Bride to be : II กลุ้มใจแต่แรกเริ่ม Theme เริ่มมา แต่ว่าจะจัดที่ไหน ยังไงดี?
ฟะร้า426เอาอีกแล้ว ฟะร้าเอาปัญหามาให้เพื่อนๆ ช่วยคิดอีกแล้ว (ยัยฟะร้านี่ยุ่งจริงๆ ) แหม ก็แบบว่าได้ไอเดียและคำอวยพรของหลายๆ คน ก็รู้สึกปลาบปลื้มและขอบคุณมากมาย แต่เรื่องแต่งงานไม่ง่ายเลยเนอะ เพิ่งจะรู้ซึ้งนี่แหละ นี่ขนาดยังไม่ได้เตรียมอะไรเท่าไหร่ แค่คิดวางแผนกัน ปรึกษากันกับคุณแฟนก็เริ่มจะเหนื่อยใจแล้วแฮะ แอบมีฉุกคิดด้วยว่า รึจะแต่งตอนพร้อมกว่านี้ดี จริงๆ ฟะร้าก็ยังเด็กนะ (คิดไปเอง ๕๕๕)
แต่ก็มาคิดดูว่า เฮ้ย ไหนๆ ก็ออกตัวแรงไปแล้ว ต้องลองดูก่อนแหละฟระ เลยขอตั้งกระทู้นี้มาให้เพื่อนๆ ช่วยกันปวดหัว
คือเท่าที่ฟะร้าคิดกับคุณแฟน ด้วยงบประมาณอันจำกัดจำเขี่ย และปัญหาเรื่องการเดินทางของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย เนื่องจากฟะร้ากับคุณแฟน เป็นคนต่างจังหวัดทั้งคู่ แต่เป็นต่างจังหวัดที่ไกลกันซะเหลือเกิน ของคุณแฟนถึงแม้จะไม่ไกลกรุงเทพฯนัก แต่ทางญาติของบ้านฝ่ายชายก็ค่อนข้างอายุมาก จะจัดกรุงเทพฯก็จะเดินทางลำบาก ถ้าจัดที่บ้านคุณแฟนก็กลัวเพื่อนๆ ที่รักจะหดหาย เลยไม่รู้ข้อสรุปว่าจะไปจัดตรงไหนให้โดนใจทุกฝ่ายดี ส่วนทางบ้านฟะร้าเดี๋ยวจะยกโขยงกันมาเองค่ะ ทางบ้านฟะร้าไม่ซีเรียส (แต่จริงๆ ฟะร้าก็ซีเรียสอยู่นะ ๕๕๕๕ แต่จัดมากกว่านี้ไม่ไหวแล้ว เหนื่อยด้วย ไม่มีตังค์ด้วย)
หลังจากเถียงกันหน้าดำคร่ำเครียด ก็ได้ข้อสรุปมาสองแบบ มาขอความเห็นจากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ จีบันที่เลิฟ
- ที่ฟะร้าคิดไว้นะ จัดงาน 2 ที่ รอบแรกที่บ้านคุณแฟน จัดแบบเต็มพิธีที่นั่นเลย แล้วค่อยมาจัดอีกรอบที่กรุงเทพฯ เป็นงานเด็กๆอีกที แต่คุณแฟนก็บอกว่าเปลือง ใช้งบเยอะ และจัดซ้ำซ้อน เหนื่อยซ้ำซ้อน แต่จะได้งานสนุกสนานแบบที่ต้องการในงานเด็ก ซึ่งอันนี้จะสนองนี้ดฟะร้าอ่ะนะ อิอิ
- ที่คุณแฟนคิด จัดที่กรุงเทพฯแบบเบ็ดเสร็จไปเลยรอบเดียวจบ วันเดียวจบ แต่ปัญหามีอีกตรงงานอาจจะไม่ตรงใจฟะร้า เพราะเป็นงานรวมทั้งหมด ผู้ใหญ่ก็ไม่ควรจะเห็นความติ๊งต๊องของฟะร้ารึป่าว และงานอาจจะไม่เต็มที่ตามที่ฟะร้าคาดหวัง และอีกอย่างที่ฟะร้าเคยเห็นมา คือเจ้าสาวเจ้าบ่าวจะเหนื่อยสุดๆ วันนั้น กลัวปาร์ตี้ไม่สนุกน่ะสิ
เนี่ย มีปัญหาหนักอกกลุ้มแทบจะเอาเท้าก่ายหน้าผาก เฮ้อ ยากจังเนอะ แต่งงานเนี่ย
อ๊ะ ถ้าเพื่อนๆ มีสถานที่สวยๆ ที่ไหนในที่น่าสนใจ แนะนำฟะร้าด้วยนะคะ ฟะร้าก็คิดไม่ออก พยายามเสิร์ชข้อมูลอยู่ แต่ก็ยังอยากได้คำแนะนำจากสาวๆ ค่ะ
Discussion (26)
Cheer ให้จัดที่กรุงเทพรอบเดียวนะ เพราะ
1. เหนื่อยมากเลยนะ แค่งานเดียวก็เหนื่อยสุด ๆ แล้ว
2. บอกว่างบจำกัด ฉะนั้น ควรจัดที่เดียวและทำให้ดีสุด ๆ
3. ต่อให้จัดงานที่ กทม รวมญาติสองฝ่าย เราก็ยังสามารถจัดธีมที่เราต้องการได้นะคะ เชื่อว่า ญาติ ๆ และแขกที่มาต้องเข้าใจ เพราะการที่เค้ามา คือการมาแสดงความยินดีกับเรานะคะ (อย่าลืมนะ เราแต่งงาน จัดงานได้หนเดียว ทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราทำได้นะ)
งานแต่ง สิ่งที่แขกมักจะให้ความสนใจนอกจากความสวย ความหล่อของเจ้าบ่าวเจ้าสาว
คือ รสชาติอาหาร , presentation, และเวลาเราพูดบนเวทีจ๊ะ
ส่วนสถานที่ หลายโรงแรมเค้าจะมีโปรกับบัตรเครดิต อย่างตอนพี่แต่งก็ได้ลด 5% ลองเช็ค ๆ ดูนะจ๊ะ (เด๋วนี้โรงแรมแข่งขันกันสูง น้องสามารถต่อราคา หรือขอของแถมในสิ่งที่น้องอยากได้นะ เช่น ดอกไม้ประดับวางไว้ระหว่างทางที่เจ้าสาวเจ้าบ่าวจะเดินขึ้นเวที น้ำแข็งสลัก โปรเจคเตอร์ แล้วแต่ว่าน้องอยากจะได้อะไร ก็ลองต่อ ๆ ดูเน้อ)
เตรียมให้พร้อม รับรองทุกคนปลื้ม
ว่าแต่....................อย่าคิดมากไปนะคะ เดี๋ยวเครียด สิวขึ้น
สถานที่แนะนำสำหรับตัวเอง ก็ ที่ บ้านก้ามปูค่ะ มีทั้งแบบ indoor outdoor ราคาไม่แพงค่ะ
http://bankampu.multiply.com/
http://bankampu.multiply.com/
แวะมาเล่าเรื่องตัวเองให้ฟังอีกที ปวดหัวเรื่องจัดงานแต่งเหมือนกันค่ะ
อันนี้เป็นแบบจัดเอง เล็กๆ บ้านๆ พึ่งออแกไนซ์แค่ในส่วนของพิธีเช้าเท่านั้น
ไม่ได้ชำนิเรื่องงานแต่งงาน ได้จากประสบการณ์จริงเจอกับตัวล้วนๆค่ะ
อาจจะช่วยไม่ได้มาก เพราะจัดแค่งานเช้าอย่างเดียว แต่เผื่อคุณฟะร้าจะได้ไอเดียค่ะ (ยาวหน่อยนะคะ)
พอเริ่มคิดว่าจะแต่งงาน ก็ต้องหาจุดที่ลงตัวระหว่างตัวเรา ครอบครัวเรา เจ้าบ่าว และครอบครัวเจ้าบ่าว
ตอนแรกว่าจะไม่จัดงานเลย ทำบุญ สวมแหวนจบ (ความเห็นตรงกันทั้งเราทั้งเค้า)
คุยไปคุยมา จัดนิดนึง เพราะหน้าที่การงานของเจ้าบ่าวก็มี (ความเห็นตรงกันอีก)
มาลงตัวกันว่า จะจัดแต่งานเช้าละกัน งานเล็กๆ
คุยกันแล้วกับฝ่ายชายว่า จะไม่มีพรีเวดดิ้ง แต่จะไปเที่ยวกันแล้วถ่ายรูปกันเอง
งบประมาณ
เราได้งบประมาณการจัดงาน ไม่มีเลี้ยงกลางวัน ค่าชุด แหวน ทอง ไม่เกิน 100,000 บาท (แอบน้อย 5555)
เราตั้ง งบแหวนและทองไว้ แล้วก็หักออก จากหนึ่งแสนนี้ ที่เหลือคือค่าจัดงาน
(ตรงนี้คุณฟะร้าก็ต้องสรุปก่อนว่า จะจัดงานเช้า งานค่ำ จะจัดสองที่ หรือจัดที่เดียวค่ะ)
จำนวนแขก
ต้องดูค่ะว่าจะเชิญประมาณเท่าไหร่ เพราะมันจะมีผลต่อสถานที่ที่เราจะไปจัดงานด้วย
แต่งานแต่งเรามีแต่ญาติและเพื่อนสนิท เลยไม่กังวลเรื่องนี้เท่าไหร่ แค่นับจำนวนคร่าวๆ ก็ประมาณไม่เกิน 100 คน
สถานที่
เมื่อลงตัวว่าจะจัดงานเช้าแล้ว ก็เรือ่งสถานที่
จะจัดที่บ้าน ก็ขี้เกียจมาเก็บมาล้าง เพราะญาติที่เป็นคนต่างจังหวัดก็คงต้องสังสรรค์กันแน่ๆ
แถมบ้านก็แคบ หาที่จอดรถก็ไม่ได้ ประเด็นนี้ตกไป
จะจัดข้างนอก ทั้งตัวเองและแฟน อยากได้แบบ outdoor อยู่ในสวน เพราะไม่ชอบอึดอัด
ก็ตามหาสถานที่กันค่ะ
ตามหาเจอแล้ว ถูกใจแล้ว สถานที่รองรับปริมาณแขกของเราได้โชคดีว่า ที่ที่หาได้ เค้ามีแพคเกจจัดงานเช้าให้ด้วย ไม่แพงและอยู่ในงบที่คิดไว้
ก็สะดวกตรงนี้
(ถ้าคุณฟะร้าจะจัดงานที่บ้านฝ่ายชาย เท่าที่หา มีออแกไนซ์ที่รับจัดแพคเกจงานเช้าราคาไม่แพงเยอะเลยค่ะ และถ้าเกิดมีงานที่กรุงเทพด้วย ก็ต้องมองหาว่าอยากได้แบบไหน ถูกใจตรงไหน ราคาโอเคมั้ย แบบนี้อ่ะค่ะ )
ฤกษ์
ได้สถานที่เป้าหมายแล้ว
ก็หาฤกษ์ อันนี้ตัวเองหาเองค่ะ ครอบครัวฝ่ายชายร้องขอแค่ให้แต่งเดือน 4 (มีนาคม) วันไหนก็ได้
ก็เลยหาฤกษ์ที่ดีของเดือนมีนา
พอเอาเข้าจริงฤกษ์ดีก็มีหลายตำราอีก
ฤกษ์ดีสะดวกของเรา ดั๊นเป็นฤกษ์ไม่ดีของ ครอบครัวฝ่ายชายอีก ก็ต้องหา ตำราที่ตรงกันนะคะ
จากนั้น เราก็โทรไปจองที่ ปรากฏว่า เดือนมีนาคนแต่งงานเยอะมาก ฤกษ์ดีเสาร์อาทิตย์ไม่ว่างเลย
ต้องกลับมาหาฤกษ์ใหม่ เลยได้ฤกษ์วันศุกร์
(ซึ่งจริงเราอยากแต่งวันศุกร์ ตามความเชื่อเค้าว่าจะได้มีความสุข แต่พ่อแม่แฟนอยากให้จัดเสาร์อาทิตย์ เพราะว่าญาติจะได้มาเยอะๆ ไหนว่าจะจัดงานเล็ก -*-)
โทรไปจองที่ใหม่ ได้สถานที่ วางมัดจำ
อาหารและเครื่องดิ่ม
ในแพคเกจพิธีเช้าของเรา มีข้าวต้ม ชากาแฟเลี้ยง ตอนแรกที่ว่าจะไม่เลี้ยงกลางวัน
พ่อแม่ฝ่ายชาย บอกมาอีกว่าเลี้ยงหน่อยก็ดี
ตอนแรกจะเอาแบบบุฟเฟต์ แต่ค่าต่อหัวแพง เพราะเรากำหนดจริงๆไม่ได้ว่ามีกี่หัวกันแน่
พ่อแม่ก็จูงลูกจูงหลาน เพื่อนก็พาแฟนมา
กลัวไม่พอกินกันอีก
เลยว่าจะทำกันเอง... คิดไปคิดมาไม่อยากเหนื่อย
จะจ้างที่อื่นทำ... ก็กลัวไม่อร่อย
สุดท้าย สรุปว่า จ้าง ก๋วยจั๊บ และข้าวมันไก่ ไปทำให้กินกันสดๆในงานเลย
เครื่องดิ่ม เหล้า เบียร์ น้ำอัดลม ไอศครีม ผลไม้ จัดไปเองต่างหาก
การ์ดแต่งงาน
การ์ดแต่งงาน เราคิดและออกแบบเองค่ะ กะว่าเอาไปส่งโรงพิมพ์จะได้ถูกกว่า ซึ่งก็ได้ถูกกว่าจริงๆ
แต่จำนวนการ์ดที่พิมพ์น้อยแค่ 100 ใบ ราคาต่อแผ่นจะแพงกว่าปกติ
แต่ถ้าอยากสะดวก ก็หาร้านที่เค้าออกแบบและรับพิมพ์การ์ดให้เลยค่ะ
ของชำร่วย
พ่อแม่ฝ่ายชาย ร้องขอมาเลยว่า ขอของที่ใช้ได้ อยากได้เป็นแก้วมัค
ซึ่งเราก็ไม่มีทางเลือก ก็ต้องแก้วมัค เป็นเดืนเล่นที่เจเจมอลล์ ก็เลยได้ร้านที่ถูกใจ
ก็สั่งเลย 150 ชิ้น
ส่วนของชำร่วย ต้องกะเผื่อมากกว่าการ์ดที่เราแจก แขกที่เราเชิญค่ะ
แหวนแต่งงาน
เลือกแบบ ตั้งงบประมาณ หาร้านที่ไว้ใจได้ แล้วก็บอกเค้าว่าต้องการแหวนงบเท่านี้สำหรับสองวงค่ะ
ของรับไหว้
โชคดีที่ของเรา แม่ฝ่ายชายจะจัดการเอง สงสัยกลัวไม่ถูกใจ
ชุดแต่งงาน
กำลังจะไปลองค่ะ แค่คิดก็เหนื่อยแล้วตรงนีีิ้ - -"
ถ่ายรูป พรีเวดดิ้ง กะ ถ่ายรูปวันงาน
พรีเวดดิ้งตอนแรกว่าจะไม่ถ่าย จะถ่ายกันเอง คิดไปคิดมา พ่อแม่ฝ่ายชายพูดว่า ก็ควรจะมีรูปสวยๆไว้ติดบ้าน
อ๊ะ โอเค จะไปหาเวดดิ้งสตูดิโอ แพคเกจถ่ายภาพแพง แถมต้องซื้อภาพเพิ่มอีกตะหาก ต่อให้แถมชุดวันงานด้วยก็เถอะ
เราก็ไปหาจ้างช่างภาพมา ราคารับได้
เพราะเรากับฝ่ายชายเห็นตรงกันว่า จะไม่ถ่ายภาพรูปชุดแต่งงาน เพราะว่าไม่ชอบ
แต่จะถ่ายภาพ ออกแนว street หน้าผม ชุด แต่งเองขนไปเองค่ะ
ถ่ายรูปวันงาน ตอนแรกจะให้น้องมาถ่ายให้ (ซึ่งน้องไม่ได้เป็นช่างถ่ายภาพ คือมีกล้องเฉยๆ)
พ่อแม่ฝ่ายชายอยากได้ภาพสวยๆจากมืออาชีพหน่อยก็ดี เรามาคิดอีกทีเ้อ้อ ก็ไปจ้างเค้าเอาก็ได้
เพราะน้องที่จะถ่ายให้ก็เป็นเพื่อนเจ้าสาวด้วย จะได้ไม่เหนื่อย
สรุปก็คือจ้างช่างถ่ายภาพคนเดิม
-----------------
ยาวเลย คนอ่านก็เหนื่อย คนพิมพ์ก็เหนื่อย
อย่างที่บอกตอนแรกว่า งบไม่เกิน 100,000 บาท แต่ตอนนี้ งบทะลุไปอยุ่ที่ 150000 แล้วค่ะ
หวังว่าจะช่วยคุณฟะร้าได้บ้างนะคะ
กลางปีนี้จะมี เวดดิ้งแฟร์ คุณฟะร้าลองไปดูนะคะ
จะได้แพคเกจถูก ราคาไม่แพง ก็ต้องดูดีๆเหมือนกัน
อันนี้เป็นแบบจัดเอง เล็กๆ บ้านๆ พึ่งออแกไนซ์แค่ในส่วนของพิธีเช้าเท่านั้น
ไม่ได้ชำนิเรื่องงานแต่งงาน ได้จากประสบการณ์จริงเจอกับตัวล้วนๆค่ะ
อาจจะช่วยไม่ได้มาก เพราะจัดแค่งานเช้าอย่างเดียว แต่เผื่อคุณฟะร้าจะได้ไอเดียค่ะ (ยาวหน่อยนะคะ)
พอเริ่มคิดว่าจะแต่งงาน ก็ต้องหาจุดที่ลงตัวระหว่างตัวเรา ครอบครัวเรา เจ้าบ่าว และครอบครัวเจ้าบ่าว
ตอนแรกว่าจะไม่จัดงานเลย ทำบุญ สวมแหวนจบ (ความเห็นตรงกันทั้งเราทั้งเค้า)
คุยไปคุยมา จัดนิดนึง เพราะหน้าที่การงานของเจ้าบ่าวก็มี (ความเห็นตรงกันอีก)
มาลงตัวกันว่า จะจัดแต่งานเช้าละกัน งานเล็กๆ
คุยกันแล้วกับฝ่ายชายว่า จะไม่มีพรีเวดดิ้ง แต่จะไปเที่ยวกันแล้วถ่ายรูปกันเอง
งบประมาณ
เราได้งบประมาณการจัดงาน ไม่มีเลี้ยงกลางวัน ค่าชุด แหวน ทอง ไม่เกิน 100,000 บาท (แอบน้อย 5555)
เราตั้ง งบแหวนและทองไว้ แล้วก็หักออก จากหนึ่งแสนนี้ ที่เหลือคือค่าจัดงาน
(ตรงนี้คุณฟะร้าก็ต้องสรุปก่อนว่า จะจัดงานเช้า งานค่ำ จะจัดสองที่ หรือจัดที่เดียวค่ะ)
จำนวนแขก
ต้องดูค่ะว่าจะเชิญประมาณเท่าไหร่ เพราะมันจะมีผลต่อสถานที่ที่เราจะไปจัดงานด้วย
แต่งานแต่งเรามีแต่ญาติและเพื่อนสนิท เลยไม่กังวลเรื่องนี้เท่าไหร่ แค่นับจำนวนคร่าวๆ ก็ประมาณไม่เกิน 100 คน
สถานที่
เมื่อลงตัวว่าจะจัดงานเช้าแล้ว ก็เรือ่งสถานที่
จะจัดที่บ้าน ก็ขี้เกียจมาเก็บมาล้าง เพราะญาติที่เป็นคนต่างจังหวัดก็คงต้องสังสรรค์กันแน่ๆ
แถมบ้านก็แคบ หาที่จอดรถก็ไม่ได้ ประเด็นนี้ตกไป
จะจัดข้างนอก ทั้งตัวเองและแฟน อยากได้แบบ outdoor อยู่ในสวน เพราะไม่ชอบอึดอัด
ก็ตามหาสถานที่กันค่ะ
ตามหาเจอแล้ว ถูกใจแล้ว สถานที่รองรับปริมาณแขกของเราได้โชคดีว่า ที่ที่หาได้ เค้ามีแพคเกจจัดงานเช้าให้ด้วย ไม่แพงและอยู่ในงบที่คิดไว้
ก็สะดวกตรงนี้
(ถ้าคุณฟะร้าจะจัดงานที่บ้านฝ่ายชาย เท่าที่หา มีออแกไนซ์ที่รับจัดแพคเกจงานเช้าราคาไม่แพงเยอะเลยค่ะ และถ้าเกิดมีงานที่กรุงเทพด้วย ก็ต้องมองหาว่าอยากได้แบบไหน ถูกใจตรงไหน ราคาโอเคมั้ย แบบนี้อ่ะค่ะ )
ฤกษ์
ได้สถานที่เป้าหมายแล้ว
ก็หาฤกษ์ อันนี้ตัวเองหาเองค่ะ ครอบครัวฝ่ายชายร้องขอแค่ให้แต่งเดือน 4 (มีนาคม) วันไหนก็ได้
ก็เลยหาฤกษ์ที่ดีของเดือนมีนา
พอเอาเข้าจริงฤกษ์ดีก็มีหลายตำราอีก
ฤกษ์ดีสะดวกของเรา ดั๊นเป็นฤกษ์ไม่ดีของ ครอบครัวฝ่ายชายอีก ก็ต้องหา ตำราที่ตรงกันนะคะ
จากนั้น เราก็โทรไปจองที่ ปรากฏว่า เดือนมีนาคนแต่งงานเยอะมาก ฤกษ์ดีเสาร์อาทิตย์ไม่ว่างเลย
ต้องกลับมาหาฤกษ์ใหม่ เลยได้ฤกษ์วันศุกร์
(ซึ่งจริงเราอยากแต่งวันศุกร์ ตามความเชื่อเค้าว่าจะได้มีความสุข แต่พ่อแม่แฟนอยากให้จัดเสาร์อาทิตย์ เพราะว่าญาติจะได้มาเยอะๆ ไหนว่าจะจัดงานเล็ก -*-)
โทรไปจองที่ใหม่ ได้สถานที่ วางมัดจำ
อาหารและเครื่องดิ่ม
ในแพคเกจพิธีเช้าของเรา มีข้าวต้ม ชากาแฟเลี้ยง ตอนแรกที่ว่าจะไม่เลี้ยงกลางวัน
พ่อแม่ฝ่ายชาย บอกมาอีกว่าเลี้ยงหน่อยก็ดี
ตอนแรกจะเอาแบบบุฟเฟต์ แต่ค่าต่อหัวแพง เพราะเรากำหนดจริงๆไม่ได้ว่ามีกี่หัวกันแน่
พ่อแม่ก็จูงลูกจูงหลาน เพื่อนก็พาแฟนมา
กลัวไม่พอกินกันอีก
เลยว่าจะทำกันเอง... คิดไปคิดมาไม่อยากเหนื่อย
จะจ้างที่อื่นทำ... ก็กลัวไม่อร่อย
สุดท้าย สรุปว่า จ้าง ก๋วยจั๊บ และข้าวมันไก่ ไปทำให้กินกันสดๆในงานเลย
เครื่องดิ่ม เหล้า เบียร์ น้ำอัดลม ไอศครีม ผลไม้ จัดไปเองต่างหาก
การ์ดแต่งงาน
การ์ดแต่งงาน เราคิดและออกแบบเองค่ะ กะว่าเอาไปส่งโรงพิมพ์จะได้ถูกกว่า ซึ่งก็ได้ถูกกว่าจริงๆ
แต่จำนวนการ์ดที่พิมพ์น้อยแค่ 100 ใบ ราคาต่อแผ่นจะแพงกว่าปกติ
แต่ถ้าอยากสะดวก ก็หาร้านที่เค้าออกแบบและรับพิมพ์การ์ดให้เลยค่ะ
ของชำร่วย
พ่อแม่ฝ่ายชาย ร้องขอมาเลยว่า ขอของที่ใช้ได้ อยากได้เป็นแก้วมัค
ซึ่งเราก็ไม่มีทางเลือก ก็ต้องแก้วมัค เป็นเดืนเล่นที่เจเจมอลล์ ก็เลยได้ร้านที่ถูกใจ
ก็สั่งเลย 150 ชิ้น
ส่วนของชำร่วย ต้องกะเผื่อมากกว่าการ์ดที่เราแจก แขกที่เราเชิญค่ะ
แหวนแต่งงาน
เลือกแบบ ตั้งงบประมาณ หาร้านที่ไว้ใจได้ แล้วก็บอกเค้าว่าต้องการแหวนงบเท่านี้สำหรับสองวงค่ะ
ของรับไหว้
โชคดีที่ของเรา แม่ฝ่ายชายจะจัดการเอง สงสัยกลัวไม่ถูกใจ
ชุดแต่งงาน
กำลังจะไปลองค่ะ แค่คิดก็เหนื่อยแล้วตรงนีีิ้ - -"
ถ่ายรูป พรีเวดดิ้ง กะ ถ่ายรูปวันงาน
พรีเวดดิ้งตอนแรกว่าจะไม่ถ่าย จะถ่ายกันเอง คิดไปคิดมา พ่อแม่ฝ่ายชายพูดว่า ก็ควรจะมีรูปสวยๆไว้ติดบ้าน
อ๊ะ โอเค จะไปหาเวดดิ้งสตูดิโอ แพคเกจถ่ายภาพแพง แถมต้องซื้อภาพเพิ่มอีกตะหาก ต่อให้แถมชุดวันงานด้วยก็เถอะ
เราก็ไปหาจ้างช่างภาพมา ราคารับได้
เพราะเรากับฝ่ายชายเห็นตรงกันว่า จะไม่ถ่ายภาพรูปชุดแต่งงาน เพราะว่าไม่ชอบ
แต่จะถ่ายภาพ ออกแนว street หน้าผม ชุด แต่งเองขนไปเองค่ะ
ถ่ายรูปวันงาน ตอนแรกจะให้น้องมาถ่ายให้ (ซึ่งน้องไม่ได้เป็นช่างถ่ายภาพ คือมีกล้องเฉยๆ)
พ่อแม่ฝ่ายชายอยากได้ภาพสวยๆจากมืออาชีพหน่อยก็ดี เรามาคิดอีกทีเ้อ้อ ก็ไปจ้างเค้าเอาก็ได้
เพราะน้องที่จะถ่ายให้ก็เป็นเพื่อนเจ้าสาวด้วย จะได้ไม่เหนื่อย
สรุปก็คือจ้างช่างถ่ายภาพคนเดิม
-----------------
ยาวเลย คนอ่านก็เหนื่อย คนพิมพ์ก็เหนื่อย
อย่างที่บอกตอนแรกว่า งบไม่เกิน 100,000 บาท แต่ตอนนี้ งบทะลุไปอยุ่ที่ 150000 แล้วค่ะ
หวังว่าจะช่วยคุณฟะร้าได้บ้างนะคะ
กลางปีนี้จะมี เวดดิ้งแฟร์ คุณฟะร้าลองไปดูนะคะ
จะได้แพคเกจถูก ราคาไม่แพง ก็ต้องดูดีๆเหมือนกัน
ตกลง คนอื่นช่วยหาข้อมูลให้ฟะร้า รึ ฟะร้าควรหาข้อมูลมาแบ่งคนอื่นเนี่ยอันนี้
ไงอ้อยแนะนำบางส่วนแล้วกันนะ
ที่บ้านแฟน ฟะร้าลองจัดตามแบบพิธีให้เรียบร้อยก็ได้ แล้วเลี้ยงตอนกลางวันเลยนะค่ะ
ส่วนในกทม. อาจจะทิ้งช่วงก็ได้ไม่เป็นไร ไม่ต้องเอาพิธีการ แต่เน้นปาตี้ หนุกหนาน กับเพื่อนๆๆ ตามที่ฟะร้าอากได้นะ อันนี้ก็ช่วยประหยัดงบได้นะค่ะ
เรื่องอาหาร แต่ละแบบ ราคาจะต่างกันเยอะนะ แบบค็อกเทล จะแพงที่สุดนะจ๊ะ
ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยถามได้นะ ผ่านมาแล้ว มันเลยรู้บางจุดเยอะเลยง่ะ