[Unseen Busan] เสน่ห์ของปูซานในหน้าร้อน ☀

11 4

안녕~~ สวัสดีค่า รีวิวเรื่องเกี่ยวกับเกาหลีๆ มาตั้งนาน ส่วนใหญ่จะอยู่ในโซล แต่ครั้งนี้มาแปลก!จะพาไปเที่ยวต่างจังหวัดกันบ้าง แต่ก็ยังเป็นเมืองท่องเที่ยวที่คนไทยรู้จักกันดี นั่นก็คือ "ปูซาน" นั่นเองค่ะ 

ถ้าพูดถึงปูซาน หลายคนคงนึกถึงชายหาดแฮอุนแด (Haeundae Beach) วัดแฮดอง ยงกุงซา (Haedong Yonggungsa Temple) สะพานกวังอันรี (Gwangalli Bridge) อาหารทะเลสดๆอร่อยๆ จิมจิลบัง ประมาณนี้ใช่มั๊ยคะ??

แต่ทริปนี้เราจะเน้นไปเที่ยวที่ที่คนเกาหลีนิยมไปในช่วงนี้ ไปนั่งชิลคาเฟ่สวยๆ กินอาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อของปูซานกันค่ะ เนื่องจากทริปนี้ไปเที่ยวกันแบบสาวๆสองคน ก็จะออกชิวๆหน่อย Schedule ไม่อัดแน่นมาก เป็น 3 วัน 2 คืนที่กำลังดีงามเลยค่ะ

เกริ่นก่อนว่าเรากับน้องที่ไปเที่ยวด้วยกันในทริปนี้อาศัยอยู่ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ และเราก็พูดภาษาเกาหลีได้บ้าง ดูแผนที่ได้ เลยไม่หลง สบายหน่อย แต่ไม่ต้องกังวลนะคะ เพราะเราจะใส่รายละเอียดอัดแน่นให้ที่กระทู้นี้เลย 

เริ่มกันเรื่องการเดินทางจากโซลก่อนเลย เชื่อว่าคนส่วนใหญ่จะเลือกการเดินทางโดยรถไฟ ด้วยความเข้าใจที่ว่า "ประหยัด" แต่ขอบอกเลยว่าไม่เสมอไปค่ะ เรามาดูตัวเลือกการเดินทางกันก่อนเลย

1. รถไฟสามารถเช็คเวลา และจองตั๋วได้ที่  https://www.letskorail.com/ebizbf/EbizbfForeign_pr16100.do?gubun=1 เลือกที่ Rail Ticket ตรงเมนูด้านบน แล้วเลือก Book Online ค่ะ ด้านล่างจะให้เลือกสถานีต้นทาง ปลายทาง และเวลาเดินทาง

เมื่อเลือกเสร็จแล้วจะแสดงตารางรถไฟตามรูปนี้ค่ะ จะเห็นได้ว่ารถไฟที่เดินทางไปปูซานได้มี 3 แบบ คือ KTX, Samaeul, Mugunghwa

  • รถไฟแบบด่วน (KTX) ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.ครึ่ง ราคา 59,800 วอน/เที่ยว
  • รถไฟความเร็วปานกลาง (Samaeul) ใช้เวลาประมาณ 4 ชม. 50 นาที ราคา 42,600 วอน/เที่ยว
  • รถไฟแบบช้าที่สุด (Mugunghwa) ใช้เวลาประมาณ 5 ชม. 15 นาที ราคา 28,600 วอน/เที่ยว
  • ตั๋วรถไฟแบบเหมาจ่าย (Korail Pass) จองได้ที่เว็บเดียวกัน เมนู Korail Pass ค่ะ มีหลากหลายราคาตามแผนเที่ยวของเราเลย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเดินทางไปเมืองอื่นด้วย หรือผู้ที่ต้องการนั่ง KTX ไปกลับในวันเดียวก็ถือว่าคุ้มค่าอยู่ค่ะ **ไม่สามารถใช้กับรถไฟฟ้าใต้ดินได้**

แต่สำหรับเราถือวีซ่าอยู่อาศัยที่นี่ เลยไม่สามารถซื้อ Korail Pass ได้ เลยดูทางเลือกอื่นๆต่อค่ะ

2. เครื่องบินสายการบินที่เดินทางจากโซลไปปูซานมีอยู่หลายสายค่ะ ได้แก่ Jejuair, Eastar Jet, Busan air, Korean air, Asiana Airlines จะเห็นว่าหลายสายเป็น Low-cost ฉะนั้นราคาจะต้องโอเคแน่ๆ ลองมาดูคร่าวๆกันค่ะ เราเลือกเดินทางวันธรรมดานะคะ

จะเห็นว่าราคาไปกลับใกล้เคียงกับรถไฟมากๆ เดินทางเพียง 55 นาที  แต่ข้อจำกัดอยู่ที่ว่า Jejuair, Eastar Jet เวลาเดินทางไม่โอเคเลย บินเย็นกลับเช้าตรู่ ประกอบกับมีไมล์สะสมของ Korean Air อยู่ เลยเลือกนั่ง Korean Air ในครั้งนี้ค่ะ

เราว่าทุกคนลองเอาวิธีการเดินทางโดยเครื่องบินไปพิจารณากับแผนการเดินทางของตัวเองดูนะคะว่าเหมาะสมมั๊ย เช่น ช่วงที่เดินทางราคาแพงเกินไปมั๊ย ที่พักอยู่ใกล้สนามบิน Gimpo มั๊ย(ถ้าพักโซนฮงแด เดินทางง่ายมากค่ะ) เป็นต้น

มาดูเรื่องแผนการเดินทางคร่าวๆของเรากันค่ะ เราได้เห็นรูปนึงเป็นแผนที่ปูซาน และระบุสถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมดน่ารักมากๆ และน้องที่ร่วมทริปนี้ด้วย มีสถานที่ และร้านอาหารที่อยากไปอยู่บ้างแล้ว เลยเอามายำๆกันค่ะ

ตรงดาวสีแดงๆ คือสถานที่ที่อยากไปกันมากๆค่ะ mark ไว้เลย

สำหรับแผนที่เที่ยวคร่าวๆ เผื่อใครจะเอาไปเป็นไกด์ค่ะ

(อันนี้ปรับเปลี่ยนบ้างตามจริง ตามสภาพอากาศ และสถานการณ์ค่า)

Day 1:

ถึงปูซาน 12:30 pm เช็คอินโรงแรม

1:30 pm อาหารกลางวันที่ร้าน 포항돼지국밥 (Pohang Pork Rice Soup)

3:10 pm Oryukdo Skywalk

4:30 pm Gwangalli Beach + Dinner

9:00 pm กลับโรงแรม

เราได้ทำวิดีโอไว้ด้วย ลองดูกันนะคะ อาจมีไม่ครบทุกสถานที่ที่ไปแต่เดี๋ยวจะลงรุปทุกที่ให้ดูต่อจากนี้เลยค่า

เริ่มจากแอพที่เราใช้ในการเดินทางครั้งนี้ หลักๆมี 2 แอพค่ะ

1. Subway Korea แอพเดียวใช้ได้ทั้งที่โซล ปูซาน และเมืองอื่นๆที่มีรถไฟฟ้าเลยค่ะแค่เปลี่ยนตรงตั้งค่าให้เป็น Busan แผนที่รถไฟก็จะเปลี่ยนให้เลย สะดวกมากๆ รถไฟฟ้าที่ปูซานมีทั้งหมด 6 สายไม่ยุ่งยากค่ะ

2. Naver Map  อันนี้ไว้ดูแผนที่ คนที่อ่านภาษาเกาหลีไม่ออก สามารถใช้ Google Map ได้ค่ะ (อาจจะงงๆบ้างก็ได้)

ที่พักเราจองจาก Booking.com ดูที่ราคาเหมาะสม และเรตติ้งดีๆค่ะ ที่นี่เรตติ้งสูงมากถึง 9.5 ราคาต่อคืน 50,000 วอน (Double Room) ห้องกว้างขวาง ห้องน้ำใหญ่ ยังใหม่ๆอยู่ ถือว่าโอเคเลย แม้ว่าจะอยู่ห่างจากสถานที่ท่องเที่ยวสักหน่อย ยอมเดินทางค่ะ 555

อยู่สถานี Oncheongjang สาย 1 สีส้มค่ะ

ที่นี่ให้เช็คอินตอน 5 โมงเย็นค่ะ (ค่อนข้างช้าเลยทีเดียว) เราไปถึงบ่ายโมง เค้าก็ให้เอากระเป๋าไปไว้ที่ห้องก่อนได้ ตอนนั้นแม่บ้านยังทำความสะอาดไม่เสร็จ แต่ก็วางหลบๆไว้ค่ะ 555 ในห้องมีครบทั้งทีวีจอใหญ่ แชมพู ยาสระผม น้ำดื่มวันละ 3 ขวด ชา เครื่องต้มน้ำ ไดร์เป่าผม เครื่องประทินผิว และจัดแต่งทรงผมแบบต่างๆ ตามสไตล์เกาหลี 555

หลังจากเช็คอินโรงแรมเรียบร้อยแล้ว เราก็เริ่มต้นมื้อแรกกันที่ร้าน 포항돼지국밥 (Pohang Pork Rice Soup) ค่ะ ร้านค่อนข้างใหญ่ ถึงจะเป็นหน้าร้อนก็ไม่ต้องกังวลจะซดน้ำซุปร้อนๆ พร้อมปาดเหงื่อ เพราะเปิดแอร์เย็นฉ่ำ เปิด 24 ชม.ด้วย! เผื่อใครจะวางแพลนไปกินมื้อเย็น หรือมื้อดึกก็ได้เลยย

พิกัด:: 27 Seomyeon-ro 68beon-gil, Bujeon 2(i)-dong, Busanjin-gu, Busan

การเดินทาง:: สถานี Seomyeon (Line 2) ทางออก 7

เวลาเปิดทำการ:: 24 ชั่วโมง

หลังจากกินอิ่มแล้ว หนังท้องตึง หนังตาก็หย่อน เย้ยยย ยังๆๆๆ เพิ่งจะบ่ายสองเอง ไปกันต่อค่ะ! สถานที่นี้ค่อนข้างไกลจากเมืองหน่อย นั่งรถไฟฟ้าไม่สามารถถึงได้ ต้องต่อรถเมล์ด้วย "Oryukdo Skywalk" คำว่า do ในภาษาเกาหลี แปลว่า เกาะ เช่น เชจูโด = เกาะเชจู  ฉะนั้นที่นี่ก็ต้องเป็นเกาะแน่นอนนน แต่เราไปชมเกาะโดยการเดินขึ้นเขาเตี้ยไปที่ Skywalk 

การเดินทาง:: ลงสถานี Beomil (Line 1) ทางออก 8 แล้วไปต่อรถเมล์สาย 27 ที่ป้ายรถเมล์ 지유시장 

นั่งหลับไปเลยค่ะ 20 ป้าย แต่อย่าเลยป้ายนะ 555 ลงที่สถานที่ Oryukdo SK แล้วเดินตรงอย่างเดียวประมาณ 400 เมตร ระหว่างนั่งรถเมล์เห็นลุงกับป้าคุยกันกระหนุงกระหนิง น่ารักมากๆ เราคิดว่าถ้าอายุมากๆแล้วก็ยังอยากคูลๆแบบนี้

หลังจากชมวิว รับลมอิ่มหนำแล้ว ก็ไปกันต่อที่กวังอันรีค่ะ!

Gwangalli (광안리) ชื่อนี้หลายๆคนคงคุ้มหูกันดีแล้ว แต่วันนี้เราไม่ได้ไปชมวิวสะพาน และชายหาดเฉยๆค่ะ จุดมุ่งหมายหลักของเราคือ... คาเฟ่สวยริมหาด!!

การเดินทาง:: สถานี Guemnyeonsan (Line 2) ทางออก 1 หรือ 3 

พอให้เท้าได้แตะน้ำทะเลกันสักนิด เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึงปูซาน แล้วไปกันต่อที่คาเฟ่ ชื่อร้าน "Wonders" อยู่ริมหาดเลยค่ะ

พิกัด:: 197-28 Gwangan 2(i)-dong, Suyeong-gu, Busan

เวลาเปิดทำการ:: 10AM - 7PM เสาร์อาทิตย์ เปิดถึง 3 ทุ่ม

ร้านอาหารเย็นที่เตรียมในแพลนว่าจะไป ดันปิดวันจันทร์ค่ะ!!! เศร้ามาก เป็นข้าวหน้าปลาไหล เผื่อใครจะไปให้พิกัดไว้นะคะ

ชื่อร้าน:: 고옥 (Go-og)

พิกัด:: 12-8 Namcheon-dong, Suyeong-gu, Busan

ร้านปิดวันจันทร์นะคะ อย่าเด๋อเหมือนเรา 5555

หลังจากพลาดไป แล้วฝนตกปรอยๆด้วย เลยเข้าร้านปลาไหลย่างแถวนั้นเลย แรนดอมมาก ราคา 15,000 วอนต่อคน มีที่นั่งเป็นห้องแอร์ นั่งพื้น ถ้านั่งข้างนอกไม่มีแอร์ เป็นโต๊ะๆ  ป้าใจดีมากก คอยสอนกิน บริการดี แต่ให้หาร้านอีกทีคงหาไม่เจอ 555

Day 2:

11:00 am Jukseong Church

1:00 pm Cafe Looftop + กิน Brunch

2:30 pm Koraeseo Omuk @Haeundae

3:30 pm Haeundae

7:00 pm The Bay 101 + Dinner

9:00 pm กลับโรงแรม

ตามที่วางแผนไว้ว่า 11 โมงจะต้องไปถึงโบสถ์ แต่ๆๆๆๆ ตื่นมาก็ 10 โมงแล้วจ้าาา 5555 โชคดีที่เตรียมขนมปังกันไว้ตั้งแต่เมื่อคืน เลยกินรองท้องไปก่อน ค่อยไปหาอะไรกินอีกทีแถวนั้น

죽성성당 (Jukseong Church) หรือบางคนเรียกว่าปราสาท แต่ตามคำภาษาเกาหลี แปลว่าโบสถ์นะคะเพราะที่นี่เคยเป็นโบสถ์เก่า ตอนนี้ไม่ได้เป็นแล้ว เค้าก็ปรับปรุง ละครเกาหลีหลายๆเรื่องก็ถ่ายทำที่นี่ อีกทั้งคนเกาหลียังชอบมาถ่ายพรีเวดดิงที่นี่ด้วย ด้วยสีที่ตัดกับน้ำทะเลสวยๆ 

วิธีเดินทาง:: ลงสถานี Gijang ทางออก 1 แจกทางแยกแล้วเลี้ยวขวา จนเจอสี่แยกข้ามถนน

แล้วเดินตรงไปจนเจอร้าน GS25 ให้รอรถเมล์ฝั่งตรงข้าม ป้ายจะอยู่ตรงสามแยกพอดี (ไปตามรอบประสีฟ้า) ขึ้นรถเมล์สาย 6 รถสีเขียว ไป 8 ป้าย

พื้นที่เล็กกว่าที่คิดค่ะ ถ่ายไม่เกิน 1 ชม.ก็ครบทุกมุมแล้ว ใกล้ๆมีคาเฟ่อยู่ที่นี่เดียว ผูกขาดมากกก แต่ประทับใจมากค่ะ ตกแต่งสวยด้วยของสะสมของเจ้าของร้าน เป็นของ One piece และตัวบ้านกระต่าย จำชื่อไม่ได้ ตอนเด็กอยากได้มากก แต่แพงมากเลย

ขากลับก็เดินไปขึ้นป้ายเดิมที่ลงเลยค่ะ เพื่อไปต่อรถไฟฟ้า หรือรถเมล์สายอื่นก็ว่ากันไป แล้วแต่สถานที่ที่ไปต่อ อย่างเราไปแฮอุนแดต่อ ก็ลงป้ายเดิมตอนขึ้น แล้วต่อรถเมล์สายอื่นแถวนั้นเลย

ไปกินออมุกร้านที่สามแฝดไป แต่รสชาติเฉยๆเลยไม่ขอรีวิวนะคะ 555

ไปต่อกันที่ถัดไปเลยค่าา เราชอบที่นี่ที่สุดในทริปนี้เลย เพราะบรรยากาศดี ผู้คนดูชิวๆ

청사포 빨간 등대 เป็น Lighthouse สีแดงใน Busan ตั้งอยู่ที่ Cheongsapo Port

การเดินทาง:: สถานี Jangsan ทางออก 5 แล้วขึ้นรถเมล์สาย 2 ไปลงที่ป้าย Cheongsapo เลย

แถวนี้มีคาเฟ่สวยๆอยู่หลายแห่งเหมือนกันนะ มี Dore Dore ร้านเค้กสีรุ้งที่คนไทยรู้จักดีด้วย

แต่ร้านที่เราจะไปวันนี้สวยกว่านั้นนนนน มาแถวนี้ทั้งทีจะไปร้านเฟรนไชส์ได้ยังไงล่ะ

ถ่ายรูป & กินบรรยากาศจุใจกันแล้ว เราก็ไปต่อกันที่สุดท้ายของวันนี้ค่ะ

การเดินทาง:: ลงสถานี Haeundae ทางออก 5 เดินตรงมาเรื่อยๆจนเจอหาดแฮอุนแด

เดินชมดนตรีเปิดหมวกเรียบชายหาดไปเรื่อยๆค่ะ อยู่ไม่ไกล เรากำลังจะไป The Bay 101 นั่นเอง!

ที่นี่เปิดใหม่ได้ไม่กี่ปี จำได้ว่ามาเมื่อ 3 ปีที่แล้วยังกำลังสร้างอยู่เลย 

เป็นที่นัด Hangout ตอนกลางคืนของวัยรุ่นค่ะ บางทีก็มี Food truck มาตั้ง

ด้านในมีร้านขายไก่ทอด และเบียร์ คนนิยมซื้อแล้วนำออกมาทางด้านนอก รับลม ชมวิวกันไปค่ะ

ปิดท้ายวันนี้ด้วย Real Milk Soft Cream เพิ่มชิป กับมาการอง (Rose Macaron) อร่อยมากก

โดยเฉพาะมาการอง หวานหอมกำลังดี ซื้อจากร้านด้านใน The bay 101 ค่ะ

ผ่านไปสองวัน รู้สึกว่าเวลาช่างผ่านไปเร็วมากกก ทั้งๆที่เป็นหน้าร้อน เวลาตอนกลางวันจะยาวนาน

แต่กลับไม่รู้สึกเช่นนั้นเลยค่ะ มาเที่ยวทีไรเป็นแบบนี้ทุกทีเลยเนอะ มีใครเป็นเหมือนเรามั๊ยนะ?

Day 3:

10:30 am เช็คเอ้าท์

11:30 am กินกลางวัน @ร้าน 소문난불백 (Somunnan Bulbak)

12:30 pm 168-stair & Monorail

1:30 pm ใส่ชุดนักเรียนเกาหลีที่ 이바구 공작소

2:30 pm 168 Cafe

3:30 pm เดินทางไปสนามบินปูซาน

วันสุดท้าย เราต้องบินกลับ เที่ยวบินเว่า 5:30PM ฉะนั้นจะต้องไปถึงสนามบินประมาณ 4:30PM เพื่อโหลดกระเป๋า และไปหาของกินในเล้าจ์ค่ะ เลยไปเที่ยวที่เดียวดีกว่า สบายๆ และเพื่อหา Locker ฝากกระเป๋าง่ายๆ เลยเลือกไปเที่ยวแถว Busan Station ซะเลย

หลังจาก Check-out เรียบร้อยแล้ว ก็มุ่งไปที่ Busan station เลยค่ะ Locker ที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเยอะทีเดียว ไม่ต้องเดินขึ้นไปถึงสถานีรถไฟ

ฝากของเรียบร้อยก็เที่ยงพอดี ท้องร้องแล้วววว~~ จากที่อ่านรีวิวของคนเกาหลี ร้านเด็ดๆย่านนี้มีอยู่  2 ร้าน ร้านอื่นระวังนะคะ ตั้งอยู่ติดกันมาก เราเข้าผิดไปแล้วด้วย ออกแทบไม่ทัน 555

ร้านชื่อ 소문난 불백 (Somoonnan Bulbaek) เปิด 24 ชม.อีกแล้วว

พิกัด:: 36 Choryang-ro, Choryang 3(sam)-dong, Dong-gu, Busan

โซนสุดท้ายแล้วค่าา เหนื่อยกันรึยังเอ่ย? จากร้านหมูเมื่อกี้ เราก็เดินกันไปต่อที่ 168계단 (168 เกดัน) หรือแปลเป็นไทยว่า บันได 168 ขั้นนั่นเอง

จากการที่หมู่บ้านตั้งอยู่ไล่ระดับเขา ทำให้มีบันไดในการการเดินทางขึ้นไป เกิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวได้เลย เราว่าเกาหลีเก่งเรื่องนี้นะ บางทีสถานที่เล็กๆน้อยๆก็ทำให้เกิดประโยชน์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ 

นอกจากบันไดแล้ว เค้ายังทำ Mono Rail ดึงดูดนักท่องเที่ยว (ชาวเกาหลี) ได้เพิ่มขึ้นด้วย ตอนที่ไปไม่เจอต่างชาติเลยค่ะ เข้าใจว่ายังไม่ค่อยทราบกัน

เมื่อขึ้นไปแล้ว สามารถมองเห็นวิวหมู่บ้าน คล้ายๆกัมชอน ที่คนไปเยอะๆเลย กำแพงทางขึ้น ก็มีการวาดตกแต่งให้ถ่ายรูปเช่นกัน

พอขึ้นไปถึงชมวิวพอชื่นใจแล้ว ก็ไปทำภารกิจต่อไปค่ะ คือหาที่เช่าชุดนักเรียนเกาหลีสมัยก่อน!! ที่นี่เหมือนเป็นของชุมชนเหมือนกันค่ะ มีจัดแสดงนิทรรศการประหยัดต่างๆ และมีให้เช่าชุดนักเรียนในราคา 1,000 วอน!!! อ่านไม่ผิดหรอกค่ะ 1,000 วอน หรือ 30 บาทไทยเท่านั้น อยู่ที่ 이바구공작소

พิกัด:: 875-2, Choryang-dong, Dong-gu, Busan

อยู่ในหลืบหายากนิดนึงนะคะ แต่ไม่เกินความสามารถ 

จะมีคุณป้าๆคอยดูแลอีกแล้วค่ะ ป้าจะให้จ่ายเงิน 1,000 วอน แล้วเขียนชื่อในใบ

แล้วเค้าจะเลือกชุดให้ค่ะ ป้าเลือกเป๊ะมากจริงๆ ทั้งกระโปรง และเสื้อ

ในนี้จะมีฉากต่างๆให้ถ่ายรูป ขึ้นไปข้างบน มีฉากด้านนอกด้วย ป้าบอกให้เวลา 20 นาที

แต่จริงๆแล้วเกิน ป้าก็ไม่ได้ดุอะไรค่ะ ตอนคืนชุดมีถามอีกว่า ถ่ายพอแล้วใช่มั๊ย ได้รูปสวยแล้วใช่มั๊ย

อาจจะเป็นวันธรรมดา คนไม่เยอะเท่าไหร่ ถ้าช่วงที่คนเยอะๆอาจจะต้องรักษาเวลาหน่อยเนอะ

ถ่ายรูปจนเหนื่อยแล้ว ก็ต้องไปหาเครื่องดื่มอร่อยๆ บรรยากาศดีๆกินกันต่อสินะ คาเฟ่ชื่อดังที่นี่ ชื่อเหมือนสถานที่เลยค่ะ Cafe 168 เดินลงบันไดมาเรื่อยๆก็จะเจอ Toy Museum ก่อน

เมนูเด็ดของที่นี่ ก็คือ โดนัทโรยไอซิ่ง อร่อยมากกก ชอบที่สุด และก็ Ade สีม่วงตัดกับประตูสีเหลืองของร้าน เครื่องดื่ม และกาแฟรสชาติใช้ได้ค่ะ

อิ่มกาย อิ่มใจแล้ว ได้เวลาลุยกันต่อ ออกจากร้านลงบันไดมาไม่กี่ขั้น ก็จะเจอจุดเชคอินต่อไป!

นั่นก็คือ ประตูสีชมพูสดใสแห่งนี้นี่เอง!

จบทริปแล้วค่าาา หวังว่าเพื่อนๆจะชอบกันนะคะ ถึงจะเป็นทริปสั้นๆ แต่เก็บรายละเอียด

สถานที่ที่อยากไปค่อนข้างครบเลยทีเดียว ก่อนหน้านี้บิวเคยมาปูซานประมาณ 5 ครั้งแล้วค่ะ

ไปสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆครบหมดแล้ว รอบนี้เลยไปที่ใหม่ๆบ้าง ^^

ทริปนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ และราบรื่นแบบนี้ไม่ได้เลย ถ้าขาดเพื่อนร่วมทางที่ดีคนนี้ ขอบคุณมากๆนะจ้ะ 

ไว้จะหาที่เที่ยวในเกาหลีใหม่ๆมาแนะนำอีกนะคะ หรือสามารถไปติดตามเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับเกาหลีการใช้ชีวิต การเรียน ท่องเที่ยว แฟชั่น ฯลฯ ได้ที่เพจ หรืออินสตาแกรมของเรานะคะกดลิงก์จาก Profile ด้านล่างได้เลย ❤ ขอบคุณมากๆที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ค่ะ ❤ อันนยองงง~~


bewitch.bewty

bewitch.bewty

Business inquiry please add line: buta_beauty

FULL PROFILE