บอกต่อ 7 สกินแคร์ตัวแม่ แก้ผิวพัง ให้กลับมาปังเหมือนเดิม

16 8

ฮัลโหลๆ สวัสดีค่ะ วันนี้สไมล์ กลับมาแล้ว หลังจากที่ห่างหายไปซะนาน เพราะ 3-4 เดือนที่ผ่านมามรสุมหน้าพังอย่างหนัก เจอทั้งสิวผด สิวอักเสบ โดยเฉพาะสิวอุดตัน แต่ตอนนี้สไมล์ก็ฟ่าฟันมาได้แล้ว วันนี้เลยจะขอมาบอกต่อสกินแคร์ที่ใช้แล้วเริ่ด สิวหาย หน้ากลับมาดีขึ้น บางตัวใช้มานานตั้งแต่สมัยเรียน (นานม๊ากกก) บางตัวเพิ่งค้นพบว่าดีงาม รีวิวนี้ สไมล์จะแบ่งเป็นขั้นตอน ตามที่ใช้จริงในแต่ละวัน มาดูกันเลยดีกว่าค่ะว่ามีอะไรบ้าง

:: ขั้นตอนทำความสะอาด  ::POSITIF Phyto Crystal Purifying Cleansing Oil

ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าขั้นตอนการล้างเมคอัพสำคัญที่สุด ดังนั้นสไมล์เลยชอบลงทุนกับคลีนซิ่งดีๆ ราคาไม่เกี่ยงขอให้เริ่ดจริง จบ! เพราะถ้าเราล้างเมคอัพออกหมดจด ก็ไม่เกิดสิวอุดตัน แต่ถ้าใช้คลีนซิ่งไม่ดี ล้างไม่สะอาด เกิดสิวอุดตัน ก็ต้องวิ่งไปคลินิกรักษาผิวอีก แพงกว่าเป็นไหนๆ (อินมาก เพราะเคยเป็นไงฮ่าๆๆ) เข้าเรื่องๆ เค้าใช้ออยล์ในการล้างเครื่องสำอาง เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการใช้สำลีเช็ดหน้า เพราะกลัวเรื่องริ้วรอยก่อนวัย และรู้สึกว่าอ่อนโยน ล้างได้หมดจดดีด้วย สไมล์ลองมาหลายยี่ห้อแล้ว แต่มาติดใจคลีนซิ่งออยล์ของ POSITIF ใช้มาประมาณปีนึงแล้ว จนเลิกนับขวดไปแล้วหล่ะ 555 นางเป็นคลีนซิ่งออยล์อุ่นจากประเทศญี่ปุ่น มีส่วนผสมหลักคือ Crystal oil ที่สกัดมาจากพืชพรรณธรรมชาติ และยังมี Avocado oil ช่วยเติมความชุ่มชื่น ลดเลือนจุดด่างดำ และรอยแผลเป็น และยังมี Royal Jelly ช่วยลดการอักเสบของผิว ต้านอนุมูลอิสระ และฟื้นฟูเซลล์ผิวที่ถูกทำร้ายให้กลับมาแข็งแรงขึ้น ความเลิศอีกอย่างคือ ตัวนี้เป็นออยล์อุ่น (เท่าที่รู้คือไม่มีแบรนด์ไหนทำ) โดยความอุ่นของออยล์จะเข้าไปเปิดรูขุมขนแล้วดูดคราบเครื่องสำอาง สิ่งสกปรกต่างๆ ออกมา จึงทำให้เราล้างหน้าได้หมดจด แอบอวด เค้าซื้อมาตอนโปร 1 แถม 1 เซฟสุดๆ ใครอยากสอยมาลอง รู้สึกว่าเค้าจัดโปรถึง 19 กรกฎาคานี้นะปริมาณ: 60 ml. ราคา: 550 บาท ซื้อได้ที่: วัตสัน

เวลาใช้สไมล์จะกดเนื้อออยล์อุ่นออกมาประมาณ 3-4 ปั้ม แล้วนวดวนๆ บนใบหน้าที่ยังแห้งอยู่ ตัวนี้สามารถนวดรอบดวงตาได้ ไม่รูสึกระคายเคืองเลย เพราะเค้าอ่อนโยนมากจีจี พอนวดจนคราบเครื่องสำอางเริ่มหลุด ก็ใช้น้ำพรมให้ทั่วใบหน้า แล้วนวดต่อจนออยล์เปลี่ยนเป็นน้ำนม และล้างออกด้วยน้ำสะอาด ความรู้สึกส่วนตัวคือเลิฟความอ่อนโยนของนาง ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น เข้าตาก็ไม่แสบ คิดว่าตัวนี้เหมาะกับสาวๆ ทุกสภาพผิว ผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้ สำหรับสไมล์ใช้ตัวนี้ทุกวัน แต่งหน้าแน่นแค่ไหน ตัวนี้ก็เอาอยู่ แม้แต่เมคอัพที่เป็น waterproof ถูนิดเดียวก็หลุดออกง่ายมาก อีกอย่างที่ปลื้มคือ นางเป็นคลีนซิ่งออยล์ที่ไม่ทิ้งคราบมันเลย พอล้างเสร็จหน้าก็ยังชุ่มชื่นอยู่ เหมือนยิ่งล้างยิ่งบำรุงไปในตัว  ส่วนความอุ่นยิ่งทำให้ฟินเพราะเหมือนได้ทำสปาที่บ้านเลย โดยรวมเลิฟนาง เดี๋ยวคงจะไปสอยไซส์ใหญ่ 200 ml. ไปเลย จะได้ไม่ต้องซื้อบ่อยๆ แต่เท่าที่รู้ไซส์ใหญ่ต้องสั่งในเว็บไซต์นางเท่านั้น ราคา 1,400 บาท ใช้ได้นาน ก็ให้อภัยกันได้ ใครมองหาคลีนซิ่งดีๆ ซักตัว แนะนำให้ลงทุนกันตัวนี้ค่ะ

Bifesta Foaming Whip - Sebum

หลังจากคลีนผิวด้วยคลีนซิ่งแล้ว ก็มาต่อกันที่โฟมล้างหน้า ส่วนตัวสไมล์ค่อยข้างอินเลิฟกับการใช้

วิปโฟมขั้นสุด ตัวนี้ถือว่าตอบโจทย์ชะนีขี้เกียจได้ดี เพราะนางคือวิปโฟมแบบพร้อมใช้ เค้าใช้มาตั้งแต่แบรนด์เค้าออกมาเลย จริงๆ ตอนนี้มี 3 สูตร ด้วยกัน แต่สไมล์ชอบสูตรสีเขียว

สำหรับผิวผสม - ผิวมัน มีส่วนประกอบหลักๆ จากชาเขียว และไฮยาลูโรเนต ช่วยคุมมัน กระชับรูขุมขน และคงความชุ่มชื่นให้ผิวปริมาณ: 180 g. ราคา: 195 บาท ซื้อได้ที่: วัตสัน

ที่ชอบวิปโฟมตัวนี้เพราะ เนื้อวิปโฟมแน่น นุ่ม ยืดหยุ่นดี เวลาล้างหน้าฟินม๊ากกก ล้างเสร็จรู้สึกว่าสะอาด แต่หน้าไม่เอี๊ยด ไม่แห้งจนเกินไป แต่ถามว่าเป็นโฟมล้างหน้าที่ดีเลิศช่วยในการบำรุงขนาดนั้นมั้ย ตอบเลยว่าไม่ แต่ขอเรียกว่า เป็นถูกและดี (ตามราคา) ละกันเนอะ เราใช้แล้วชอบ แถมไม่แพ้ ราคาถูกดี เลยใช้มาเรื่อยๆ เวลาใช้ต้องเขย่ากระป๋อง และตั้งตรง จากนั้นบีบลงฝ่ามือ ก็จะได้ฟองโฟมลูกใหญ่ๆ ตามรูปเลย ตัวนี้มีกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ นะคะ สำหรับเค้ารับได้ เป็นกลิ่นที่ถูกจริต และ

ไม่แพ้แต่ที่แอบนอยด์กับเจ้าตัวนี้ ไม่รู้สาวๆ คนอื่นเป็นมั้ย? เวลากดครั้งนึง เนื้อโฟมจะพุ่งออกมาเยอะมาก แอบเปลือง ดังนั้นตั้งสติก่อนกดนะคะทุกคน ฮ่าๆๆๆ

:: ขั้นตอนบำรุง ::Laneige Clear C Advanced Effector

หลังจากล้างหน้าสะอาดแล้ว สไมล์จะใช้โทนเนอร์เช็ดอีกทีนึง เพื่อเช็คว่าหน้าสะอาดจริงๆ และเพื่อเป็นการรีเฟรชผิวให้พร้อมรับการบำรุงนั่นเอง ตัวนี้สไมล์เรียกว่าโทนเนอร์เบอร์รี่ เพราะนางสกัดมาจากเบอร์รี่หลายชนิดถึง 92.5% ช่วยปรับผิวให้สว่างกระจ่างใส เพราะมีวิตามินซี นางมีกลิ่นหอมอ่อนๆ เป็นแนวหอมแบบสดชื่น ช่วยผ่อนคลายดี ปริมาณ: 150 ml. ราคา: 1,450 บาท ซื้อได้ที่: เคาท์เตอร์ Laneige

เค้าใช้มาเป็นขวดที่ 2 แล้ว หลังจากหมดขวดแรกไปก็รู้สึกว่าผิวหน้าใสขึ้นเล็กน้อย แต่ที่ชอบคือผิวเรียบเนียนขึ้น ดีต่อใจ เพราะแต่งหน้าง่ายขึ้น นี่ขวดที่ 2 ใกล้จะหมดอีกแล้ว เสียตังค์อีกแล้ว แง่ๆๆ

T T เวลาใช้ให้กดโทนเนอร์ใส่สำลี 2-3 ปั้ม ให้ชุ่ม (ควรเลือกสำลีที่ไม่ยุ่ยง่าย) แล้วค่อยๆ เช็ดอย่างเบามือนะจ๊ะ ตัวนี้ราคาแรงไปนิด แถมเป็นขวดแก้ว พกพาไปตจว. ยาก อาจแตกกระจายได้ เสียดายไปอี๊กกก แนะนำให้ปั้มใส่ขวดเล็กแยกไปดีกว่าจ้า

Hada labo Arbutin Whitening Lotion

น้ำตบในตำนานอีกหนึ่งตัว แต่ดันเป็นน้องใหม่ในกรุสกินแคร์ของเค้า หูยย แอบเชยสุดๆ เนอะ 555 ตัวนี้เพิ่งเคยลอง ตามคำแนะนำของซิสที่เคารพรัก บอกว่ามันดีงาม ชุ่มชื่นกำลังดี ไม่เหนอะหนะเหมือนสูตรสีขาว เลยตัดสินใจจัดมาลอง ตัวนี้มีสารสกัดจากพืชธรรมชาติ, อาบูติน และวิตามินซี ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ปรับผิวให้กระจ่างใส และยังมี Hyaluronic Acid ช่วยเติมและกักเก็บความชุ่มชื่นให้ผิวปริมาณ: 170 ml. ราคา: 520 บาท ซื้อได้ที่: วัตสัน

เนื้อสัมผัสก็เหมือนน้ำตบทั่วๆ ไป แต่ตัวนี้อาจบางเบากว่า เพราะเน้นความกระจ่างใส มากกว่าความชุ่มชื่น ยอมใจเรื่องความอ่อนโยน ไม่มีสี ไม่มีน้ำหอม ไม่มีแอลกอฮอล์ ผิวบอบบางน่าจะเลิฟเหมือนกันเค้า วิธีใช้คือ หยดลงมือประมาณ 2-3 หยด แล้วตบเบาๆ ให้ทั่วหน้า หลังจากที่สไมล์ใช้ไปครึ่งขวด ยังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงอะไรชัดเจน ต้องขอทดลองไปเรื่อยๆ ก่อน แต่ปลื้มปริ่มตรงใช้แล้วไม่แพ้

Yves Rocher Sensitive Vegetal Soothing Moisturizing Cream

 ขั้นตอนนี้สำคัญมาก สาวๆ ควรใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ โดยเฉพาะช่วงกลางคืน เพราะเรานอนในห้องแอร์ที่เย็นฉ่ำ ผิวก็ถูกดูดความชุ่มชื่น แบรนด์นี้สายออร์แกนิคตัวจริงต้องรู้จัก เป็นมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ที่ทำขึ้นเพื่อนผิวบอบบางโดยเฉพาะ ช่วยเติมน้ำให้ผิว ปรับผิวหน้าให้เรียบเนียนและใสขึ้น บีเอแนะนำว่าใช้ต่อเนื่องผิวจะแข็งแรงขึ้นด้วย เวลาซื้อแบรนด์นี้แนะนำว่าให้รอโปรโมชั่น เพราะจัดโปรบ่อยมาก ยิ่งเดือนเกิดลดชิ้นแรก 50% เลย ถือว่าคุ้มปริมาณ: 50 ml. ราคา: 550 บาท ซื้อได้ที่: ร้าน Yves Rocher

เนื้อครีมสีขาว เข้มข้นมาก ตัวนี้เค้าใช้เฉพาะตอนกลางคืน เพราะทาตอนเช้ารู้สึกเหนอะหนะเกินไป ขอบอกว่าทาแล้วนอน ตื่นเช้ามาหน้านุ่มม๊ากกก ตัวนี้นางอ่อนโยนจริงจ้า อ่อนโยนจนไม่เห็นผลเรื่องอื่นเลย ยกเว้นเรื่องความชุ่มชื่นที่เริ่ดสุดๆ ตอนนี้ใช้กระปุกที่สองอยู่และคิดว่าจะใช้เรื่อยๆ

:: ขั้นตอนการปกป้อง ::Eucerin Dermo PURIFYER DAY MAT WHITENING SPF 30

ครีมสำหรับช่วงเช้าสไมล์ใช้ตัวนี้ ค้นพบนางตอนช่วงที่เป็นสิวเยอะๆ สาวๆ น่าจะรู้จักยูเชอรินว่าเป็นเวชสำอาง สไมล์จะทาก่อนลงกันแดดในทุกๆ เช้า ตัวนี้มีคุณสมบัติช่วยลดสิว กระชับรูขุมขน และเพิ่มความขาวใสปริมาณ: 50 ml. ราคา: 1,200 บาท ซื้อได้ที่: วัตสัน

เนื้อครีมสีขาว แต่บางเบา ตัวนี้ทาปุ๊บ ซึมลงผิวปั๊บ ไม่เหนียวเหนอะหนะ ที่ชอบอีกอย่างคือ นางช่วยคุมมันระหว่างวันได้ดี ทำให้เมคอัพไม่หลุด ไม่เยิ้ม ถ้าวันไหนอยู่บ้านชิวๆ ลงตัวนี้แล้ว ไม่ต้องลงกันแดดก็ได้ แต่ถ้าวันที่ต้องออกแดดหนักๆ ต้องลงกันแดด้วยนะจ๊ะ ราคาแอบแรงไปอีกแล้ว แต่ยอมใจเพราะนางเริ่ดจริงๆ

Spectraban Sun Block Cream SPF 50+ PA+++

ขั้นตอนนี้จำเป็นอย่างม๊ากกก สำหรับการใช้ชีวิตในประเทศนี้ ที่มีแต่ฤดูร้อน ร้อนมาก และร้อนม๊ากกก หากใครละเลยกันแดดล่ะก็ ทั้งหน้าหมอง กระ ฝ้า มาอยู่เป็นเพื่อนแน่นอน 555 คงไม่มีใครไม่รู้จักแบรนด์นี้แล้วแหละ เพราะเหล่าบล็อกเกอร์รีวิวไว้เยอะมาก สไมล์เองเพิ่งได้มีโอกาสลองเมื่อเดือนที่ผ่านมา แอบซื้อหลอดเล็กมาก่อน เพราะไม่อยากพลาด เสียดายเงิน ถ้าใครเล็งๆ เจ้าตัวนี้อยู่ แนะนำให้ซื้อหลอดเล็กมาลองก่อนน้า ตัวนี้เป็นสูตรกันน้ำกันเหงื่อ ซึ่งเหมาะกับการใช้ชีวิตท่ามกลางแสงแดดที่แผดเผาเช่นนี้จริงๆ ปริมาณ: 20 g. ราคา: 300 บาท  ซื้อได้ที่: วัตสัน

เป็นกันแดดที่หนักและเข้มข้นที่สุดเท่าที่เคยใช้มา ชอบความอ่อนโยน ไม่มีกลิ่นของนาง เรื่องกันแดดก็ดีงาม เคยทาแล้วไปวิ่งกลางแจ้ง เห้ยยย ดีอ่ะ วิ่งกลางวันด้วยนะ ตัวนี้สามารถกันน้ำกันเหงื่อได้ดี ใครรักกีฬากลางแจ้งแนะนำเลย แต่ตัวนี้ทำให้หน้ามันระหว่างวันนะ แต่โชคดีที่เค้าผิวผสม มันแค่ทีโซน ก็ใช้กระดาษซับมันได้ ไม่มีปัญหาจ้า เดี๋ยวจะไปซื้อไซส์ใหญ่แล้วจ้า

จบแล้วค่ะ รีวิวนี้เรียกว่ามาแชร์สกินแคร์ที่ซื้อเอง ทดลองเอง ผลิตภัณฑ์แต่ละตัวใช้แล้วได้ผลหรือไม่ จุดไหนดี จุดไหนด้อย บอกหมดใจไม่มีกั๊กเลย ส่วนใครมีสกินแคร์ดีๆ เริ่ดๆ ก็มาแนะนำสไมล์ได้นะ เพราะเรื่องความสวยความงามต้องไว้ใจสาวๆ จีบันอยู่แล้วเนอะ อิอิ วันนี้ไปแล้ว 

บายค่ะ ^____^ "


smileonmine

smileonmine

FULL PROFILE