ลองของกับ Clinique Derma White Clinical Brightening Essence

0 17

หน้าร้อนนี้กระแสหน้าใส ไบรท์ ด้วยไวท์เทนนิ่งก็กลับมาอินเทรนด์อีกครั้ง เช่นทุกๆ ปี ที่เหล่าผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ด่างๆ ก็ส่งผลงานประกวดกันให้ผู้บริโภคอย่างเราๆ งุนงง ว่าจะเลือกใช้อะไรดีเพราะช่างเพียบพาบเต็มไปหมด อิชั้นเองก็ขออินเทรนด์ เกาะตามกระแสไบรท์กับเค้าด้วย ครั้งนี้จะมาทำรีวิว Derma White Clinical Brightening Essence โปรดักซ์รุ่นล่าสุดจากแบรนด์ Clinique ค่ะ

ก่อนจะเข้าสู่การรีวิวลองของเช่นเคย ก็คงจะนำข้อมูลจากทางแบรนด์ทีเคลมสรรพคุณต่างๆ มาแจ้งกันก่อนจะมาดูผลรีวิวว่า คุณทำได้หรือไม่ 5555

ชื่อ ผลิตภัณฑ์ : Clinique Derma White Clinical Brightening Essence
สรรพคุณ จากทางแบรนด์ : ล่าสุดของความกระจ่างใส หมดจด เนียนเรียบ สว่างสวย เอสเซ้นส์ล่าสุด ช่วยลดจุดด่างดำและให้ผลลัพธ์ของสีผิวที่ดูสม่ำเสมอขึ้น ด้วยเทคโนโลยีล่าสุด CL-302 complex ผสานพลังกับสารอาหารผิวนานาชนิด อาทิ ขมิ้น, สารสกัดจากเห็ด Kawaratake และกรดซาลิไซลิค ฯลฯ ผ่านการทดสอบและรับรองจากห้องทดลองคลีนิกข์ว่าให้ผลลัพธ์รวดเร็วและอ่อนโยน ต่อผิว ซึ่งถูกคิดค้นขึ้นเป็นพิเศษเพื่อสภาพผิวชาวเอเชียโดยเฉพาะ

การค้นพบครั้งสำคัญ: CL-302 complex

ผลการยืนยันจากห้องทดลองพบว่า ภายในเวลาเพียง 4 สัปดาห์* CL-302 complex และ Vitamin C ส่วนผสมหลักในผลิตภัณฑ์สามารถลดเลือนร่องรอยความเสียหายที่ผ่านมาของผิวได้ ไม่ว่าจะเป็นรอยดำจากสิว สีผิวไม่สม่ำเสมอจากอายุที่เพิ่มขึ้น หรือแม้แต่จุดด่างดำที่เกิดจากการถูกแสงแดดทำร้าย
CL-302 complex คือสารสกัดจาก Dianella Ensifolia พืชหายากที่มีต้นกำเนิดในทวีปเอเชียตุวันออกเฉียงใต้ และ Antioxidants ประสิทธิภาพสูงช่วยรับมือกับผิวที่ไม่เนียนเรียบและสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ สูตรอ่อนโยนจนสามารถใช้ได้วันละ 2 ครั้ง

และมีส่วนผสมจากสารต่างๆ เหล่านี้เพิ่มเติมค่ะ

• Ascorbyl Glucoside สารสกัดจากวิตามินซีที่มีประสิทธิภาพในการปรับสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ พร้อมทั้งช่วยรับมือกับการเกิดขึ้นใหม่ในอนาคต
• Trametes Vericolor Extract สารสกัดจากเห็ดที่มีคุณสมบัติพิเศษ (คาวาราทาเกะ) ซึ่งช่วยให้จุดด่างดำดูจางลง และสลายออกไปทางพื้นผิว เผยให้เห็นผิวที่ดูสว่างกระจ่างใส สีผิวแลดูเนียนเรียบและดูสม่ำเสมอขึ้น
• Acetyl Glucosamine และ Salicylic Acid ช่วยขจัดเซลล์ผิวชั้นนอกที่เสื่อมสภาพ พร้อมจุดด่างดำให้หลุดออกไป เพื่อให้ผิวได้เผยความกระจ่างใส
• Glycyrrhetinic Acid ทำให้ผิวรู้สึกสดชื่น
• Curcuma Longa Turmeric Root Extract สาร Anti Oxidant และ Anti Irritant ที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้ผิวสามารถรับมือกับมลภาวะแวดล้อมที่อาจจะก่อให้เกิดความ หมองคล้ำแก่ผิวได้
• Cholesterol ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและพบได้ในผิว ช่วยเสริมให้ผิวดูมีสุขภาพดี และเสริมปราการปกป้องความชุ่มชื่นของผิว ทำให้ผิวคงความชุ่มชื่นตามธรรมชาติไว้ได้มากขึ้น นอกจากนี้ผิวยังสามารถรับมือกับสิ่งเร้าต่าง ๆ ทางธรรมชาติได้อีกด้วย

ผ่าน การทดสอบการแพ้ ปราศจากน้ำหอม 100% ปราศจากน้ำมัน ไม่ก่อให้เกิดสิว ผ่านการทดสอบจากแพทย์ผิวหนัง

*จากการทดสอบในห้องปฏิบัติการของ เอสเต ลอเดอร์ อิงค์ นิวยอร์ สหรัฐอเมริกา กับอาสาสมัครหญิงชาวเอเชีย 21 ราย ในเดือน ตุลาคม 2552

---------------------------------------------------

เข้า สู่ช่วง ลองของ by Chadalaem

สภาพผิวของอิชั้น : ผิวผสมถึงมัน ขาดน้ำ (ผิวแห้งโดยเฉพาะช่วงการรักษาสิว แต่ในขณะที่ลองของนี้ หยุดการรักษาสิวแล้วจ้า) สีผิวไม่สม่ำเสมอค่ะ สีของหน้าผากเข้มกว่าช่วงขมับลงไปถึงคาง มีรอยแดง รอยดำจากสิวและรอยแผลเป็นจากสิว ผิวคล้ำง่ายเพราะแดดที่ศรีราชา-บางแสน แรงเหลือใจ จึงต้องหาตัวช่วย (ในช่วงที่ลองของ อิชั้นงดใช้ whitening, scrub ทุกชนิดเพื่อจะเฝ้าติดตามผลอย่างแท้จริงค่ะ)

การบำรุงผิว หน้า และกิจวัตรประจำวัน :
- ตื่นเช้า ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าสะอาด ซับหน้าหมาด เช็ดโทนเนอร์ให้ความชุ่มชื่น ลงอายเจล
- ระหว่างที่ผิวยังหมาดอยู่ รีบลง Clinique Derma White Clinical Brightening Essence กด 2 ปั๊ม วอล์มเนื้อเจลนิดหนึ่ง แล้วปาดทั่วหน้าเลย เน้นบริเวณหน้าผากหน่อย อิอิ
- ลงมอยส์เจอร์ไรเซอร์ให้ความชุ่มชื่นผิวหน้าต่อ รอให้เซ็ทตัว ลงกันแดด spf 50 รอให้เซ็ทตัวซับความมันออก เตรียมผิวด้วย foundation+แป้งฝุ่น/ bb cream+แป้งฝุ่น/ แป้งผสมรองพื้น (ตามแต่สะดวก รีบมาก รีบน้อย 55) ลง makeup เล็กน้อย เผ่นจากบ้าน
- ออกจากบ้านช่วง 7.30-8.30 น. แดดแจ๋ซะแล้ว แสบตา แดดแรงแต่ยังไม่ถึงขนาดแสบผิว แต่ก็ร้อนมากๆ
- ถึงออฟฟิต อยู่ในออฟฟิต ปะทะแสงนีออน อากาศแห้งจากเครื่องปรับอากาศ แสงจากจอคอมพิวเตอร์
- กลางวันออกจากออฟฟิตหาอะไรจกใส่ท้อง กางร่มกันยูวี วิ่งหลบแดด
- ระหว่างวัน อยู่ในออฟฟิต ปะทะแสงนีออน อากาศแห้งจากเครื่องปรับอากาศ แสงจากจอคอมพิวเตอร์
- ตกเย็นกลับบ้านแสงก็จะหมดแล้ว กลับบ้านก็นวดล้างทำความสะอาดเครื่องสำอาง เช็ดด้วยทิชชู ตามด้วยโฟมล้างหน้า ซับหน้าหมาด ตามด้วยโทนเนอร์ให้ความชุ่มชื่น ลงอายเจล
- ระหว่างที่ผิวยังหมาดอยู่ รีบลง Clinique Derma White Clinical Brightening Essence กด 2 ปั๊ม วอล์มเนื้อเจลเล็กน้อยให้พออุ่น เพื่อเนื้อเจลจะได้ซึมลงผิวได้ดีขึ้น แล้วทาทั่วหน้า
- ลงมอยส์เจอร์ไรเซอร์ให้ความชุ่มชื่นผิวหน้า ลงลิปบำรุง ไปนอนได้

เจ้า Clinique Derma White Clinical Brightening Essence ตัวนี้เป็นสูตรที่พัฒนาขึ้นจาก Derma White Essence ตัวเดิมของปีที่แล้ว ที่อิชั้นเองก็ได้ใช้มาก่อนด้วย พอเจ้าตัวใหม่ออกขายก็เป็นการดีเลยที่จะลองใช้และนำมารีวิวให้ได้อ่านกัน


ภาพแรกด้านบน คือเจ้าเอสเซ้นท์ที่นำมาลองของในรอบนี้
ล่างซ้าย ซูมๆ เนื้อผลิตภัณฑ์
ล่าง ขวา ซูมๆ เนื้อผลิตภัณฑ์สูตรปรับปรุงใหม่ กับ สูตรก่อนหน้า

กลิ่น สี เนื้อ ผลิตภัณฑ์ : ไม่มีกลิ่น สีขาวอมเหลืองอ่อนๆ ขุ่นนิดหน่อย เนื้อวาวใสแบบเจล ให้สัมผัสเบาบางเมื่อทาบนผิวซึมไว ใช้ปริมาณน้อยก็สามารถทาได้ทั่วทั้งใบหน้า ทาแล้วซึมลงผิวได้หมด ไม่รู้สึกว่ามีอะไรเคลือบผิว ให้ความนุ่ม ชุ่มชื่นแก่ผิวได้ดี ทาแล้วไม่มีความรู้สึก ยิบๆ ยุบๆ อะไร (เทียบกับสูตรก่อนหน้า จากรูปจะเห็นว่าสูตรเดิมเนื้อข้นกว่า สีขาวอมเหลืองออกจะขุ่น ถ้าส่องใกล้ๆ จะเห็นว่ามีความเหลือบในเนื้อเจลด้วย ซึมช้ากว่า แต่ให้ความนุ่มชุ่มชื่นผิวดีเช่นกัน)

บรรจุภัณฑ์ : เป็นขวดพลาสติกทรงกลมสูง ด้านนอกใส ด้านในสีขาว ให้อารมณ์ขวดแก้วในห้องปฎิบัติการณ์ได้ดี ส่วนบนของภาชนะเป็นหัวปั๊มสีเงิน ด้านในเป็นหลอดดูดเนื้อเจล ด้วยความเป็นภาชนะทึบแสง ทำให้การเก็บสารที่อาจจะทำปฎิกิริยารวมถึงการสลายตัวได้ค่อนข้างดี เป็นหัวปั๊มทำให้เนื้อเจลไม่สัมผัสกับอากาศ ไม่ต้องเอานิ้วหรือพายควัก ทำให้ไม่มีการปนเปื้อน (ยกเว้นเสียแต่ว่าจะเปิดฝาขวดซึ่งเป็นเกลียวออกนะคะ)

สำหรับการใช้เนื้อเจล เนื่องจากเป็นหัวปั๊มแต่ก็ไม่ใช่แบบปั๊มแบบสูญญากาศที่จะไล่เนื้อเซรั่มแบบ รีดหมดจนหยดสุดท้าย ทำให้เวลาที่ครีมใกล้จะหมด ก็ต้องคว่ำขวดกันนิดหนึ่ง แล้วเวลาใช้ก็เปิดฝาจก อาจจะทำให้ปนเปื้อนได้ง่าย และสารในส่วนผสมเสื่อมได้เจ้าค่ะ

ระยะเวลาที่เริ่มใช้ : 20 กุมภาพันธ์ 2553
ระยะเวลาสิ้นสุดการลองของ : 21 มีนาคม 2553 + ใช่ต่อเนื่องอีก 1 อาทิตย์ด้วย แต่เก็บผลมา 4 สัปดาห์ค่ะ

สรุปผล หลังลองของ :

หลังจากเพียรใช้เช้า – เย็น ไม่ได้ขาด ขั้นตอนการใช้คือ ลง Clinique Derma White Clinical Brightening Essence หลังขั้นตอนการทำความสะอาดผิว ก่อนการลงบำรุงผิว เก็บหลักฐานด้วยการถ่ายรูปไว้เห็นได้ชัดเจนกว่า สีผิวเปลี่ยนจากขาวเหลือง เป็นกระจ่างขึ้น ดูเหมือนว่าพิกเม้นท์ของผิวที่ออกสีโทนเหลืองที่ทำให้ผิวดูหมองนั้นมีอัน ต้องจรจาก ผิวดูกระจ่าง ดูขาวสม่ำเสมอขึ้นทั่วทั้งหน้าเลย ตรงช่วงข้างแก้มที่จะมีรอยแดงๆ จากสิวก็จางลงไป สำหรับรอยสิวแดงๆ ก็จางไว โดยเฉพาะโซนหน้าผากขาวสม่ำเสมอดีขึ้นกว่าก่อนใช้

ส่วนตัวพอใจกับผล ที่ได้ ในเรื่องการปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ เอสเซนส์ตัวนี้ให้ผลแบบค่อยเป็นค่อยไปนะ ผิวหลังใช้ไม่ได้ขาวเป็นกระดาษ ขาวบริ๊งค์เวอร์ แต่ว่าปรับความขาวให้เท่าที่ผิวเราพอจะทำได้ และผลกับคงกระจ่างใสขึ้นตราบใดที่ยังคงใช้ผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง สำหรับความบริ๊งเพิ่มเติมนอกเหนือจากการใช้เอสเซนส์แล้ว แนะนำให้มีการมาร์คหน้า หรือ สครับหน้าช่วย น่าจะยิ่งเพิ่มศักยภาพของผิวในการผลัดเซลล์ เผยผิวใหม่และรับสารต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้นค่ะ และที่สำคัญต้องทากันแดดอย่างสม่ำเสมอ คอยหลบแดด กางร่ม ใส่หมวก ช่วยเลี่ยงแดดให้ผิวด้วยนะจ๊ะ

สำหรับเรื่องความชุ่มชื่น ยืดหยุ่นของผิว เอสเซนส์เพียงอย่างเดียวอาจจะให้ได้ไม่เพียงพอ ควรอย่างยิ่งที่จะต้องใช้มอยเจอร์ไรเซอร์เสริมทัพจ้า

ส่วนผสม : ติดไว้ก่อนจ้าแล้วจะลอกมาแปะให้เน้อ


ไม่ มีการแต่งภาพใดๆ ทั้งสิ้น ใช้โหมด digital macro, แสงธรรมชาติเด้อ ถ่ายจากระเบียงห้องจ้า


ตัด มาเป็นช่วงๆ หน้าผาก สีผิวหน้าผากที่คล้ำ สม่ำเสมอขึ้น ไม่ได้ขาวเท่าช่วงแก้มหรอกนะ แต่กระจ่างขึ้นไม่คล้ำเหมือนก่อนใช้


ช่วง ตั้งแต่โหนกแก้มลงมาคาง ช่วงนี้ผิวจะขาวอยุ่แล้วแต่ก็เห็นได้ว่า ผิวขาวขึ้นและกระจ่างขึ้น ทำให้แก้มดูอมชมพูชัดขึ้น

สารภาพ ปกติสมัยก่อนอิชั้นไม่เคยสนใจผลิตภัณฑ์กลุ่มให้ผิวขาวกระจ่างใสเลย แต่มาปีที่แล้วตั้งแต่เริ่มลองของกับไลน์ความขาว ก็เริ่มจะเข้าใจถึงการเสพติดความกระจ่างใสบ้างแล้วนะเนี่ย ก็เพราะว่าปกติคิดว่าผิวหน้าของอิชั้นเองก็ขาว(เหลือง) โอเคอยู่แล้ว แต่พอได้เริ่มลองไลน์ไวนเทนนิ่ง แล้วตัวเองได้ลองทำรีวิว สังเกตจดบันทึก มีภาพถ่ายจริงๆ จังๆ ก็เห็นแก่ตาเลยว่า เออ การที่มีผิวกระจ่างใส สีผิวสม่ำเสมอขึ้นมันทำให้ผิวดูสุขภาพดี แต่งหน้าอะไรก็ดูบริ๊งขึ้นกว่าผิวช่วงที่ไม่ได้ใช้ไวท์เทนนิ่งจริงๆ ก็ติดใจนะ

อิชั้นก็ใช้ของแบรนด์ Clinique นี้เยอะเลย บางตัวก็โอเคมากๆ บางตัวก็ใช้ระยะเวลากว่าจะเห็นผลในระยะยาว บางตัวเฉยๆ แต่สำหรับเอสเซนท์ตัวนี้ อิชั้นว่าก็น่าจะเป็นอีกตัวที่คนที่กำลังหาไวท์เทนนิ่งสนใจก็ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยอันได้แก่ทรัพย์ในกระเป๋าด้วยเช่นกัน เพราะสนนราคาอยู่ที่ 3,200 ปริมาณ 30 ml. ก๊าบ

จบการรีวิวแต่เพียง เท่านี้ ถ้ามีโอกาส หรือ มีผลิตภัณฑ์น่าสนใจก็คงจะจับมาลองของต่อไป แล้วพบกันก๊าบบบ

และตามด้วยบทสรุปประจำใจว่า
xxx ก่อนจะเชื่อ จะลองใช้ หรือซื้อตาม อยากให้ทุกคนโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านให้ละเอียด การที่ผลิตภัณฑ์ใดๆ จะได้ผลดีขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน และปัจจัยอื่นๆ บางคนอาจใช้แล้วดี บางคนอาจไม่เวิร์ค แต่อิชั้นขอให้ทุกคนค้นพบผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับตัวเองนะคะ จ๊วบๆ xxx


ชฎาแหลม

ชฎาแหลม

คิดถึงก็ไปหาที่ blog & fb นะคะ
https://www.facebook.com/Chadalaemdotcom

FULL PROFILE