มหากาพย์สมัครแอร์

20 8

เชื่อว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพที่หลายๆ คนใฝ่ฝัน อาจจะเป็นฝันของใครหลายคนตั้งแต่เด็ก อาจจะเป็นค่านิยม หรือด้วยเหตุผลต่างๆนาๆ แต่ยังไงซะทุกคนล้วนมีเป้าหมายเดียวกัน   เลยอยากทำรีวิวการสมัครแอร์หลายๆสายในช่วงที่ผ่านมา เผื่อจะเป็นประโยชน์เล็กๆน้อยๆให้คนที่มีจุดหมายปลายทางเดียวกันกับเรา

  • Eva ไม่ได้ invitation
  • Thai airways ตกไฟนอล
  • Air China  - medical check
  • Nok Scoot ตกไฟนอล
  • Japan Airlines  ผ่านพรีสกรีน เข้ารอบสัมเดี่ยว รอผลเข้าสัมไฟนอล
เรามีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นแอร์ แต่ไม่เคยรู้เลยว่าแอร์ต้องทำอะไรยังไงบ้าง บวกกับ ไม่เคยรู้เลยว่าการสมัครแอร์จะมีรายละเอียดยิบย่อยเบอร์นี้ ตอนเรียนก้คิดแต่ว่า อ๋อ ก้คงใช้แค่ภาษา สัมภาษ แล้วจบๆไป แต่…… มันไม่ใช่อย่างที่คิด การสมัครแอร์มันมีองค์ประกอบหลายๆอย่างรวมกัน ความมั่นใจ สติ การตอบคำถาม การยิ้มแย้ม บุคลิกภาพ บลาๆๆๆ และ “ดวง” + ความเฮงที่พกไปวันสัมภาษ (อันหลังนี่คือ คหสต 555)

  • การเตรียมตัวด้านภาษา
ด้วยความที่ตัวเองเป็นคนไม่เก่งภาษาอังกฤษ หรือเรียกได้ว่าโง่แกรมม่ามาก ถึงจะจบมออินเตอร์มาก็เถอะ  แต่ยังดีที่เรามีภาษาที่ 3 ไว้ทำมาหากิน 55555555  ด้วยความที่เราอ่อนภาษาอังกฤษ ฉะนั้นการสอบโทอิคให้ได้คะแนน (พอ) สมัครได้นั้นช่างเป็นเรื่องยากสำหรับเราเหลือเกิน

บอกตรงๆว่าสอบโทอิคไปสามรอบ รอบแรก ได้ 565 คะแนน (สมัคร eva ได้) ตอนนั้นการบินไทยเปิดรับสมัครพอดี แต่ต้องมี Toeic 600 up เราเลยตัดสินใจไปซื้อ หนังสือ มานั่งอ่านนั่งฟัง สอบรอบสองได้ 625 เย้! สมัครการบินไทยได้แล้วโว้ยยยยย however, ชีวิตไม่สิ้น ก้ดิ้นกันไป เลยขอให้เพื่อนที่เทพแกรม่ามาสอนนน จนรอบสุดท้ายได้คะแนน 690 ถึงคะแนนจะไม่มากแบบคนอื่นเขา ถึงคะแนนจะยังห่างจากคะแนนเต็มอีก 300 คะแนน แต่อยากบอกว่ามันคือความภูมิใจของคนโง่แกรมม่าแบบเรามาก  ฉะนั้นก้ขอให้เพื่อนๆที่ไม่เก่งแกรมม่า อย่าท้อ ค่อยๆ ฝึก เราทำได้ทุกคนก้ทำได้ !

  • ชุด
สังเกตประเทศอื่นสมัครแอร์ส่วนมากก็เห็นเค้าใส่ชุดสุภาพ แต่ไม่รู้ว่าประเทศไทยเริ่มการตัดสูทสมัครแอร์กันตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่รู้หมือไร่??? เอ้ยย !!  รู้หรือไม่….ว่ามันสร้างความลำบากให้กับเงินในกระเป๋าของคนรุ่นหลังมาก 55555 เราก้เริมจากการถามคนที่รู้จักบ้าง ถามพี่ๆที่สตูดิโอบ้างว่าแบบชุดเค้าตัดกันที่ไหน ส่วนเราไปตัดที่ซอย ละลายทรัพย์  สิ่งที่อยากแนะนำเพื่อนๆ คือการเลือกแบบชุดสีชุดมันเป็นอะไรที่สำคัญมาก !!!  เพราะการที่เราจะไปสัมภาษณ์นั้นก่อนอื่นเราต้องสร้างความมั่นใจให้ตัวเองก่อน รอบแรกเราตัดชุดสีแดง สูทเป็นทรงคอปีน ตอนใส่ไปสัมภาษณ์เราขาดความมั่นใจมาก เพราะรู้สึกใส่แล้วไม่สวย อันนี้จะเป็นข้อเสียต่อการไปสัมนะค่ะ เราเลยตัดสินใจตัดอีกชุดนึง เสียเงินไปอี้ก แต่เพื่อความสบายใจ ก็เลยยอม (ชุดนึงราคา 2200 บาท ร้านนี้ตัดค่อนข้างเร็ว ร้าน long collection 081-923-5873 นะค่ะ เผื่อมีคนสนใจ ค่ะ จริงๆ แถวสยามก้มีเยอะนะค่ะ อย่าง v-sign ราคาอาจจะสูงนิดนึงแต่สูทสวย )

  • ว่าด้วยเรื่องถ่ายรูป
สำหรับการถ่ายรูปสมัครแอร์ก้มีร้านหลายๆร้านให้เลือกเยอะแยะเต็มไปหมด ลองหาดูตามความชอบเลยนะค่ะ ส่วนตัวเรา ถ่ายที่  “ impress studio “  ตรง bts สนามเป้า ถ่ายสวย  ความประทับใจที่มีต่อร้านนนี้คือ พี่เค้าน่ารักมาก ไม่ว่าจะช่างแต่งหน้า พี่ทีมงานก็ใจดี คือเอาจิงๆถ้าเราเป็นทีมงานเราอาจจะรำคาญตัวเองที่เรื่องมาก55555 แต่พี่เขาแบบดีอะ โดยเฉพาะพี่ช่างกล้อง เป็นพี่ที่ไม่ใช่แค่ช่างกล้อง เค้าคอยช่วยดูว่าเราใส่ชุดไหนสวย ปากควรสีอะไร  ตลอดจนเรื่องการเช่าชุด เรื่องการเลือกรูปพี่เขาให้คำปรึกษาเสมอ ตอบเร็ว ถึงสตูที่เค้าจะเป็นสตูเล็กๆ แต่พี่เค้าและทีมงามมีคุณภาพมาก แนะนำเลยค่ะ ปล. เห็นเพื่อนหลายคนไปถ่ายร้านอื่นมาไหล่เอียง หน้าปลอม ไม่โอเคกับราคาที่จ่ายไปเลย (ประหนึ่งได้ค่าโฆษณา55555 )

เบอร์ติดต่อทางร้านเผื่อคนสนใจนะค่ะ 083-853-1690

  • อุปกรณ์ต่างๆ
การสมัครแอร์นั้น ต้องเตรียมตัวหลายๆอย่าง อย่างที่หลายๆคนรู้ว่ากรูมมิ่งการสมัครแอร์ในประเทศไทยนั้นยิ่งกว่าการคัดเลือกนางงาม 5555  บางคนอาจจะไปจ้างช่างแต่ง แต่… จะบอกว่าบางสาย process หลายรอบมาก ดังนั้นการจ้างร้านแต่งหน้านั้นจะละลายทรัพย์พอสมควร. เลยแนะนำเพื่อนๆที่จะเดินสายนี้ควรซื้อกิ๊ฟ เนทใส่ผม สเปรย์ เจลต่างๆ นาๆ เตรียมไว้เลยค่ะ ประหยัดกว่าเยอะ อีกอย่างเราเคยจ้างช่างแต่งหน้าตอนไปสิงคโปรค์แอร์ไลน์ เราไม่ค่อยมีความมั่นใจกับลุคที่ช่างแต่งให้สักเท่าไหร่ 5555 นี่ก้มีผลที่จะทำให้ตกรอบได้ง่ายๆ เหมือนกันนน

ร่ายซะยาวมาเข้าเรื่องการสมัครเลยดีกว่า... 

1. EVA สายแร – สำหรับสายนี้บอกก่อนเลยว่า โอโห แม่เจ้าเป็นสายแรกที่สมัครออนไลน์ และเป็นสายแรกที่ เราตกตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มเหมือนกัน เฟลมากๆ 55555  ความรู้สึกตอนนั้นคือ เฟลแบบสุด เฟลระดับ 10000 แต่ไม่เป็นไร เรายังมีเพื่อนที่ไม่ได้เหมือนกัน 55555555

  • สายนี้จะให้เราสมัครผ่านหน้าเว็บก่อน กรอกข้อมูลก้ค่อนข้างเยอะ แต่ไม่ยิบย่อยเท่าสายการบินของสิงคโปร์ โทอิค 550 up คร่าวๆ ประมานนี้ พอสมัครออนไลน์เสด ก้จะเปนการรอ email นัดวันสัมภาษณ์

2.การบินไทย  ( toeic 600 up/ ส่วนสูง ผู้หญิง 160 cm)Process : apply/ prescreen/ paper test/ final interview(group+individual)

  • ก่อนอื่นต้องสมัคร online ก่อน จากนั้นก้จ่ายค่าธรรมเนียมการสมัครเป็นเงิน 800 บาท
  • พรีสกรีน –  วันแรกที่ไปถึง สำนักงานหลักสี่ การบินไทย
  1. อันดับแรก :  นั่งรอ ที่ชั้นล่างสุด (น่าจะอาคาร 2 ถ้าจำไม่ผิด) จากนั้นจะมีการเซ็นชื่อ และมีถุงให้เอาไว้เกบสัมภาระ  และจะปล่อยให้ขึ้นไปชั้นบนเป็นกลุ่ม ๆ ตามเลข พอขึ้นไปนั้น ก็จะมีการเช็คเอกสารคร่าว ๆ และให้กรอกข้อมูลเล็กน้อย `****จากนั้นพี่เค้าก้จะแจ้งว่าคนที่ใส่คอนแทคเลนส์ “สี” ให้ถอด ออก และคนที่ใส่ถุงน่องก้ต้องถอดเช่นกัน  (สรุปก้คือวันพรีสกรีน ห้ามใส่คอนแทคสี และ ถุงน่อง และควรใส่สูท )
  2.  อันดับสอง : ที่จะเจอคือ การชั่งนน วัด สส  ผญ น้ำหนักห้ามเกิน สส-110 เช่น เราสูง 163-110 นน เราก้ห้ามเกิน 53  พอชั่งเสดก้จะเป็นการรอเพื่อเข้าคอกสัมภาษ  อ่อ จะบอกว่าด่านชั่งนน กรรมการค่อนข้างใจดี หากเราเกินนิดๆหน่อยๆ พยายามทำตัวอ่อนน้อมถ่อมตน ขอเค้าดีดีบางทีเค้าก้ใจดีให้ผ่าน  เหมือนกัน  แต่ก้ไม่ใช่กับทุกคนนะค่ะ 
  3. พอเข้าห้องสัมที่เป็นคอกๆ555  จะมีกรรมการสี่ท่าน จากนั้นเค้าจะให้เราเดินตามเส้นที่เป็นเทปแปะไว้ตรงพื้นและให้แนะนำตัวไปด้วย พอเสด ก้จะเป้นการถามคำถามเล็กๆน้อยๆ จากที่เราแนะนำตัวเองไป  จากนั้นกรรมการจะดูรอยแผลเป็น ให้ยกมือกางแขน คุกเข่า ดูนิ้ว ประมานนี้  สิ่งที่อยากบอกเพื่อนๆ คือ อย่าตื่นเต้นมากจนทำให้เสียงาน ยิ้มเยอะๆ  กรรมการทั้งสี่ท่านค่อนข้างใจดีค่ะ ถือว่าใจดีมาก แต่ใจดีมากๆก็น่ากลัวนะค่ะ เราอาจจะหลุดง่ายๆได้เหมือนกัน
  4.  พอออกจากคอกก้จะเป็นการลงสอบภาษาที่สาม และยื่นเอกสาร (เกือบทุกสายการบิน ค่อนข้าง ต้องการเอกสารพวกใบรับรองการจบ ทรานสคริปต่างๆ ก้ควรเตรียมไว้ดีดี)  พอเสร็จก้จะได้รับใบเหลืองหรือบัตรประจำตัวผู้สอบเพื่อใช้ในการสอบข้อเขียนหรือสอบสัมภาษ รอบต่อๆ ไป  ด่านสุดท้ายของวันพรีสกรีน คือถ่ายรูป เท่านั้นเป็นการเสร็จสิ้นและรอประกาศผล
  • สอบข้อเขียน – สำหรับผู้รอดชีวิตจากพรีสกรีนจะต้องเจอกับการสอบข้อเขียน จะบอกว่าเป็นด่านที่เราค่อนข้างกังวลมากกกก  เราเลยอ่านหนังสือค่อนข้างเยอะ เพราะส่วนตัวเป็นคนความรู้รอบตัวค่อนข้างติดลบ 555555 ข้อสอบก้จะแบ่งเป็นพวก แอพติจูต จิ๊กซอรูปภาพ บลาๆ ส่วนที่สองก้จะเป็นความรู้เกี่ยวกับสายการบิน และความรู้ทั่วไป เช่น ประธานธิบดีนี้ๆๆๆเป็นคนที่เท่าไหร่ นายกตู่เปนนายกคนที่เท่าไหร่ เมืองนี้เป็นเมืองหลวงของประเทศไร ประมานนี้ ( ปล.จะมีข้อสอบย้อนหลังให้ดูเป็นตัวอย่าง ลองถามอากู๋ ) เสียงไมค์ที่กรรมการใช้ประกาศในสนามสอบค่อนข้างก้อง ดังนั้นต้องใช้สติในการฟังเป็นอย่างมาก เพราะฟังไม่รู้เรื่องเลยค่ะ 55555 (ข้อสอบเป็นภาษาอังกฤษ ทั้งหมดนะค่ะย้ำว่าทั้งหมด ) พอสอบเสดก้รอประกาศผล เข้าสัมภาษณ์ไฟนอลค่า
  • ไฟนอลอินเทอวิว/ ภาษาที่ 3 – รอบไฟนอลนี้จำได้ว่าเหลือประมาน 690 กว่าคน ประมานนี้ แต่รับจริงๆ ประมาน 200 รอบนี้จะแบ่งการสอบสัมภาษณ์ เป็นสองส่วน คือ การทำ group discussion และ individual interview  กรุ๊ปนึงจะถูกแบ่งออกเป็นทั้งหมด 6 คน แนะนำว่าก่อนเข้าไปควรทำความรู้จักกันก่อนเพื่อลดความตื่นเต้น การทำกรุ๊ปจะมีเวลาให้ปรึกษากันประมาน 20 นาที ควรฟังคำสั่งของกรรมการให้ดี ย้ำว่าให้ดีค่ะ สำหรับเราเราคิดว่าไม่ควรเป็นผู้นำมากจนเกินไป ผู้นำของเราหมายถึงการสั่งให้คนอื่นทำนี่โน่น ไม่ดีเลยค่ะ  และก้ไม่ควรแบบเงียบจนเกินไป ควรอยู่ในความพอดี รับฟังความคิดเห็นเพื่อน และควรออกความคิดเห็นบ้าง หากเราไม่เห็นด้วย ก็ไม่ควรใช้ถ้อยคำที่รุนแรง ควรใข้คำพูดที่ซอฟที่สุด เพราะกรรมการจะมองการทำงานเป็นทีมมากกว่า  พอจบ 20 นาทีเค้าจะให้ไปพรีเซ้นหน้าห้องเป็นกลุ่มพอเสดจากการทำกรุ๊ป 6 คนจะแบ่งเป็นสามๆ เพื่อสัมภาษเดี่ยว กรรมการจะแบ่งออกเป็นฝั่งละสองท่าน ซึ่งหมายความว่า หากเราสัมกับกรรมการสองท่านแรกเสดแล้ว เราจะต้องสัมกับกรรมการอีกสองท่านที่เหลือ ใช้เวลาทั้งหมดประมาน ชั่วโมง ถึง ชั่วโมงครึ่งค่ะ
( การสัมภาษณ์ของการบินไทยในรอบนี้ส่วนใหญ่ใช้ภาษาไทยนะค่ะ คำถามที่เจอก้ แนะนำตัวเอง ทำงานอะไร ทำไมถึงต้องการบินไทย ถ้าเลือกเป็นสัตว์ได้อยากเป็นอะไร ถ้าเป็นกรรมการจะถามคำถามอะไรกับผู้สมัคร ให้พูดอะไรก้ได้เพื่อเรียกคะแนนจากกรรมการ ยุทธศาสตร์ของการบินไทยคืออะไร จุดด้อยของตัวเองคืออะไร ประมานนี้ค่ะ )

  • ภาษาที่ 3 – ของเราสัมภาษณ์ภาษาจีน จะเจอกรรมการเป็นคนจีนค่ะ สัมภาษานี้เราไม่ค่อยกังวลเท่าไหร่ กรรมการน่ารักค่ะ ไม่ดุ แต่หน้าดุ 5555 พอเข้าไป กรรมการก้จะให้แนะนำตัว และถามจากที่เราแนะนำตัวแหล่ะค่ะ พอเสด ก้จะให้อ่านพีเอ ประกาศบนเครื่อง ซึ่งหากคนที่ภาษาจีนไม่แข็ง ก้ถือว่ายากเหมือนกัน  ดังนั้นเตรียมตัวไปดีดีค่ะ (ประกาศบนเครื่องที่เราได้อ่านไม่มีตัวสะกดกำกับให้ ศัพท์ค่อนข้างยาก แต่เราไม่รู้ว่าเพื่อนคนอื่นที่ได้อ่านมี pinyin หรือตัวสะกดให้ไหม ลองถามหลายๆคนดูค่ะ )

พอประกาศผลรอบนี้เป็นอันว่าเราตกค่ะ 555555 คนทีไปต่อก้จะต้องเข้ารับการสอบว่ายน้ำนะค่ะ -ขอแสดงความยินดีกับเพื่อนๆ ที่ติดรอบนี้อยากบอกว่าเก่งมากกๆค่ะ เก่งสุดๆ ชนะเริสสสสสสสสสสสสสสสสสสค่ะ

จบแล้วสำหรับสายนี้ปล. เพื่อนๆ ค่อยๆอ่านนะค่ะ อ่านวันเดียวอาจจะเบื่อตายได้ 55555553.Air China (สายนี้ไม่เคยมารับในไทยเลย เป็นการมาเปิดรับสมัครครั้งแรก  หลายคนอาจยังไม่คุ้นนะค่ะ จริงๆแล้วมันคือสายการบินแห่งชาติของจีน ฝูงบินค่อนข้างเยอะ แต่เรื่องรางวัลค่อนข้างกริบ 5555 )เริ่มแรกจะเป็นการสมัครผ่าน JobsDB.com ค่ะ ซึ่งเราคิดว่ามันเป็นอะไรที่แบบเสี่ยงดวงมากก5555555 คหสต: เราว่าสมัครผ่านเว็บของสายการบินเองเลยดีกว่าสมัครผ่านเว็บนี้อะ

  • Process:    
     1.  apply

     2.  รอ invite

     3.  first interview (group/individual)

     4.  medical check in Thailand

     5.  second interview ( final )

****สายนี้ ไม่มี  require toeic/ hsk  (อาจจะเป็นเพราะเปิดที่ไทยรอบแรก รอบหน้าอาจจะขออันนี้ไม่ทราบเหมือนกันน้า )

  • ส่วนสูง ผญ 163 ขึ้นค่ะ
พอได้ invite แล้วก้จะเป็ first interview เค้าจะให้เข้าไปที่ละ 8-12 คนประมานนี้ กรรมการในห้องสัมภาษเยอะมากกกกกกก เพราะมีห้องสัมภาษแค่ห้องเดียว กรรมการเกือบ 10 คนถ้าจำไม่ผิด พอเข้าไปถึงเค้าก้จะเชิญนั่ง และให้แนะนำตัวที่ละคนเรียงลำดับจากที่นั่งเลย ใครพูดจีนได้ก้แนะนำตัวเป็นภาษาจีน (แต่ก้ไม่ได้หมายความว่าพูดจีนได้จะผ่านทุกคนนะค่ะ) ด้วยความที่สายนี้เป็นสายแรกที่เรา สัมภาษ ทำให้เราตื่นเต้นจนปากสั่นมือสั่นตากระตุกไปหมด ที่สำคัญไม่พูดจีนออกมาสักคำ55555ดังนั้นเพื่อนๆที่ไม่ได้จีน หมดกังวลไปได้เลยค่ะ  จากนั้นกรรมการก้จะแบ่งเราออกเป็นสองกลุ่มเพื่อทำกรุ๊ปดิสกัสชั่น เราได้หัวข้อ how to be a good cabin crew และกรรมการจะเป็นการพรีเซ้น (การทำกรุ๊ปมีหัวใจสำคัญคือฟังคำสั่งกรรมการให้ดีว่าให้เลือกตัวแทนนำเสนอหรือให้นำเสนอทุกคน เพราะรอบเราฟังผิด โดนกรรมการติเหมือนกัน) ตอนนั้นในใจคิดว่ายังไงก้ไม่ผ่าน พอทำกรุ๊ปเสด ก้จะเป็นการอ่าน พีเอ ประกาศบนเครื่องต่างๆ แล้วให้สรุปบ้าง คนที่ได้จีนก้อาจจะให้แปลพีเอ  (การอ่านพีเอ จะสุ่มเอาค่ะ ไม่ได้ให้อ่านกันทุกคน เพราะเวลามีจำกัดค่ะ )

  • พอได้เมลล์ว่าได้ผ่านการสัมภาษณ์รอบแรกแล้วนั้น ความแปลกใหม่ของแอร์ไชน่าคือ ให้ไปตรวจร่างกายค่ะ และจะต้องนำผลการตรวจไปยื่นวันสัมภาษณ์ไฟนอล ผู้สมัครทั้งหลายที่ผ่านเข้ารอบก้ต่างพากันพูดว่า สงสัยรับหมดแน่ๆ ให้ตรวจร่างกายขนาดนี้  สรุป ผ่ามมมม !!! ตัดค่ะ 5555555 ตัดไป 30 คนมั้ง อันนี้เราก้ไม่ทราบตัวลขที่ชัดเจน
  • ไฟนอล –  รอบนี้ก้เหมือนเดิมเข้าไปทีละ 6 ประมานนี้ถ้าจำไม่ผิด พอเข้าไปก้เหมือนเดิมเลย กรรมการเยอะเหมือนเดิม 555555  และจากนั้นแนะนำตัวทีละคน คนพูดจีนได้ก้โชว์ไป คล้ายรอบแรกเลย รอบนี้เรามีสติ เลยได้โชว์จีนที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ พอเสด ปุ๊ป กรรมการก้จะวนกลับมาที่คนแรก และถามจากที่เราแนะนำตัวไป  คนนึงจะโดนประมาน 2-3 คำถาม  อย่างของเราก้เจอถามว่า พูดจีนได้ใช่ไหม ถ้าถามเป็นจีนจะตอบได้ไหม เราก้ตอบไปว่าได้ค่ะ แล้วเขาก้ถามว่า ทำไมถึงอยากเป็นแอร์ ให้บอกวัฒนธรรมที่ต่างกันของคนไทยกับจีน (เพราะเราบอกเค้าไปว่าเราเคยไปอยู่จีนมา) เพิ่งเรียนจบหรอ พร้อมที่จะทำงานให้เขาไหม ประมานนี้ ก้เป็นอันเสดสิ้น รอเมลล์เช่นเดิม

4 . nok scoot ก่อนอื่นขอบอกก่อนว่า สายนี้เป็นสายที่สมัครแล้ว เมื่อยทีนนนนน สุดดดดดฤทธิ์ค่ะ  ยืนวนไปค่ะ ยืนวนไป ยิ่งเข้ารอบลึกๆ ยิ่งต้องยืนวนนนนน 555555 เริ่มแรกต้องสมัครออนไลน์ก่อนค่ะ พอได้อินไวท์ก้จะเป็นการทำ  assignment ซึ่งเป็นอะไรที่เยอะมาก เยอะจน ขี้เกียจจะทำ เราเลยทำแบบส่งๆ แต่ไม่ควรเลียนแบบนะค่ะ 55555  พอเสด ก้จะได้เมลล์ฉบับต่อไปเป็น การสัมภาษณ์ แบบ วีดีโอ อินเทอวิว โดยเป็นระบบคอมพิวเตอร์ จะได้คำถามคนละสามข้อให้เวลาอ่านคำถาม 15 วิ และตอบคำถามภายใน 30 วิ หรือ 1 นาที อันนี้เราจำไม่ได้จริงๆ

  • คำถามที่เราได้ ตอนทำวีดีโอ อินเทอวิว
1.ทำไมถึงอยากเป็นแอร์ และทำไมถึงต้องนกสกู๊ดดด

2. คิดว่าอะไรคือสาเหตุหรือสิ่งที่เป็นผลกระทบต่อเศรษฐกิจด้านอุตสาหกรรมการบิน เพราะอะไร อย่างไร และจะแก้ไขอย่างไร

3. ล่าสุดได้ช่วยเหลือคนที่ไม่รู้จักไหม เขาคนนั้นคือใคร และช่วยเพราะอะไร  ประมานนี้ค่ะ จากนั้นถ้าใครผ่านก้จะได้เมลล์ค่ะ

process ก่อนจะได้ invite

  • สมัคร ออนไลน์
  • ให้ทำ assignment
  • วีดีโออินเทอวิว
  • Invite
“เข้าสู่ขั้นตอนวันสัมภาษณ์” 1. ตรวจเอกสาร วัดส่วนสูง ชั่ง น้ำหนัก เช็คผิว ตรวจเหล็กจัดฟันค่ะ 2. สอบข้อเขียน  คัดออก3. public speaking  ไม่มีคัดออก4. group discussion  คัดออก5. ภาษาที่สาม (สำหรับคนที่ได้ภาษาที่สามเท่านั้น)6. final interview or individual interview ค่ะ ( ประกอบไปด้วย role play + สัมภาษณ์จากเรซูเม่เราค่ะ )
  • วันสัมภาษพอไปถึงรอค่ะ รอ รอรอบเช้าสัมไฟนอลอีก เง้อออ รอวนไป  เลยไปหากาแฟกิน ในสนบ. ดอนเมือง พอถึงเวลาปุ๊ป ก้ไปรอหน้าห้องค่ะ อันดับแรกก้ตรวจเอกสาร พอเอกสารผ่านก้จะได้ป้ายชื่อค่ะ จากนั้นก้เข้าไปด้านใน เพื่อทำการวัด สส ชั่ง นน ตรวจแผลเป็นที่แขน หรือเชคผิวทั่วไปตามลำคอต่างๆ นาๆ พอเสดก้จะได้ไปนั่งรอในห้อง ซึ่งจะมีโต๊ะเรียงอยู่เต็มห้อง โต๊ะนึงนั่งกันสามคน จะมีกรรมการมาพูดเรื่องประวัติคร่าวๆ เป็นการรอเพื่อนคนอื่นๆ ชั่ง นน วัด สส ให้เสดจนหมด เพื่อจะทำการสอบข้อเขียนค่ะ รอบเรามีประมาน 60 คน ตกข้อเขียนไป 20 คน ข้อเขียนของสายนี้ค่อนข้างโหดค่ะ เพราะยากมากจริงๆ ให้เวลาก้น้อยย คือตัวเราเองก้ไม่คิดว่าตัวเองจะผ่าน เพราะอ่านศัพท์บนกระดาษแผ่นนั้นไม่ออกเลยยย 55555 พอเสด ก้ต้องออกมายืนรอด้านนอกอีก จากนั้นพี่ๆ ก้จะเรียกเข้าไปทำ public speaking ค่ะ รอบนี้จะแบ่งเป็นกลุ่มๆ และทุกคนจะต้องจับสลากคำศัพท์ จะมีเวลาคิดคนละประมาน 2-3 นาที และขึ้นไปพูดประมาน 2-3 นาทีเหมือนกันค่ะ อย่างศัพท์ที่เราได้ คือคำว่า Game เพื่อนๆในกลุ่มที่ได้ก็จะมี dictionary/ movie/ flower/cartoon/ town ประมานนี้ค่ะ รอบนี้ไม่มีการคัดออกนะค่ะ เหมือนแค่เป็นการวัดระดับภาษาเรา แต่มีการให้คะแนนค่ะ พอเสด ทุกคนก้จะออกไปยืนหน้าห้องเหมือนเดิมค่ะ 5555 บอกแล้ววว่า ยืนทั้งวัน จากนั้นทุกคนจะได้กลุ่มใหม่ค่ะ เพื่อทดสอบการทำงานเป็นทีม จะมีโจทย์ให้แต่ละกลุ่ม ช่วยกันแก้ไขปัญญา ค่ะ ไม่ยากมากค่ะ แต่ต้องเป็นผู้ฟังที่ดี และมีส่วนร่วมกับกลุ่มของตนน้า ไม่ควรเงียบจนเกินไป และไม่ควรหักหน้าเพื่อนเหมือนกัน  และสุดท้ายก้จะเป็นการพรีเซ้น ข้อสรุปที่ได้จากการปรึกษาหารือ พอเสด ก้ออกไปรอผลหน้าห้องเหมือนเดิมค่ะ รอบนี้จาก 40 เหลือ 14 ค่ะ
  • คนที่เหลือก้รอสัมภาษณ์ไฟนอล  ส่วนคนที่มีภาษาที่สามก้จะถูกแยกตัวออกไปสัมอีกห้องนึง ภาษาที่ 3 คือง่ายมาก ๆๆ เพราะมี pinyin มาให้ และอีกอย่างศัพท์ก้ง่ายมากด้วยถ้าเทียบกับการบินไทย  สัมภาษไฟนอลของสายนี้ จะมี โรลเพลย์จำลองสถานการณ์บนเครื่องค่ะ และก้สัมภาษณ์ทั่วไป สำหรับเราเราว่าค่อนข้างยาก และอีกย่างตอนนั้นก้ประมานเกือบๆ สองทุ่มละด้วย ร่างกายเริ่มล้า สมองเริ่มหยุดทำงาน เข้าไปสัมไฟนอลก้ตอบคำถามถูกบ้างผิดบ้าง 55555 และก้เลยตกตามคาดค่ะ  ดังนั้นเพื่อนๆควรพกอะไรเล็กๆน้อยๆไปกินดีกว่า ถ้าเข้ารอบลึกๆจะได้มี energy สู้ต่อ

5. Japan airlines

  • สายนี้ก้สมัครออนไลน์ค่ะ ค่อนข้างเสี่ยงดวงพอสมควร เพราะวันสัมกรรมการบอกว่า คนสมัครผ่านเวบ ประมาน 5000 แต่เค้าแจก อินไวท์แค่ประมาน 1000 คนค่ะ
  • พอไปถึง King power Pullman  แถวพญาไท ก็ขึ้นไปชั้น 6  ตามเวลานัดค่ะ อย่างรอบเราได้ 14.45 ก้ขึ้นไปประมาน 14.20 ค่ะ ประมาณนี้ 

  1. พอขึ้นไปก้จะมีแผ่นเป๊ะไว้ว่าต้องเรียงเอกสารอะไรยังไงบ้าง จากนั้นก้เซ็นชื่อค่ะ และกรอกใบเล็กๆ ใบนึงเพื่อเอาไปใช้ในการวัด สส ชั่ง นน
  2. เข้าสู่ขั้นที่สองคือการชั่ง นน วัด สส  ผญ รู้สึกจะกำหนดที่ 157 cm. (ทางเลือกสำหรับสาวมินิไซส์) จุดนี้พี่ๆ ค่อนข้างใจดี เพราะบางคนแบบพี่เค้าก้ช่วยมากๆ พยายามให้หายใจเข้าลึกๆ เพื่อช่วยอัพส่วนสูง แต่ถ้าบางคนไม่ถึงก้ต้องยอมรับจริงๆ (แนะนำให้ใส่สูทนะค่ะสำหรับสายนี้เพราะเราไม่ได้ใส่ไป พี่ๆเค้าเลยถามว่าจะกลับไปเอาสูทไหมไรงี้ ) จากที่สังเกต japan airlines 95% คือใส่สูทกันหมด ทำเราเสียเชล เบาๆ 555
  3. จากนั้นก็เป็นการเช็คเอกสาร และกรอกเอกสารที่ทางสายการบินปริ้นมาให้  ข้อมูลในเอกสารก้จะเป็นสิ่งที่เรากรอกผ่านออนไลน์ทั้งนั้น ในกระดาษนั้นจะมีช่องว่างให้ตอบคำถามอยู่สามคำถามคือ 1. ทำไมถึงสายนี้ 2.จุดด้อยของตนเองคืออะไร 3.อีกห้าปีข้างหน้าคุณเห็นตัวเองเป็นอย่างไร ประมานนี้
  4. นั่งรอเข้าห้องสัมภาษ ทีละ 5 คนค่ะ พอเข้าไปจะเจอกรรมการสองคน เป็นคนไทยหนึ่ง ญี่ปุ่น หนึ่ง ซึ่งเราเป็นคนแรกที่เปิดประตูเข้าไป เราก้สวัสดี ทำความเคารพ ต่างๆนาๆ พอเข้าไปเค้าก้ให้แนะนำตัว เราบอกว่าเราจบปริญญาตรีควบคู่จาก จีน เค้าก้ให้เราโชว์จีน เราก้พูดไป บลาๆ และก้เรียงไปทีละคนจนจบห้าคน พอเสดก้จะเจอคำถามว่าทำไมถึงอยากเป็นแอร์และตอบทีละคน แค่นี้เป็นอันเสดสิ้น
  5. จากนั้นก้ออกมารอผลค่ะที่ห้องเล็กๆ เค้าให้เข้าไปนั่งฟังเป็นกลุ่ม กลุ่มเราผ่านเข้ารอบสามคน อีกสองคนตกค่ะ พอเสดก้รอสัมเดี่ยว ระว่างนี้สามารถไปเข้าห้องน้ำ ซับหน้าเติมหน้าได้ค่ะ รอบใช้เวลาค่อนข้างนาน สัมภาษคนนึงประมาน 15 นาที
  6.  สำหรับสัมภาษณ์เดี่ยว เข้าไปเจอกรรมการสามท่านค่ะ สองท่านเป็นคน ญี่ปุ่น อีกท่านเป็นคนไทย เรารู้สึกเราค่อนข้างถูกชะตากับกรรมการสายนี้เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน หรือหน้าตาหมวยคล้ายกัน55555555 กรรมการจะยิงคำถามเราคนละประมาน 2-3 คำถาม แรกๆ ก้จะให้แนะนำตัว ละก้ถามว่ารู้จักสายนี้ไหม รู้อะไรบ้าง culture ของคน ญี่ปุ่น คืออะไร จุดเด่นจุดด้อยของตัวเองคืออะไร บลาๆ ก้ว่าไป คำถามเบสิกถัวไปค่ะ แค่นี้เป็นอันเสร็จสิ้น รอผลประกาศ อีก 10 วันค่ะ คนผ่านก้จะได้เข้ารอบสัมภาษณ์ไฟนอล
จบการรีวิวค่ะ ขอบคุณมากนะค่ะที่อ่านจนจบ

ปล. อาจจะดูน่าเบื่อเพราะเราเขียนยาวมาก และบวกกับ เราไม่เคยเขียนรีวิวเลย5555555แต่อยากแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆจริงๆจากใจ

เราอาจจะก้าวช้ากว่าคนอื่น เราอาจจะเจออุปสรรค์มากมายระหว่างทาง แต่ถ้าเราไม่หยุดเดิน (และจะไม่มีวันหยุด) ไม่ท้อ วันนึงเราก้จะเดินไปถึงจุดหมายปลางทางที่เราตั้งไว้ สู้ๆค่ะทุกคน

 อ่อ อีกอย่าง เพื่อนๆสามารถติดตามข่าวสารในเพจพวก Cabin Crew Wannabes จะคอยมีเพื่อนๆพี่ๆคนอื่นๆมารีวิวหรือแจ้งข่าวสารตลอดเลยย

ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะค้า


inggploy

inggploy

FULL PROFILE