ไปนอนแช่ Onzen @ DHC
Jebanista121เมื่อวานได้ไปนอนแช่ออนเซนที่ DHC มา ทรายเชื่อว่าสาวๆหลายคนคงเคยได้ยินชื่อนี้กันมาบ้างแต่อาจจะยังไม่เคยได้ลองเพราะปรกติเวลาที่พูดกันถึงการแช่ออนเซนเราก็คิดกันไปก่อนเลยว่าต้องไปแช่กันที่ประเทศญี่ปุ่นดินแดนต้นหรับของการแช่ออนเซนว่ากันว่าถ้าใครไปถึงญี่ปุ่นแล้วยังไม่ได้แช่นี่ถือว่าเป็นการเดินทางที่เสียเที่ยวมาก แต่วันนี้เราไม่ต้องเดินทางไปถึงญี่ปุ่นเราก็แช่ออนเซ็นได้เพราะ DHC ได้ยกเอาน้ำแร่ออนเซนมาตั้งไว้ใจกลางกรุงฯที่ DHC Olive Beauty ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับออนเซ็นกันก่อน Magma Onsen จะมีแหล่งกำเนิดมาจากออนเซนธรรมชาติ Umijigoku ในเมือง Beppu ประเทศญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นทั้งผู้ชายและผู้หญิงต่างก็ชอบการแช่ออนเซนกันมาก เพราะเชื่อว่าการแช่ออนเซนจะช่วยปรับผิวพรรณให้เนียนเรียบและนุ่มนวล หรือใช้เพื่อการรักษาโรคต่างๆ รวมไปถึงช่วยในเรื่องของการผ่อนคลายอริยาบถ และยังช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายจากการทำงานหนัก ความตึงเครียด และความเหนื่อยล้าของกล้ามเนื้อต่างๆได้
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับออนเซ็นกันก่อน Magma Onsen จะมีแหล่งกำเนิดมาจากออนเซนธรรมชาติ Umijigoku ในเมือง Beppu ประเทศญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นทั้งผู้ชายและผู้หญิงต่างก็ชอบการแช่ออนเซนกันมาก เพราะเชื่อว่าการแช่ออนเซนจะช่วยปรับผิวพรรณให้เนียนเรียบและนุ่มนวล หรือใช้เพื่อการรักษาโรคต่างๆ รวมไปถึงช่วยในเรื่องของการผ่อนคลายอริยาบถ และยังช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายจากการทำงานหนัก ความตึงเครียด และความเหนื่อยล้าของกล้ามเนื้อต่างๆได้
ทรายวางแผนไปใช้ใบริการตอน 4 โมงเย็น (เพราะคิดเอาไว้ว่ากลับบ้านจะไม่อาบน้ำแล้ว) เพราะจากที่ดูข้อมูลมาเบื้องต้นการแช่ออนเซนและทำทรีทเมนท์ต้องใช้เวลาประมาณ 2.30 ชั่วโมง แอบคิดเอาเองว่าแช่แล้วไม่ควรอาบน้ำ (เดี๋ยวพวกแร่ธาตุตางๆจะหายไปหมดไม่ทันได้บำรุง) ก่อนที่เราจะเข้าไปแช่ออนเซนเธอราปิสก็จะเอากลิ่นอโรม่าที่ใช้ในห้องนวดกับกลิ่นของผงที่จะเอาใส่ในอ่างออนเซนมาให้เลือกก่อน
เข้ามาในห้องพี่เธอราปิสก็จะแนะนำการปฏิบัติตัวในการแช่ออนเซน ก่อนอื่นเลยคือเราต้องล้างเครื่องสำอางออกให้หมด จัดการเปลื้องผ้าออกทุกชิ้น (คิดถึงถ้าไปญี่ปุ่นแล้วแช่ห้องรวมสาวไทยแบบเราคงเขินน่าดู) ในห้องจะมีนาฬิกาอยู่ 1 เรื่อนไว้คอยจับเวลา หลังจากล้างหน้าแล้วเราก็ต้องอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายกันก่อน พี่อุ๋ยบอกว่าการอาบน้ำอุ่นจะดีกว่าอาบน้ำเย็นเพราะว่าเป็นการปรับอุณหภูมิของร่างกาย ก่อนจะลงอ่างขั้นตอนต่อไปคือ เอาขาจุ่มลงไปในอ่างก่อน แล้วก็วักน้ำขึ้นมาประพรมตามตัวเพื่อปรับอุณหภูมิ แล้วถ้าคิดว่าเอาตัวลงไปได้เลยก็เอาลงไป แต่ทรายกว่าจะเอาตัวลงไปได้นี่ใช้เวลาประมาณ 2 นาที เพราะน้ำในอ่างอุณหภูมิค่อนข้างสูงประมาณ 40 อางศา เอาตัวจุ่มๆทีละนิดทีละนิดทนไม่ไหวก็ดีดตัวขึ้นมาใหม่ ทำแบบนี้อยู่หลายรอบมาก ฮ่าๆ รอบแรกใช้เวลาแช่ 5 นาที แล้วขึ้นมาใช้น้ำฝักบัวรดตัวแล้วทำความสะอาดให้สิ่งสกปรกที่ขับออกมาตามผิวหนังออกไป แล้วลงแช่ต่ออีก 10 นาที เชื่อมั้ยทรายไม่สามารถอยู่ได้ครบ 10 นาทีหลังเพราะรู้สึกเหมือนหมดแรงมากๆ ตอนนั้นมีอาการเหมือนเลือดสูบฉีดเต็มที่มาก ขึ้นมาเอาน้ำราดขา เแล้วออกมานั่งดื่มน้ำทดแทนพลังงานที่เสียไป
พี่อุ๋ยบอกว่าการแช่น้ำแร่จะทำให้เรารู้สึกอ่อนเพลีย ต้องดื่มน้ำมากๆ และนั่งพักสักครู่ก่อนที่จะเริ่มทำทรีทเมนต์ต่อได้ เราขึ้นมานั่งได้สักพักรู้สึกได้เลยว่าเสียพลังงานไปมากระหว่างที่นั่งพักก็รู้สึกว่ามีเหงื่อผุดออกมาตามผิวหนังมากด้วยเช่นกัน ขั้นตอนต่อไปก็เป็นการทำทรีทเมนต์ ลืมบอกไปทรายเลือกคอร์ส Onzen with DHC Exfoliating Body Treatment คอร์สนี้จะช่วยในเรื่องของการสครับผัดเซลล์ผิวทำให้เผิวเนียนนุ่มขึ้น ช่วงที่พี่อุ๋ยเธอราปิสทำสครับพี่เค้าก็จะถามว่าเม็ดสครับทำผิวให้เราเจ็บหรือเปล่า อยากบอกพี่อุ๋ยว่าอยู่ที่บ้านเม็ดสครับใหญ่และโหดกว่านี้มากค่ะ สครับที่ตัวแดงหมด แต่ที่นี่เม็ดสครับค่อนข้างละเอียดไม่บาดผิวเรานะ หลังจากสครับและล้างตัวเสร็จรู้สึกว่าผิวเนียนนุ่มดี หลังจากสครับเสร็จก็เป็นการนวดน้ำมันด้วยโอลีฟออย ขั้นตอนนี้เราหลับไปเลยสบายตัวมาก น้ำหนักมือของพี่อุ๋ยไม่หนักเกินไปเราไม่ชอบนวดเจ็บๆ แต่ถ้าอยากได้หนักๆพี่เค้าก็จัดให้ได้ค่ะ
จบคอร์สแล้วเข้าห้องบิวตี้ที่เค้ามีไว้ให้ไปไดร์ผมให่้แห้งก่อนกลับบ้าน คืนนี้นอนหลับสบายตัวแล้ว
Discussion (1)