รองพื้น 101 | รู้มั้ยว่า 'งานผิว' (Finish) มี 4 สไตล์? แล้วรองพื้นที่คุณใช้เป็นแบบไหน มาดู :)

มาถึงกระทู้ที่ 3 ในซีรีส์ รองพื้น 101 กันแล้ว  

ณ จุดนี้ สาวๆ คงจะมีความโปรในงานผิวขึ้นมาบ้างอะไรบ้าง แต่ใครเพิ่งผ่านมาเห็น ย้อนกลับไปอ่าน รองพื้น 101 ก่อนหน้าก่อนก็ได้นะจ๊ะ

ส่วนกระทู้นี้ เราจะมาพูดถึงสไตล์ของ 'งานผิว (Skin finish)' ต่างๆ ของรองพื้นกันจ้า

งานผิวเนี่ย จริงๆ ก็เป็นความชอบส่วนตั๊วส่วนตัวของแต่ละคนเลยนะ สาวผิวมันอาจจะขอหน้าแมตต์ ให้มันไม่ดูเยิ้ม ดูย้อย  ส่วนสาวผิวแห้ง ก็อาจจะขอความดิวอี้ให้ผิวดูมีความฉ่ำน้ำ สวยสุขภาพดี

ซึ่งฟินนิชผิวแต่ละลุค ก็มาจาก 'รองพื้น' ที่เลือกใช้นี่ละ เลือกผิดชีวิตเปลี่ยนนะจ๊ะยูว์ 555

อ่ะๆ งั้นมาดูกันเลยจ้า

1. Matte finishนึกถึงเวลาทาแป้งแล้วผิวดูแห้งไม่มีความวาว แบบแต่งหน้าสาย ฝ. แน่นๆ นั่นแหละคือ "แมตต์ (Matte)" การปกปิดส่วนมากเป็น Medium - Full coverage ติดทนนาน และปิดรอยต่างๆ ได้ดี

สาวผิวมันส่วนใหญ่มักจะชอบผิวแบบนี้เพราะทำให้ดูหน้าไม่เยิ้ม แต่ในส่วนของสาวหน้าแห้ง จะมี 'ความออโต้แมตต์' โดยธรรมชาติอยู่แล้ว ทำให้ผิวดูแห้งๆ ด้านๆ ไม่ชุ่มชื่น อาจจะดูแมตต์แบบไม่พึงประสงค์ได้

ใครชอบแต่งหน้าแมตต์มากๆ แนะนำว่าใช้ไฮไลท์และคอนทัวร์เข้าช่วย จะทำให้หน้าดูมีมิติมากขึ้นได้จ้า

• Best for : หน้าแมตต์เหมาะกับสาวผิวมัน หรือการออกงานที่ต้องการความแน่น ปัง ติดทนมากๆ และเหมาะกับการถ่ายแบบ ถ่าย Photoshoot ที่ไม่ต้องการให้มีการวาวสะท้อนของแสง  ส่วนสาวหน้าแห้งควรเลี่ยง เพราะจะยิ่งทำให้หน้าดูแห้ง แคร๊ก แตก ง่ายกว่าเดิม!!!

• How to do 'Matte' skin finish : สาวผิวมัน ใช้ Primer คุมมันลงก่อนลงรองพื้น ตามด้วยรองพื้นคุมมัน ใครหน้ามันมากสามารถตบท้ายด้วยแป้ง กดทับลงไปด้วยพัฟบนผิวอีกรอบ รับรอง "หน้าแมตต์" สมใจ!  

ส่วนสาวผิวแห้ง ไม่แนะนำรองพื้นแบบแมตต์ แต่ถ้าอยากแมตต์บ้างก็ใช้แป้งกดๆ ลดไปเฉพาะจุดก็พอจ้า

2. Satin finishซาติน (Satin) คืองานผิวตรงกลางระหว่าง Matte กับ Sheer  ผิวประมาณจะวาวก็ไม่วาว แต่ก็ไม่แมตต์ซะทีเดียว มีความผิวสะท้อนนิดๆ แต่ไม่วาวจนดูฉ่ำน้ำ ดูเหมือนกับว่าแอบปัดแป้งมาบางๆ เหมือนผิวคนจริงแต่แมตต์กว่า ให้ลุคดูเบาบางเป็นธรรมชาติสุดๆ

การปกปิดของรองพื้น Satin finish ส่วนมากจะอยู่ที่ Light - Medium coverage

• Best for : เหมาะกับสาวๆ แทบทุกผิว ยกเว้นสาวผิวมัน เพราะเมื่อไหร่ที่หน้าปล่อยน้ำมันออกมาก็จะดูเยิ้มไว ข้ามไปผิวดิวอี้ได้ง่ายม๊ากก

• How to do 'Satin' skin finish : ลง Primer คุมมันและรองพื้นตามปกติ แต่เลเยอร์สุดท้ายใช้แปรงหัวพุ่มกลมๆ ปัดแป้งวนลงไปเบาๆ พอให้ซับความมันวาวออก ก็จะได้ Satin skin finish อย่างที่ต้องการ :)

3. Sheer finishหลายคนเคยได้ยินคำนี้มาจากชื่อรุ่นรองพื้น อย่างดังๆ ก็ Nars Sheer Glow  

ส่วนเจ้าความ "เชียร์ (Sheer)" เนี่ย ถ้าให้อธิบายก็คือ งานผิวที่เหมือน 'ผิวคนจริงๆ' ผิวที่มีความวาวเล็กน้อยตามธรรมชาติ ไม่ได้มีการปกปิดอะไรมาก เอาว่าถ้าซูมใกล้ๆ ก็จะยังเห็น Texture ของผิวจริงอยู่ได้อย่างชัดเจน

เห็นได้ชัดก็พวกนางแบบบน Runway ที่มีลุคผิวสุดๆ เหมือนผิวเปลือย หรือที่เรียกว่า Make up no make up กันจ้า

• Best for : เหมาะกับสาวๆ ทุกสภาพผิวเลย  งานผิว Sheer แบบนี้ดีตรงที่ดูธรรมชาติประดุจว่าผิวดีนี้แม่ให้มา และจะไม่ค่อยเกิดอาการ แคร๊ก แตก เป็นคราบด้วยน้า  แต่สาวๆ ที่รอยสิวเยอะมากๆ อาจจะไม่ค่อยเลิฟงานผิวเชียร์กันเท่าไหร่ เพราะการปกปิดไม่ค่อยเยอะจ้า

• How to do 'Satin' skin finish : ถ้าสาวๆ เลือก Primer/รองพื้น ที่เหมาะกับสภาพผิวตัวเองแล้ว ลงแค่แบบบางๆ ด้วยการใช้แปรงหรือฟองน้ำไข่ ก็จะได้ผิวที่ดู Sheer แบบอัตโนมัติเลย แต่ใครมีรอยแดง รอยสิวเยอะ อยากจะผิว Sheer ให้ใช้รองพื้น Light - Medium Coverage ลงบางๆ แล้วใช้การปกปิดด้วย Concealer เฉพาะจุดเอา ก็จะทำให้ดูธรรมชาติมากขึ้น และยังได้ลุค Sheer อยู่

4. Dewy, Glow, Luminous, Radiantงานผิวสุดท้าย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าฮิตขนาดไหนในช่วงปีที่ผ่านมานี้ กับ "ผิวดิวอี้" หรือที่สาวๆ เรียกกันว่า ผิวฉ่ำ ผิวโกลว นั่นเองจ้า

ผิวดิวอี้ก็คือผิวที่ดูมีความแวววาว แสงตกกระทบแล้วก็มีการอิ๊อ๊ะจิ๊จ๊ะ สะท้อนแสง ดูว่าเป็นผิวฉ่ำสวยสุขภาพดี นอนพอ ดื่มน้ำเยอะ

ถ้าจะแยกให้เห็นภาพชัด ก็ขอแยกเป็นดิวอี้สาย ฝ. ที่จะเป็นงานโกลวจากการฟาด Highlight วาวๆ ลงไป หรือถ้าสายเกา/สายญี่ปุ่นก็จะเป็นผิวที่ดูฉ่ำน้ำมากๆ จากการใช้น้ำตบ ลง Mist หรือแม้กระทั่งใช้ Oil กันเลยทีเดียว หรือสายไทยก็คือหน้าวาวหนังปลาทูนั่นเอ๊ง 555

• Best for : สาวผิวแห้ง เหมาะกับผิวดิวอี้เป็นที่สุด เพราะจะช่วยให้ผิวที่ดูแมตต์ แห้ง ขาดน้ำ ดูสวยฉ่ำอิ่มน้ำ สุขภาพดีจ้า 

• How to do 'Dewy' skin finish : สาวหน้ามัน ใช้ Primer คุมมัน ลงแป้ง แต่งหน้าตามปกติ แต่ตบท้ายด้วยการฟาด Highlight แบบมีชิมเมอร์ลงไปเลยหน่อย ปัดลงไปตามสันจมูก โหนกแก้ม หน้าผาก จุดกระทบแสงตั่งต่างแบบไม่เยอะมาก ให้มันพอโกลว โนเยิ้ม โนละลาย

ส่วนสาวหน้าแห้ง ลง Moisturizer บำรุงให้เยอะๆ ตบน้ำตบเข้าไป หรืออาจลง Oil ก่อนแต่งหน้าเผื่อให้ผิวดูฉ่ำจริงจากข้างใน จากนั้นใช้ Primer ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นผิว ช่วยให้เมคอัพติดทน แล้วลงรองพื้นเนื้อค่อนข้างเหลวลงไป ตบท้ายด้วยปัดไฮไลท์ หรือจะฉีดสเปรย์ ฉีดออยล์ ก็ตามสะดวกจ้า

แล้วสาวๆ ล่ะ? รู้มั้ยว่ารองพื้นที่ตัวเองใช้อยู่ทุกวันนี้ เป็น 'งานผิว' แบบไหน?  

ใครมีรูป แปะรูปมาทายกันก็ได้น้าาา

:D