เรื่องสิวที่ไม่สิว ทำความรู้จักเรื่องสิวอย่างเจาะลึก ฉบับหมอผิวหนัง 101 | Jeban x SkinX

by

DaisyOfficial

ปัญหาสิวมีกี่แบบ?

สิวมี 2 แบบ คือ สิวไม่อักเสบ และสิวอักเสบ

  • สิวไม่อักเสบ คือสิวอุดตันที่แบ่งเป็นสองกลุ่มย่อยๆ ได้แก่ สิวหัวปิด และสิวหัวเปิด
    • สิวหัวปิดจะมีผิวหนังมาปกคลุมอยู่ เป็นสิวที่ต้องใช้ยาละลายสิวแล้วค่อยกดออก
    • สิวหัวเปิดเป็นสิวที่สิวมีการสัมผัสกับอากาศ เกิดออกซิไดซ์เป็นสีเข้มๆ ดำๆ คล้ำๆ ซึ่งสามารถรักษาได้ง่ายกว่าสิวหัวปิด
  • สิวอักเสบ แบ่งง่ายๆ เป็นสิวตุ่มแดง สิวตุ่มหนอง หรือสิวหัวช้าง เมื่อเป็นแล้วอาจเกิดรอย หรือหลุมสิวบนผิวหน้าได้

ผิวเป็นสิวมีหลายแบบ ไม่ว่าจะสภาพผิวแบบไหน ทั้งผิวแห้ง ผิวผสม ผิวมัน หรือผิวแพ้ง่ายก็เป็นสิวได้ และผิวแต่ละประเภทก็เป็นสิวได้ทุกแบบ คือเป็นได้ทั้งสิวอุดตัน สิวอักเสบ หรือเป็นหลุมสิว ถ้าเราประเมินได้เบื้องต้น ก็จะสามารถเลือกใช้สกินแคร์ ยาทาได้ถูกต้อง และเหมาะกับผิว

สาเหตุของการเกิดสิวแต่ละประเภท เกิดได้จากอะไรบ้าง?

  • การผลัดเซลล์ผิวที่ไม่เป็นไปตามธรรมชาติทำให้ง่ายต่อการอุดตัน
  • ความมันบนใบหน้าที่มากเกินไป
  • แบคทีเรียบนใบหน้า
  • การอักเสบ

ผิวเป็นสิวเกิดได้ทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็นผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม หรือผิวแพ้ง่าย แต่ส่วนใหญ่แล้วคนที่เป็นสิวมักจะมีผิวหน้าที่ค่อนข้างมันง่าย ควบรวมกับปัจจัยภายนอกอย่างการบีบ แคะ แกะ เกา ก็จะกระตุ้นทำให้สิวเกิดการอักเสบได้มากขึ้นอีกด้วย

วิธีรักษาสิวแต่ประเภท

ต้องสังเกตก่อนว่า สิวที่เป็นคือชนิดไหน

  • ผิวสิวปกติ สามารถใช้ยาทาสิว และดูแลเบื้องต้นด้วยตนเองได้
  • ผิวที่เป็นสิวมากกว่าปกติ หรือชนิดสิวรุนแรง เช่น สิวสเตียรอยด์ การรักษาก็จะแตกต่างกัน เบื้องต้นถ้าเป็นสิวอุดตัน การรักษาคือใช้พวกกลุ่มยาละลายหัวสิว เพื่อเปิดหัวสิวออก แต่ถ้าเป็นพวกกลุ่มที่เริ่มมีการอักเสบขึ้นมา ต้องใช้ยาทาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ยาทาลดการอักเสบเข้ามาร่วมด้วย และสุดท้าย ถ้าเป็นเยอะมากจนรู้สึกว่าแค่ยาทาเอาไม่อยู่ ก็ต้องพิจารณาเพิ่มยากินร่วมด้วย

สิวประเภทไหนที่ดูแลรักษาเองได้

สิวอุดตันธรรมดา หรือสิวอักเสบ เล็กๆ น้อยๆ สามารถใช้กลุ่มยาละลายสิวอุดตันได้ จริงๆ แล้วสิวอุดตันอาจเกิดจากหลายปัจจัยที่ดูแลได้เอง เช่น

  • เรื่องของอาหารการกินที่ต้องระวัง โดยเฉพาะอาหารพวกตระกูลที่มีค่าดัชนีน้ำตาลสูง (High glycemic index) เช่น ขนมหวาน น้ำหวาน ช็อกโกแลต พวกตระกูล Dairy products เช่น นม เนย ชีส ที่มีนมเป็นส่วนประกอบ เพราะอาจกระตุ้นให้เกิดสิวได้ง่ายขึ้น
  • การอดหลับอดนอน พักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด
  • อิทธิพลจากฮอร์โมนช่วงมีประจำเดือน

วิธีการดูแลรักษาสิวเบื้องต้นด้วยตัวเอง ควรเลือกใช้สกินแคร์ยังไงดี?

ผิวเป็นสิวควรเลือกสกินแคร์ที่มีส่วนผสม หรือสารสำคัญ เช่น

  • Niacinamide หรือวิตามินบี 3 ส่วนใหญ่นิยมผสมในสกินแคร์ประเภทเซรั่ม มอยส์เจอร์ไรเซอร์ และโทนเนอร์ มีคุณสมบัติที่ค่อนข้างหลากหลาย เช่น ช่วยลดการระคายเคือง ควบคุมความมันของผิว
  • Zinc, Green tea และ Tea Tree Oil ส่วนผสมกลุ่มนี้มีคุณสมบัติช่วยลดการเกิดสิวอักเสบ ช่วยคุมความมัน และใช้ในการรักษาสิวได้
  • Centella Asiatica (Cica) หรือที่รู้จักในชื่อใบบัวบก เป็นส่วนผสมที่คนเป็นสิวสามารถเพิ่มไว้ในสกินแคร์รูทีน และใช้ควบคู่ไปกับยาทาสิวได้

อีกหนึ่งเรื่องสำคัญคือ ผิวเป็นสิวไม่ควรล้างหน้าบ่อยเกินไป เพราะการล้างหน้าบ่อยๆ จะทำให้สภาพให้ผิวมันง่ายมากขึ้นกว่าเดิม และการล้างความมันออกไปนั้นจะทำให้ผิวหน้าเสียสมดุล และผลิตน้ำมันออกมามากยิ่งขึ้น ดังนั้นการล้างหน้าใน 1 วัน ควรล้างหน้าอย่างมากที่สุดคือ 2 ครั้ง หรือถ้ารู้สึกว่าระหว่างวันผิวมันมากเกินไป อาจล้างด้วยน้ำเปล่าแทน

ปัญหาสิวแบบไหนที่ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนัง

  • คนไม่เคยใช้สกินแคร์เลย ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี หรือไม่มั่นใจที่จะลองใช้ยา สกินแคร์ด้วยตัวเอง แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผิวหนังก่อน
  • คนที่เป็นสิวระดับความรุนแรง มีสิวอักเสบค่อนข้างเยอะ ประมาณ 10 เม็ดขึ้นไป หรือเป็นสิวหัวช้าง ระบมผิว ส่งผลต่อการชีวิตใช้ชีวิตประจำวัน ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อเช็กประวัติ ตรวจร่างกายดูโดยรวม เพื่อการรักษาได้อย่างถูกต้องต่อไป

ทำไมสิวถึงชอบขึ้นบริเวณเดิมซ้ำๆ

สิวที่เกิดขึ้นในตำแหน่งเดิมๆ มักมีหัวสิวค้างอยู่ที่เดิม หรือกดออกไม่หมด ทำให้เกิดเป็นสิวบริเวณเดิมซ้ำๆ หรืออาจเกิดจากการฉีดสิวแล้วหัวสิวยังอยู่ สาเหตุเหล่านี้ทำให้เป็นสิวซ้ำๆ ที่เดิมได้ง่าย และอาจจะทำให้ผิวบริเวณนั้นเป็นแอ่ง เป็นหลุมสิว หากไม่ได้รับการแก้ไข

ถ้าผิวบริเวณนั้นมีการผลัดเซลล์ สร้างต่อมไขมันเพิ่มมากขึ้น หรือมีแบคทีเรียที่รอเกิดขึ้นมาเป็นสิวใหม่ เหมือนมีรอยโรคเดิมที่ทำให้เกิดเป็นสิวอักเสบขึ้นมาได้ วิธีการรักษาคือต้องพยายามป้องกันปัจจัยต่างๆ และใช้ยาทาละลายสิวอุดตัน เพื่อช่วยลดการอุดตัน ลดการอักเสบ โดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมในตระกูลเรตินอยด์ และกลุ่ม AHA, เรตินอยด์ หรือ BHA ที่ช่วยลดการสร้างต่อมน้ำมันบนผิวหน้า

สิวเห่อเกิดจากสาเหตุอะไร วิธีการดูแลรักษา

สิวเห่อ เป็นได้หลายแบบ ทั้งเกิดจากการใช้ยาทารักษาสิว ยาละลายสิวต่างๆ กลุ่ม เรตินอยด์ หรือกลุ่ม AHA , BHA ถูกดันออกมา ในขณะที่อีกแบบนึงเรียกว่าเป็นสิวเห่อ ที่เริ่มต้นจากสิวอุดตัน ก่อนที่จะอักเสบออกมาเป็นสิวเม็ดเล็กๆ ปนกันได้ ขึ้นอยู่กับประวัติการใช้สกินแคร์ที่มีผลทำให้อุดตัน หรือใช้ยาละลายสิวอุดตันแล้วทำให้เป็นสิวเห่อได้

วิธีการดูแลรักษาเมื่อเกิดสิวเห่อ

วิธีรักษาก็คือหยุดใช้ยาหรือสกินแคร์ถ้าสิวเห่อมากเกินไป และให้เริ่มใช้ปริมาณน้อยๆก่อน

สิวบริเวณคางเกิดจากสาเหตุอะไร

สิวที่คางเกิดจากกลไกการอุดตันของผิวหนังที่ผลัดเซลล์ผิวได้ช้า รวมไปถึงปัจจัยเรื่องระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงช่วงก่อนมีประจำเดือน ที่ไปกระตุ้นต่อมไขมันให้ทำงานมากขึ้น และส่งผลให้เกิดสิวได้ง่าย โดยเฉพาะช่วงคอและกรอบหน้า ส่วนปัจจัยอื่นๆ คือเรื่องของแบคทีเรียบนใบหน้าที่เสียสมดุลจากการ ใส่หน้ากากอนามัยเป็นเวลานาน รวมถึงการอักเสบจากการ บีบ แกะ หรือเกา

วิธีการดูแลรักษาสิวที่เกิดบริเวณคาง

สิวที่เกิดบริเวณคางสามารถรักษาได้โดยใช้ยาทาในการรักษาสิวเหมือนใบหน้า ไม่ได้มีความแตกต่างอะไรเป็นพิเศษ ยกเว้นสิวที่ค่อนข้างรุนแรง เม็ดใหญ่ เป็นสิวหัวช้าง อาจจะต้องพิจารณาใช้ยากินในการรักษาร่วมด้วย

สิวบริเวณคอเกิดจากสาเหตุอะไร

กลไกการเกิดสิวที่คอคล้ายๆ กับการเกิดสิวทั่วไป ซึ่งข้อที่ต้องระวังเป็นพิเศษสำหรับการเกิดสิวที่คอ หรือสิวตามร่างกาย มีดังต่อไปนี้

  • การใช้ผลิตภัณฑ์บางประเภท เช่น แชมพู ครีมนวด ที่อาจไหลมากองรวมกันที่คอ ทำให้เกิดสิวอุดตัน สิวอักเสบขึ้นมา
  • การออกกำลังกายที่ทำให้เกิดเหงื่อไคล สิ่งสกปรกตามร่างกาย และหลังจากออกกำลังกายเสร็จต ไม่ได้อาบน้ำ ทำความสะอาดร่างกาย เพื่อล้างสิ่งสกปรกออกทันที จึงทำให้มีการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่เอื้ออำนวยต่อการเป็นสิวได้
  • ฮอร์โมนช่วงมีรอบเดือน ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เป็นสิวบริเวณคอได้เหมือนกัน

นอกจากนี้ ให้ลองสังเกตว่ามีปัจจัยหรือพฤติกรรมความเสี่ยงในการที่ทำให้เกิดสิวได้อย่างไรบ้าง แล้วค่อยจึงปรับพฤติกรรม

วิธีการดูแลรักษาสิวบริเวณคอ

ควรเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม นอกจากปรับพฤติกรรม อาจต้องทานยาร่วมด้วย

สิวฮอร์โมนเกิดจากสาเหตุอะไร

สิวฮอร์โมนเกิดจากการที่นาฬิกาชีวิตในร่างกายเรามีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ร่างกายมีฟังก์ชั่นได้ตามปกติ ประกอบกับพฤติกรรมในชีวิตประจำวันตั้งแต่การนอนหลับ อาหารที่กิน ความเครียด ซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งนั้น ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้ผิวเสียสมดุล กระตุ้นให้เกิดสิ่งอุดตัน สิวอักเสบได้ง่าย ทั้งยังกระตุ้นต่อมไขมันให้ทำงานเพิ่มมากขึ้น

วิธีการดูแลรักษาสิวฮอร์โมน

การรักษาอาจจะใช้ยาละลายสิวอุดตัน ยาทาฆ่าเชื้อเพื่อป้องกัน แต่เนื่องจากอิทธิพลของฮอร์โมนเป็นปัจจัยภายใน ถ้ามีปฏิกิริยาจากฮอร์โมนเยอะ ก็อาจจะต้องพิจารณาทานยาคุม เพื่อยับยั้งการทำงานของฮอร์โมนแอนโดรเจน และควรปรึกษาสูตินารีแพทย์ร่วมด้วย

  • ผิวเป็นสิวมีหลายแบบ ไม่ว่าจะสภาพผิวแบบไหน ทั้งผิวแห้ง ผิวผสม ผิวมัน หรือผิวแพ้ง่ายก็เป็นสิวได้
  • สิวที่สามารถดูแลได้ด้วยตัวเองคือสิวประเภทอุดตันธรรมดา หรือสิวอักเสบ เล็กๆ น้อยๆ สามารถใช้กลุ่มยาละลายสิวอุดตันได้ วิธีการดูแลรักษาสิวเบื้องต้นด้วยตัวเอง คือควรเลือกใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Niacinamide หรือวิตามินบี 3, Zinc, Green tea,Tea Tree Oil และ Centella Asiatica (Cica)
  • สิวที่เกิดขึ้นในตำแหน่งเดิมๆ เนื่องจากมักมีหัวสิวค้างอยู่ที่เดิม กดออกไม่หมด หรือฉีดสิวแล้วหัวสิวยังอยู่ ทำให้เกิดเป็นสิวบริเวณเดิมซ้ำๆ

มีเรื่องผิวกวนใจ ปรึกษาปัญหาด้านผิวหนัง ได้ทุกเรื่อง ได้ทุกที่

กับคุณหมอผู้เชี่ยวชาญ SkinX แอปพบแพทย์ผิวหนังออนไลน์

daisy-skinx.png

ขอบคุณข้อมูล :
นายแพทย์พนด ชินพิพัฒน์ แพทย์ผิวหนังจากโรงพยาบาลสมิติเวช ธนบุรี