[ REVIEW MOVIE ] จะเป็นอย่างไรหากรู้ว่าวันนี้คุณต้องตาย | Before I Fall ตื่นมาทุกวันฉันตาย

15 8

สวัสดีค่ะสาวๆและหนุ่มๆจีบัน วันหยุดพิเศษแบบนี้นอกจากเป็นวันพักผ่อนของเพื่อนๆแล้ว ยังเป็นวันสำคัญของซินดี้ด้วยค่ะ ทาด๊า ซินดี้เกิดวันนี้ อิอิ

ซินดี้ก็เลยอยากจะมารีวิวภาพยนตร์อีก (จงหาความเชื่อมโยงของวันเกิดกับการรีวิวหนัง 10 แต้ม) ซึ่งเป็นเรื่องล่าสุดที่ดูแล้วประทับใจ อยากจะมาบอกเล่าแนะนำให้ทุกคนไปลอง แม้ว่าจะเหลือรอบฉายน้อยก็ตามที

ชื่อหัวกระทู้ก็บอกอยู่แล้วเนอะว่าเรื่องอะไร ใช่แล้ว Before I Fall ตื่นมาทุกวันฉันตาย ตอนแรกที่เห็นโปสเตอร์ในโรงภาพยนตร์ ซินเด้ขำชื่อไทยเฉยเลย ใครที่เพิ่งเห็นชื่อไทยเรื่องนี้ครั้งแรกก็อาจจะรู้สึกฉงนเล็กน้อย

BEFORE I FALL (2017)

จากนวนิยายวัยรุ่นขายดีของฝั่งตะวันตก สู่ภาพยนตร์บนจอเงิน Before I Fall เรื่องราวของสาวแรกรุ่นของหนึ่งที่ดำเนินชีวิตเฉกเช่นวันก่อนๆ มีเพื่อน มีครอบครัว และมีคนรัก ใช้ชีวิตอย่างไม่ได้สนใจหากว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของเธอ

แซมดำเนินชีวิตตามปกติด้วยการตื่นมาอาบน้ำ คุยกับที่บ้านคำสองคำ แล้วก็ออกไปเจอเพื่อน ไปเรียน วาดฝันถึงช่วงเวลาแสนพิเศษกับคนรัก นั่งนินทาคนอื่น ไปเดรสอัพและเมคอัพกับแก๊งสาวๆก่อนเดินทางไปปาร์ตี้ ทะเลาะวิวาทในงานปาร์ตี้ และก็ชิ่งกลับบ้าน ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต แต่เธอไม่ตายและตื่นขึ้นมาใช้ชีวิตในวันเดิมอีกครั้ง และอีกครั้ง ไม่รู้เป็นพรอันประเสิร์ฐ หรือคำสาปแม่มดร้ายที่ทำให้แซมวนลูปกับชีวิตแบบเดิมซ้ำๆ

แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ภาพยนตร์สไตล์วนลูปเรื่องแรกและเรื่องเดียว เราเคยชมภาพยนตร์ที่วนเวียนกับวันเดิมซ้ำๆ เหตุการณ์เดิมซ้ำๆ มีทั้งตาย และไม่ตาย โดยที่ BIF นั้นฉายภาพไปที่เรื่องราวของเด็กสาววัยไฮสคูลกับการการมีชีวิตอยู่ซ้ำๆในวันเดิมๆ มันอาจเป็นเรื่องดีที่เธอไม่ได้ตายจริง แต่ก็มีผลเสียอันเกิดจากความทรมานที่ต้องวนเวียนอยู่กับเรื่องเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ประเด็นแรกที่ภาพยนตร์เรื่องนี้จะสื่อออกมาคือการที่ทำให้รู้สึกเห็นความหมายทุกวินาทีที่ยังหายใจอยู่ อย่างที่แซม นางเอกของเรื่องกล่าว บางคนอาจมีเวลาอีกพันวัน อีกสิบวัน หรือบางคนอาจมีเวลาเหลือแค่วันนี้วันสุดท้าย

แต่ละวันที่ตัวละครอย่างแซมใช้ไป เธออาจละเลยหรือหลงลืมถึงการมีอยู่ของใครบางคน ซึ่งพอมองย้อนกลับมาที่เรา ใช่ เราอาจลืมความสำคัญของอะไรต่อมิอะไรไป เพียงเพราะเราคิดว่ายังมีเวลาให้ใช้อยู่อีกเป็นหมื่นวัน ไม่เป็นไรหน่า พรุ่งนี้ยังมี

ประเด็นต่อมา คือความโหดร้ายของการ Bully ซินเด้เชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่ผ่านประสบการณ์การกลั่นแกล้งล้อเลียนและการถูกรุมแกล้งจากใครสักคนมา ตัวหนังนำเสนอในแง่มุมของชีวิตวัยมัธยม ในวัยที่มีคิงหล่อเท่ มีควีนสวยป็อบ และมีไอ้งั่งหรือคนหน้าไม่ดีสักคนให้ล้อเลียน

บางคนอาจมองว่าการแกล้งหรือหยอกล้อใครสักคนด้วยการยกปกด้อยเขามาพูดเป็นเรื่องสนุก ไม่เห็นเป็นไร มันก็แค่เรื่องล้อเล่น อย่าไปคิดมากก็พอแล้ว อันที่จริงคนเราผ่านประสบการณ์แต่ละอย่างมาต่างกัน ความอดทนต่อสิ่งเร้าต่างกัน บางคนมองเป็นเรื่องโจ๊ก แต่บางคนเก็บมันไว้ในตัวคอยกัดกินจิตใจจนมีปัญหาตามมา และอาจถึงขั้นจบชีวิต มันไม่ใช่ทุกคนที่จะโอเคกับการเล่นแบบนั้นหนิหน่า

 ซินเด้เองก็เป็นคนหนึ่งที่ผ่านเรื่องราวทำนองนี้มาในสมัยที่ยังละอ่อน เวลานี้ซินเด้มองกลับไปเองก็ยังสัมผัสถึงความเลวร้ายของมันได้ ให้พูดแบบวิ่งในทุ่งลาเวนเดอร์จริงๆก็คือเอาใจเขามาใส่ใจเราเถอะนะ

แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้ถึงขั้นต้องยกขึ้นหิ้ง แต่มันก็ท้วงติงหลายประเด็นให้เราได้ฉุกคิด ยังมีอีกหลากหลายเรื่องราวที่สามารถหยิบขึ้นมาถกกันได้ต่อไป แต่มันจะสปอยล์เรื่องทั้งหมดเอา 5555

ก่อนอื่นต้องขอชื่นชมโซอี้ ดุตช์ คือชีเล่นดีและมีเสน่ห์มากล้น ชอบมาตั้งแต่สมัยเล่น Vampire Academy แล้ว เป็นคนที่ดูสวยและร้อนแรงตลอด แค่เห็นผ่านๆก็รู้แล้วว่าเธอฮ็อต และบทสาวป็อบของไฮสคูลก็เหมาะสมกับเธอเหลือเกิน

ถึงแม้ว่าจะขัดใจเล็กๆกับบางจุดของภาพยนตร์ที่ซินเด้คิดว่าสามารถพุทได้อีก ขยี้ได้อีกก็ตาม แต่ซินดี้กลับรู้สึกชอบ มากกว่าที่จะไม่พอใจ อาจเป็นเพราะการที่ไปดูโดยที่ไม่คาดหวังก็เป็นได้ ด้วยความที่หน้าหนังเป็นแนววัยรุ่นใสๆและพล็อตวนลูป ทว่าความจริงแล้วมันมีอะไรมากกว่านั้น อย่างน้อยเข้าไปชมเรื่องนี้ก็ได้คิดทบทวนถึงบางอย่างจากสิ่งที่หนังนำเสนอ

ซินเด้ให้คะแนน 7.5/ 10 เลย

เช่นเคย จบการรีวิวด้วยตัวอย่างภาพยนตร์ อิอิ

สำหรับกระทู้รีวิวมูฟวีก็ขอจบการเสนอเพียงแค่นี้ แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้า ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจและความห่วงใย ซินเด้รักทุกคนเสมอ เจอกันกระทู้หน้าเด้อ สวัสดี บายๆค่ะ


Cindie

Cindie

สวัสดีค่ะ นี่ " ซินดี้ " เอง
ชอบทำรีวิวให้ทุกคนได้อ่านกัน
❤ Makeup, Skincare, Movie, Food ❤
ติดตามเม้าท์มอยเพิ่มเติมกันได้ทางทวิตเตอร์

@LONELYCINDIE หรือเมล์มาที่ ✉
lonelycindie@gmail.com ขอบคุณค่ะ

FULL PROFILE