11 แบรนด์เกาหลี รู้จักแล้ว ต้องอ่านชื่อให้ถูกด้วยนะเธออออ!

15 6

สวัสดีค่า สาวสายเกาทุกคนนเราเชื่อว่าสาวๆ หลายคนมีเครื่องสำอางสัญชาติเกาหลีครอบครอง กันอยู่ในกรุแน่นอนแต่เอ๊ะ!  มีใครเคยสังเกตมั้ยว่า เวลาเราไปเที่ยวเกาหลี แล้วไปซื้อเครื่องสำอางแบรนด์เกาหลี ทำไมพอพูดชื่อแบรนด์ไปแล้วคนเกาหลีถึงได้งงเป็นไก่ตาแตกกันก็แหม ภาษาเกาหลีเค้าออกเสียงไม่เหมือนภาษาอังกฤษนี่นา กระทู้นี้เราเลยจะมาสอนสาวๆ อ่านชื่อแบรนด์เกาหลีให้ถูกต้องกันพร้อมกับบอกข้อดีของแต่ละแบรนด์ด้วยนะ ว่าเค้าเน้นอะไร และตัวไหนที่ดังสุดๆ!

ETUDE HOUSE

ETUDE HOUSE  ในภาษาเกาหลีเขียนว่า  에뛰드하우스   อ่านว่า เอ-ตวี-ดือ ฮา-อู-ซือถ้าอ่านแบบไทยๆ ก็ อีทูดี้ หรือบางคนก็เรียกอีตูด ซะงั้น

จุดเด่นของแบรนด์ คือ สินค้ามีความหลากหลายมากกก ราคาไม่แพงเลย (ถ้าซื้อที่เกาหลีนะ) รวมถึงมีความมุ้งมิ้งน่าใช้ขั้นสุด แต่ที่เด่นๆ ของเค้าเลยนะ ก็จะมีพวกอายแชโดว์กับบีบีครีม รองพื้น ที่ดังในบ้านเรามานานมาก และตอนนี้ก็ยังดังอยู่นะ

INNISFREE

Innisfree ในภาษาเกาหลีเขียนว่า  이니스프리   อ่านว่า อี-นี-ซือ-พือ-รีถ้าอ่านแบบไทยๆ ก็ อินนิสฟรี 

จุดเด่นของแบรนด์ คือ ความเป็นธรรมชาติ ความอ่อนโยนนั่นเอง ซึ่งใครที่เป็นสายรักธรรมชาติ ชอบใช้ของจากธรรมชาติ ต้องแบรนด์นี้เลยค่ะ อ่อ! อีกอย่างตัวบำรุงหน้าของแต่ละตัวเป็นอะไรที่บำรุงให้ผิวกลับมาชุ่มชื่นได้ดีจริงๆ นะคะ ยิ่งตัวมาสก์นะ ฟินไปเลยจ้าาาาา

Peripera

Peripera ในภาษาเกาหลีเขียนว่า 페리페라 อ่านว่า เพ-รี-เพ-ราถ้าอ่านแบบไทยๆ ก็ เพอริเพอร่า

จุดเด่นของแบรนด์ คือ มันน่ารักกกกกกกกกกกกกกกกมาก! แต่ยังไม่ใช่ค่ะ 55 เพราะแบรนด์นี้เค้าจะเน้นที่ความสดใสไม่ใช่แค่เเพคเก็จนะคะ แต่เป็นที่ตัวผลิตภัณฑ์ตัว ใครชอบใช้อะไรที่สีสดๆ เชิญมองหาแบรนด์เลยเลออออ! ส่วนผลิตภัณฑ์ตัวดังๆ ของเค้า ก็จะเป็นลิปค่ะ ขายดีกันมากเพราะมันติดแน่น ติดทน สีชัด เลิศ!

A’pieu

A’pieu ในภาษาเกาหลีเขียนว่า 어퓨 อ่านว่า ออ - พยูถ้าอ่านแบบไทยๆ เอเพียว , เอพิว

จุดเด่นของแบรนด์ คือ ความถูกและดี(ในราคาที่เหมาะสม) อันนี้เราจะเห็นน้องๆ เด็กของเกาหลีใช้เยอะอยู่นะคะ เพราะราคาน่าคบหา สีสันมีให้เลือกเยอะ แถมคุณภาพก็ดี แต่อาจจะไม่ได้ดีเลิศขนาดของแพงๆ เท่าไหร่ ส่วนอันที่เราคิดว่ามันดี คือดีจริงๆ ของแบรนด์นี้ เราชอบพวกบลัชออนค่ะ เพราะสีมันน่ารักมากกกกกกก แพคเกจก็คิ้วท์สุด และคุชชั่นอีกตัวของเค้าจะเหมาะกับคนที่ผิวแห้งนะคะ เพราะมันฉ่ำจริงๆ

IOPE

IOPE ในภาษาเกาหลีเขียนว่า 아이오페  อ่านว่า อา - อี - โอ - เพถ้าอ่านแบบไทยๆ ก็ ไอโอเป้

จุดเด่นของแบรนด์ คือ คุชชั่นเลยค่ะ แบรนด์นี้เป็นแบรนด์แรกๆ ที่ผลิตคุชชั่นออกมาเลย มีหลายรุ่นมาก ทั้งแบบปกปิดน้อย - มาก แมทและช่ำๆ เอาใจสายดิวอี้ไปเลย ส่วนแพคเกจมีความเรียบง่าย แต่หรูหรานะคะ แต่! ทางแบรนด์คงทนกระแสแพคเกจความน่ารักไม่ได้ ก็เลยออกรุ่นลิมิเต็ทมาด้วยย ไปดูกันข้างล่างเลย เลื่อนไป!

Mamonde

Mamonde ในภาษาเกาหลีเขียนว่า 마몽드  อ่านว่า มา - มง - ดือถ้าอ่านแบบไทยๆ ก็ มามอนด์

จุดเด่นของแบรนด์ คือ สายธรรมชาติมาอีกแล้วจ้าาาา  จริงๆ ก็แอบเป็นแบรนด์น้องใหม่นิดนึงนะคะสำหรับแบรนด์เกาหลีอื่นๆ ซึ่ง มามงดือเนี่ยเค้าจะเน้นพวกผลิตภัณฑ์บำรุงซะส่วนใหญ่ พวกครีม เซรั่ม แต่เครื่องสำอางเมคอัพก็มีนะคะ ที่เห็นชัดก็จะมีลิป กับตัวคุชชั่นที่จะเป็นตัวที่เราคุ้นหน้สคุ้นตากันดีนะ แต่ทำไมเรากลับชอบ single eye shadow ของเค้าแทน เพราะมันวิ้งมากค่ะ คุณ คือวิ้งสวย ละเอียด

Missha

Missha  ในภาษาเกาหลีเขียนว่า 미샤  อ่านว่า มี - ชยาถ้าอ่านแบบไทยๆ ก็ มิชช่า

จุดเด่นของแบรนด์ คือ คุชชั่น บีบีเจ้าค่ะ จริงๆ แบรนด์นี้มีมานานมากแล้ววววว ซึ่งตัวที่เค้าทำมาก่อนจะเป็นพวกบีบีครีมซะมากกว่า แต่เพิ่งจะมาตีตลาดด้วยเจ้าคุชชั่นหมีบราวน์นั่นเอง เราว่าทุกคนคงคุ้นกันดีนะคะ เนื้อคุชชั่นของเค้าเราชอบมากกก แบบมันปกปิดดีแล้วไม่ค่อยเป็นคราบระหว่างวันเท่าไหร่ และหลังจากที่คุชชั่นหมีประสบความสำเร็จสุดๆ ก็เหมือนว่าทางแบรนด์จะปรับโฉมให้ดูแพงขึ้น (+ราคาที่แพงขึ้นด้วย 555) และชิ้นล่าสุดที่เราชอบ และได้รับการโหวตจากสาวๆ เกาหลีว่ามันดี มันสวย ก็คือ อายแชโดว์เลยค่ะ เนื้อดีสุด!

Laneige

Laneige  ในภาษาเกาหลีเขียนว่า 라네즈  อ่านว่า รา -  เน - จือถ้าอ่านแบบไทยๆ ก็ ลาเนจ

จุดเด่นของแบรนด์ คือ ความชุ่มชื่น ฉ่ำวาวววววที่มาจากภายใน เอ๊ะ! มันคืออะไร? คือ mask นั่นเอง ซึ่งตัวดังสุดๆ ที่ทุกคนที่ใช้แล้ว มาการันตีคอนเฟิมเลยว่า ไม่ว่า ผิวหน้าคุณจะแห้งขุย หรือต้องการหน้าที่ดูฟู ไม่ขาดน้ำในเวลารวดเร็ว ก็ต้องใช้ Water sleeping mask ตัวนี้เลย จากประสบการณ์เพื่อนเลยนะ ตอนจะแต่งหน้า แล้วหน้าดันลอก ใช้เจ้าตัวนี้โปะไป 30 นาที หน้าดีขึ้นเลยยย ไปตำค่ะ

Hera

Hera  ในภาษาเกาหลีเขียนว่า 헤라  อ่านว่า เฮ - ราถ้าอ่านแบบไทยๆ ก็ เฮร่า

จุดเด่นของแบรนด์ คือ คุชชั่น (อีกแล้ว) 55555 แบรนด์นี้ก็จะเป็นอีกแบรนด์ที่เน้นความฉ่ำวาวอีกแล้วค่ะคูณณณณ  ก็แบรนด์เกาหลีนี่นา แต่คุชชั่นของแบรนด์นี้เค้าก็ขึ้นชื่อเรื่องงานผิวอย่างดีเลยนะคะ ใครหน้าแห้งและอยากได้ลุคแบบสาวเกาหลี แม้ว่าหน้าเราอาจจะไม่เนียนก็ตาม มีจุดด่างดำนิดหน่อย ใช้ตัวนี้เอาอยู่ งานผิวมาเลยยยย! และอีกอย่างคือคุชชั่นของเค้าจะต้องมีสารบำรุงอยู่เกือบทุกตัว ดังนั้นสวยแล้วยังบำรุงอีกอ่ะเธอออ!

2 แบรนด์สุดท้ายที่ทุกคนต้องรู้จักกันดี เพราะขึ้นชื่อมากกกกก!

Sulwhasoo

Sulwhasoo ในภาษาเกาหลีเขียนว่า  선화수  อ่านว่า ซอน - ฮวา - ซูถ้าอ่านแบบไทยๆ ก็ โซลวาซู

จุดเด่นของแบรนด์ คือ ผลิตภัณฑ์บำรุงมาเลยค่ะ แบรนด์นี้แค่พูดถึงชื่อทุกคนที่เคยใช้น่าจะได้กลิ่นโสมลอยมาแล้ว เพราะเค้าจะเน้นเรื่องพวกส่วนสกัดจากโสม จะบอกว่ามันช่วยทำให้ผิวหน้าแข็งแรงขึ้นนะคะ ยิ่งตัว first care เนี่ย ถือเป็นตัวเด่นของเค้าเลยนะ บางคนถึงกับขาดไปได้เลยชีวิตนี้!  ส่วนพวกคุชชั่นก็ยังความฉ่ำวาวอยู่ และปกปิดแบบใสๆ ไม่ได้มากมายเท่าไหร่ ใครผิวโอเคอยู่แล้ว มีอายุนิดนึง และอยากได้คุชชั่นที่มีสารบำรุงตัว ไม่หนักหน้า ก็น่าจะชอบแบรนด์นี่นะคะ

Jungsaemmool

Jungsaemmool ในภาษาเกาหลีเขียนว่า  정샘물  อ่านว่า จอง - แซม - มุลถ้าอ่านแบบไทยๆ ก็ จงแซมุน

จุดเด่นของแบรนด์ คือ พวกรองพื้นงานผิวค่ะ ซึ่งแบรนด์นี้ตอบโจทย์มากกกกกสำหรับใครที่ชอบพวก คุชชั่น รองพื้น มีทั้งปกปิดน้อยไปถึงมาก แต่ถึงปกปิดน้อยก็สามารถบิวท์เลเยอร์ขึ้นได้อีกนะคะ แถมแบรนด์เครื่องสำอางแบรนด์นี้ แว่วๆ ว่าดาราเกาหลีใช้กันเยอะมากๆ เลยนะคะ ส่วนผลิตภัณฑ์ตัวเด่นที่คนไทยน่าจะพอรู้จัดกันดี ก็จะเป็น รองพื้นตลับสีเหลี่ยม รุ่น Essential Star-cealer Foundation

อ่านกระทู้นี้เสร็จแล้ว พอเข้าใจกันแล้วใช่มั้ยเอ่ย ว่าชื่อของบางแบรนด์เกาหลีก็ไม่คล้ายกับที่เราพูดเลย 5555 วันนี้ได้มารู้ความจริงกันแล้วนะคะ คราวหน้าไปเกาหลี อย่าลืมลองพูดชื่อแบรนด์ต้นฉบับแบบเกาหลีกันดูนะคะ อิอิ

ไว้เจอกันกับกระทู้สายเกาหลีครั้งหน้านะคะ


AMPIE.PIE

AMPIE.PIE

K 패션 & 트렌드 브러그 라이터
K-fashion & trend writer

FULL PROFILE