เกร็ดความรู้ที่ได้จากริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ขบวนที่ 6 โดยกองทหารม้า

วันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ.2560 เป็นวันสุดท้ายสำหรับพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ที่ยิ่งใหญ่ และน่าจดจำ เกิดขึ้นครั้งหนึ่งในชีวิตของเรา เป็นวันอัญเชิญพระบรมอัฐิขึ้นประดิษฐาน ณ พระวิมาน และบรรจุพระบรมราชสรีรางคาร นำริ้วขบวนโดยทหารม้างามสง่า สมพระเกียรติ จีบันก็ได้รวบรวมเกร็ดความรู้ที่ได้จาก ริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ขบวนที่ 6 โดยกองทหารม้า มาให้ทุกคนแล้วค่ะไปดูกันเลย

ริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ขบวนที่ 6 เป็นขบวนกองทหารม้าเชิญพระบรมราชสรีรางคารโดยรถยนต์พระที่นั่ง ซึ่งมีพันโทหญิง พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ องค์ผู้บังคับการกองพันทหารม้าที่ 29 รักษาพระองค์ ทรงนำขบวนกองทหารม้า จัดขบวนม้าจำนวน 78 ม้า

ม้าทรงประจำพระองค์พระองค์หญิงฯ ทรงม้าชื่อเว-คาลาตา (W-CALATA) ม้าทรงประจำพระองค์ฯ สายพันธุ์โฮล์สไตเนอร์ วอร์มบลัด สีแซมขาว เพศเมีย อายุ 11 ปี ความสูง 170 เซนติเมตร จากสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ซึ่งเป็นม้ากีฬาประเภทกระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง ผ่านการฝึกขั้นสูง ตอบสนองต่อการบังคับควบคุมได้ดี มีลักษณะนิสัยสุขุม ไม่ตื่นตระหนกง่าย และเคยได้รางวัลชนะเลิศมากมายจากการแข่งขันประเภทกระโดดข้ามเครื่องกีดขวางในสหภาพยุโรป

กองพันทหารม้าที่ 29 รักษาพระองค์

กองพันทหารม้าที่ 29 รักษาพระองค์ (ม.พัน 29 รอ.) เป็นหน่วยทหารม้ารักษาพระองค์ (ใช้ม้า) ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งใช้ม้าจริงเข้าร่วมในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ เป็นประจำทุกปี และได้ผ่านการฝึกซ้อมเป็นเวลา 3 เดือนเศษ เพื่องานพระราชพิธีครั้งนี้  

ซึ่งโดยธรรมชาติม้าจะถูกสร้างมาไม่ให้รองรับน้ำหนักใดๆ แต่เมื่อเข้ามาอยู่ในสังกัดของม.พัน 29 รอ.แล้ว ม้าทุกตัวจะต้องถูกส่งเข้าฟิตเนส เพื่อฝึกให้เกิดความสมบูรณ์แข็งแรงของร่างกายและสร้างกล้ามเนื้อใหม่ๆ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อบริเวณหลัง เพื่อรองรับน้ำหนักคนขี่  เพราะปกติแล้วม้ารับน้ำหนักคนได้ไม่เกิน 1 ใน 5 ของน้ำหนักตัวม้า หากม้าจะมีน้ำหนัก 500 กก. คนขี่จะต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 100 กก. ค่ะ

ม้าสำหรับริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ขบวนที่ 6 

การเลือกม้าจะเลือกม้าที่สง่างามที่สุด ดีที่สุด และคัดสีที่ใกล้เคียงกันเพื่อความสวยงาม คัดเลือกม้าที่มีความสง่างามตามแบบโบราณประเพณีในขบวน เช่น หมู่แตรเดี่ยว ต้องเป็นม้าสีขาว หรือสีแซม ม้าในแถวต้องเป็นม้าสีเข้ม เพื่อให้เกิดความสวยงาม จาก 200 ม้า เหลือ 78 ม้า และสำรองไว้อีก 10 ม้า กรณีฉุกเฉิน โดยม้าทุกตัวมีความสามารถในการบังคับใช้งานเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว คือ เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา เดินหน้า ถอยหลัง แต่ต้องนำไปออกกำลังกายเพื่อให้ได้ท่าทางแปลกๆ เช่น การเดินทางข้าง การวิ่งในลักษณะวงกลมแคบ วงกลมอันใหญ่  

ม้าแต่ละตัวล้วนมีนิสัยที่แตกต่างกันไป บางตัวขี้หงุดหงิด บางตัวขี้รำคาญ บางตัวชอบกัด เตะ ม้าตัวอื่น หรือบางตัววิ่งไปสักระยะขาจะเริ่มอ่อน ดังนั้นการจับคู่ระหว่างคนกับม้าจะต้องทดสอบขี่และเรียนรู้ลักษณะนิสัยจนกว่าจะเจอม้าที่ใช่ และคนขี่ต้องสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดจากตัวม้าได้ นั่นหมายความว่า คนกับม้าต้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

รูปขบวนแถวหน้า

1. หมู่แตรเดี่ยว 6 นาย ใช้ม้าสีขาว หรือสีแซม
2. ผู้บังคับกองทหารเกียรติยศ คือ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ 
3. ซึ่งจะทรงม้ามีลักษณะพิเศษ
4. ทหารคนสนิท หรือทหารฝ่ายธุรการ จำนวน 1 นาย ใช้ม้าอีกสีหนึ่ง
5. หมู่เชิญธงไชยเฉลิมพล 4 นาย
6. ผู้บังคับกองร้อย 2 นาย ใช้ม้าสีเข้ม
7.  ผู้บังคับหมวด 4 นาย ใช้ม้าสีแดง หรือสีอ่อน
8. กองทหารเกียรติยศ 60 นาย เป็นม้าสีเข้ม

เครื่องแบบเต็มยศทหารม้ารักษาพระองค์

เครื่องแบบเต็มยศทหารม้ารักษาพระองค์ ประกอบด้วย 

• หมวกยอดมีพู่สีน้ำเงินหม่น ตราพระราชลัญจกรประจำรัชกาลที่ 9 
•  เสื้อสักหลาดสีน้ำเงินหม่น แผงอกมีกระดุมสีทอง 2 แถว 
• แผงคอและข้อมือทำด้วยสักหลาดสีแดง มีช่อชัยพฤกษ์ประดับดอกพุดตานดิ้นทอง 
• บริเวณข้อมือมีเครื่องหมายอักษรพระปรมาภิไธย ภปร. ภายใต้พระมหามงกุฎ 
•  กางเกงสักหลาดสีน้ำเงินหม่น มีแถบสีเหลืองข้างละ 1 แถบประดับเครื่องหมายพระปรมาภิไธย ภปร. ทำด้วยโลหะสีทอง ที่อกเสื้อเบื้องขวา

ซึ่งการคัดเลือกกำลังพลนั้น มีทั้งนายทหาร นายสิบ พลทหาร ดูจากค่าดัชนีมวลกายที่เหมาะสมคือ 25-26 มีพื้นฐานการขี่ม้าและทักษะการบังคับม้าที่ดี เพราะต้องบังคับม้ามือเดียว ส่วนอีกมือใช้อาวุธ รวมถึงบุคลิกภาพและท่วงท่าต้องสง่า

นี้ก็เป็นรายละเอียดที่หลายๆ คนอาจจะไม่รู้นะคะ เห็นไหมคะว่าเบื้องหลังความสง่างามที่เห็นนั่นมีเรื่องราวที่ซ่อนอยู่เยอะเลย พอได้ศึกษากันแล้วรู้เลยว่าทุกคนได้ใส่ใจกับทุกๆ รายละเอียดเพื่อให้งานพระราชพิธีฯ อันยิ่งใหญ่นี้จัดออกมาได้อย่างสมพระเกียรติอย่างสูงสุดแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระผู้เป็นที่รักยิ่งของปวงชนไทยทุกคน

สำหรับใครที่พลาดการรับชมถ่ายทอดสดพิธีอัญเชิญพระบรมอัฐิขึ้นประดิษฐาน ณ พระวิมาน และบรรจุพระบรมราชสรีรางคาร สามารถดูย้อนหลังได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=L0Kev3uWJG0 ค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Kingrama9, khaosod, komchadluek และ thairath