เปลี่ยนผิวแห้งแตกให้กลายเป็นผิวสุขภาพดี ด้วยสารสควาเลนในครีมปลาฉลาม

ฮายยย เพื่อนสาวชาวผิวหน้าแห้งทุกคน ขอเปิดตัวมาแบบเฟรนด์ๆกันนิสนึง วันนี้เราจะมารีวิวครีมที่มีสารสควาเลน ซึ่งเราคิดว่าหลายๆคนอาจจะไม่คุ้นเคยและบางคนอาจจะยังไม่รู้ว่ามันดียังไง (เหมือนเราตอนแรกนั่นแหละ) และ ทำไมสาวผิวแห้งต้องใช้กัน?พื้นฐานเราเป็นคนผิวผสม กึ่งมันกึ่งแห้ง แต่จะติดแห้งมากกว่าในบริเวณหน้าผากและแก้ม ทำให้สองจุดนี้มักจะมีอาการของผิวแห้งประหนึ่งดินหน้าแล้งของทุ่งกุลาร้องไห้ และยากมากที่จะแต่งหน้าให้ติดทน อย่าว่าแต่แป้งพัฟเลย แค่ลงรองพื้นนี่ก็ต้องเกลี่ยซ้ำๆสลับกับฉีดน้ำแร่เพื่อให้มันติดทนกว่าเดิมก็นับว่าเป็นวิธีที่ลำบากลำบน และต้องใช้ความอดทนพอสมควร (เบะปากมองบน) ทีนี้ เราก็เลยต้องทำการค้นหาว่า จะมีครีมใดน้าาาาา ที่จะช่วยให้ผิวหน้าชั้นเต่งตึงสดชื่นเหมือนลูกโป่งอุ้มน้ำอยู่ตลอดเวลาบ้าง และส่วนใหญ่ที่ลุงกู๋(เกิ้ล)แนะนำมาและเพื่อนสาวของเราก็ลงความเห็นกันว่า มันดีดี๊นะเท้ออออ ก็คือ น้ำมันมะกอกฟังไม่ผิดหรอก เท้ออออ น้ำมันมะกอกที่เราใช้ทำอาหารกันเนี่ยแหละอย่างที่รู้กันเนอะ ว่า น้ำมันมะกอกเนี่ย บรรดาสาวๆสายบิวตี้ทั้งหลาย เค้าถือว่ามันเป็นไอเท็มสารพัดประโยชน์ที่กู้ได้ทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งแต่หัวจรดเท้า!!! ใครผิวแห้งแตก หน้าเป็นสิวง่าย หนังหัวกระด้าง บลาๆ ก็ฟาดน้ำมันมะกอกลงไปโล้ด รับรองช่วยได้ชัวร์ เพราะในน้ำมันมะกอกมีสารสำคัญที่จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวอย่าง สควาเลน

อ่านออกเสียงตามน้าาา สะ-ควา-เลน (Squalane)

หลายๆคนรู้ว่า น้ำมันมะกอก มันดีนะ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้ว่า มันดีเพราะมีสารสควาเลน ซึ่งเป็นสารแบบเดียวกับที่พบมากในตับปลาฉลาม และพืชบางชนิด เช่น มะกอก , น้ำมันรำข้าว , จมูกข้าวสาลี สควาเลนเป็นสารที่มีความใกล้เคียงกับน้ำมันที่อยู่บนผิวหนังของคนเรา มีลักษณะเป็นน้ำมันเหลวใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ซึมเข้าผิวเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ คนญี่ปุ่นนิยมใช้น้ำมันสควาเลนบำรุงผิวเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ลดปัญหาผิวแห้งกร้านและริ้วรอยก่อนวัย ช่วยป้องกันปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ ผิวหน้าหมองคล้ำ รวมไปถึงปัญหาผิวขาดน้ำ ผิวแห้งแตกมากถึงมากที่สุด! สควาเลนก็ช่วยท่านได้

เราก็เลยเลือกซื้อขวดนี้มาลองใช้ก่อนเลย เป็นน้ำมันมะกอกที่วางขายตามในห้างทั่วไปยี่ห้อ Bertolli

จริงๆมันมีน้ำมันมะกอกสำหรับทาผิวโดยเฉพาะ ขายในร้านขายยาและเครื่องสำอางค์แต่จะหาน้ำมันมะกอกที่บริสุทธิ์จริงๆนั้นยากค่ะ เราเลยเลือกมาเป็นน้ำมันมะกอกทำอาหารแทนและต้องเป็นน้ำมันมะกอกประเภท Extra olive virgin oil ที่บริสุทธิ์แท้ 100% จึงจะดีที่สุด ซึ่งตัวนี้เราเคยเห็นมีคนรีวิวไว้ด้วย เลยไปตำมาใช้ตามจ้า

วิธีใช้ของเราคือ ใช้ปริมาณน้อยๆค่ะ ย้ำนะคะ เพื่อนสาวว่า น้อยๆ เพราะมันเป็นน้ำมันมีความมันมาก ใช้มากไปเดี๋ยวหน้าจะมันย่องเป็นกระทะร้อนกันพอดี ใช้นวดๆหน้าแทนครีมปกติหลังล้างหน้าเสร็จซึ่งสัมผัสได้เลยว่า มันชุ่มชื้นขึ้นมากก ผิวหน้านุ่มขึ้นเว่อร์!!! การันตีว่า มันดีดี๊ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อเสียด้วยความที่มันเป็นน้ำมันนั่นแหละค่ะ ถ้าใช้มากไปก็จะเกิดอุดตันได้ และหน้าก็จะมันมากไป หลังจากใช้ไปสองสามวัน ก็ต้องโบกมือลาให้มันไปอยู่ในครัวแทนเพราะทนกลิ่นและสารพัดความใช้ยากของมันไม่ไหวจริงๆ

ทีนี้เอาไงดีล่ะ??? จะให้ทนกลับไปหน้าแห้งแตกก็ไม่ไหว เพราะพอหน้ามันดีขึ้น ก็ติดใจไปแล้ว เพราะฉะนั้น ภารกิจตามหาสควาเลนมากู้หน้าจึงเกิดขึ้น!!!

และสิ่งที่ได้มาก็คือ สิ่งนี้ค่ะ  Snowgirl Squalane Serum Cream จาก 7-11 หน้าปากซอย

ยอมรับว่า เห็นยี่ห้อนี้มานาน แต่ไม่เคยลองใช้กระทั่งมาสนใจเจ้าสารสควาเลนนี้ เจอแล้วจะรออะไรล้าาา คว้ามาลองด่วนๆเลย

เนื้อของครีมปลาฉลามนี้จะไม่ข้นหรือเหลวจนเกินไปค่ะ ชอบตรงซึมเข้าผิวเร็วแต่ทิ้งความชุ่มชื้นไว้บนผิว

พอเทียบกับน้ำมันมะกอกจะเห็นความแตกต่างเลยค่า ในรูปอาจจะไม่ชัด

แต่จะเห็นว่า ถึงจะพยายามใช้น้ำมันมะกอกในปริมาณที่น้อยเท่าไหร่

แต่เวลาทาผิวก็ยังมันย่องอยู่ดี (ก็น้ำมันนี่เนอะ) แต่ถึงงั้นก็เถอะ ถ้าทนความมันและกลิ่นของมันได้

ใช้แล้วผิวก็นุ่มไม่แพ้ครีมสโนว์เกิร์ลนะเออ

ทีนี้ก็มาดูความเปลี่ยนแปลงกันว่า สควาเลนนั้นช่วยผิวเราได้อย่างไรบ้าง

ช่วงก่อนใช้สังเกตว่า หน้าจะดูแห้งๆ เหมือนผิวไม่ค่อยแข็งแรง แถมสีผิวก็ไม่สม่ำเสมอ แต่พอใช้มาเรื่อยๆประมาณหนึ่งเดือน หน้าก็ดูเหมือนจะใสขึ้น ดูสุขภาพดีขึ้น จนครบสองเดือน บอกเลยว่าสามารถออกไปไหนแบบหน้าสดได้สบายๆ เพราะทั้งริ้วรอยและสีผิว รวมไปถึงสุขภาพผิวดีขึ้นมากทั้งๆที่ใช้แค่สโนว์เกิร์ลอย่างเดียวเอง

(กล้องสดไอโฟนทุกรูป โนแอพน้าาา)

โดยรวมคือ ดีเกินคาดมาก ไม่คิดว่า ครีมตัวนี้จะให้ความชุ่มชื้นได้เทียบเท่าน้ำมันมะกอก แต่ใช้สะดวกกว่า ไม่มันเยิ้ม และเสี่ยงอุดตันน้อยกว่า หักลบกลบหนี้กันแล้ว สาวผิวแห้งแตกคนไหนอยากมีผิวสุขภาพดีแถมผิวยังชุ่มน้ำแต่ไม่กล้าเสี่ยงกับน้ำมันมะกอก เราว่าครีมซองตัวนี้โอเคเลยนะ

อันนี้เราทำเพิ่มเติมโดยใช้เนื้อสำลีเปรียบเทียบจะเห็นว่า สโนว์เกิร์ลซึมได้ดีแม้ไม่ได้เป็นของเหลวเหมือนน้ำมันมะกอกซ้ำเนื้อของสำลี(ตอนที่เราสัมผัส)ยังคงชุ่มชื้นแม้ครีมจะซึมลงไปหมดก็ตาม

หลังจากถูกใจกับผลลัพธ์ของครีมซองปลาฉลามแล้ว ตอนนี้เราเลยซื้อเป็นกระปุกใหญ่มาใช้ล่ะ เพราะใช้ดีขนาดนี้ จะให้ใช้แค่ซองก็คงไม่พอ

ส่วนกระทู้นี้ก็ขอตัวลาก่อนเน้ออออ ไว้เจออะไรดีๆ เราจะมาบอกต่อกันอีกน้าาาา เพื่อนสาววววว บ๊ายบายยยยยยยยย ;D