ลองกันรึยัง คลีนซิ่งดีๆ อีกตัวจากวัตสัน

3 21
 
ไม่ได้รีวิวอะไรนานมากๆ เพราะกล้องไม่มี ตอนนี้มีแต่มือถือไก่กาแต่อยากรีวิวตัวนี้มากๆ ตอนแรกก็ว่าจะรอกล้องก่อน แต่อดไม่ได้จริง ถ้าใช้ไม่ดีจริงคงไม่พยายามจะนำเสนอขนาดนี้นะคะ วันนี้ว่างๆ นอนแปดโมงเช้า เพื่อนโทรมาปลุกตอนเที่ยงบอกว่าจะมาหาตอนสี่โมง แล้วทำไมมันไม่โทรตอนสามโมงครึ่งฟะ 
 ตอนนี้อีกแปดนาทีหกโมงมันยังไม่โผล่ ส่วนเราก็ยังไม่หลับตั้งแต่เที่ยง เป็นคนหลับยากอยู่แล้ว เอาเป็นว่ารีวิวเล่นเรื่อยเปื่อยแล้วกัน อารมณ์เซ็งๆ อยากระบายอ่ะเน้อ

aroma breeze CLEANING OIL calmful

ราคา 380 บาท
ปริมาณสุทธิ : 150 มิลลิลิตร ก็ไม่ได้เยอะมากค่ะ เท่าๆ กับคลีนซิ่งทั่วๆ ไป
ส่วนผสมที่สำคัญ : Mineral Oil, Ethylhexyl Palmitate, PEG-20 Glyceryl Triisostearate, Cyclopentasiloxane, Water,Sorbitan Sesquiisosteaarate, Fragrance,Butylene Glycol, Caprylyl  Glycol, Chamomilla Recutita (Marticaria) Flower Extract, Vaccinium Myrtillus Leaf Extract.

ปราศจากสารกันเสีย ผ่านการทดสอบการแพ้และการระคายเคือง 

คำเปรย : ขจัดคราบเครื่องสำอาง รวมทั้งมาสคาร่ากันน้ำและสิ่งสกปรกบนผิวหน้าให้หลุดออกอย่างง่ายดายในขั้นตอนเดียว โดยไม่ต้องใช้สำลีเช็ดถู ล้างออกได้ด้วยน้ำ ไม่เหนะหนะผิวหลังการใช้ พร้อมบำรุงผิวให้เนียนนุ่มชุ่มชื่นด้วยสารสกัดจากดอกคาโมไมล์ ทั้งยังมีกลิ่นหอมอ่่อนๆ จากสมุนไพรธรรมชาติที่คิดค้นด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านอโรมาชาวฝรั่งเศษ ชื่อมิเชล กูดส์ (ไม่รู้จักหรอก (>.<) ให้ความรู้สึกผ่อนคลายขณะทำความสะอาดผิว

ทำไมตัดสินใจเลือกซื้อตัวนี้ : พอดีได้อ่านรีวิวจากพี่คนนึงในจีบันเนี่ยล่ะค่ะ เค้าบอกว่าเป็นของชิเชโด้ ขนาดมาสคาร่ามาจอก็เอาออกได้สบายๆ พอดีว่าคลีนซิ่งตัวเก่า บีโอเรน้ำนมตัวที่เป็นโลชั่นหมดพอดีก็เลยว่าอยากลองตัวนี้ดู ไปถามพนักงานเค้าก็ไม่รู้จัก เค้าบอกว่ามีแต่ของใหม่ของแมนด้อม เราก็เลยไปดู สรุปว่าใช่ตัวนี้จริงๆ ด้วย เป็นของแมนด้อมค่ะ จากญี่ปุ่น ถ้าจำไม่ผิดน่าจะมีสามกลิ่นค่ะ ตอนแรกลังเลว่า เอ๊ะ จะเอาคลีนซิ่งเอ็กเพรสที่แสนจะโ่ด่งดังดีมั๊ย แต่เราก็ไม่อยากใช้สำลีเช็ด (ต้องใช้สำลีเพิ่ม+ขี้เกียจ) ก็เลยเป็นว่าตัดใจจากเอ็กเพรสสุดป๊อปฯ มาได้ แต่บีโอเรก็มีตัวที่เป็นออยเหมือนกันนี่นา รึว่าจะเอาบีโอเรดีนะ คิดไปคิดมาราคามันก็พอกันเลย ตัวนี้มันดูเหมือนเยอะดี ก็เลยเอาตัวนี้มาค่ะ ไม่เสียแรงเพราะเพิ่งอ่านรีวิวของบีโอเรเค้าบอกว่าเข้าตาแล้วแสบด้วย แต่ตัวนี้สบายค่ะ แค่มัวๆ เพราะมันเป็นน้ำมัน 

ผลการใช้ (มากกว่า 1 เดือน) : แต่ก่อนใช้บีโอเรน้ำนมก็คิดว่าสะอาด (คิดไปเอง) แต่ก็ยังเป็นสิวบ้าง แต่พอใช้ตัวนี้แล้วปรากฎว่าแทบไม่เป็นสิวอุดตันจากการล้างหน้าไม่สะอาดเลยค่ะ จะเป็นก็เฉพาะเวลาที่ขี้เกียจล้างหน้าแล้วนอนทั้งเมคอัพเลย อันนี้ไม่แนะนำนะคะ ท้าพิสูจน์ค่ะ สรุปตอนนี้คือปลื้มมากๆ ไม่คิดว่าจะเปลี่ยนเลย เพราะเป็นได้ทั้งอายเมคอัพรีมูฟเว่อร์ ทั้งคลีนเซอร์ เวลาล้างออกหน้าก็ไม่แห้งตึงค่ะ นุ่มๆ อย่างที่เค้าเปรยไว้จริงๆ 

วิธีการใช้ (สามารถนำไปใช้กับคลีนซิ่งออยที่เปลี่ยนเป็นน้ำนมอื่นๆได้)  : (ขอโทษที่ไม่มีภาพตอนล้างนะคะ อยู่คนเดียวมันถ่ายรูปยากมากๆ )

1. ปั๊มออกมาค่ะ เราจะเอามาเป็นอายเมคอัพรีมูฟเวอร์กัน ปั๊มออกมานิดเดียวค่ะ แล้วเอานิ้วจุ่มมาทาๆ ให้ทั่วเปลือกตา ทั้งบนและล่างนะคะ เราใช้อายลายเนอร์แบบพู่กันของ in2it ที่ล้างยากมากๆ ตัวนี้เอาอยู่ได้สบายๆ เลย คนที่ทำอินเนอร์ก็ลืมตาขึ้นแล้วใช้นิ้วถูเบาๆ บริเวณช่องว่างระหว่างขนตาได้นะคะ จะได้สะอาดๆ ไม่ต้องห่วงตัวนี้เราใช้ใกล้หมดแล้ว ไม่แสบตาค่ะ (บางคนอาจระคายเคืองเล็กน้อย แต่เราไม่นะ ด้านมาก 5555)  ทาถูๆ เบานะคะ พอให้มันละลายหมดก็เอาสำลีปาดเบาๆ เอาพวกสโมกกี้อายดำๆ ออกค่ะ เรื่องของเรื่องก็คือ จขกท.ชอบแต่งสโมกกี้อาย ถ้าไม่ปาดออกเวลาถูไปทั่วทั้งหน้าแล้วเงยขึ้นมองกระจกอาจจะหลอนตัวเองได้ เพราะมันจะดำทั้งหน้านั่นเอง สำหรับคนที่แต่งตาเบาๆ ไม่ต้องใช้สำลีนะคะ ให้วนไปทั่วหน้าได้เลยค่ะ นวดวนจนคิดว่าสะอาดดีแล้ว เอาให้ทั่วนะคะ ไม่ต้องรีบร้อนค่ะ คนที่แต่งตาบางๆ ข้ามไปขั้นตอนที่สามได้เลยนะคะ 

2. ลงออยให้ทั่วหน้าค่ะ รวมทั้งตาไปด้วยเลยเอาให้ทั่วทั้งตา หน้า ปาก ทุกที่ที่คิดว่าเราได้ทำการโบกเมคอัพเอาไว้ เอาให้แน่ใจว่าเราได้ทำการนวดจนเครื่องสำอางละลายหมดแล้วนะคะ ไม่ต้องรีบร้อนค่ะ ฟังเพลงเบาๆ ดูผิวตัวเองไป นวดไปเพลินๆ แต่ไม่ต้องนานมากก็ได้ เดี๋ยวผิวจะระคายเคือง รูขุมขนจะใหญ่กันไปหมด

3. การเปลี่ยนออยให้เป็นน้ำนม : แต่ก่อน จขกท. คิดว่านวดๆ แล้วเอาน้ำล้างออกได้เลยเพราะมันเป็นน้ำนม บวกกับแต่ก่อนไม่ได้ใช้สำลีเช็ดตาที่ดำๆ ออกก่อนด้วย คือทาทีเดี่ยวทั้งหน้าแล้วล้างออกด้วยน้ำเลย ก็จะมีเศษพวกมาสคาร่ากับอายลายเนอร์หลงเหลือติดอยู่ที่ตาด้วย ทำให้คิดว่าทำไม ไม่ค่อยสะอาดหว่า
วิธีที่ถูกต้อง : ล้างมือค่ะ มือที่นวดออยเมื่อกี้อ่ะค่ะ ล้างออกแล้วก็สะบัดน้ำออกจากมือให้เหลือน้ำแค่ติดมือ เอามือเปี่ยกน้ำนิดของเรามาปรบๆ ลงบนหน้าค่ะ แล้วก็นวดต่อ ตอนนี้น้ำมันจะกลายเป็นน้ำนมข้นๆ ตอนนี้แหละค่ะมันจะไปเกาะเอาเศษเครื่องสำอางที่เราล้างตะกี้ออกมา เราทำแบบนี้แล้วไม่เหลือเศษอะไรหลงเหลือบนตาเลย แต่ก่อนชอบตกค้างตรงช่องว่างระหว่างขนตาเพราะไม่ได้ใช้สำลีเช็ดตาก่อน(เราแต่งตา้เข้มค่ะ)+ไม่ได้นวดน้ำนมก่อน มันเหมือนกับว่าเนื้อน้ำนมข้นๆ จะไปดูดให้พวกเครื่องสำอางที่เราแต่งและล้างด้วยออยแล้ว  ให้หลุดติดมากับน้ำนมเหนียวๆ อ่ะค่ะ ที่จริงถ้าเราล้างหน้าเลยมันก็จะเป็นน้ำนมธรรมดาเนียแหละ แต่จะไม่สะอาดเหมือนทำแบบนี้

4. ล้างด้วยน้ำเปล่า ตอนนี้ออยที่เปลี่ยนเป็นสีขาวน้ำนมข้นๆ ก็จะละลายเป็นน้ำนมจริงๆ แต่ก่อนเราไม่ทำขั้นตอนที่ 3 นะ ทำขั้นตอนนี้เลย เห็นได้ชัดว่ามันไม่สะอาดพอ ล้างออกให้เกลี้ยงนะคะ หลายๆ น้ำก็ได้ เพราะที่จะไม่ให้มีอะไรตกค้าง จากนั้นก็ตามด้วยโฟมล้างหน้าของเราตามปกติค่ะ 

คะแนน 5/5 ค่ะ 

ขนาดตอนนี้บู๊ทลดราคา อายรีมูฟเวอร์ของโบทานิก เรายังตัดใจไม่ซื้อเลย เพราะมันใช้แทนกันได้จริงๆ เป็นอีกผลิตภัณฑ์ดีๆ ที่อยากแนะนำค่ะ ถ้าใครเบื่อสำลีเช็ด+แสบตา ตัวนี้ค่ะ แนะนำเลย ช่วยลดขั้นตอนการล้างหน้าได้เยอะเหมือนกัน 

ใครที่ยังหาคลีนซิ่งในดวงใจไม่เจอก็ลองๆ ดูนะค ราคาไม่แพงมาก คุณภาพดีพอสมควร เผื่อจะถูกใจก็ได้ค่ะ 

 
ปล. ลางเนื้อชอบลางยานะคะ ผลการใช้เป็นผลที่ได้รับส่วนบุคคล อาจแตกต่างและคลาดเคลื่อนได้ในแต่ละคนค่ะ 
 


fangbif

fangbif

FULL PROFILE