังไม่รู้เหตุผลจริงๆว่าเพราะอะไรถึงหยุดไม่ได้ ทีนี้เพื่อนแนะนำให้ไปนวดหน้าที่นึง เป็นคลินิคเน้นเรื่อง beauty ไปถึงก็มีโอกาสเล่าให้หมอฟังตอนที่นอนนวดหน้าอยู่ หมอบอกว่าหนูติดสเตอรอยด์แล้วหละ เดี๋ยวจะพยายามช่วยรักษาให้อย่ายาให้ได้ หมอเค้าก็พยายามเอายาตัวอื่นมาให้ทาแทน แต่บอกตามตรงตอนนั้น ไม่ค่อยเชื่อหมอเค้าเท่าไหร่ เพราะรู้สึกว่าเค้าก็ไม่ได้เป็นหมอที่เน้นเรื่องรักษาโรคจริงๆ เลยหยุดไม่ได้ไปหา แล้วกลับมาก้มหน้ารับชะตากรรมติดยาต่อไป หลังจากนั้นก็ผ่านมาน่าจะ 3- 4 ปีได้ วันนั้นยาหมดเลยไปซื้อยาที่คลินิก คนที่คลินิกบอกว่ายา VLR ไม่ได้ทำแล้ว ตอนนี้มีตัวอื่นมาแทนให้เอาตัวใหม่ไปใช้แล้วกัน (ตอนหลังมารู้ว่า FDA เค้าประกาศจับเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ และจับได้ว่าเจ้าตัว VLR ที่ทามาตลอดมีทั้งสารสเตียรอยด์และสารปรอท ไฮโดรควินิน ซึ่งไว้ใช้สำหรับคนเป็นฝ้า ก็งงว่าหมอเอามาให้ใช้ทำไม เพราะหน้าไม่ได้เป็นฝ้าเลย) กลับมาบ้านก็กลัวๆว่าจะใช้แทนกันได้จริงๆเหรอ เพราะตอนนั้นรู้อยู่ว่าติดยางอมแงมขาดไม่ได้ และแล้วผ่านไปสามวันก็เป็นเหมือนที่กลัว ผดผื่นขึ้นมาทุกอณูของใบหน้า คันระยิบระยับไปหมด จากคนหน้าใส กลายเป็นหน้าเยินมากๆๆ ตอนนั้นขอหยุดงานแล้วขับรถไปหาหมอ หมอทำตีหน้าเซ่อ บอกว่าก็เอาสเตอรอยด์ทาสิ เดี๋ยวก็หาย เลยบอกว่าก็พอหยุดมันก็เป็นอีก หมอก้บบอกว่าเป็นไปได้ไง รักษามากี่รายๆ ก็ไม่มีใครติดยาซักกะคน แล้วยังแนะให้เอา AHA มาทาด้วย แล้วบอกว่าเดี๋ยวสิวผดก็แห้งหลุดไปเอง
 ตอนนั้นกลับมาอยู่บ้าน ผ่านไปอีกสองวัน น่ากลัวมาก ทั้งแดงและเห่อเต็มไปหมด เลยทนไม่ไหว ไปหาตัดสินใจไปหาคุณหมออีกที่นึงเป็นคลินิคแถวทองหล่อ ไปถึงคุยกับคุณหมอแล้วก็ร้องไห้
คุณหมอบอกไม่ต้องกังวล ไม่มีอะไรทำให้เราติดได้ จากนั้นคุณหมอก็ให้ยามาทา เป็นสเตียรอยด์แบบอ่อน ที่หมอบอกว่าเด็กก็ยังใช้ได้ ทาได้ทุกวัน คุณหมอบอกว่าไม่มีทางหายถ้าไม่รักษาด้วยสเตีอรอยด์ ก็ใช้ยาหมอไปเรื่อยๆ แต่ทีนี้ยาคุณหมอเป็น side effect ทำให้เป็นสิวแบบอุดตันขึ้น ซึ่งถ้าไปอ่านตามข้อมูลทั่วไปสเตียรอยด์มีผลทำให้เกิดสิว ช่วงนั้นจำได้ว่าบินไปสิงคโปร์ต่อด้วยฮ่องกง และลองเซรั่มตัวใหม่ บอกตามตรง ตอนนั้นใครบอกไรดี อยากลองไปหมด เพราะมีความหวังที่อยากให้หน้าหายมากๆ แต่ผลไม่เป็นอย่างนั้น กลายเป็นสิวปะทุระเบิดขึ้นมาภายใน 1 คืน น่ากลัวมากค่ะ (คงเพราะเปลี่ยนอากาศและน้ำติดๆกัน) เกิดมาไม่เคยเป็นสิวด้วย ตอนนั้นคลำหน้าตัวเองแล้วน้ำตาไหลตลอด
กลับไปหาหมอที่คลินิกแถวทองหล่อ หมอให้ยาทาผื่นแบบคนเป้นสิวมาก็ดีขึ้น หมายถึงผื่นนะคะ แต่สิวแย่เหมือนเเดิม เลยตัดสินใจไปหาหมอชื่อดังที่รพ.แถวสาธร ไปเพื่อรักษาสิว ตอนนั้นหมอดังเรื่องเลเซอร์ ภายใน 1 เดือนกว่า สิวหาย แม้แต่รอยก็หายดีเลยค่ะ ระหว่างรักษาเล่าเรื่องติดสเตียรอยด์ให้หมอฟัง หมอบอกว่าให้หยุดใช้เดี๋ยวนี้ ไม่ให้ทา ทาแล้วไม่ดีผิวอ่อนแอ แต่จริงๆ รู้ว่าหมอไม่เชื่อว่าสเตียรอยด์จะทำคนเราติดได้ จากเหตุการณ์ที่จะเล่าหลังจากนี้ค่ะ  หมอให้ยาที่ชื่อว่า Metro Gel มาทา ยานี้ทาแล้วหน้าแห้งมาก แล้วก็ตึง ระหว่างช่วงที่รักษา หมอก็ให้มาเลเซอร์ VBEAM สองอาทิตย์ครั้ง ผ่านไปห้าครั้งหมอก็หยุดให้แค่ทายา แต่ยิ่งทาหน้าก็ยิ่งแห้ง ผื่นอีกประเภทเลยมาแทน เลยไปให้คุณหมอดู คุณหมอเลยให้สเตียรอยด์แบบอ่อนมาทา เราก็บอกว่าไม่ทาได้มั้ย เพราะทาแล้วติด ไม่อยากเริ่มต้นใหม่ หมอเลยบอกว่าไม่มีใครติดสเตียรอยด์หรอก เป็นไปไม่ได้ แล้วที่จะให้อ่อนมากๆ เราก็โอเคเพราะเชื่อหมอ ปรากฎว่าเป็นเหมือนที่เราคิด หลังจากทายาไป 3 วันแล้ว หยุด ผื่นและสิวผดผุดขึ้นมาเยอะมากกก เลยเอาไปให้หมอดู หมอดูหน้าตกใจ จากนั้นหมอก็พูดทำนองว่า ก็เอากลับไปทาอีก 1 อาทิตย์ แล้วค่อยๆ ลดปริมาณลง เราก็เลย เอออ...เซ็ง กลับมาที่จุดเริ่มต้นอีกแล้ว หมอทิ้งกันเลย เพราะลืมบอกไปว่าวิธีที่ค่อยๆลดปริมาณสเตอรอยด์ เราลองมาหมดแล้ว วิธีนี้ผื่นมันจะดีขึ้นแบบขึ้นๆลงๆแต่ผิวหน้าจะดูแย่ ยากที่จะกลับมาเหมือนเดิม ตอนนั้นเลยหมดหวังสุดๆ ไม่มีทางไป เลยไปหาข้อมูลใน internet แล้วก็เจอคลินิกนึงที่เน้นรักษาเรื่องผิวหน้าติดสเตียรอยด์โดยเฉพาะ ตอนนั้นเปี่ยมไปด้วยความหวัง เลยไปหาคุณหมอ ไปที่สาขาตรงตึกหัวมุมสาธร คุณหมอแนะนำให้รักษาด้วยเลเซอร์ Vbeam ไปเรื่อยๆ (2 อาทิตย์ครั้ง)  จนกว่าหน้าจะแข็งแรงขึ้น ช่วงแรกๆหน้าเยินมาก ทั้งผื่น ทั้งตึง ทั้งแดง ก็ต้องทน พอรักษาไปเรื่องๆ ผลที่เกิดขึ้นคือหน้าหายแดง หน้าขาว เพราะจุดเด่นของ  Vbeam คือลดรอยแดง หน้าเลยดูขาว แต่ไม่ใสนะคะ เพราะถ้าเอามือจับก็จะเจอเม็ดๆเล็กๆอยู่ตามผิวหน้า ยิ่งโดนแสงจะรู้เลยว่าไม่เรียบ รักษาไปเป็นปีๆ อาการก็คงที่ หน้าขาวแต่ไม่เรียบ หน้าดูกร้าน ผิวแห้ง มีริ้วรอย ปกติสมัยก่อนโน้นต้องพกกระดาษซับหน้ามันตลอด อันนี้ไม่ต้องใช้เป็นปีๆ เลยค่ะ แถมใช้ครีมบำรุงอะไรก็ยังไม่ค่อยได้ ใช้แล้วแพ้ง่ายค่ะ ผื่นจะมา แต่คุณหมอก็บอกตั้งแต่แรกนะคะ ว่าจะหายติดสเตียรอยด์แต่หน้าจะไม่กลับมากิ๊งงเหมือนเดิม ก็เลยท้อๆมีแอบไปใช้สเตียรอยด์ on on off off ก็เซ็งๆ แล้วก็รู่สึกว่าเปลืองเงินมากเพราะต้องเลเซอร์ตลอด หาจุดจบไม่ได้ เลยหน้ามืดไปหาหมอที่คลินิกแบบโหลๆที่นึง เห็นคนส่วนใหญ่เค้าฮิตกัน ไปถึงก็ให้ยามาทาตลับนึงบอกทาได้ตลอด เป็นตัวยาคีโตรโคมาโซล ทาไปเรื่อยๆสิวตรงหน้าผากเริ่มมา ผื่นยังมีขึ้นปะปราย แต่น้อยกว่าถ้าไม่ใช้สเตียรอยด์เลย จากนั้นเมื่อปีที่แล้วมารู้จักน้องคนนึงค่ะ เค้าไปรักษาสิวกับรพ.ผิวหนังแถวอโศก เค้าเป็นเยอะมากแล้วหาย เราก็เลยแบบลองไปปรึกษาหมอดูดีกว่า ไหนๆก็มาถึงวันนี้แล้ว อยากกลับไปหน้าใส ผิวนุ่มเหมือนเดิม ก็ลองไปหาหมอ หมอบอกว่าคนไข้เป็นแบบนี้เยอะมาก รักษาให้ได้ หายชัวร์ เดี๋ยวจะลืมเลยว่าเป็น ฟังแบบนั้นก็เปี่ยมไปด้วยความหวังอีกครั้งค่ะ แต่คราวนี้หายจริงๆ ค่ะ ผ่านไปเกือบ 3 เดือน ผิวกลับมาใสกิ๊ง ตอนนี้ใช้อะไรก็ไม่แพ้ กลับมาหน้าเด้งเหมือนเดิม ผิวหน้าผลิตน้ำมันเหมือนเมื่อก่อน ดีใจมากๆค่ะ
 จะเล่าให้ฟังนะคะว่าคุณหมอรักษายังไง คุณหมอเริ่มจากการเทสตัวไรบนหน้าก่อน เรามีตัวไรจริงๆ เยอะด้วย ที่เป็นแบบนี้เพราะสเตียรอยด์หรือยาบางประเภทเป็นแหล่งอาหาร หน้าเราเลยมีตัวไรมาเกาะแล้วไม่ไป แถมยังมีพวกแบคทีเรียที่หน้าอีก เพราะผิวอ่อนแอ การรักษาต้องแบ่งเป็น 3 ขั้น  คือ 1. หยุดสเตียรอยด์ และ กินยาฆ่าเชื่อ อันนี้ประมาณ 6 weeks ก็จะอย่าสเตียรอยด์ได้ค่ะ 2.Laser ฆ่าตัวไร เป็นการเอาชาโคลมาทาที่หน้าแล้วยิงด้วยเลเซอร์ ต้องทำทุกอาทิตย์ อาทิตย์ละครั้ง เพราะตัวไรจะฟักตัวเร็วมาก จำนวนครั้งขึ้นอยู่กับอาการของแต่ละคนค่ะ ของเราอาการหนักเลยทำ 10  ครั้ง ขั้นนี้ยังต้องกินยาควบคู่ไปด้วยนะคะ หมอจะเช็คเป็นระยะ ว่าตัวไรหมอแล้วยัง 3. Vbeam ลบรอย อันนี้จะทำหรือไม่ทำก็ได้คะ ถ้ารอยเห็นไม่ชัดก็ไม่ต้องทำก็ได้ คิดว่ามีที่นี่ที่เดียวที่รักษาหายขาดแบบปลิดทิ้งนะคะ แต่ข้อเสียคือราคาแพงมาก ต้องทำทุกอาทิตย์ เสียเงินอาทิตย์ละประมาณ 7,XXX บาท รวมค่ารักษาทั้งหมดก็ประมาณเกือบ 8X,XXX บาท  (ไม่รวมขั้นตอน 3 Vbeam นะคะ) แต่เราคิดว่าคุ้มคะ เทียบกับความทรมานที่ผ่านมาตลอดหลายปี ได้ผิวกลับมาแถมหน้าใสกว่าเดิมอีกค่ะ ยังไงก็อยากให้ทุกคนระวังพวกยาทาหน้าใสตามคลินิกโหลๆนะคะ ได้ยินว่ามีสเตียรอยด์ผสมอยู่ทั้งนั้น มันไม่คุ้มเสียจริงๆ ค่ะ 


Baby-O

Baby-O

FULL PROFILE