รีวิว ฝังยาคุมกำเนิดฟรี

สวัสดีค่ะ  วันนี้จะมารีวิวหลังจากที่ไปฝังยาคุมกำเนิดมาแล้ว 9 วันค่ะ

การฝังยาคุมกำเนิดนั้นตามโครงการของรัฐจะรับบริการฟรีต้องอายุต่ำกว่า 20ปี

เราอายุ21ปี หลังจากศึกษาข้อมูล มันจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 3,000 บาท

เราก็เตรียมเงินไปจ่าย แต่พี่พยาบาลแนะนำให้ขอใบส่งตัวจากโรงพยาบาลที่เรามีสิทธิ์รักษาพยาบาลเพื่อที่จะได้ทำฟรีค่ะ

(เช็คได้ที่เว็บนี้   https://www.nhso.go.th/peoplesearch/  )

เราก็ไปติดต่อที่โรงพยาบาลอำเภอ....  แจ้งไปว่าขอใบส่งตัวฝังยาคุมกำเนิด  

คนลงทะเบียนมองเราตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาที่ดูถูกแล้วหันไปกระซิบกับอีกคนว่า “นี่ไงพวกเด็กใจแตก” เราหน้าชามากแต่ก็เก็บอาการ

หลังจากนั้นเราก็นำมายื่นที่โรงพยาบาลจังหวัด...

คุณหมอก็สอบถามว่าเคยตั้งครรภ์มั้ย  เคยแท้งมั้ย

เราก็ตอบว่ายังค่ะ ตอนนี้เรียนอยู่  อยากป้องกัน

คุณหมอเลยให้ลองฉีดยาคุมกำเนิดก่อน เพราะตัวยาค่อนข้างแรง กลัวร่างกายเรารับไม่ไหว  

(ประจำเดือนเรามาล่าสุดวันที่ 5-12 สิงหาคม )

เราฉีดวันที่ 13 สิงหาคม 2560 นัดอีกครั้ง 3 พฤษจิกายน 2560 เพื่อมาดูผลและฝังยาคุมกำเนิด

หลังจากฉีดยาคุม เรามีเลือดออกกระปริบกระปรอยต้องใส่ผ้าอนามัยแผ่นเล็กทุกวันค่ะ

วันที่ 3 พฤษจิกายน 2560 เราก็ไปตามนัดค่ะ

คุณหมอก็ถามว่า โอเคมั้ย มีผลข้างเคียงหรือเปล่า ไหวใช่มั้ย งั้นไปฝังยากันค่ะ !!  

(ตื่นเต้นมาก แง กลัวเข็ม)

คุณหมอถามว่าถนัดข้างไหน จะฝังยาข้างที่เราไม่ถนัดค่ะ

(เราถนัดข้างขวา ฝังข้างซ้าย )

ก็ขึ้นไปนอนบนเตียง คุณหมอก็ทายาฆ่าเชื้อและฉีดยาชา (เจ็บแค่ตอนฉีดยาชาค่ะ)

หลังจากนั้นคุณหมอก็ทำการฝังยาคุมกำเนิดแบบรวดเร็วมาก ปิดพลาสเตอร์กันน้ำ พันผ้ายืดพันเคล็ด เป็นอันเสร็จ

และแนะนำว่า อีก24ชั่วโมง แกะผ้ายืดพันเคล็ดออกได้  แผลห้ามโดนน้ำ 7 วัน และนัดดูอาการวันที่ 10 พฤษจิกายนค่ะ

ภาพหลังจากทำเสร็จค่ะ

ก็ตึงๆนิดนึง  ร้อนๆคันๆบอกไม่ถูกค่ะ555 แต่ไม่ปวดนะ

การอาบน้ำ : เราอาบมือเดียว แขนข้างซ้ายยกขึ้นค่ะ ก็ทุลักทุเลนิดหน่อยแต่ก็ผ่านไปได้ค่ะ

การสระผม : เราสระเอง ก้มหัวสระแล้วก็เอาผ้าขนหนูผืนเล็กพันไว้ค่อยอาบน้ำต่อค่ะ  ใครสะดวกสระที่ร้านก็จะดีค่ะ

วันที่ 1 : หลังจากยาชาหมดฤทธิ์ก็ปวดนิดนึงค่ะ กินยาแก้ปวดแล้วนอน

วันที่ 2 : แกะผ้ายืดออกได้แล้วค่ะ พยายามอย่าใช้แรงจากแขนข้างที่ฝังนะคะ แผลจะหายช้า

วันที่ 3 : ปกติ แค่ไม่ค่อยใช้แขนข้างซ้าย ช่วงนี้ฉวยโอกาสใช้งานแฟนค่ะ ตัวเองหยิบอันนั้นให้เค้าหน่อย555

กล่องยาคุมกำเนิดที่ฝังและบัตรประจำตัวค่ะ

เก็บให้ดีนะคะเพราะตอนจะเอาออกต้องนำไปด้วยค่ะ

เกือบลืมค่ะ !!  7 วันหลังจากฝังยาคุมกำเนิด

ยายังออกฤทธิ์ไม่เต็มที่นะคะ  หากมีเพศสัมพันธ์ต้องป้องกันด้วยนะคะ

ภาพนี้ถ่ายวันที่ 10 พฤษจิกายนนะคะ ก่อนจะไปพบหมอตามนัด  

ไปตอนเช้าคนเยอะมากกกก รอประมาณ2ชั่วโมงก็ได้เข้าพบหมอค่ะ  

คุณหมอก็ถามอาการหลังจากฝัง ส่วนตัวเรานอนไม่ค่อยหลับและรู้สึกเวียนหัวหลังจากตื่นนอนตอนเช้าเล็กน้อยค่ะ 2-3 วันก็หาย คงเป็นเพราะฤทธิ์ยาที่ไปปรับฮอร์โมนในร่างกายค่ะ

คุณหมอแกะพลาสเตอร์กันน้ำออก บอกว่าแผลแห้ง ปกติดี โดนน้ำได้แล้ว อีก3ปีค่อยมาเอาออกค่ะ

วันที่ 9 : หลังจากถอดพลาสเตอร์แล้วก็ใช้ชีวิตปกติเลยค่ะ มีหน่วงๆตรงแผลบ้างนิดหน่อย

เหตุผลที่ตัดสินใจไปทำ :

ตอนนี้เราเรียนอยู่ มีแฟนและมีอะไรกันค่ะ ป้องกันโดยการใส่ถุงยางอนามัย  แล้วเคยมีครั้งนึงประจำเดือนคลาดเคลื่อนจากปกติไป7วัน ช่วงนั้นเราเครียดมาก กลัวถุงยางรั่ว ยิ่งเครียดยิ่งไม่มา เลยพยายามไม่เครียด ดูหนังฟังเพลง

เราไม่อยากรู้สึกแบบนั้นอีกแล้วค่ะ

เราเห็นตัวอย่างจากคนใกล้ตัวทั้งเพื่อน พี่ น้อง

ที่พลาดเพราะไม่ป้องกันแล้วคุณภาพชีวิตของเขามันค่อนข้างไม่ดี  ก็ตามที่เราเห็นในสังคมไทยปัจจุบันนี้

เราอยากมีลูกมาก รักเด็ก  แต่เราอยากมีเค้าตอนที่พร้อม เรียนจบ มีงานทำ มีบ้าน มีรถ พร้อมที่จะให้เค้าเกิดมาแบบมีความสุขและเลี้ยงเค้าให้เป็นคนดีค่ะ

สรุป :

แนะนำให้ไปทำค่ะ

อาจจะอายบ้างตอนไปขอฝังยาคุม แต่เชื่อเถอะค่ะ

ตอนไปฝากครรภ์ทั้งที่เรายังไม่พร้อม อายุยังน้อย จะรู้สึกอายมากกว่านี้ ไม่ใช่ว่าทำเพื่อแฟน แต่ทำเพื่อตัวเราเองค่ะ

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะคะ

ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ

ปล.พี่พยาบาลและคุณหมอที่โรงพยาบาลจังหวัดน่ารักมากค่ะ สอบถาม พูดคุย ให้คำแนะนำดีมากค่ะ