Review งานผม งานผิว งานหัวจรดเท้า ใช้ดี ใช้หมดขวด ซื้อตุนวนไป ภาค 1

สวัสดีค่ะสาวๆ เราอยากทำหัวข้อนี้นานแล้ว แต่ไม่มีเวลา วันนี้วันอาทิตย์ ขอเปิดกรุ ของที่เราใช้ ในการดูแลความสะอาดตั้งแต่หัวจรดเท้า

เป็นของที่เราใช้อยู่เป็นประจำ ใช้ดีจนหมดขวด จนต้องตัดหลอดควักออกมาใช้ และซื้อซ้ำวนไป ซื้อตุนรูดบัตร รูดปื๊ดวนไปวนไป

เนื่องจากว่าแต่ละคนมีสภาพผิวและรสนิยมต่างกัน คำว่าดีและผลลัพธ์จากการใช้อาจแตกต่างจากเรา เราขอให้ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพผิวของเราไว้ ใครที่สภาพผิวต่างจากเราก่อนจะซื้อโปรดใช้จักรยานในการรับชม

• สภาพผม หนังศีรษะมัน ผมเส้นใหญ่ สระผมทุกวัน 
• สภาพผิวหน้า ผิวหน้ามันมากแต่ขาดน้ำ รูขุมขนกว้าง มีสิวอุดตัน และสิวเสี้ยนแบบไม่เป็นตอ 
• สภาพผิวกาย ผิวธรรมดา มีผดผื่นขึ้นตามหลังบ้าง 
• สภาพทางเท้า เนื่องจากชอบถอดรองเท้าเวลาทำงานบ้านเดินสลับพื้นที่เปียกกับพื้นที่แห้ง ทำให้ส้นเท้าแตก

เริ่มด้วยชิ้นแรกแชมพูสระผมยอดฮิต อมตะนิรันดร์กาล บานตะไทครองแชมป์ 10 สมัยในสต๊อกของเราได้แก่ เทรซาเม่ (โปรดออกเสียงแบบติช่าในใจเวลาอ่านชื่อแบรนด์)

ใช้มาเกือบ 2 ปีแล้ว ซื้อซ้ำจนเลิกนับจำนวนขวดแล้ว ชอบตรงที่ฟองเยอะ ฟองนุ่ม สระแล้วผมไม่พันกัน ล้างออกแล้วผมนิ่ม

เคยพยายามลองเปลี่ยนไปใช้ยี่ห้ออื่น แต่เมื่อเทียบทั้งปริมาณ ราคา และคุณสมบัติ สุดท้ายก็ต้องกลับมาใช้เทรซาเม่อยู่ดี เพราะจัดโปรบ่อยมาก ปริมาณเยอะราคาไม่แพง หาซื้อง่าย สำหรับเราใช้ดีทุกสูตร เป็นแชมพูที่มีติดบ้านไว้ตลอด ไปซื้อทุกครั้งตุนไม่ต่ำกว่า 5-6 ขวดเพราะเราเอามาแบ่งที่บ้านใช้ด้วย 

ยังคงอยู่กับหมวดผลิตภัณฑ์แชมพูดูแลเส้นผม อันนี้เป็นตัวใหม่ที่จะเข้ากรุลูกรัก มันคือ แชมพูโลแลนเนเจอร์โค้ด สูตรลดรังแคและป้องกันผมขาดหลุดร่วง

เราเคยรีวิวไว้อย่างละเอียดยิบที่กระทู้นี้

https://www.jeban.com/viewtopic.php?t=236166

ในส่วนของแชมพู ชอบตรงที่ ฟองเยอะ ฟองนุ่ม สระง่าย ผมไม่ฝืดไม่พันกัน ปกติแชมพูขจัดรังแคที่เราเคยใช้ มักจะฝืดฟองน้อย แต่ตัวนี้ไม่ฝืด ฟองเยอะ กลิ่นหอมแบบ citrus  พอผมแห้ง ผมเบาสบาย นิ่ม อยากลูบผมตัวเองทั้งวัน 555

ในส่วนของครีมนวด เราชอบมากกกกกกกกกกกก กลิ่นหอมแบบ citrus เนื้อเนียน เราใช้เท่าลูกปิงปอง นวดที่ปลายผมทิ้งไว้แค่นาทีเดียวเวลารีบ พอล้างออก ผมนิ่ม ลื่น พอเป่าผมแห้งแล้ว ผมนิ่มสบาย ลื่น ดูมีน้ำหนัก กลิ่นหอมติดผมทั้งวันอยากนั่งดมผมตัวเอง 555

ต่อกันที่โฟมล้างหน้า ของ faith in face เป็นวิปโฟมไข่ขาว ทางแบรนด์เคลว่าช่วยกระชับรูขุมขนลดสิวเสี้ยน โดยไม่ทำให้หน้าแห้งตึง ไม่มีส่วนผสมของ mineral oil น้ำหอม alcohol และการแต่งสี

ตัวนี้เราใช้มาเกือบ 3 ปีแล้ว พยายามหาแบรนด์อื่นมาใช้ สุดท้ายก็ต้องกลับมาซื้อตุนแบรนด์นี้ทุกที หลอดนึงใช้ได้นานเป็นเดือน ใช้จนต้องตัดหลอดควักออกมาใช้

ที่เราชอบเพราะว่าฟองเยอะ ฟองวิปโฟมแน่นนุ่ม ล้างแล้วหน้าสะอาดสดชื่น ไม่แห้งตึงเหมือนเวลาใช้น้ำยาล้างจานล้างมือที่มันจะตึงมากแห้งแบบแห้งผาก แล้วก็ไม่ลื่นจนเรารู้สึกว่ารำคาญเหมือนล้างหน้าไม่สะอาด เป็นความรู้สึกสะอาดสดชื่นแบบพอดีพอดีสำหรับคนผิวมันหน้าเมือกแบบเรา

ตัวนี้หาซื้อได้ที่วัตสัน ราคาประมาณ 239 แล้วแต่ช่วงโปร เราไปทีไรหยิบตุนตลอด ตัว cleansing ก็ใช้ดีนะ แต่เรามียี่ห้ออื่นในดวงใจแล้วเลยไม่ได้ใช้ของ faith in face

ต่อด้วยผลิตภัณฑ์เช็ดล้างเครื่องสำอาง ชอบที่สุดขอยกให้ไมเซล่าคลีนซิ่งวอเตอร์ของคอลเลคชั่น ขวดละ 250 ml ซื้อ 1 แถม 1 ราคา 259 บาท เป็นอะไรที่คุ้มโคตรคุ้ม แบบไม่หยิบแล้วจะรู้สึกผิด แล้วชอบจัดโปรบ่อยมาก  

เห็นราคาย่อมเยาว์แบบนี้ แต่ประสิทธิภาพอลังการงานสร้าง ล้างทำความสะอาดได้ล้ำลึกจริงๆ มาสคาร่ากันน้ำ ดินสอเขียนคิ้วกันน้ำนางเอาอยู่ แถมเป็นสูตร ไมเซล่าวอเตอร์ ที่มี ph balance กับผิว  ปราศจาก   alcohol  ปิโตรเลียมออย สารกันเสีย น้ำหอม

เราเคยลองเทใส่สำลีแล้วเอาไปทำความสะอาดแปรงแต่งหน้า  แบรนด์อื่นใช้สำลีมากกว่าทำความสะอาดได้ไม่ดีเท่านั้น นางใช้สำลีน้อยกว่าแถมทำความสะอาดจนแปรงขาวเลย

เราเลยใช้ทั้งเช็ดหน้าและ ทำความสะอาดแปลงไปในตัว หมดปัญหาเรื่องสารตกค้างบนขนแปรง จากน้ำยาล้างแปรงหรือจากผลิตภัณฑ์อื่นๆที่เราเอามาล้างแปรง

 

ยังคงอยู่กับงานเช็ดล้างเครื่องสำอางอีก 1 ตัว กับ Mizumi cleansing water สูตรลดแรงเสียดทานบนผิว ทำให้เช็ดเครื่องสำอางออกง่ายโดยไม่ระคายเคืองผิว ยิ่งใช้คู่กับสำลี aime เป็นอะไรที่สะอาดสบายหน้า ฟินมาก

ชอบตรงที่ปริมาณเยอะจุใจ 500 ml ในราคาประมาณ 250 บาทช่วงโปรโมชั่น ขึ้นอยู่กับแหล่งซื้อด้วย และมาพร้อมกับคุณสมบัติที่น่าสนใจคือ  ไม่แต่งสี ไม่มีสารกันเสีย ไม่มีแอลกอฮอล์ น้ำหอม ทางแบรนด์เคลมว่า ผ่านการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย

ตัวนี้ตุนมาตั้งแต่ต้นปี  ซื้อไว้ประมาณ 6 ขวด ตอนนี้เหลือแค่ 2 ขวด 

มาถึงสำลีในดวงใจ ขอยกให้ยี่ห้อ Aime ตอนแรกตัดสินใจอยู่นานกว่าจะซื้อ ปกติไม่เคยใช้สำลีแพงขนาดนี้ แต่อ่านคุณสมบัติดูแล้ว รู้สึกว่าอยากลองสักครั้ง ก็เลยซื้อมาใช้ คู่กับ Mizumi กลายเป็นว่า ไม่อยากกลับไปใช้สำลีแบบเดิมอีกเลย

ชอบตรงที่ สำลีหนานุ่ม ใช้แล้วไม่ขาดไม่ยุ่ย ไม่ห่อตัว เช็ดได้หน้าหลัง ใช้แล้วนิ่มไม่บาดหน้า ยิ่งใช้คู่กับ Mizumi ยิ่งเช็ดง่าย หน้าไม่ช้ำ สะอาดสบายหน้ามากๆ

ล่าสุดตุนไว้ 6 ห่อ ตอนนี้เหลือ 3 ห่อ 

มาถึงชิ้นนี้คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณอะไรมาก เชื่อว่าสาวๆทุกคนต้องเคยได้ใช้แน่นอน เป็นอะไรที่ใช้ดี ซื้อซ้ำวนไป สุดท้าย เพราะว่า ประสิทธิภาพในการ เช็ดเครื่องสำอางกันน้ำ แบบแน่นๆ นางเอาอยู่ เช็ดออกเกลี้ยง ที่สำคัญคือเข้าตาแล้วไม่แสบ  มีโปรเมื่อไหร่แล้วก็ตุนไว้ตลอด 

แหวกแนวมาที่หมวดยาสีฟันกันบ้าง เราชอบใช้ยาสีฟันสมุนไพร ลองมาหลายยี่ห้อ บางยี่ห้อใช้แล้ว แสบลิ้น เป็นแผลในปาก มียี่ห้อนี้ ที่เราใช้ซ้ำๆ ซื้อตุนไว้ตลอด เพราะใช้แล้ว รู้สึกปากสะอาด กลิ่นหอมสมุนไพรอ่อนๆ ไม่แพ้ ไม่แสบไม่เป็นสิวขึ้นรอบปาก หลอดใหญ่ ราคาแค่ 39 บาท หาซื้อได้ในบิ๊กซี หรือในห้างค้าปลีกอื่นๆ ตามร้านสะดวกซื้อ ไม่ค่อยเห็น อาจจะมีเป็นบางสาขา

แถมของแปลก นอกหมวดให้ 1 ชิ้น ปกติ bio oil มักจะมีคนพูดถึงในแง่ของการลดรอยแตกลาย แต่สำหรับเรามันเวิร์คมาก ในการเอามานวดเพื่อกระชับหน้าอก นวดอยู่ 1 อาทิตย์ เห็นได้เลยว่าหน้าอกกระชับขึ้น ส่องกระจกแล้วรู้สึกว่า ใส่เสื้อผ้าแล้วหน้าอกดูสวยขึ้น  

มาถึงหมวดระงับกลิ่นกายกันบ้าง เอาจริงๆนะ กลิ่นกาย เป็นเรื่องน่าอาย ไม่ใช่เรื่องตลกนะ เราเคยใส่เสื้อ แล้วเหมือนกับ เสื้อมันตากแล้วเหม็นอับ ผสมกับกลิ่นเหงื่อ ขอบอกว่าเป็นอะไรที่ ชวนจะเป็นลม และอับอายไปทั้งวันมากเสียความมั่นใจไปเลย

เมื่อก่อนเราก็ชอบใช้แบบโรลออน เพราะคิดว่าประหยัดกว่า แต่มีปัญหาคือ เป็นคราบเหลืองบริเวณรักแร้ ยิ่งเสื้อขาว เป็นคราบเหลืองเนื้อผ้าแข็ง เสื้อเสียไปเลย

เลยลองเปลี่ยนมาใช้แบบสเปรย์ กลายเป็นว่าแบบสเปรย์ ใช้ได้นานกว่า ประหยัดกว่า และไม่มีปัญหาคราบเหลืองด้วย แต่กว่าจะลงตัวก็เปลี่ยนมาหลายยี่ห้อ  เพราะบางยี่ห้อเราใช้แล้ว มีอาการแสบแดง สุดท้ายมาลงตัวที่เรโซน่า

เวลาใช้อย่าฉีดใกล้มากเกินไปมันจะเป็นคราบขาวๆที่รักแร้ และลดประสิทธิภาพลง ให้ฉีดห่างจากรักแร้ประมาณ 1 ไม้บรรทัด  ฉีดซัก 2 ฟี้ด ก็เอาอยู่แล้ว

เวลามีโปรทีไรชอบซื้อตุนตลอด เพราะเราแบ่งที่บ้านใช้ด้วย ล่าสุดไปวัตสันมีโปรเหลือขวดละ 89 บาท เรากวาดมาเกือบ 20 ขวด พนักงานมองหน้า ทำหน้าแบบ มองแว๊บเดียวรู้เลยคงคิดว่า พี่ก็จะใช้ยันปีหน้าเลยหรอคะ 5555555555

ปิดท้ายด้วยงานดูแลเท้า เวลาทำงานบ้านเราชอบถอดรองเท้า เพราะว่าบางที เราต้องขัดล้าง สลับกับพื้นที่เปียกและพื้นที่แห้ง รู้สึกว่าใส่รองเท้าแล้วมันน่ารำคาญ เลยเป็นสาเหตุให้ส้นเท้าเราแตก เพราะเวลาเราเหยียบบริเวณที่เปียกหนังเท้าเราจะอ่อนนุ่ม แล้วพอมาสลับเหยียบบริเวณที่แห้ง เช่นพื้นแข็งๆ หนังเท้าที่นุ่ม ก็จะได้รับแรงกระแทก สลับไปมาแบบนี้จึงทำให้เกิดส้นเท้าแตกได้ง่าย

สำหรับตัวนี้เราเคยรีวิวไว้แบบละเอียดยิบแล้วถึงประสิทธิภาพ อันแสนจะทรงพลังและโคตรโหด ตามลิงค์ด้านล่างเลย

https://www.jeban.com/viewtopic.php?t=230733

ที่บอกว่าทรงพลังและโคตรโหด ไม่ใช่ว่า ใช้แล้วลอกแบบ ทรมานทรกรรม หรือแสบและเจ็บ จนเป็นแผล

แต่โหดตรงที่ ลอกออกได้จริง ส้นเท้าหายแตก ลอกออกเยอะ ลอกเป็นแผ่นๆ แต่ไม่แสบ ไม่แดง ไม่เป็นแผลใดๆ

ใช้แล้วไม่ได้ลอกทันทีนะ รอสักประมาณ 3-4 วัน พวก Dead Cell บริเวณเท้าจะค่อยๆลอกออก

ลอกเสร็จเท้านิ่มมาก นิ่มลื่น นิ่มแบบน่าลูบไล้ นิ่มแบบนี้ไปอีกกับเดือน ถ้าไม่รนหาเรื่อง เอาเท้าไปทรมานทรกรรม อีกซะก่อน 5555

แต่ราคาแอบแรง ต้องซื้อตอนมีโปรเท่านั้น ขนาดซื้อตอนมีโปรยัง เกือบ  200 บาท หาซื้อได้ที่วัตสัน ที่อื่นมีไหมไม่แน่ใจ 

นี่เป็นการเปิดกรุครั้งแรกของเรา หวังว่าจะมีประโยชน์กับสาวๆ ที่มีสภาพผิว หรือความต้องการใครๆกับเรา หากระแสตอบรับดี เราว่าจะมารีวิวต่อ เปิดกรุ skincare เครื่องสำอาง ของใช้อื่นๆ  

ขอบคุณสาวๆที่แวะมารับชมนะจ๊ะ ใครมีของดีของเด็ด หรือมีคำถามอะไร มาเม้นแชร์กันได้เลย