[Review] Skincare ของใหม่ใช้ดี (เหรอ?) ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา

สวัสดีค่าา วันนี้เรากลับมาพร้อมกับของใหม่ใช้ดี (?) ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาค่ะ เอาจริง ๆตั้งใจจะทำกระทู้ของใหม่ใช้ดีในช่วงสองเดือนแรกของปี แต่ด้วยความขี้เกียจตัวเป็นขน เลยลากยาวมาจนถึงครึ่งปีแรก 555555 คำเตือน : กระทู้นี้จะค่อนข้างยาว และเต็มไปด้วยตัวหนังสือเพราะเราเป็นคนขี้บ่น รูปอาจจะมีบ้างไม่มีบ้างเพราะบางอันใช้หมดแล้วไม่ได้ถ่ายเก็บไว้ สภาพผิว : ผิวผสมค่อนไปทางมัน ไม่ค่อยแพ้พวกสารเคมีอะไรเท่าไหร่ แต่อุดตันจากพวกฝุ่นควันต่าง ๆง่ายมากกก มีสิวอุดตันกับรอยสิวประปรายนิดหน่อย พฤติกรรมการช้อปปิ้ง : ปกติจะซื้อออนไลน์ซะเยอะ เพราะกลัวบีเอที่เคาน์เตอร์ค่ะ 555555 แต่เป็นคนที่ค่อนข้างให้ความสำคัญกับการบริการมากก ถ้าไปซื้อที่เคาน์เตอร์ไหนแล้วบริการดี เราจะกลับไปซื้อที่ันั่นอีกเรื่อย ๆถึงแม้ราคาจะแพงกว่าซื้อออนไลน์ก็ตาม 

หลังจากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเราไปคร่าว ๆแล้วก็...มาค่ะ เริ่ม !

ESTEE LAUDER Advanced Night Micro Cleansing Foam 30ml. ตัวนี้แถมมาตอนสั่ง ANR เลยไม่มีราคาค่ะตัวนี้ไม่มีรูปเพราะรีบใช้ให้หมดแล้วทิ้งไปอย่างรวดเร็วค่ะ เราไม่ชอบตัวนี้เลย ตอนแรกที่ได้มาก็เก็บไว้เพราะปกติจะชอบเก็บของไซส์เล็ก ๆเอาไว้เผื่อเดินทาง จนได้ฤกษ์เอามาใช้ตอนทริปบายเนียร์ บีบออกมาตอนแรกก็รู้สึกแปลก ๆแล้วค่ะ เหมือนตอนตีฟอง โฟมมันแตกตัวแปลก ๆ ไม่ค่อยมีฟองด้วยค่ะ อันนี้ไม่รู้เป็นที่ตัวโปรดักส์เค้ามาแบบนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วรึเปล่า แต่ที่พังมากสำหรับเราคือกลิ่นค่ะ มันเหม็นมาก ฮือออ TT ตอนนั้นคิดเอาเองว่า อาจจะเก็บไม่ดีมันเลยหมดอายุหรือเสียแล้วรึเปล่า เลยรีบล้างมือแล้วหยุดใช้เลยค่ะ พอว่าง ๆเลยถือไปถามที่เคาน์เตอร์เอสเต้สาขาเซ็นลาด บีเอน่ารักมากกก (จริง ๆเคยชมบีเอเอสเต้ไปแล้วตอนกระทู้เห่อเมื่อปลายปีที่แล้ว แต่อันนี้ขอชมอีกรอบค่ะ บีเอน่ารักมากจริง ๆ) จำได้ว่าตอนนั้นบีเอเค้ายืนคุยกันอยู่ แต่พอเราเดินเข้าไปใกล้ในรัศมี ทุกคนหยุดคุยแล้วมีคนนึงเข้ามาถามเราทันทีด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ไม่มีเหวี่ยงที่ไปขัดจังหวะการคุยแต่อย่างใด เหมือนจะเป็นเรื่องธรรมดาของงานบริการก็จริง แต่เราประทับใจเพราะเคยไปขัดตอนบีเออีกแบรนด์คุยกันแล้วโดนมองจิกใส่ค่ะ TT หลังจากให้บีเอช่วยดูให้แล้ว เค้าก็บอกว่า นี่เป็นลักษณะปกติของตัวสินค้าเลยค่ะ ทั้งลักษณะโฟม กลิ่น เราเลยกล้าเอากลับมาใช้ต่อที่บ้าน แต่แน่นอนว่าใช้แบบรีบ ๆใช้ให้หมดไป ไม่ไหวกับกลิ่นจริง ๆ 555555 ปล. ล่าสุดเข้าไปดูในเว็บไซต์ไม่เห็นตัวนี้อยู่แล้วค่ะ เหมือนจะกลายเป็นหลอดสีขาว ๆแทน ไม่รู้แค่เปลี่ยนแพกเกจจิ้งเฉย ๆหรือมีการพัฒนาสูตรอะไรยังไง ใครได้ลองตัวสีขาวแล้วมารีวิวทีนะคะ 

IPSA Cleansing Foam 50 g. 220 บาท (อันนี้ซื้อจากร้านใน IG มาค่ะ แต่ละร้านราคาไม่เท่ากัน ต้องหาร้านที่น่าเชื่อถือและเช็กราคาดี ๆเนอะ สำหรับไซส์จริงจะเป็น 125 g. ราคาประมาณ 1,350 บาทได้) โฟมล้างหน้าของ IPSA ที่ไม่รู้อะไรดลจิตดลใจให้ซื้อมา ทั้ง ๆที่ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยเห็นรีวิวของแบรนด์นี้ด้วยซ้ำ แต่ซื้อมาแล้วรู้สึกว่ มันคุ้มค่ามากกก ! บีบออกมานิดเดียวแต่ตีฟองได้เยอะมาก ๆค่ะ ความรู้สึกเราเหมือนจะตีออกมาได้ประหยัดกว่าของ THREE ซะอีก (บีบโฟมออกมาในปริมาณน้อยกว่า แต่ตีฟองออกมาได้พอ ๆกันเลยค่ะ) ล้างหน้าได้สะอาดดี หน้าไม่แห้งตึง ไม่เอี๊ยด กลิ่นโฟมจะคล้าาย ๆลูกอมยี่ห้อเมนทอสที่เคยกินตอนเด็ก ๆ แน่นอนว่า ถ้าเทียบเรื่องกลิ่นกับของ THREE THREE ยังชนะอยู่ค่ะ อันนั้นหอมมากจริง ๆ แต่ถ้าไม่ซีเรียสเรื่องกลิ่นเราว่า IPSA ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจค่ะ

PAULA’S CHOICE SKIN BALANCING Pore-Reducing Toner190 ml. 950 บาท โทนเนอร์บำรุงผิวสำหรับผิวธรรมดาถึงผิวมัน ตัวนี้เราซื้อมาจากตัวแทนจำหน่ายของแบรนด์ผ่านทางไลน์ ช่วงนั้นกำลังลดราคาในช่วงปีใหม่อยู่ดี เราเลยได้มาในราคาประมาณ 700 กว่าบาทค่ะ ใครเล็ง ๆไว้ก็รอช่วงลดแล้วค่อยสอยก็ได้นะคะ ตอนนั้นจำได้ว่า ลดหลายอย่างเลย ในเว็บไซต์ของแบรนด์เคลมในเรื่องการกระชับรูขุมขนด้วย แต่ใช้ไปก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันกระชับอะไรเท่าไหร่ แต่ชอบตรงที่มันบางเบา ซึมสู่ผิวค่อนข้างไว ไม่เหนอะหน้า ตอนทาบางจุดที่เป็นสิวจะรู้สึกยิบ ๆด้วยนิดนึงค่ะ เหมือนโทนเนอร์มันกำลังทำงานอยู่เลย โดยรวมแล้วค่อนข้างชอบค่ะ :) 

PAULA’S CHOICE  SKIN PERFECTING 2% BHA Liquid Exfoliant118 ml. 1,250 บาท BHA ตัวดังของแบรนด์ที่เชื่อว่า หลาย ๆคนที่เป็นสิวง่ายน่าจะเคยลองใช้กันมาบ้างแล้ว BHA ของทางแบรนด์นี้เค้าจะมีสองแบบ คือ แบบลิขวิดกับแบบเจลค่ะ ต่างกันแค่เนื้อผลิตภัณฑ์ที่เหลือเหมือนกันหมดเลย เราเลือกแบบลิขวิดมาค่ะ ตัวนี้ช่วงปิดเทอมเราจะใช้ตอนเช้า ทาทิ้งไว้ 20 นาทีแล้วใช้สกินแคร์ขั้นตอนต่อไปได้เลย ไม่ต้องล้างออก แต่ถ้าเป็นตอนเปิดเทอมที่รีบ ๆก็จะใช้ตอนเย็นสลับกับตัว AHA ขึ้นกับสภาพผิวหน้าในตอนนั้น ช่วยในเรื่องลดสิวอุดตัน สิวเสี้ยน ทางร้านที่เราซื้อเค้าบอกว่า ช่วยลดรอยแดงได้ส่วนนึงด้วยค่ะ แต่เรื่องรอยแดงนี่เราไม่ค่อยสังเกตเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะโฟกัสกับเราสิวอุดตันมากกว่า พอใช้แล้วรู้สึกว่า สิวอุดตันมันลดน้อยลง บางจุดก็มีขนาดเล็กลง แต่ถ้าทาเยอะเกินไปจะทำให้หน้าแห้งค่ะ แห้งแบบลงบีบี คุชชั่น แล้วมันเป็นขุยเล็ก ๆเลย แอบลอกด้วยนิดนึง ดังนั้นต้องใช้ต้องใช้แต่พอดีนะคะ ฮืออ TT 

PAULA’S CHOICE SKIN PERFECTING 8% AHA Gel Exfoliant100 ml. 1,250 บาท สำหรับ AHA จะเน้นช่วยเรื่องรอยดำจากการบีบสิว รอยแดง ๆจากสิวที่เพิ่งเกิดค่ะ มีความเข้มข้นสามแบบ คือ 5% 8% และ 10% เนื่องจากเราเป็นคนหน้าทนมากกก มากระดับทาเบนแซคทิ้งไว้ข้ามคืนแล้วไม่เป็นไร เลยเลือกแบบ 8% มาค่ะ 55555 เนื้อเจลซึมได้ค่อนข้างไวค่ะ ชอบมากกว่าเนื้อลิขวิดข้างบน ตัวนี้เราใช้แล้วเฉย ๆ อาจจะเป็นเพราะมันช่วยเรื่องรอยซึ่งต้องใช้สกิลการสังเกตในระดับนึง แล้วเราก็ไม่ได้เป็นคนช่างสังเกตขนาดนั้น บางทีก็ลืมดู แต่น้องสาวเราใช้แล้วชอบมากค่ะ นางบอกลดรอยแดง รอยดำได้จริง 

Hada Labo UV Perfect Gel SPF50+PA++++80 g. 850 บาท ซื้อเพราะเห็นรีวิวจากคนอื่น ๆว่ามันใช้ดียังงั้นยังงี้ บวกกับครีมทาผิวตัวเก่าใกล้หมด แล้วไปเกิน Tops เห็นกำลังลดราคาพอดี เลยได้มาลองค่ะ ตอนแรกนึกว่าเนื้อจะเป็นเจล ๆซึมเข้าผิวไว ๆอะไรแบบนี้ แต่จริง ๆแล้วตอนทาบนผิวให้ความรู้สึกคล้าย ๆกับทาครีมกันแดด แต่ไม่เหนอะเท่า ซึมเข้าผิวได้ดีประมาณนึง แต่ไม่ได้เร็วและแห้งไวอย่างที่คิดไว้ ตัวครีมมี SPF50 มาด้วยเราเลยแอบข้าม ๆขั้นตอนทากันแดดไปเลย เพราะตอนทาครีมตัวนี้ก็ให้ความรู้สึกหมือนทากันแดดอยู่แล้ว ถ้าทากันแดดซ้ำอีกมันเหมือนทากันแดดซ้ำกันแดดเลยไม่ทาค่ะ 555 แล้วก็ปริมาณที่ได้มาเยอะมากกก ใช้มาหลายเดือนแล้วยังไม่หมดเลยค่ะ แต่เนื่องจากเป็นกระปุกเลยต้องระวังเรื่องความสะอาดนิดนึง ตอนทาต้องใช้ที่ตักหรือล้างมือให้สะอาด มันก็จะมีความยุ่งยากขึ้นมาอีกนิดดนึง ถ้าถามว่าใช้หมดแล้วจะซื้อต่อมั้ยคงไม่ อยากลองอันอื่นบ้าง 

สุดท้าย ขอแอบแถม Hair Care มาด้วยตัวนึง ทิ้งท้ายกันไปแบบหอม ๆสไตล์เจ้าหญิงค่ะ 

JILL STUART Treatment Hair Mist200 ml. 1,000 บาทก่อนหน้านี้เคยไปวอแวกับ Hair Mist ของ Dior อยู่พักใหญ่แต่สุดท้ายก็ตัดใจเพราะราคาแรงมากกค่ะ T_T จนได้มาเจอ Hair Mist ของ Jill Stuart จากรีวิวของพี่แป้ง Kirari เห็นรีวิวแล้วแบบ เฮ้ยย แพกเกจจิ้งน่ารักมาก ๆ ดูเจ้าหญิงตามสไตล์จิลเลยค่ะ ตอนแรกนึกว่าจะแพง แต่พอไปเสิร์ชราคาแล้วก็ถือว่า ราคาโอเคเลยนะกับปริมาณเท่านี้ (ของดิออร์ที่เราเคยไปวอแว 30 ml. 1,700 บาท//มองบน ทำไมแพงงี้) ในส่วนผสมมีพวกน้ำมันสกัดต่าง ๆช่วยในเรื่องการบำรุงผม ป้องกันผมจากความร้อนแล้วก็ป้องกันจากกลิ่นพวกกลิ่นปิ้งย่าง กลิ่นควันด้วยค่ะ จด ๆจ้อง ๆอยู่ได้ไม่กี่วันก็ไปลองที่พารากอนค่ะ ขอบ่นเรื่องบีเอนิดนึงว่า บีเอดูมึน ๆ คือเราไปเคาน์เตอร์นี้สองครั้ง ครั้งแรกไปลองกลิ่นดูก่อนว่ามันโอเคมั้ย พอไปถึงดันเจอ Hair Mist สองแบบ อันแรกเป็นอันที่ขายปกติอยู่แล้ว ส่วนอีกอันคิดว่าน่าจะเป็น Limited Edition ค่ะ กลิ่นตัวแรกจะหอมแบบเบา ๆ ไม่ฉุน ส่วนตัวที่สองจะหอมแรงกว่า เหมือนมีใส่น้ำหอมลงไปด้วย แต่ประเด็นคือ ตอนเราถามว่า ทั้งสองตัวนอกจากกลิ่นกับแพกเกจจิ้งแล้วต่างกันยังไง ไปเคาน์เตอร์สองครั้งกับบีเอสองคน บีเอตอบไม่เหมือนกันเลยค่ะ งงไปอีก จำได้ว่าครั้งแรกบีเอบอกว่า ต่างกันที่ส่วนผสม การใช้แบบแต่ละตัวเหมาะกับลักษณะการใช้แบบไหนมีความแตกต่างกันนิดหน่อย แต่พอไปครั้งที่สองบีเอบอกเหมือนกัน ต่างแค่กลิ่นกับแพกเกจจิ้งนี่แหละ สุดท้ายเลยสอยมาแบบงง ๆค่ะ จนปัจจุบันก็ยังไม่รู้ว่ามันต่างกันยังไง 55555 การบริการก็โอเค ไม่ดุ แต่ก็ไม่ได้ประทับใจเป็นพิเศษ ออกแนวงง ๆกับการให้ข้อมูลด้วย 5555 แต่ตัวผลิตภัณฑ์เราชอบนะ กลิ่นหอมทั้งสองตัว เคยลองฉีดไปกินปิ้งย่างแล้วถือว่าโอเคเลยค่ะ มันไม่ถึงกับไม่ติดผมเลยยขนาดนั้นนะ แอบมีกลิ่นนิดนึง แต่ดีกว่าไม่ฉีดเยอะเลยค่ะ ก็หมดไปแล้วเนอะ สำหรับของใหม่ในหมวดสกินแคร์ที่เอามาลองใช้ในช่วงครึ่งปีนี้ พอมอง ๆอย่างนี้แล้วดูไม่เยอะเลย แต่เงินที่หายไปนี่ไม่รู้หายไปกับอะไรหมด 55555 ในส่วนของเครื่องสำอางของเราจะมีไม่ค่อยเยอะมาก เพราะพยายามซื้อใช้ให้หมดไปทีละอย่าง ๆ ถ้ามีโอกาสจะเอามารีวิวให้ชมกันนะคะ ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ค่ะ แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้า บ๊ายบายค่า <3