12 ไอเท็มขจัดคราบ ตัวเด็ด ที่ต้องมีติดบ้าน

12 5

สาวๆ คงเคยเจอกับปัญหารอยเปื้อนที่เป็นคราบฝังแน่นลงบนเสื้อผ้า อย่างคราบเลือดประจำเดือน หรือคราบรองพื้น! ที่เกิดขึ้นได้ง่ายและเห็นได้ชัดบนผ้าสีอ่อน แถมเสื้อผ้าบางชุดซื้อมาราคาไม่ใช่ถูกๆ จะให้ทิ้งง่ายๆ ก็ตัดใจไม่ลง วันนี้เราเลยจะมาบอกวิธีทำความสะอาดคราบเปื้อนแบบที่ได้ผลดี ด้วยไอเท็มที่หาซื้อได้ง่ายกันค่ะ

อุปกรณ์ทำความสะอาดคราบแบบเบื้องต้นหลักๆ มีอยู่ทั้งหมด 12 อย่างด้วยกัน เจอคราบเปื้อนที่ไหนรับรองจัดการได้หมด

1. ผงซักฟอกอุปกรณ์เบสิคที่ทุกบ้านต้องมี! ผงซักฟอกมีทั้งแบบผง และแบบน้ำ ซึ่งทริคในการใช้ผงซักฝอกขจัดคราบของแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน ของเราจะเลือกใช้ผงซักฟอกแบบผง สำหรับซักเครื่อง และแบบน้ำ สำหรับซักมือ เพราะแบบน้ำทำละลายได้ดีกว่าแบบผง แถมใช้แล้วมือจะไม่ค่อยแห้ง (คิดไปเองล้วนๆ จริงๆ มันก็ไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่) ลองเลือกให้ตรงตามจุดประสงค์การใช้งานดีกว่าค่ะ

2. น้ำยาซักผ้าขาว น้ำยาซักผ้าขาวส่วนประกอบหลักคือ “โซเดียมไฮโปคลอไรท์” มีฤทธิ์ช่วยให้ผ้าขาว ซึ่งระหว่างใช้งานในแต่ละครั้งสาวๆ ต้องไม่ลืมที่จะใส่ถุงมือด้วยนะ เพราะว่าโซเดียมไฮโปคลอไรท์มีฤทธิ์ในการกัดสูงมาก แน่นอนว่าน้ำยาล้างห้องน้ำก็มีส่วนประกอบของสารตัวนี้เช่นเดียวกัน ดังนั้นควรใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ และอ่านฉลากทุกครั้งก่อนใช้งานด้วยนะ

3. ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์สารประกอบบริสุทธิ์ที่มีฤทธิ์ในการฟอกขาว รวมถึงใช้ขจัดเชื้อโรคได้อีกด้วย หากต้องการใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ขจัดคราบ ควรใช้แบบระมัดระวัง เพราะถ้าใช้ในปริมาณมากเกินไปนอกจากจะฟอกเสื้อผ้าให้ขาว ขจัดคราบออกได้แล้ว ยังจะฟอกผิวหนังเราออกไปด้วยเนี่ยแหละะ บรึ๊ยยยย น่ากลัวมากก

4. น้ำยาล้างจานนอกจากจะใช้ทำความสะอาดภาชนะต่างๆ ให้ลื่นปรื้ดๆ แล้ว สารประกอบที่ทำให้น้ำยาล้างจานของเราขจัดคราบออกไปได้อย่างดี ก็คือสารที่ช่วยทำความสะอาดคราบไขมัน ดังนั้นการนำน้ำยาล้างจานมาช่วยขจัดคราบก็ได้ผลดีเหมือนกัน แถมน้ำยาล้างจานสมัยนี้บางยี่ห้อจะแอบเก๋ตรงที่ผสมอะโลเวร่าทำให้มือไม่แห้งด้วยนะเออ

สำหรับสาวๆ ที่เกิดทำอาหารตกลงไปบนผ้า แล้วคราบมันติดลงไปเรียบร้อยแล้ว สามารถแก้ไขง่ายๆโดยการป้ายน้ำยาล้างจานลงไปแล้วทิ้งไว้สักครู่ แล้วซักออกด้วยน้ำเปล่าเบาๆ ก่อนนำเข้าซักตามปกติ

5. เบคกิ้งโซดาหรือเรียกอีกชื่อนึงว่า Sodium bicarbonate นั่นเอง ! เบคกิ้งโซดาจะมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ ใช้ผสมอาหารใช้ชื่อของ “ผงฟู” นั่นเองงง

คราบเหลืองที่มักจะเกิดขึ้นบนผ้าสีอ่อนหลังจากใช้ไปนานๆ สามารถทำให้เบาบางลงได้ด้วยการผสมเบคกิ้งโซดา 1 ส่วนต่อน้ำเย็น 2 ส่วน จากนั้นใช้ผ้าสะอาด ชุบหมาดๆ แล้วซับลงบนคราบ ทิ้งไว้ 20-30 นาที หลังจากนั้นซับออกด้วยผ้าชุบน้ำเย็นเพื่อล้างคราบออกให้เกลี้ยง และซับตามด้วยผ้าแห้ง ก่อนซักผ้าตามปกติ

อีกหนึ่งวิธีถ้าผ้ามีเชื้อราจากการเก็บไว้นาน เราสามารถนำผ้าลงไปแช่น้ำ โรยเบคกิ้งโซดาผสมกับน้ำส้มสายชูทิ้งไว้สักพัก จากนั้นล้างออกด้วยน้ำเปล่า แล้วรอชมผลลัพธ์ได้เลย

สำหรับสาวๆสาย organic บางคนอาจจะเลือกที่จะใช้เบคกิ้งโซดาซักผ้าแทนผงซักฟอก เพราะเชื่อว่าเป็นวิธีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ส่วนผสมที่ร้ายแรงในผงซักฟอกอาจเป็นอันตรายต่อโลกและแหล่งน้ำ และการผสมเบคกิ้งโซดาครึ่งถ้วยกับน้ำเปล่าแช่ผ้า ก็เป็นการใช้แทนน้ำยาปรับผ้านุ่มได้และยังช่วยปรับค่า pH ในน้ำซักผ้าให้สมดุลด้วย

6. น้ำส้มสายชู มีส่วนประกอบของ "กรด" แต่กรดชนิดนี้ไม่ได้แรงมากนัก เพราะมาจากการหมัก โดยส่วนประกอบหลักของน้ำส้มสายชูก็คือ กรดน้ำส้ม หรือเรียกอีกชื่อว่า กรดอะซิติก ที่มีส่วนช่วยขจัดคราบเหมือนกันแค่ใส่น้ำส้มสายชูเพียงปริมาณครึ่งถ้วยลงไประหว่างการซักผ้าแต่ละครั้ง เชื่อหรือไม่ว่าได้ผลลัพธ์ที่หลากหลายมากๆ นอกจากช่วยขจัดคราบเหลืองบนผ้าสีอ่อน ช่วยถนอมผ้าสีไม่ให้ซีดเร็วแล้ว ยังช่วยทำให้ผ้านุ่มขึ้น ช่วยทำความสะอาดสารเคมีที่ติดมากับเสื้อผ้า และที่สำคัญยังช่วยขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ เช่นกลิ่นบุหรี่ได้ด้วยนะ

7. แอลกอฮอลล์ แอลกอฮอลล์ที่ว่านี้ไม่ใช่เหล้าน้าาาาา แต่เป็นแอลกอฮอลล์ล้างแผลน้ำสีฟ้าๆ ต่างหากล่ะ ที่จะมาช่วยเราขจัดคราบในวันนี้ โดยเฉพาะคราบของสาวๆ ที่ซุ่มซ่าม นั่นก็คือคราบปากกานั่นเอง ~รอบเปื้อนจากปากกาหมึกซึม หรือหมึกจาก Calligraphy ไม่แปลกเลยที่จะมีพลาดกันบ้าง วิธีแก้นั้นง่ายแสนง่าย แค่ใช้ผ้าขนหนูสะอาดสีขาวชุบด้วยแอลกอฮอล์ แล้วนำไปถูบริเวณที่เป็นคราบ หลังจากนั้นให้กลับด้านของเสื้อผ้า ที่มีคราบ แล้วก็ถูซ้ำจนไม่สามารถจะลบออกได้อีกแล้ว จากนั้นก็เอาข้าเครื่องซักผ้าแล้วหยิบออกไปตากแดดตามปกติได้เลยค่ะ

8. น้ำยาล้างห้องน้ำ เพราะว่าน้ำยาล้างห้องน้ำประกอบด้วยสารเดียวกับน้ำยาซักผ้าขาว ดังน้ันการเลือกใช้น้ำยาล้างห้องน้ำในอัตราส่วนที่เหมาะสม ก็สามารถช่วยขจัดคราบบนเสื้อผ้าของเราได้เหมือนกัน สำหรับคราบเหลืองบริเวณปกคอเสื้อ หรือบริเวณรักแร้ สามารถผสมน้ำยาล้างห้องน้ำในปริมาณน้อยๆ แช่ไว้ซักครู่ คอยเช็คและขยี้ออกเบาๆ คราบจะออกได้อย่างดีเลย แต่อย่าลืมใส่ถุงมือนะคะ แล้วก็อย่าแช่นาน เดี๋ยวผ้าจะเป็นรูไปซะก่อน!

9. แอมโมเนียตัวช่วยของเราหลังจากเป็นลมนี่แหละ สามารถช่วยขจัดคราบบนผ้าได้ สำหรับสาวๆ สายศิลปิน ที่เพ้นท์สีน้ำมันหรืออะคริลิคจนเปื้อนเนื้อผ้า ให้ลองผสมแอมโมเนียลงในน้ำอุ่น จากนั้นแช่ผ้าลงไปสักพัก แล้วซักตามปกติ จะช่วยให้สีเจือจางได้ค่ะ โดยแอมโมเนียหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปราคาไม่แพงเลย 10 กว่าบาทเท่านั้นเอง

10. น้ำยาล้างเครื่องสำอางสำหรับสาวๆ ที่แต่งหน้าเป็นชีวิตจิตใจ ต้องมีกันบ้างแหละที่เผลอเลอะคราบรองพื้น หรือว่าคราบลิปสติกกันบ้าง วิธีแก้ง่ายๆ ก็ให้ลองเทน้ำยาล้างเครื่องสำอางยี่ห้ออะไรก็ได้ที่เราใช้กันประจำลงบนสำลี หรือผ้าสะอาด แล้วซับๆ หรือเช็ดเบาๆ ลงบนบริเวณที่เลอะ ให้รอยออกหมดแล้วค่อยนำไปซักได้ตามปกติ

11. เกลือ ไม่น่าเชื่อล่ะสิว่าเกลือจะช่วยขจัดคราบได้ด้วย แต่ทำได้จริงๆ นะ โดยเฉพาะคราบที่ฝังแน่น อย่างคราบเลือดประจำเดือนบนเตียง หรือคราบน้ำลายบนหมอน ก็ทำความสะอาดออกได้ด้วยการผสมเกลือกับน้ำยาล้างจาน 1 ช้อนโต๊ะ กับน้ำเย็น 2 ถ้วยตวง คนให้เกิดฟอง ใช้ผ้าสะอาดชุบส่วนแล้วซับลงบนคราบหมาดๆ ขัดเบา ๆ ด้วยแปรงสีฟันที่ไม่ใช้แล้ว จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำอุณหภูมิห้องซับซ้ำๆ จนกว่าคราบจะออกหมด และใช้ผ้าแห้งซับอีกครั้งจนกว่าที่นอนจะสะอาด แค่นี้ก็สะอาดขึ้นระดับนึงแล้วล่ะ 

12. ผ้าสะอาดไอเท็มสุดท้ายแต่โผล่มาในทุกขั้นตอนการทำความสะอาดเลย การเลือกผ้าที่จะทำความสะอาดนั้นก็เลือกได้ไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่าย เพราะผ้าที่จะนำมาทำความสะอาดนั้นควรจะอมน้ำอยู่บ้าง เพื่อให้น้ำยาที่เราผสมติดลงไปบนเนื้อผ้าให้ได้คุณสมบัติครบถ้วนตามที่ต้องการ

ผ้าที่เราแนะนำให้เลือกใช้สำหรับการทำความสะอาดสุดๆ เลยก็คือผ้าขนหนู ซึ่งมีราคาตั้งแต่ 10 บาทเป็นต้นไป และหลังใช้งานทุกครั้งอย่าลืมซักแล้วตากให้แห้งด้วยล่ะ เพราะว่าไม่งั้นจะเหม็นและอับมากๆ

จบไปแล้วสำหรับ 12 ไอเท็มและวิธีการขจัดคราบสำหรับสาวๆ แน่นอนว่าแต่ละคนย่อมมีวิธีการทำความสะอาดเป็นของตัวเอง ตามแต่ละสไตล์ของแต่ละคน ของใครเป็นอย่างไรบ้าง มาแชร์กันได้เลยยยนะ <3  


fernkul

fernkul

สวัสดีค่า เฟินนะคะ เป็นคนผิวผสมค่อนไปทางแห้ง ผิวลอกง่ายมากๆ ชอบเขียนรีวิวในทวิตเตอร์ นานๆจะมาจีบันทีนึง ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนเลยค่า

FULL PROFILE