[REVIEW] ✿ น้ำหอมที่ชอบใช้ช่วงนี้ค่ะ ✿

สวัสดีค่าเพื่อนๆ ชาวจีบันนน ... นุ้งหน่อยมาโล้วววววห่างหายไปนานมากเลยยย เนื่องจากงานยุ่งมาก ไม่ค่อยมีเวลามาเขียนรีวิวตั่งต่างๆ ให้เพื่อนๆ ชมกันเลยแต่พอดีว่าเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาเพิ่งมีเวลาเคลียร์โต๊ะเครื่องแป้ง แล้วก็แบบว่า นึกๆ อยู่ว่าจะทำกระทู้รีวิว อะไรดี 5555เอาภาพมาให้ชมก่อนน ... ว่าจัดแล้วจริงๆ แต่เนี่ยมันจะเรียบร้อยอยู่ได้กี่วันดีน๊า 55555

เลยเริ่มจัดกลุ่มของมารีวิวให้ชมกัน เริ่มจากกลุ่มของน้ำหอมกันเลยดีกว่าค่า .... อันนี้เป็นน้ำหอมที่ใช้ช่วงนี้นะคะจริงๆ มีที่หมดๆ ไปแล้วแต่ขี้เกียจไปขุดมาถ่าย 5555 มาดูภาพกันก่อนเลยจย้า

เรามาเริ่มที่ ขวดใหญ่ ก่อนละกันเนอะ จริงๆ ทุกขวดที่เอามารีวิว คือที่เราชอบทั้งหมดเลยค่ะโดยจะมีทั้ง EDT และ EDP เลยนะคะ ซึ่งจะขออธิบายก่อนว่า มันแตกต่างกันยังไงEDP = Eau de Parfum/Eau de Perfume คือนํ้าหอมที่มีส่วนผสมของนํ้ามันหอม ในสัดส่วนที่ 15-18 %

 ส่วนใหญ่ที่ขายกันก็จะเป็นประเภทนี้แหละค่ะ คงความหอมได้นาน 4 ชม.แต่บางรุ่นบางยี่ห้อจะติดได้นานกว่า 6 ชม.ขึ้นไป กลิ่นฉุนหน่อยเวลาฉีดตอนแรกๆ ค่ะEDT = Eau de Toiletteคือนํ้าหอม ที่มีส่วนผสมของนํ้ามันหอม ในสัดส่วนที่ 4-8 %

 ราคาจะถูกกว่า Eau de Parfum ค่ะ คงความหอมได้นาน 3-4 ชม.ในบ้านเราส่วนใหญ่จะเป็นตัวนี้ กลิ่นจะหอมอ่อนๆ บางเบากว่าค่ะ*Remark : ความติดทนนานของน้ำหอมแต่ละประเภทตามที่บอกมานี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับผิว และอุณหภูมิในร่างกายของแต่ละคนด้วยนะคะเริ่มจากขวดแรก Issey Miyake L'Eau d'Issey Florale Eau de Toilette Spray

Top notes: mandarin, rose petals

 Middle notes: lily

 Base notes: white woodกลิ่นแรกจะเป็นส้มแมนดาริน แล้วก็ตามด้วยกลิ่นกุหลาบ ซึ่งจะหอมหวานมากกก ซึ่งตอนแรกเคยไปลองใช้ของเพื่อน แล้วชอบมากกกก ก็เลยซื้อตามเพื่อนซึ่งตอนนั้นได้มาจากร้านขายน้ำหอมในเน็ตเอามา sale ราคาแค่ 1,700 เองมั้งง เช๊คแล้วนะของแท้ชัวร์ 555555ถูกมากใช้มาเป็นปีๆ ละ ยังไม่หมดซักที  หน่อยชอบฉีดวันที่อากาศร้อนๆ จะมีความสดชื่นๆ ฉีดไว้ประมาณ 4-5 ชม. ก็ยังได้กลิ่นอ่อนๆ อยู่นะคะถัดไปค่ะ คือ Chloe by Chloe Eau De Parfum 75ml Spray

Top notes: pink peony, freesia and lychee

 Middle notes: magnolia flower, lily of the valley and rose

 Base notes: cedar wood, amber and honeyหรืออีกชื่อว่า โคลเอ้ โบว์ครีม ซึ่งเป็นน้ำหอมที่เค้าปลื้มมากกกก ชอบมากกกก เชื่อว่าสาวๆ หลายคนต้องมีติดโต๊ะเครื่องแป้งแน่นอน ซึ่งเป็นน้ำหอมที่กลิ่นแบบผู้หญิ๊งงงงง ผู้หญิงงงง มันหอมละมุนๆ ลูกคุณหนูๆ หน่อย แต่แฝงความเซ็กซี่ไว้ด้วย ซึ่งแฟนเราชอบกลิ่นนี้มาก ถึงกับขนาดขโมยเอาไปฉีดประจำเลย 5555ใช้บ่อยมาก หน่อยซื้อมาจากร้านบิวเทรียม ที่สยามวันนั้นมีงานเซลล์ เค้าเอามาลดราคาเหลือ 2,500 ถูกมากแกร๊!! คว้าไว้แทบไม่ทัน เพราะเช็คราคาจาก Duty Free แล้วยังแพงกว่านี้เลย พอทีนี้ให้ไปซื้อราคาเต็มจะกลัวมากก แพงไปไม่กล้าซื้อ 5555แต่เมื่อเดือนก่อนนู้นไปญี่ปุ่นมา หน่อยไปช้อปที่ตึกม่วง เลยสอยมาอีกขวดนึงได้มาประมาณ 2,800 บาทก็เลยชื่นใจมีไว้ตุนสต๊อคแล้ว แต่กลิ่นนี้ก็จะแอบ Mass นิดนึงเนอะ เพราะคนใช้เยอะ เดินผ่านใครก็จะได้กลิ่นนี้บ่อยๆ อิอิ

ตัวที่ 3 จย้า ... ตัวนี้เป็น ตัวใหม่ที่เพิ่งสอยมากแบบสดๆ ร้อนๆ ไม่นาน ไม่เกินเดือนเลยค่ะCute Press Cara In Wilderness Eau De Toilette 60ml

Top notes: green apple , star anise

 Middle notes: orchid , heliotrope

 Base notes: musk and amberเพิ่งเห็นน้องญาญ่าโฆษณาในทีวี ไปเลยแอบลองดมมา ซึ่งจริงๆ มันจะมี 3 กลิ่นค่ะ แต่หน่อยเลือกกลิ่นนี้มาค่ะเป็นกลิ่นที่หอมแบบหญิงสาวที่มีความลึกลับ มีเสน่ห์ ดูมีความมั่นใจดีซึ่งตัวนี้มันเป็น EDT ที่เข้มข้นมาก เพราะว่า ติดทนอยู่นะคะ ฉีดตั้งแต่เช้า บ่ายๆ เย็นๆ แล้วก็ยังได้กลิ่น Base notes หอมเย็นๆ ติดอยู่ ช่วงนี้ก็หยิบมาฉีดบ่อยๆ นิดนึง แถมว่างๆ ก็จะเอาข้อมือตัวเองมาดมแบบโรคจิตนิสนุง ฮ่าๆๆๆๆซึ่งใน Shop เค้าลดราคาเหลือ 399 บาท! แกร๊มันถูกมากกก ไปสอยกันเถอะค่ะซิส   

ต่อไปเป็นน้ำหอมน้องจิ๋วค่ะ ต้องบอกอย่างนึงว่าหน่อยเป็นคนที่ชอบสะสมน้ำหอมจิ๋วๆ ไปเรื่อยๆ คือ ใช้แล้วก็เก็บขวดไว้สะสมค่ะ ซึ่งตอนนี้ที่ใช้ประจำๆ เวลาพกไป ตจว. หรือติดกระเป๋าไว้ จะได้ไม่ต้องพกขวดใหญ่ๆ แบกไปให้มันหนักค่ะ

มาดูตัวแรกก่อนค่ะ JILL STUART Crystal Bloom Eternal Dazzle 4ml

Top notes: Bergamot, Lemon, Black current, Apple

 Middle notes: Magnolia, Mimosa

 Base notes: Ilang-ilang , Osmanthusเป็นกลิ่นพวกดอกไม้ เบอกาม็อต เลมอน แอปเปิ้ล ผสมกันซึ่งขอบอกว่าซื้อมาเพราะว่าขวดล้วนๆ เลยค่ะ ขวดมันสวยมากกก ออกมาเมื่อปี 2016 ซึ่งถ้าเป็นไซส์ใหญ่จะมีคริสตัล Swarovski ประดับที่ขวดด้วยแต่ขอบอกว่ากลิ่นมันฉุนมาก คือจองเอาจากกรุ๊ปพรีออเดอร์เครื่องสำอางมา เพราะเห็นขวดสวย แต่ไม่เคยดมกลิ่นมาก่อนน แอบฉุนนิดนึง แง๊ๆ แต่มันราคาแค่ 300 กว่าบาทเองนานๆ จะหยิบมาใช้สักทีนึง โดยเป็นแบบใช้แต้มเอานะคะหยดแค่นิดเดียว กลิ่นก็หอมจนฉุนเลยแหล่ะ ฉีดตอนแรกๆ เข้มมาก แต่พอบ่ายๆ กลิ่นจะอ่อนลง จะหอมพอดีจ้ะพี่จ๋า

ขวดถัดปายเลยยยย Basil & Neroli Cologne ของ Jo Malone ขนาด 9ml ค่ะ

Top notes: BasilMiddle notes : NeroliBase notes : White Muskเป็นหัวฉีดสเปรย์เด้อจ้า ขวดนี้ได้มาจากกล่อง ของ vogue beauty box สั่งซื้อทันกับเค้าแค่กล่องเดียวนี่แหล่ะ นอกนั้นก็ไม่เคยกดได้อีกเลย T_Tจุดเด่นของกลิ่นนี้จะอยู่ที่กลิ่นอายความเป็นบริทิชซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Jo Malone London นี่เองค่ะโดยมีกลิ่นหอมของใบ Basil และกลิ่นฟลอรัลของ Neroli ค่ะ ซึ่งจริงๆ จะบอกว่ากลิ่นหอมแบบเป็นเอกลักษณ์มาก ไม่เหมือนใครเลย จริงๆ ดมแล้วจะรู้สึกถึงสาวเริ่ดๆ เชิ่ดๆ สไตล์บริทิชเกิร์ลจริงๆ เลยยูว์ฉีดตอนแรกอาจจะฉุนนะคะ แต่พอมันโดนเหงื่อ โดนอุณหภูมิในร่างกายเราแล้วกลิ่นมันจะเบาลง แล้วหอมนั่งดมข้อมือตัวเองทั้งวันไม่รู้ตัวจริงๆ 5555

สุดท้ายแล้ววววว เป็น Valentino Valentina Eau De Parfum ขนาด 4ml. ค่ะ

Top notes: bergamot, tuberHeart notes: jasmine, african orange flower, tuberose, wild strawberryBase notes: virginia cedar, amber, vanilleเป็นแบบแต้มนาจา ขวดนี้ต้องบอกว่าได้มาฟรีค่ะ เพราะพี่หัวหน้าของเราซื้อน้ำหอมของ Valentino ไซส์จริง จาก King Power แล้วเค้าแถมน้องจิ๋วขวดนี้มา พี่หัวหน้าก็เลยยขวดนี้ให้เราค่ะ ชอบมากเพราะขวดหรูหรา ไฮโซมาก ^^ซึ่งขวดนี้ขอบอกว่าหอมแบบเรียบๆ แต่แฝงความหรูหราแบบพอดีๆ ไม่ดุดัน ไม่ฉุนจนเกินไป  ทำให้นานๆ ทีถึงจะหยิบมาให้ซักทีเพราะมันหอมจนกลัวหมดค่ะซิสสส โฮะๆๆๆๆ

เอาหล่ะค่าหมดแล้วววววว กระทู้จะยาววว เกินไปแล้วววว หวังว่าเพื่อนๆ จะชอบกันนะคะใครมีน้ำหอมกลิ่นไหนที่ชอบ แล้วอยากแนะนำ ก็บอกมาได้เลยนะคะ เดี๋ยวจะไปตำมาอีก 5555555สำหรับวันนี้สวัสดีค่า บะบุยยยย xoxo