ช่วงตุลาคมนี้... ใช้ชีวิตยังไงดีบนโลกโซเชียล?

นอกจากการใช้ชีวิตประจำวันที่เราต้องปรับตัวให้เข้ากับช่วงเดือนตุลาคมนี้แล้ว  "โลกโซเชียล" ก็คงเป็นอีกโลกหนึ่งที่แทบจะกลายเป็นชีวิตของสาวๆ หลายคนด้วยเหมือนกัน บางคนอาจจะกังวลว่า แล้วเราจะทำตัวยังไงดี ยังโพสต์อะไรได้มั้ย แชร์ข่าวได้เหมือนเดิมรึเปล่า ต้องโพสต์รูปยังไง ทีมจีบันจึงได้ สัมภาษณ์ ดร.สิขเรศ ศิรากานต์ นักวิชาการอิสระด้านสื่อดิจิทัลและสื่อใหม่ เพื่อมาตอบทุกปัญหาคาใจให้สาวๆ กันค่ะ

ไม่ต้อง Panic ไปค่ะ มนุษย์โซเชียลแบบเราใช้ชีวิตได้เหมือนเดิม  Post ได้, Share ได้, Comment ได้

แค่ต้องระวังขึ้นมาอีกนิดว่าอะไรล่อแหลม เหมาะสม หรือไม่เหมาะสมที่จะโพสต์ เพราะหลายคนก็ Sensitive กับบางเรื่องเป็นพิเศษในช่วงนี้  รวมถึงบางที Facebook ก็อาจจะทำให้คนรู้สึกต่อต้านหรือไม่แฮปปี้กับโพสต์ หรือคอมเมนต์อื่นๆ ที่คิดเห็นไม่ตรงกับเราได้ด้วย

ซอฟท์ๆ ไว้ ก็ถือเป็นการรักษาน้ำใจกัน ปลอดภัยที่สุดค่ะ

การลดสีและติดริบบิ้นในรูปโปรไฟล์ ถือเป็นสัญลักษณ์การไว้อาลัยอย่างหนึ่งที่เราทำได้ แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจำเป็นต้องทำ การที่เราเปลี่ยน ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนต้องเปลี่ยนให้เหมือนเรา

อย่าลืมว่าเพื่อนๆ บางคนอาจจะไม่ค่อยได้เล่นเฟสบุค หรือผู้ใหญ่หลายท่านก็อาจจะเล่นไม่เป็น ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง ก็อย่าไปยึดถือแค่เรื่องรูปโปรไฟล์เฟสบุคเป็นเรื่องใหญ่เลยค่ะ เพราะการไว้อาลัย แท้จริงแล้วอยู่ที่ใจของเราทุกคนมากกว่านะ :)

บางคนอาจจะสังเกตเห็นว่าเพจแบรนด์ใหญ่ๆ บางแบรนด์เริ่มลด หรืองดการโพสต์ และโฆษณาลงบ้างแล้ว

สำหรับคนที่เป็นแอดมินเพจอยู่ก็เพียงแต่ต้องงดโพสต์ล่อแหลมต่างๆ เพื่อไม่ให้เสี่ยงดราม่า ถ้าอยากให้เพจมีการอัพเดท อาจจะสลับมาแชร์เรื่องที่คนน่าจะสนใจช่วงนี้แทนไปก่อนก็ดูน่าสนใจดี แถมมีประโยชน์ด้วยด้วยนะ

หลายคนมีแพลนไปเที่ยวช่วงนี้ก็คงแอบหนักใจนิดๆ ว่าจะเอาไงกับชีวิตดี จริงๆ แล้วก็ไม่ได้มีกฎห้ามซะทีเดียว แต่เราว่าถ้าเก็บภาพไว้อีกนิด รอไปโพสต์หลังพระราชพิธีต่างๆ จบ ก็เป็นอีกความคิดที่ดีเหมือนกัน ร่าเริงได้เต็มที่ ไม่ต้องกลัวดราม่า

แหม.. บางครั้งสาวๆ เราก็เมาท์กันแซ่บสุดขีด มีหยาบบ้างอะไรบ้างก็เข้าใจ แต่อันไหนที่ฮาร์ดคอร์มากๆ ช่วงนี้อาจจะต้องเช็คหน่อยว่าเราตั้งค่าการมองเห็นเป็นแค่ Friends มั้ย หรือไปเมาท์กันในกรุ๊ปลับจะดีกว่า  

ถ้าใครตั้งค่าโพสต์เห็นแบบสาธารณะแล้วเมนต์กันหยาบคายเต็มที่ก็อาจจะดูไม่ค่อยงาม เพราะหลายเพจและคนส่วนใหญ่ก็อาจจะมีการโพสที่สุภาพเรียบร้อยกันมากขึ้น (นึกถึงฟีลแบบ ถ้าเราไปโหวกเหวกหยาบคายกันกลาง BTS ที่คนเงียบกันทั้งหมด ก็คงประหลาดน่าดูเนอะ)

ส่วนคนที่เป็นแอดมินเพจต่างๆ อาจจะช่วยกันรักษาบรรยากาศโดยรวมของคอมเมนต์บนเพจได้ อย่างที่เราเห็นเพจ เจี๊ยบ เลียบด่วน ที่ชวนแฟนเพจมาคุยกันในแบบสุภาพก็น่ารักมากๆ เลย

หลายคนใช้ Social Media เช่น Facebook ไว้เป็นเหมือนไดอารี่ เป็นที่ระบาย ที่บันทึกเรื่องราวต่างๆ ในชีวิต และเก็บภาพสำคัญๆ ไว้ ไม่ให้หายไป  

ใครอยากโพสต์เยอะ ระบายความอัดอั้น หรือโพสต์อะไรที่รู้สึกว่าอาจจะล่อแหลม หรือ Sensitive ไปสำหรับเพื่อนๆ ในลิสต์ช่วงนี้ ก็เลือกตั้งค่าก่อนแชร์เป็น Only Me ได้นะ  ได้ฟีลตั้งสเตตัสระบายเหมือนเดิม แค่เพื่อนในฟีดไม่เห็น แล้วปีถัดๆ ไป มันก็ยังขึ้นให้เรามาย้อนดูได้เหมือนโพสต์ปกติเลยด้วย

ตอนนี้มีกฎใหม่ออกมาว่าห้าม Live พระราชพิธีนะคะ ใครที่ไปบริเวณพระราชพิธี แต่อยากอัพเดทให้คนอื่นรู้ ก็ต้องเคารพกฎกันด้วย ส่วน Live ในชีวิตประจำวัน ยังทำได้เหมือนเดิมค่ะ

นอกจากนี้ อยากฝากไว้ว่า... ไม่ว่าจะเป็นงานพระราชพิธีหรืองานอะไร เมื่อไหร่ที่จะ Live อย่าลืมว่า "คนอื่นอาจจะไม่ได้อยากปรากฏตัวอยู่ใน Live ของเรา ไม่ได้อยากให้ใครมาเห็น" เช่นเดียวกับการที่เราไม่ได้อยากจะไปโผล่ติดเป็นช็อต Photobomb ในรูปของคนอื่นๆ เหมือนกัน

ถ้าเราคำนึงถึงสิทธิของตัวเองในการเผยแพร่ภาพ ก็อย่าลืมคำนึงถึงสิทธิของคนรอบข้างด้วยเช่นกันนะคะ

ย้ายไปโพสต์ลง Facebook/IG Storyอ่านมาถึงขนาดนี้ อาจจะมีบางคนที่ชอบโพสต์เป็นประจำ ชีวิตเป็นคนอยากเล่า Facebook/IG Story ก็อาจจะเป็นทางออก อย่างน้อยภาพก็ไม่ได้โชว์ให้ทุกคนเห็นเลย ต้องกดเพื่อจะเข้าไปดู โพสต์เยอะก็ไม่รบกวนหน้าฟีดใคร

แต่ก็อย่าลืมว่าโพสต์อะไรไปแล้วก็คือ Public ใครก็เข้าไปดูได้ แถมแคปจอไปโพสต์ต่อได้ด้วยนะ... เข้าใจที่สื่อใช่มั้ย?

หากอ้างอิงตามสำนักราชเลขาธิการ "การนำภาพพระบรมฉายาลักษณ์ มาเผยแพร่นั้น ต้องได้รับการอนุญาตอย่างถูกต้องในทุกกรณี ไม่ว่าภาพนั้นจะถ่ายโดยใคร หรือสำนักข่าวองค์กรใด" 

ดังนั้น การนำภาพพระบรมฉายาลักษณ์มาโพสต์จึงไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ นอกจากนี้ บางคนก็ถือในเรื่องของตำแหน่งภาพด้วย พอโพสต์ลงไปบนโซเชียลแล้ว ภาพของเราอาจจะไปอยู่ใต้ภาพของคนอื่นที่ดูแล้วไม่ค่อยเหมาะสมได้ค่ะ

อย่าลืมว่า Social Media เป็นเพียงโลกเสมือนที่ถูกสร้างขึ้นมาให้เราได้เชื่อมต่อ และแชร์ความคิดเห็นกับคนอื่นๆ หลายคนก็อาจจะใช้โซเชียลในจุดประสงค์ที่แตกต่างกันไป ถ้ารู้สึกว่ารับอะไรไม่ได้ก็มีปุ่ม Hide Post ให้กดนะคะ

ใครที่คำนึงถึงสิทธิของตัวเองในการแชร์สิ่งต่างๆ มาก ก็อย่าลืมว่าเราต้องเคารพสิทธิของคนรอบข้างด้วยเหมือนกัน 

ที่สำคัญ เราไม่ควรไปต่อว่าหรือตัดสินใครจากการกระทำบนโซเชียลของเขา เพราะมันไม่ใช่ตัวบ่งบอกทุกสิ่งทุกอย่าง การที่คนอื่นทำอะไรไม่เหมือนเราก็ไม่ได้หมายความว่าเขาผิด เพราะแต่ละคนมีภาระ ความเข้าใจ และเจตนาที่แตกต่างกันไป 

สุดท้ายแล้ว... การแสดงออกถึงความไว้อาลัยนั้นเป็นเรื่องของจิตใจค่ะ