เปิดกรุ Jo Malone, Dior, YSL, Chanel Body cream and body lotion สาวเนื้อหอมใช้อะไรกันนะ

สวัสดีค่ะสาวๆ วันนี้มาเปิดกรุและรีวิวงานเนื้อหอม แบบชนิดที่เดินผ่านแล้วหอมเวอร์ หอมฟุ้ง แต่กลิ่นไม่แรง ขอเล่าประสบการณ์ส่วนตัวค่ะ ที่ผ่านมาหลายปีมาก เราพยายามทำตัวให้หอม ไม่ว่าจะ อาบน้ำให้สะอาด ฉีดน้ำหอม ทาโลชัน เอาจริงๆก็หอมนะคะ แต่หอมได้แค่ไม่กี่ชั่วโมง วันนี้เลยอยากจะมาแบ่งปันว่าทำยังไงตัวจะหอมติดทนไปทั้งวัน

ก่อนอื่นก็ต้องอาบน้ำให้สะอาด และทาโลชัน ทำให้ผิวชุ้มชื้น และตัวโลชันนี่ล่ะค่ะ ที่จะทำให้ผิวเราหอมอ่อนๆ และหอมไปทั้งวัน และช่วยให้น้ำหอมติดทนมากขั้นค่ะ

Jo Malone ได้ยินชื่อก็หอมแบบผู้ดีแล้ว หอมสมคำร่ำลือ หรือเปล่า มาเล่าให้ฟังแล้วค่ะ

1. Jo Malone Blackerry & Bay body cream จะบอกว่าเป็นแบร์นเครื่องหอมที่เป็นเอกลักษณ์มาก กลิ่นไม่เหมือนใครเลย เนื่อครีมไม่เหนียว ไม่ข้น ทาแล้วซึมง่าย ผิวก็ลื่นดีค่ะ กลิ่นก็ออกผลไม้หวาน แต่ไม่หวานจนเลี่ยน ประมาณว่าหวานอมเปรี้ยว สดชื่น หลับตาแล้วดมเหมือนอยู่ในสวนแบล็กเบอร์รี่สด กลิ่นละมุมมาก ทากลิ่นนี้แล้วได้อารมณ์ผ่อนคลาย สดชื่น หวานอมเปรี้ยว เหมือนปั่นจักรยานชมสวน

2. Jo Malone Peony & Blush Suede body cream กลิ่นนี้ได้อารมณ์คุณหนูผู้น่ารัก ใส่ชุดฟรุ้งฟริ้งสีขาวอยู่ในสวนดอกโบตั๋น

3. Jo Malone Wood Sage & Salt body cream เป็นกลิ่นที่เราชอบที่สุดในบรรดาสามกลิ่นที่เล่ามา เป็นกลิ่นที่ร่างเริง มีความสุข เหมือนอยู่ในป่าโปร่งที่มีแสงลอดเข้ามา มองไปทางไหนก็เป็นสีเขียว อารมณ์ประมาณนั้นค่ะ

จะบอกกว่า Jo Malone เป็นกลิ่นหอมที่บอกไม่ถูกเลย เพราะกลิ่นมันละมุนมาก และเป็นกลิ่นที่หอมผสมผสานกันอย่างลงตัว ถ้ามีโอกาสก็อยากจะลองทุกกลิ่นเลย และจะบอกว่าบอดี้ครีมแบร์นนี้หอมติดทนค่ะ เพราะเราทาตั้งแต่เช้า เย็นเลิกงาน ดมแขนตัวเองยังได้กลิ่น และที่คอนเฟิร์มว่าหอมติดทนเพราะ ตอนเช้าคุณพ่อไปส่งที่ทำงาน ตอนเย็นเลิกงาน ขึ้นรถคำแรกที่พ่อพูดคือ หอม เพราะระหว่างวันเราไม่ได้ทาอะไรหรือฉีดน้ำหอมอะไรเพิ่มเลย

Jo Malone Orange Blossom candle ไม่เกี่ยวกับบอดี้ครีม แต่อยากรีวิวค่ะ ไหนๆก็พูดถึงแบร์นนี้แล้ว เราชอบจุดตอนอาบน้ำตอนเย็น เพราะรู้สึกผ่อนคลาย และสดชื่นดีค่ะ กลิ่นหอมแนวดอกไม้ จุดตอนอาบน้ำเหมือนอาบน้ำในทุ่งดอกไม้เลยค่ะ

Miss Dior Blooming Bouquet มาเป็นครอบครัว ทั้งโลชัน ครีม และน้ำหอม เราชอบกลิ่นนี้มากๆ เพราะหอมหวาน แนวดอกไม้ สดชื่น ละมุน

Miss Dior body lotion เป็นโลชันที่กลิ่นเดียวกับน้ำหอมค่ะ เนื้อโลชันซึมไว ไม่เหนียว กลิ่นหอม บางทีทาแค่โลชันก็หอมละมุนไปทั้งวันแล้วค่ะ ฉีดน้ำหอมเพิ่มนิดหน่อย หอมฟุ้งเลย

Miss Dior body cream กลิ่นเดียวกันกับน้ำหอม เนื้อครีมเข้มข้น ซึมไว แต่เหนียวนิดหน่อย ทาฤดูหนาวนี่เหมาะมากค่ะ เคล็ดลับก็คือ ทาช่วงหน้าอกแล้วฉีดน้ำหอมค่ะ กลิ่นติดทน ไปทั้งวัน และได้ของแถมก็คือ ชุดชั้นในหอมมาก

YSL Mon Paris body lotion ตัวนี้กลิ่นหอมฟุ้งมาก แบบทาในห้องน้ำ เปิดประตูห้องน้ำออกมา คุณแม่ที่อยู่ในครัวถึงกับถามว่า ฉีดอะไรหอมมาก หอมไปจนถึงห้องครัว น้ำหอมที่ว่าหอมฟุ้งแล้ว โลชันก็หอมฟุ้งเช่นกันนะคะ กลิ่นตัวนี้จะหอมมีเสน่ห์ค่ะ กลิ่นจะออกแนวเป็นสาวหวาน เซ็กซี่นิดๆ เนื้อโลชันซึมไว ผิวนุ่ม ทาแค่ตัวโลชันก็หอมแล้วค่ะ

Chanel Chance Tendre body cream เนื้อครีมที่ประทับใจมาก คือ ไม่เนียว ทาแล้วลูบผิวตัวเองแล้วเนียน กลิ่นหอมอ่อนๆ แนวดอกไม้ สดชื่น

เคล็ดลับในการฉีดน้ำหอมให้ติดทนของเราก็คือ หลังอาบน้ำตัวหมาดๆ ก็ทาครีม หรือโลชัน กลิ่นเดียวกับน้ำหอมก่อน แล้วค่อยฉีดน้ำหอมที่ หลังใบหู ต้นคอด้านหน้าและด้านใน ข้อพับ ข้อมือ ข้าพับที่ขา และข้อเท้าค่ะ และก่อนจะใส่รองเท้าออกจากบ้านไปทำงาน หรือออกไปข้างนอก ก็ทาครีมด้วย เรารู้สึกว่าน้ำหอมมันหอมนานขึ้นค่ะ

ไหนๆก็มาแนวตัวหอมแล้ว รีวิวแถมให้ค่ะ Nivea oil infused lotion Orchid & argan oil บอกเลยว่าตัวนี้ซื้อเพราะขวด คือขวดที่วางอยู่บนชันในซุปเปอร์สวยมาก และบอกว่าเป็นออยด้วย คงจะช่วยให้ผิวไม่แห้ง ก็เลยจัด และก็ไม่ผิดหวังค่ะ คือเนื้อโลชันบางเบา ซึมง่าย กลิ่นหอมอ่อนๆ ทาก่อนนอน ฟินมากค่ะ

จบการรีวิวสาวเนื้อหอมค่ะ เป็นรีวิวที่ใช้จินตนาการสูงมากค่ะ ทาโลชันหลังอาบอาบ และก็ฉีดน้ำหอมค่ะ ช่วยให้ตัวหอมติดทนนาน ถ้าระหว่างวันต้องการกลิ่นหอมสดชื่น เราก็จะชอบทาโลชันที่มือ และข้อมือค่ะ มันหอมฟุ้งแบบไม่แรง และไม่ฉุดเลยนะคะ กลิ่นหอมอ่อนๆแต่ฟุ้งกระจายคือสิ่งที่เราต้องการค่ะ