[บทความจ้า]เหตุไฉนคุณยังโสด??

11 23
สวัสดีค่าสาวๆ วันนี้เราไปเจอบทความน่าสนใจมาค่ะเลยจะเอามาให้อ่าน

เราไม่ได้เขียนเองนะคะ ^^

Credit : https://r-kira.exteen.com
______________________________________________________________________ 

 คำเตือน!!!

 Entry นี้ ยาว... มาก!!!!

 

และแล้วก็เขียนเสร็จจนได้ ~
สืบเนื่องจากเอ็นทรี "เหตุผลที่อยากเป็นโสด (เรื่องจริง ณ จ๊ะเธอว์)" ครับผม อันนั้นผมเอาของคนอื่นมา

แต่อันนี้คิด+เรียบเรียงเอง
เค้นออกมาจากสมอง+สิ่งที่พบเจอมา ล้วนๆฮ้า

เอ็นทรีก่อนจะเจาะในประเด็น เหตุผลที่ทำให้อยากเป็นโสดครับ

แต่เอ็นทรีนี้ จะกล่าวถึง เหตุผลที่ทำให้คุณเป็นโสด (ไม่ว่าจะอยากหรือไม่ก็ตาม)

 

ก่อนอื่นขอ "เว้ากันซื่อๆ" ก่อนเลย

ว่าตั้งแต่เกิดมาเนี่ย เจ้าของบล็อค ไม่เคยมีแฟนเป็นตัวเป็นตนเลยสักหน
นี่ก็ผ่านมา 2x ปีแล้ว ก็ยังไม่เคยมีเลย วะฮ่าๆ แต่ก็อยู่มาได้ /me ยืดอก
เพื่อนของผมหลายๆคนก็ไม่มีเหมือนกันนะ

ก็เลยมาลองๆคิดดู ว่าทำไมบางคนมีแฟน บางคนไม่มี
จะว่าเพราะ "หน้าตาไม่ดี" ก็คงไม่ใช่

มีเพื่อนบอกว่า "ถ้าคนหน้าตาไม่ดี ไม่มีแฟนละก็ ทำไมยังมีคนหน้าตาไม่ดี หลงเหลืออยู่อีกละ?"


โหย!! คมไปมั้ย!!

เข้าใจที่มันพูดไหมครับ คือมันกำลังบอกว่า

 

ถ้า คนหน้าตาไม่ดี ไม่มีแฟน ไม่แต่งงาน แล้วจะมีลูกหลานของคนหน้าตาไม่ดี สืบทอดมาถึงปัจจุบันหรือ??

เอาละ ดังนั้น ผมจะตัดเหตุผลว่า "รูปไม่หล่อ รูปไม่งาม รูปไม่เซะกุซี่ บลาๆๆ" ออกนะครับ!!
เพราะผมคิดว่า มันไม่ใช่สาเหตุหลักของความโสด!



เอาละ เกริ่นมาเนิ่นนานแล้ว ขอเข้าเรื่องละนะครับ
*หมายเหตุ : นี่เป็นความคิดส่วนบุคคล กรุณาใช้วิจารณญาณและยึดถือหลักกาลามสูตร(เกสปุตตสูตร) ในการรับชม*


10 สาเหตุของความ "โสด" ฉบับ Akira

 

 

[ 1 ]
 
ไม่มีโอกาสมีปฏิสัมพันธ์กับเพศตรงข้าม


ปฏิสัมพันธ์ (ความสัมพันธ์/เกี่ยวข้อง) นะครับ ไม่ใช่ปฏิสนธิ (=[]=!!!) มันคนละเรื่องกัน

พูดง่ายๆก็คือคุณไม่ค่อยมีโอกาสได้พบปะกับเพศตรงข้าม เลยทำให้ไม่มีแฟนนั่นเอง

ขอยกตัวอย่าง แบบดราม่าๆ

น.ส. B (นามสมมุติ) หน้าตาน่ารักจิ้มลิ้ม พ่อแม่หวงมาก เลยส่งเข้า ร.ร. หญิงล้วนแต่เด็ก จนจบ ม.ปลาย พอเข้ามหาลัย ก็ดันติดเพื่อน อยู่แต่กับเพื่อนๆผู้หญิง (หรือโชคร้าย คณะมีแต่เกย์ กระเทย ก็ว่าไป) เรียนจบ ทำงาน ในที่ทำงานก็ดันมาแต่อาเจ๊ ไม่ก็ลุงแก่ๆ แล้ว น.ส. B เอง ก็เป็นเด็กดี ไม่เที่ยว ทำงานเสร็จขับรถกลับบ้าน นอน

เช้าไปทำงาน - กลับบ้าน - นอน
เช้าไปทำงาน - กลับบ้าน - นอน
เช้าไปทำงาน - กลับบ้าน - นอน
เช้าไปทำงาน - กลับบ้าน - นอน
เช้าไปทำงาน - กลับบ้าน - นอน
...

แล้วมันจะมีแฟนได้ยังไงนั่น!!!//=[]=//

ชีวิตจะดราม่าไปมั้ย!!? (อ้าว แต่อาจมีจริงก็ได้นะเออ)

หรือไม่ ถึงตอนเด็กๆ คุณจะมีโอกาสได้พบปะก็เถอะ แต่ในเมื่อมันไม่มีที่ใช่เลย แล้วพอคุณเรียนจบไปทำงาน แล้วบังเอิญที่ทำงานคุณก็ไม่มีคนที่ใช่เลยอีก

แล้วจะไปหาจากไหนละทีนี้!!

อันนี้ขอแนะนำวิธีทางแก้ไขวงจร(อุบาทว์)นี้

โดยคุณต้องหัดเข้าสังคมบ้าง เช่น อยู่มหาลัยก็ไม่ใช่เรียนอย่างเดียว เข้าชมรม ทำกิจกรรม ไปค่ายบ้างก็ได้ (ค่ายเนี่ยผลิตคู่รักมาเยอะนะ ขอบอก! โดยเฉพาะพวกค่ายสร้าง) เรียนจบทำงานแล้ว ก็พยายามเข้าสังคม สมาคมบ้าง (มันไกลตัวผมเกินไป ขอไม่อธิบายนะครับ) ไปเที่ยวบ้าง ไปตามที่ต่างๆบ้าง ขึ้น BTS บ้าง (ฮา)

ไม่แน่ คุณอาจเจอเนื้อคู่คุณอยู่แถวๆนั้นก็ได้นะ ^^


==============================
 
[ 2 ]
 
เลือกมาก/สเปคสูง
 


คงได้ยินคำยอดฮิตที่ว่า "สวยเลือกได้"/ "หล่อเลือกได้" กันมาบ้าง
แต่ก็ใช่ว่ามันจะสงวนสิทธิ "เลือกได้" ให้กับคนหน้าตาดีเท่านั้น


ไม่หล่อ ไม่สวย ก็มีสิทธิเลือกอยู่ดี


ขออ้างอิงจากบทเรียนที่เรียนอยู่เทอมนี้หน่อย แบบว่าอย่างฮา!!
มันมีคดี "คลุมถุงชน" ในสมัยสมเด็จพระจอมเกล้าฯ และพระองค์ก็ได้วินิจฉัยว่า

"... หญิงนั้นอายุ 20 เศษแล้ว ควรจะเลือกหาผัวได้ตามใจชอบ..."


เห็นมะ ทุกคนมีสิทธิเลือกหาคู่ได้ตามใจชอบ มันเป็นสิทธิเสรีภาพตามกฎหมาย ฮ่าๆๆ

แต่เลือกแล้ว เขาจะเอาเราหรือไม่ นี่อีกเรื่องนะเธอว์
ไปฉุดเขาก็ผิดกฎหมายนะ ฮ่าๆ


เอาละ ไม่มีใครห้าม ถ้าคุณจะ "เลือก"
จะ "เลือกมาก" "เลือกน้อย" ก็ตามแต่ศรัทธาคุณ
แต่เลือกมากเกินไป ก็ระวังคาน นะเออ
บางคนนี่ List สเปคชาย/หญิง ได้เป็นร้อยๆข้อ แต่ถามหน่อยเถอะ จะมีใครตรงตามสเปค 100% บ้าง ฮึ!

สุดท้าย พออายุมากเกินไป สเปคทั้งหมดที่ตั้งไว้ จะลดเหลือเพียงข้อเดียวทันที


สำหรับผู้หญิง
 
"แค่มันเป็นผู้ชายก็พอ Gu เอาหมด!!!"

สำหรับผู้ชาย
 
"กระเทย/เกย์ Gu ก็เอาแล้วฟะ" (เย้ย!!)


อันนี้ให้เก็บไปคิดกันเอาเองครับ แฮะๆ

อ่า... มีแถมเล็กน้อย สำหรับหัวข้อนี้

เส้นลายมือ "สาวช่างฝัน"

(ไม่รู้ใช้กับผู้ชายด้วยหรือเปล่า แต่น่าจะได้นะ =w=)
 


Credit : S Kawaii เดือนกุมภา (ชื่อนิตยสารนะ ไม่ได้ชมตัวเอง ="=)


ตามนั้นแหละครับ ถ้ามีเส้นนี้จะออกแนวเพ้อๆ ไม่ค่อยยึดติดโลกแห่งความเป็นจริงสักเท่าไหร่


... ผมมี 2 ข้างเลยงะ ... 

(ควบ 2 อีกแระ ตอนเส้น SM ก็มีทั้ง 2 ข้าง 2 อย่างด้วย ="=)


เจอตัวการที่ทำให้ผมโสดแล้วว้อย ="=
 
(โยนความผิดให้เส้นลายมือซะงั้น!!!)


==============================
 
[ 3 ]
 
โลกส่วนตัวสูงลิบลิ่ว


ถ้าคุณให้ความสำคัญกับโลกส่วนตัวของคุณมากจนเกินไป... ผมว่า ถ้าไม่โสด ก็ต้องเลิกกับแฟนแน่นอน

หลายคนมีความสุขกับงานอดิเรก และจดจ่ออยู่กับมันได้ทั้งวันทั้งคืน (หรือทั้งชีวิต?)

เช่น เกมส์ หนังสือ หนัง ดารา นักร้อง การ์ตูน บลาๆๆ

ถ้าจัดสรรเวลาได้ดี ก็คงไม่มีปัญหา คุณอาจออกไปพบปะเพื่อนฝูง สังคม มีแฟน แยกเวลาได้ โอเค ชีวิตรัก สดใส

แต่ถ้าหมกมุ่นกับมันมากเกินไป คุณก็จะไม่มีโอกาสได้สร้างความสัมพันธ์เลย หรือถึงคุณจะได้ออกไปโลกภายนอกบ้าง แต่ถ้าในหัวสมองของคุณยังคงหมกมุ่นอยู่กับงานอดิเรกเหล่านั้น ก็คงสร้างปฏิสัมพันธ์กับเพศตรงข้ามได้ยากนัก

หรือหากคุณมีแฟนขึ้นมา แล้วแฟนนัดคุณ ในวันที่คุณกะตามสโตรกดารานักร้องในดวงใจพอดี
หรือแฟนอยากให้คุณไปหา ขณะที่คุณกำลังอยู่ในงานการ์ตูน
หรือแฟนโทรมา ตอนคุณกำลังเล่นเกมส์อย่างใจจดจ่อ/ดูหนังอย่างเมามัน

ถ้าคุณเลือกแฟน โอเคคุณผ่าน
(เช่น รูมเมทผม นั่งดูหนังกันอยู่ดีๆ โทรศัพท์มา ก็ต้องออกไปรับสายแต่โดยดี =w=)
แต่ถ้าคุณเลือกงานอดิเรก... ระวัง รักร้าวฉานนะครับ =w=

ส่วนผม... จะรับโทรศัพท์แล้วด่า (เอ๊ย ไม่ใช่แล้ว!!)
ส่วนใหญ่เพื่อนโทรมาช่วงนั้นจะหงุดหงิดแล ท่าจะไม่เหมาะจะมีแฟนจริงๆ ="=

ฉะนั้นอย่าลืมแบ่งแยกโลกส่วนตัว กับ โลกแห่งความเป็นจริง
 
ในสัดส่วนพอเหมาะด้วยนะครับ~
 
 
==============================
[ 4 ]
 
ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง


บุคคลประเภทนี้ถ้าไม่ใช่เพราะนิสัยส่วนตัว(ขี้อาย) ก็อาจเป็นเพราะมีปมด้อยอะไรสักอย่าง
หน้าตาอาจดี แต่วิตกจริตว่าผมบาง หัวล้าน
หุ่นดีอยู่แล้วก็ดันคิดว่าตัวเองอ้วน
มีสิว ก็กลัวไม่กล้าคุยกับใคร บลาๆๆ

อาจเป็นเพราะสื่อโฆษณาสมัยนี้ก็ได้นะ ที่สร้างค่านิยมแบบเฟอร์เฟค จนมันฝังลึกในหัวซะแล้ว


หน้าต้องใส/ หุ่นต้องดี/ แก้มต้องชมพู/ ปากต้องมันวาว/ วงแขนต้องขาวจั๊วะ/ จมูกต้องโด่ง/ หน้าอกต้องตู๊ม (?)/ ไอ้นั่นต้องมีขนาดใหญ่ (เอ๊ย ผมหมายถึงดวงตานะครับ อย่าคิดลึ๊ก กร๊าก)


แล้วคนเราก็มักชอบเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น

เปรียบกับใครไม่เปรียบ ไปเปรียบกับพรีเซ็นเตอร์ นางแบบ ดารา นักร้อง
เปรียบที กำลังใจหดหาย พลอยรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ ไม่กล้า ขาดความมั่นใจไป บางรายอาจถึงขั้น "สิ้นหวังแล้ว!!!"

ขอแนะนำให้หยุดความคิดพวกนั้นซะ เพราะไม่มีใครเกิดมาเพอร์เฟค ต้องดีทุกอย่างหรอก (พรีเซนเตอร์/นางแบบ ในนิตยสาร ต้องผ่านการแต่งหน้า+แต่งภาพมาแล้วทั้งนั้นแล)
แล้วผมก็เชื่อว่า ความรัก มันเกิดจากหลายๆปัจจัย ไม่ใช่แค่รูปกายภายนอกเท่านั้น (คนหล่อ สวย นิสัยชาติชั่ว จะเอาไหมละคุณ?)

อ่า เขียนหัวข้อนี้แล้วคิดถึง "ซูนาโกะ" จาก "หนุ่มหล่อเฟี้ยวแปลงโฉมสาว" แฮะ ยังคงเป็นกำลังใจให้เธอต่อไป >w<

จะบอกว่าตอนประถม กับ มัธยม ผมเคยโดนด่าว่า "ขี้เหร่" ด้วยล่ะ เข้าใจความรู้สึกของ "ซูนาโกะ" เลยล่ะ =w=

==============================
 
 

[ 5 ]

 

บุคลิก+นิสัย+การแต่งตัวเหมือนเพศตรงข้ามเกินไป

 

เอิ่ม... คุ้นๆนะข้อนี้ (อย่ามองมาทางนี้เซ่ =[]=!!!)
อะแฮ่ม... สำหรับคนที่หลงเข้ามา แล้วไม่เข้าใจมุกของผม ก็ขอเฉลยนะครับ
ว่า "ผมเป็นผู้หญิง" (เอ๊ะ รูปประโยคมันแปลกๆยังไงชอบกล...="=)
แต่ก็เป็นแบบนี้ละครับ ฮา... ไม่ได้เป็นทอม ไม่ได้เป็นเลส แต่นี่คือตัวผม

เสื้อยืด(บางวันไม่ได้รีด) เกงยีนส์(ดอง...) รองเท้าผ้าใบ/ สะพายเป้/ ปั่นจักรยานหน้าสู้แดดไปเรียน/ กินข้าวเร็วกว่าชาวบ้าน/ เสียงโคตรแมน/ มีหนวด (="=)/ ไม่สุภาพอ่อนหวาน/ พูดไม่เพราะ/ แทนตัวเองว่า "ผม" ใน Internet/ ไม่ชอบทำอะไรชักช้า/ เดินเหมือนไล่ควาย/ คุยอะไรที่ผู้หญิงปกติมักไม่คุยกัน/ เข้ากับผู้หญิงบางจำพวกไม่ค่อยได้/ เสือกเป็นโอตาคุอีกตะหาก บลา บลา บลา

(ไอ้ที่พิมพ์มานี่ พอจะทำให้โสดตลอดชีวิตได้เลยนะนั่น ="=)

เนื้อหาก็ตามชื่อหัวข้อนั่นแหละครับ

บางครั้งเขาไม่รู้หรอกนะ ว่าคุณเป็นผู้หญิง/ ผู้ชายจริงๆ มีแต่จะคิดว่าเป็นเพศที่ 3 ,4 , ... (เว้นแต่จะสนิทกันจริงๆน่ะนะ)

แล้วใครจะกล้าเข้ามาจีบละครับ =w=??

ผู้ชายเองก็เหมือนกันนะ
แต่งหญิงบ่อยๆ
แต่งหน้า ทำท่าสำอางเกินไป
เสื้อสีหวานหยด
ใส่รองเท้ามีปีก (เพื่อนผมเอง ="=)
หรือล้อเล่นเสมือนตัวเองเป็นเพศที่ 3 จริงๆ (เช่น เรียกเพื่อนเพศเดียวกันว่าที่รัก ทำเสียงสูงๆไรงี้)
 
เดี๋ยวผู้หญิงเขาก็คิดว่าเป็น เกย์/กระเทย จริงๆหรอก

ฉะนั้นถ้าอยากสละโสด ก็ปรับปรุงตัวซะนะครับ

เดี๋ยวจะหาว่าอาตี๋ไม่เตือน =w= (กร๊าก ไม่ดูตัวเองเลย OTL)


==============================

[ 6 ]
 
มีความสุขกับการอยู่คนเดียว


พวกนี้เป็นพวกที่ไม่ต้องการให้ใครมาแย่งออกซิเจนใกล้ตัว
พวกนี้จะรักอิสระ เกลียดการผูกมัด จะเดิน จะเหิน ไปไหนก็ได้ ตามใจคิด
พวกนี้ไม่ขี้เหงา สามารถอยู่คนเดียวได้
พวกนี้สามารถทำสิ่งต่างๆได้ด้วยตัวเอง สามารถดูแลตัวเองได้
พวกนี้เห็นว่า การอยู่คนเดียวมันช่างสบาย สะดวก บลา บลา

แต่ก็ไม่แน่หรอก สักวัน คนเหล่านี้อาจเปลี่ยนแปลงความคิด แล้วสละโสดก็เป็นได้
เพราะความรักมันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยนี่เนอะ =w=

(ไม่ค่อยมีแก่นสารเลยหัวข้อนี้ พอดีแถไม่ออกอ่า แฮะๆ)

 

==============================

[ 7 ]
 
ดวงชะตา(พาเศร้า) 


ใคร Anti เรื่องนี้ แนะให้ข้ามไป
ส่วนตัวผมเชื่อนะ เพราะพ่อผมเป็นหมอดู และครอบครัวผมก็เข้าไปพัวพันในเรื่องแปลกๆหลายอย่าง
เลยถือคติ "ไม่เชื่อ อย่าลบหลู่"

กรณีดวงไร้คู่
บางคนเกิดมาเพื่อเป็นโสดจริงๆ โสดตลอดชีวิตเลยล่ะครับ ผลมันก็มาจากดวงชะตานั่นแล
ส่วนจะมีวิธีแก้เคล็ดหรือเปล่า อันนี้คงต้องแล้วแต่ดวงแต่ละคนครับผม บอกไม่ได้อ่า ="=

บางกรณีคู่มาช้า
ก็ตามนั้นแล ตอนเด็กๆเห็นคนอื่นมีแล้วไม่มี ก็อย่าได้น้อยใจไป บางครั้งเนื้อคู่ตามดวงของคุณอาจยังไม่เกิด (เย้ย!) อาจอยู่ไกล ไม่มีโอกาสได้พบเจอ ปิ๊งปั๊งกัน อะไรแบบนี้ คุณอาจไปพบเจอคู่ในระหว่างเดินทาง หรือ ย้ายบ้านก็ได้ =w=

อันนี้ดูดวงจากเส้นลายมือครับ

ดวงรักไม่รุ่ง ="=
 
 
ไม่มีแฮะ เย้ เย้ (แต่ก็โสดอยู่ดี กร๊าก)



แล้วก็นอกเรื่องนิดครับ
พ่อเคยบอกว่า บางคน ดวงชะตาไม่เต็ม ต้องพึ่งพาเพศตรงข้ามจึงจะทำให้ชีวิตประสบความสำเร็จได้ (คือต้องหาคู่มาทำให้ดวงเต็มนั่นเอง)

พอผมถามถึงตัวผม...
พ่อก็บอกว่า


อ๋อ เรานะดวงเต็มอยู่แล้ว มีทั้งความเป็นหญิงและชายอยู่ในตัว...

... ฮ่วย!! นี่พ่อพูดจริง หรือล้อเล่นเนี่ย =[]= ...

(ความจริงเคยมีเจ้าเข้าทรงบอกเหมือนกัน ว่าผมมีทั้งเทพหญิง และเทพชายคุ้มครองอยู่ เอิ่ม... แปลกดีแฮะ =o=)


==============================
 
[ 8 ]
 
มัวแต่ "ซึน" อยู่นั่น


ตั้งชื่อหัวข้อซะโอตาคุเลยตู
"ซึน" นะครับ ไม่ใช่ "ซึม"
สำหรับคนที่ไม่เข้าใจ ผมจะพยายามอธิบายนะครับ
ซึน นี่อารมณ์ประมาณ พวกปากไม่ตรงกับใจครับ (ถ้าให้ยกตัวอย่างก็ กิโรโระจากการ์ตูนเรื่อง กบเคโรโระน่ะครับ)
คือในใจเนี่ย รักมาก แต่ปกปิดไว้ แล้วแสดงออกมาในทางตรงกันข้ามแทน

อย่าง น.ส.C  รักนาย D มาก แต่ไม่แสดงออก และเวลาอยู่ต่อหน้านาย D มักเย็นชาใส่ ไม่ก็ชวนทะเลาะ (แต่ในใจรักมากๆ แอบเก็บไปเขิน หน้าแดง ไรงี้)

(ถ้าอธิบายไม่ครบถ้วนอย่างไร ขออภัยผู้รู้ ล่วงหน้านะครับ)


ผมเคยอ่านฟอร์เวิร์ดเมล์ฉบับหนึ่ง (หลายปีแล้วไม่ได้เซฟ ="=)
ชายหญิงคู่หนึ่งต่างคนต่างรักกัน โดยที่แต่ละฝ่ายไม่รู้เลย พอเรียนจบ ต่างคนก็ต่างแต่งงาน(กับคนอื่น)ไป (ทำไมดราม่างี้!!)
แล้วพอฝ่ายหนึ่งตาย ในงานศพมีการนำไดอารี่ฝ่ายนั้นมาอ่านให้ฟัง ก็ปรากฎว่าเขาเขียนความรู้สึกที่มีต่ออีกฝ่ายไว้มากมาย แต่เขาไม่กล้าแสดงออกมาเลย

อีกฝ่ายก็น้ำตาท่วมสิครับ เพราะตัวเองก็รู้สึกเช่นนั้นเหมือนกัน


เห็นไหมล่า ข้อเสียของการ มัวแต่ "ซึน" อยู่นั่น
ฉะนั้น รักใครชอบใคร ก็แสดงออกให้เขารู้ซะนะ ก่อนจะสายเกินไป ^o^

==============================

[ 9 ]
 
ไม่กล้าเสี่ยง


เคยคิดนะ ว่าการจะเลือกใครสักคนมาเคียงข้างเนี่ย มันเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงอย่างหนึ่ง
เป็นแฟนไม่เท่าไหร่... แต่งงานนี่สิ ถ้าเลือกคู่ผิดที คิดจนตัวตายเลยนะนั่น!!

ฉะนั้นก็มีหลายคนที่กล้าๆกลัวๆ ไม่กล้าเลือกคู่ มีคนเข้ามาก็ไม่กล้า เพราะกลัว
อาจจะเพราะได้ยินประสบการณ์ดราม่าๆจากผู้อื่น คนใกล้ตัว หรืออ่านพวกบทความต่างๆมากเกินไป จนไม่กล้ามีแฟน มีคู่

อันนี้ก็แล้วแต่คุณละครับ

เพราะ การจะทำการค้า ไม่กล้าเสี่ยง ก็ไม่ได้รายได้

ดังนั้น ถ้าอยากมีแฟน ไม่กล้าเสี่ยง มันก็คู่ควรที่จะโสดต่อไป =w=

พยายามเข้านะครับ >w

==============================

[ 10 ]
 
ออกจากโลก 2 D แล้วหรือยังเอ่ย?
 


D ในที่นี้คือ Dimension ที่แปลว่า มิติ
2D ก็คือ 2 มิติ นั่นเอง
บางคนอาจงงหน่อย เพราะมันเป็นคำที่ใช้กันไม่แพร่หลายนัก และส่วนใหญ่จะใช้ในวงการการ์ตูน


2D ที่ผมต้องการสื่อคือ ตัวการ์ตูนนั่นเอง
คนธรรมดาอาจสงสัยว่า ทำไมหรือ ตัวการ์ตูนมันทำไม ก็แค่ภาพที่วาดขึ้นมา ใช้เทคนิคให้ขยับได้ในจอแก้ว มีเสียงพากษ์ ก็เท่านั้น

แต่สำหรับบางคน มันไม่ใช่แค่นั้นไงครับ

บางคนหลงรัก ตัวละคร 2D นี่สิ!!!

อย่างคนปกติเนี่ย ตอนเด็กๆ ต้องคลั่งอะไร ดารานักร้อง ใช่มั้ย เจอาร์วอย โดม ไจแอนท์ เจมส์เรืองศักดิ์ บลาๆๆ (ประจานอายุมากๆ)

แต่ผม...
คุราม่า จาก คนเก่งทะลุโลกงี้
หน้ากากทักสิโด้ จาก เซเลอร์มูนงี้

="=

(แต่ดีที่ไม่สุดโต่งเกินไปเพราะช่วงนั้นชอบจั่นเจา/หงอคง/จูเรนเจอร์ด้วย อย่างน้อยก็ไม่ใช่ 2D ละฟะ!)


ก็นั่นแหละ ถ้ายังไม่ออกจากโลก 2D ก็ยังคงชอบ/หลงตัวการ์ตูนต่อไป
ไม่สนใจมนุษย์ตัวเป็นๆ จับต้องได้ในโลกแห่งความเป็นจริง


ก็ย่อมต้องโสดต่อไป ชะเอิงเอิงเอย ~

______________________________________________________________________ 

 
ก็เนี่ยแหละค่ะ =w=

คิดว่ายังไงกันมั่งคะ? ถึงเราจะมีแฟนแล้ว แต่บางทีก็แอบรู้สึกเหมือนข้อ6ด้วยแหละค่ะ 555

ปล.อ่านจบกัยมั้ยเอ่ย?


l3utterfly

l3utterfly

FULL PROFILE