Review : Dr.Ci:labo : VC 100 Essence Lotion

15 4

สวัสดีครับ วันนี้จะมาส่งงานรีวิวของเจ้า Dr.Ci:Labo : VC 100 Essence Lotion ล่ะ แต่ก่อนอื่นหมูเองก็อยากจะให้ผู้อ่านเข้าใจถึงที่มาของ Brand ซักเล็กๆ น้อยๆ ก่อนครับ ประวัติของ Dr.Ci:Labo นี้ก็ Start มาจาก Yoshinori Shirono M.D,PhD (คนกลางในรูปด้านล่าง) จบการศึกษาจาก Keio University School of Medicine ในประเทศญี่ปุ่น และเป็นผู้ก่อตั้ง Shirono Clinic ในปี 1995 (พ.ศ. 2538) โดยตัวตัวคุณ Yoshinori เองเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญในด้าน Dermatological Laser Surgery ครับ และมีเคสผ่านมือของแกมาแล้วไม่ต่ำกว่า 50,000 เคสเลยทีเดียว

Credit : stayhealthyinfo.weebly.com

ทั้งนี้จากประสบการณ์การรักษาผู้ป่วยโรคผิวหนังต่างๆ ทำให้ Dr.Yoshinori เกิดคำถามกับตัวเองว่า ทุกวันนี้ผู้คนป่วยเป็นโรคทางผิวหนังมากมาย แต่กลับไม่มี Products ในตลาดที่จะตอบสนองการรักษาอาการเหล่านี้ได้อย่างตรงไปตรงมา จึงเป็นที่มาของ Dr.Ci:Labo ในทุกวันนี้ โดย Product ชิ้นแรกที่ขายได้กว่า 30 ล้านชิ้นก็เป็นเจ้า Aqua-Collagen-Gel ครับ

มาเข้าเรื่องของ Dr.Ci:labo : VC 100 Essence Lotion ตัวนี้กันครับ เจ้า Essence Lotion ตัวนี้เค้าอ้างว่ามีการเอา Deep sea water จากอ่าว Toyama ในญี่ปุ่นที่มีแร่ธาตุมากมาย และตลอดทั้งปีจะมีอุณหภูมิคงที่อยู่ที่ 2 องศาหรือต่ำกว่า (อะไรก็ไม่รู้ เว่อร์ไปหมด) และเป็นสูตร 5 FREE (Fragrance-free, Alcohol-free, Mineral Oil-free, Colorant-free, Paraben-free) แต่เอาเข้าจริงแล้วที่มีกลิ่นส้มมาได้ก็เป็นเพราะใส่น้ำมันที่ได้จากเปลือกส้มนั้นล่ะครับ มันก็ไม่ได้ Fragrance-free หรอกส่วนตัวหมูเอง เมื่อพิจารณาจุดเด่นของเจ้า Essence Lotion ตัวนี้แล้ว หมูคิดว่ามันมีส่วนประกอบ 5 ส่วนหลักๆ ครับ แบ่งตามนี้เลย1. Vitamin C 4 รูปแบบ (APPS/MAP/ATIP และ AA2G รายละเอียดไปอ่านกันข้างล่างนะครับ)ความสามารถโดยรวมๆ คือ

  • เป็นตัวช่วยกระตุ้นการสร้าง Collagen
  • ลดผลกระทบจากการทำร้ายผิวของ UV
  • ใช้ Vitamin C ที่มีความสามารถในการซึมลงผิวได้จริง
  • ลดปริมาณการผลิตเม็ดสี (ใครอยากอ่านแบบละเอียดลงไปอ่านที่ด้านล่างนะครับ)
2. สารที่มีคุณสมบัติเป็น Anti Aging ได้แก่ SOLUBLE PROTEOGLYCAN และ OLIGOPEPTIDE-24 (CG-EDP3)
  • สองตัวนี้เราจะเห็นกันบ่อยๆ แล้วในส่วนผสมจาก Brand ญี่ปุ่นต่างๆ เช่นตัวแรก มาจากสารสกัดจากจมูกปลาแซลม่อนที่มีอยู่ใน Flacora ส่วนตัวหลังก็เป็น Peptide ที่มักจะใส่กันอยู่ในครีม Anti Aging ต่างๆ ซึ่งถ้าไปหาข้อมูลใน Pubmed ก็จะยังไม่เจอหรอก เจอแต่คำเคลมจากผู้ขายสารว่ามันเป็น Growth Factor บลาๆๆ ลองไปอ่านกันเองนะ ผู้ผลิตสารที่ชื่อ caregen เค้ามีทำข้อมูลไว้ให้เราอ่านตามนี้ครับ >>> LINK
3. FULLERENES สารที่มีคุณสมบัติในการลดขนาดของรูขุมขน และเป็น Antioxidant ที่ดี
credit : wikipedia
  • ตัวนี้อะแซ่บ! มันเป็นสารประกอบที่มีโครงสร้างเป็นลูกบอลโดยเกิดจากการต่อพันธะของ Carbon ทั้งหมด 60 ตัว (หรืออาจจะมากกว่านั้น แล้วแต่รูปทรง ซึ่งทาง Brand ก็ไม่ได้บอกมาว่าใช้แบบไหน แต่ถ้าไปหาข้อมูลจากผู้ขายสารเค้ามันจะเขียนกันว่า C60 ครับ)
  • ตามงานวิจัยจาก Pubmed เค้าทดสอบ FULLERENES 1% สามารถลดขนาดรูขุมขนได้ 17% (จากการใช้ 2 เดือน ทาเช้าเย็น) ทีนี้เราก็ลุ้นกันไปครับว่า Product ตัวนี้จะมีถึง 1% หรือไม่
  • ส่วนตัวหมูเองคิดว่าน่าจะมี % ที่ไม่มากนักเพราะว่ามันตามหลัง Peptide มาครับ เพราะว่า Peptide หน่ะมี % จริงที่ใส่อยู่ในสารตั้งต้นน้อยมากๆ ยกตัวอย่าง SYN®-AKE หรือพิษงูที่เค้าไปสกัดเปปไทด์ชื่อ Dipeptide Diaminobutyroyl Benzylamide Diacetate นั้น จริงๆ แล้วก็ไม่ได้มี Peptide ทั้ง 100% หรอกครับ เพราะ INCI คือ Glycerin (and) Aqua (and) Dipeptide Diaminobutyroyl Benzylamide Diacetate ซึ่งเราก็จะเห็นว่ามี Aqua กับ Glycerin เป็นส่วนผสมอยู่ด้วย (ส่วนตัวคิดว่าส่วนประกอบอื่นนอกจาก Peptide น่าจะมีมากกว่า 80% ด้วยซ้ำ)
4. กรด AHA ใส่มา 3 รูปแบบ หลายขนาดโมเกุล รวมๆ เลยคือผลัดเซลล์ผิว กระตุ้นการผลิต Collagen ครับ5. ส่วนอื่นๆ เป็นกรดอะมิโน 19 ชนิดเอาไว้เพื่อเรื่องการให้ความชุ่มชื้น* + สารลดการระคายเคือง + สารให้ความชุ่มชื้นอื่นๆ เยอะมากๆ ตามมาครับ
  • *หมายเหตุ : Amino ต่างๆ ที่ใส่มาอะครับ พยายามหาข้อมูลใน Pubmed ถึง Effect ที่ได้จากการเอามาทาแล้วเจอน้อยมาก จะเจอเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น เพราะฉะนั้นถ้าด้านล่างไม่ได้เขียนอะไรไว้คือหมูหาไม่เจอครับ จุดนี้ถ้าใครมีข้อมูลเพิ่มเติมมาให้ก็จะขอบคุณมากๆ ครับ
สรุปภาพรวม
มันก็เป็น Essence Lotion ที่ดีครับ (ส่วนตัวอะไรมาน้ำๆ หมูก็เรียกน้ำตบหมดแหล่ะ ง่ายดี ไม่ได้มานั่งแยกว่าอันนี้เรียกว่า Toner หรือ Essence) คือ Vitamin C ที่ใส่มาแต่ละรูปแบบมันก็มีประสิทธิภาพที่ดีจริงนั้นล่ะครับ แต่ที่ประทับใจมากที่สุดจะเป็น Fullerenes มากกว่า และชอบมากกว่าพวกสาร Anti Aging อีก 2 ตัวอีกด้วย (SOLUBLE PROTEOGLYCAN และ OLIGOPEPTIDE-24) เพราะที่ผ่านมาหมูไม่ค่อยได้พบเจองานวิจัยของสารที่เน้นในเรื่องการลดขนาดรูขุมขนมามกนัก จนมาเจอเจ้าตัวนี้แหละที่มีวิจัยรองรับทำให้ฟินจริงๆ (ส่วนเรื่องน้ำทะเลลึกจากอ่าว Toyama ก็เลิกสนใจไปได้เลยเพราะว่ามันใส่มาตัวที่ 50 กว่าโน้น % อาจจะเหลือแค่ 0.01% แล้วมั๊งครับ ไม่ใส่ก็ไม่มีใครว่านะฮะ แต่เค้าก็คงพยายามหา Gimmick มาทำให้ Product มีความน่าสนใจมากขึ้นครับ)
การใช้งานของหมูเองก็ง่ายๆ โดยจะใช้เหมือนน้ำตบทั่วไปครับ เหยาะออกมา 1 – 2 เหยาะ แล้วเอามาตบๆ บนหน้าหลังล้างหน้าเช้าเย็น หรือถ้าวันไหนอยากเติมความสดชื่น เพิ่มความชุ่มชื้นอย่างเต็มที่ก็จะเอามาใส่แผ่น Cotton Mask ก็ไม่เลวครับ หอมมาก ฟิน ลื้มมมม สรุปข้อดี/ข้อเสียข้อดี
  1. มี Vitamin C ถึง 4 รูปแบบทำหน้าที่หลากหลาย ช่วยให้ผิวขาวขึ้น ดูฟูขึ้นจากการที่กระตุ้น Collagen
  2. มี สาร Anti Aging ที่มีงานวิจัยรองรับคือเจ้า SOLUBLE PROTEOGLYCAN
  3. มี Fullerenes ที่ช่วยลดขนาดของรูขุมขนได้จริง แต่ต้องใส่มา 1 % นะ (Paper เค้าว่ามา)
  4. มีสารให้ความชุ่มชื้นมากมายก่ายกองมาก
  5. กลิ่นหอมดี อันนี้ความชอบส่วนตัว
  6. Packaging สะดุดตา สวยดีครับ ถือว่าทำออกมาได้ไม่ก๊อกแก๊ก
ข้อเสีย
  1. ขวดโปร่งแสง Vitamin C อาจเสื่อม
  2. มีน้ำหอม (ถึงบอกว่าไม่ใส่แต่ Orange Peel Oil ก็คือน้ำหอมนั้นแหล่ะ)

รีวิวละเอียด ขี้เกียจข้ามเลยครับเนื้อสัมผัส

เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นน้ำใสๆ มีเนื้อเกาะตัวกันหลวมๆ ครับ มีกลิ่นส้มอ่อนๆ หอมมาก ผ่อนคลายดี
เกลี่ยง่ายมากเพราะว่าเนื้อสัมผัสที่ได้จะออกแนวลื้นๆ
ใช้เวลาไม่นานมากก็แห้ง แต่ยังทิ้งความชุ่มชื้นไว้ครับ

 รายละเอียดส่วนผสม

  1. WATER
  2. DIPROPYLENE GLYCOL
  3. 1.2-HEXANEDIOL
    • เป็น Glycol ชนิดหนึ่งเป็น Humectant และมีคุณสมบัติในเรื่องของการเป็นสารกันเสียเพราะมันสามารถยับยั้งแบคทีเรียและยีสต์
    • มีการทำ Patch Test ที่ความเข้มข้น 15% ครับ ซึ่งก็พบว่ามันอ่อนโยนครับ [https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/19514921]
  4. GLYCERIN
    • Humectant
  5. TRISODIUM ASCORBYL PALMITATE PHOSPHATE (APPS)
    • ตัวนี้หมูเคยเขียนอธิบายไปแล้วครับว่ามันสามารถช่วยลดขนาดรูขุมขนได้ครับ รวมถึงยังสามารถ Convert เป็น Ascorbic Acid (AA) ได้อีกด้วยซึ่งผลที่ตามมาก็จะเป็นเรื่องของการสร้าง Collagen และการลดเม็ดสีครับ สามารถลองไปอ่านกันที่ Vitamin C (2)
  6. MAGNESIUM ASCORBYL PHOSPHATE (MAP)
    • ตัวนี้ก็เคยเขียนไปแล้วอีกเช่นกันครับ หลักๆ เลยคือมันสามารถแปลงสภาพกลับไปเป็น AA ได้ แถมยังช่วยเรื่อง Skin Barrier รวมถึงการช่วยลดผลกระทบจากรังสี UV ได้อีกด้วย
    • มีความสามารถในการกระตุ้น Collagen รวมถึงลดปริมาณเม็ดสีได้ แต่ข้อดีของ MAP คือมันเสถียรมากกว่า AA ครับ  Vitamin C (1)
  7. ASCORBYL TETRAISOPALMITATE (ATIP)
    • ตัวนี้ก็เขียนแล้วครับ จุดเด่นของมันเลยคือมันคุณสมบัติในการดูดซึม เนื่องจากว่ามันสามารถละลายได้ในน้ำมัน ทำให้ซึมลงชั้นผิวของเราได้ดีกว่า Vitamin C ในรูปแบบอื่นๆ
    • สามารถ Convert ไปเป็น AA ได้อีกเช่นกัน Vitamin C (2)
  8. ASCORBYL GLUCOSIDE (AA2G)
    • มักจะถูกเรียกด้วยชื่อย่อว่า AA-2G มันสามารถกระตุ้นการสร้าง Collagen ได้
    • รวมถึงช่วยลดผลกระทบจาก UV ได้ด้วยเช่นกันครับ สามารถ Convert ไปเป็น AA ได้อีกเช่นกัน Vitamin C (2)
  9. SOLUBLE PROTEOGLYCAN
    • ตัวนี้ต้องบอกว่ามันมีอยู่ในกระดูกอ่อนข้อต่อของคนเราครับ เป็นส่วนหนึ่งของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันของกระดูกอ่อนข้อต่อร่วมกับคอลลาเจน และกรดไฮยาลูโรนิก เมื่อเราอายุมากขึ้นเจ้าตัวนี้ก็จะมีปริมาณลดลง ส่งผลให้ผิวพรรณของเราไม่ยืดหยุ่นครับ
    • ในส่วนของ Soluble Proteoglycan นั้นพอเอาไปหาข้อมูลใน Pubmed กับสื่อต่างๆ ก็เจอมากมายอย่างไม่น่าเชื่อเลยครับ เช่น
      • เป็น Anti Aging โดยลดผลกระทบจากการทำร้ายของ UVB [https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/22367383]
      • สามารถช่วยในการรักษาบาดแผล [https://rdo.psu.ac.th/sjstweb/Ar-Press/56-June/June_19.pdf]
      • มีความสามารถในการเป็น Antioxidant [https://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S1876107010001513]
    • นอกจากนี้สารตัวนี้ยังอยู่ใน Fracora : Lift’est Proteoglycan Serum ซึ่งเค้าสกัดมาจากกระดูกอ่อนของส่วนปลายจมูกปลาแซลม่อนครับ
  10. OLIGOPEPTIDE-24
    • เป็น Peptide ที่มักจะใส่กันอยู่ในครีม Anti Aging ต่างๆ ซึ่งถ้าไปหาข้อมูลใน Pubmed ก็จะยังไม่เจอหรอก เจอแต่คำเคลมจากผู้ขายสารว่ามันเป็น Growth Factor บลาๆๆ ลองไปอ่านกันเองนะ ผู้ผลิตสารที่ชื่อ caregen เค้ามีทำข้อมูลไว้ให้เราอ่านตามนี้ครับ >>> LINK
  11. FULLERENES
    • ตัวนี้กำลังมาในโลกของ Cosmetic ด้วยประสิทธิภาพของมันครับ เค้าพบว่ามันเองมีความสามารถในการเป็น Antioxidant ที่ทรงประสิทธิภาพ รวมถึงความสามารถในการจัดการกับ ROS หรือ radical oxygen species ที่เป็นอนุมูลอิสระชนิดหนึ่ง [https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/21619548]
    • ความแซ่บของสารตัวนี้อยู่ที่งานวิจัยว่ามันสามารถช่วยในเรื่องของการลดขนาดรูขุมขนครับ เค้าวิจัยพบว่าใช้เพียง 1% อยู่ 2 เดือน ทาเช้าเย็น ก็สามารถช่วยให้ขนาดรูขุมขนของเรานั้นลดลงไปได้ถึง 17.6% เลยทีเดียว [https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3940024/]
    • กดเข้า Link นี้เพื่อไปดูรูปนะครับว่ามันลดขนาดของรูขุมขนลงไปได้จริงๆ ครับ  [https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/24559044]
    • ในส่วนของความน่าประทับใจขึ้นไปอีกขั้นคือเรื่องของการใช้ Fullerene ร่วมกับ Ascorbic Acid ในการจัดการ ROS ที่เกิดจาก UVB ครับ (หมูได้อธิบายเรื่อง Ascorbic Acid ไว้แล้วถึง 4 ชนิดด้านบนนะครับ) [https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/19800932]
    • งานวิจัยชิ้นนี้เป็นการเปรียบเทียบประสิทธิภาพการเป็น Antioxidant ของเจ้า Fullerenes ครับว่ามันดีจริงๆ นะ เทียบกับสารอื่นๆ แล้วก็พบว่ามันมีคุณสมบัติการเป็น Antioxidant ที่ดีกว่า Vitamin C บางรูปแบบ [https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/16087310]
  12. CITRUS AURANTIUM DULCIS (ORANGE) PEEL EXTRACT
    • น่าจะเป็นน้ำมันหอมระเหยจากเปลือกส้มครับ ใส่มาเพื่อเป็นกลิ่นส้มหอมๆ ใน Product
  13. MALIC ACID
    • เป็น AHA ครับ หมูจะขออธิบายภาพรวมว่า AHA นั้นมีคุณสมบัติในการช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ๆ รวมถึงเป็นตัวช่วยผลัดเซลล์ผิว รวมถึงช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้นมากขึ้น ริ้วรอยลดลงด้วย
    • มีงานวิจัยถึงประสิทธิภาพของทั้ง glycolic, lactic, citric, hydroxybutyric และ malic acids ซึ่งพบว่าเจ้า lactic และ glycolic นั้นเป็น AHA ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดครับ ทั้งนี้ถ้าจะเทียบกันเค้าพบว่า lactic นั้นสามารถเพิ่มความชุ่มชื้นได้มากกว่าและระคายเคืองน้อยกว่า glycolic ส่วนเจ้าตัว malic เองนั้นก็จะมีประสิทธิภาพด้อยลงมา อย่างไรก็ตามหากนำไปใช้ร่วมกับ lactic และ glycolic ก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นครับ  [https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/19245467]
    • Glycolic นั้นเป็น AHA ที่มีโมเลกุลเล็กที่สุดจึงแปลว่ามันจะมีประสิทธิภาพสูงสุดเพราะยิ่งมีขนาดเล็กก็จะสามารถแทรกซึมผ่านชั้นผิวหนังลงไปได้มากกว่าเพื่อนๆ ตระกูล AHA ครับ (แต่โอกาสการระคายเคืองก็จะมากกว่าพวกโมเลกุลใหญ่นะครับ)
  14. GLYCOLIC ACID
    • AHA ที่มีขนาดโมเลกุลเล็กที่สุด ช่วยให้เซลล์มีการแบ่งตัวและสร้าง Collagen เพิ่มขึ้นได้ [https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/9563274]
  15. LACTIC ACID
    • AHA
  16. VALINE
  17. LEUCINE
  18. ISOLEUCINE
  19. PHENYLALANINE
  20. THREONINE
  21. LYSINE HCL
  22. GLYCINE
  23. ALANINE
  24. SERINE
  25. HISTIDINE
  26. HISTIDINE HCL
  27. GLUTAMIC ACID
  28. PROLINE
    • ตัวนี้หาข้อมูลไม่เจอ ไปเจอแต่ข้อมูลของสาร Derivative ที่ชื่อ 1-carbamimidoyl-L-proline (ซึ่งหมูก็ยังหาความเชื่อมโยงไม่ได้ว่ามันเกี่ยวกันยังไงใครรู้บอกที) เค้าบอกว่าสาร Derivative ช่วยเรื่องลดริ้วรอยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวได้ครับ Source : https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/23568622
  29. TYROSINE
  30. TAURINE
    • มีการทดสอบที่ปริมาณ 1.5% ทาลงบนแผลที่ตัวหนูพบว่ามันอาจจะช่วยในเรื่องของการรักษาบาดแผลให้มีประสิทธิภาพได้ Source : https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/12395186
    • ส่วนบทความอันนี้เค้าก็บอกว่ามันอาจจะช่วยรักษาบาดแผลได้ Source : https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/24178432
  31. ARGININE
    • มีงานวิจัยการใช้เจ้าตัวนี้ที่ 2.5% กับผู้ที่มีผิวหนังอักเสบเรื้อรัง (atopic dermatitis) พบว่าสามารถช่วยให้ผิวมีปริมาณ Urea ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงสามารถเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวได้ด้วย (อันนี้เดาเองว่ามันน่าจะมีผลช่วยให้ Skin Barrier แข็งแรงขึ้นครับ) [Source :https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/14749863]
  32. ASPARTIC ACID
  33. SODIUM ASPARTATE
  34. ECTOIN
    • ตัวนี้น่าจะมาจากสารที่มีชื่อทางการค้าว่า RonaCare® ครับ เป็นสารที่สกัดจากดอกทานตะวัน มันมีความสามารถในการช่วยปกป้องผิวจาก UVA ได้ครับ เรามักจะเห็นส่วนผสมนี้อยู่ในครีมกันแดดของทางยุโรป เช่น Bioderma [Source : https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/15452409]
    • นอกจากนี้ก็ยังช่วยให้ผิวสามารถรักษาความชุ่มชื้นได้ด้วยเพราะตัวมันเองมีคุณสมบัติเป็น water binding [Source : https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/18691511]
  35. OLEYL ALCOHOL
  36. PEG/PPG/POLYBUTYLENE GLYCOL-8/5/3 GLYCERIN
  37. SODIUM HYALURONATE
  38. HYDROLYZED HYALURONIC ACID
  39. HYDROXYPROPYLTRIMONIUM HYALURONATE
  40. HYDROLYZED COLLAGEN
  41. POTASSIUM COCOYL HYDROLYZED COLLAGEN
  42. SOLUBLE COLLAGEN
  43. POLYQUATERNIUM-51
    • มันเป็น phospholipid copolymer ที่ช่วยให้ผิวสามารถลดอัตรา TWEL (Transepidermal water loss) ได้ อีกทั้งยังมีความปลอดภัยสูง สามารถใช้ได้ที่ความเข้มข้น 99% เลยทีเดียว (Source : https://www.truthinaging.com/ingredients/polyquaternium-51)
    • Humectant
  44. UBIQUINONE
    • มันคือ Coenzyme Q10 ที่เป็น Anti-Aging ครับ [https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/19096122]
    • สามารถช่วยเพิ่มการเผาผลาญที่ลดลงเมื่อเรามีอายุมากขึ้น (หากการเผาผลาญพลังงานไม่ดีก็จะมีปริมาณของ ROS หรืออนุมูลอิสระมาก) รวมถึงการทำร้ายจากแสงแดดที่ทำให้ผิวดูอายุมากขึ้น เจ้า Q10 จึงทำให้ผิวดูเด็กลงครับ [https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/16873944]
  45. CYCLIC LYSOPHOSPHATIDIC ACID
    • ตัวนี้มีชื่อทางการค้าว่า CYPA TM เป็นสารสกัดที่มาจากถั่วเหลือง อ้างว่าจะช่วยเพิ่ม Ceramide และช่วยลดขนาดรูขุมขนได้ หา Paper ไม่เจอเลยครับ ฟังหูไว้หูแล้วกันแหะๆ
  46. CAMELLIA JAPONICA LEAF EXTRACT
    • เป็น Anti-Photoaging และ Antioxidant [https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/25234832]
  47. TOCOPHERYL ACETATE
    • Vitamin E
  48. CAMELLIA SINENSIS LEAF EXTRACT
    • ในสารสกัดจากชาเขียวนั้นจะมีเจ้า EGCG (epigallocatechin-3-gallate) เป็นสารตัวหลักๆ ครับ โดย EGCG ถือเป็นโภชนเภสัช (polyphenol) หรือ สารที่มีสมบัติที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งมีคุณสมบัติ ลดอาการสิว ลดความมันบนใบหน้า อีกทั้งยังสามารถช่วยลดการระคายเคืองที่เกิดจาก UV และยังถือเป็น Anti-aging อีกด้วยเพราะมันไปช่วยยับยั้งการทำลาย Collagen ครับ ข้อมูลจากการวิจัยพบว่าเพียงแค่ 2% ก็รักษาสิวที่ไม่รุนแรงได้ครับ และเมื่อใช้ที่ 3% ก็จะช่วยลดปริมาณ Sebum หรือน้ำมันบนหน้าได้อีกด้วย
      • [https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/19363854
      • https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/20846135]
    • แต่ใส่มาท้ายขนาดนี้ไม่น่าจะถึง 1% หรอกครับ
  49. SEA WATER
  50. ALLANTOIN
    • ลดการระคายเคือง
  51. DISODIUM GUANYLATE
  52. DISODIUM INOSINATE
  53. SODIUM LACTATE
  54. SODIUM PCA
    • ช่วยเรื่องความชุ่มชื้น เป็น natural moisturizing factor (NMF)
  55. PCA
  56. GLUCOSE
  57. PEG-32
  58. BUTYLENE GLYCOL
  59. PHYTOSTERYL/OCTYLDODECYL LAUROYL GLUTAMATE
  60. MENTHYL LACTATE
  61. HYDROGENATED LECITHIN
  62. PEG-30 GLYCERYL COCOATE
  63. POLYSORBATE 80
  64. POLYGLYCERYL-10 LAURATE
  65. CYCLODEXTRIN
  66. CITRIC ACID
  67. SODIUM CITRATE
  68. PVP
  69. CITRUS GRANDIS (GRAPEFRUIT) PEEL OIL
  70. CITRUS AURANTIUM DULCIS (ORANGE) PEEL OIL
  71. PHENOXYETHANOL
 WATER, DIPROPYLENE GLYCOL, 1.2-HEXANEDIOL, GLYCERIN, TRISODIUM ASCORBYL PALMITATE PHOSPHATE, MAGNESIUM ASCORBYL PHOSPHATE, ASCORBYL TETRAISOPALMITATE, ASCORBYL GLUCOSIDE, SOLUBLE PROTEOGLYCAN, OLIGOPEPTIDE-24, FULLERENES, CITRUS AURANTIUM DULCIS (ORANGE) PEEL EXTRACT, MALIC ACID, GLYCOLIC ACID, LACTIC ACID, VALINE, LEUCINE, ISOLEUCINE, PHENYLALANINE, THREONINE, LYSINE HCL, GLYCINE, ALANINE, SERINE, HISTIDINE, HISTIDINE HCL, GLUTAMIC ACID, PROLINE, TYROSINE, TAURINE, ARGININE, ASPARTIC ACID, SODIUM ASPARTATE, ECTOIN, OLEYL ALCOHOL, PEG/PPG/POLYBUTYLENE GLYCOL-8/5/3 GLYCERIN, SODIUM HYALURONATE, HYDROLYZED HYALURONIC ACID, HYDROXYPROPYLTRIMONIUM HYALURONATE, HYDROLYZED COLLAGEN, POTASSIUM COCOYL HYDROLYZED COLLAGEN, SOLUBLE COLLAGEN, POLYQUATERNIUM-51, UBIQUINONE, CYCLIC LYSOPHOSPHATIDIC ACID, CAMELLIA JAPONICA LEAF EXTRACT, TOCOPHERYL ACETATE, CAMELLIA SINENSIS LEAF EXTRACT, SEA WATER, ALLANTOIN, DISODIUM GUANYLATE, DISODIUM INOSINATE, SODIUM LACTATE, SODIUM PCA, PCA, GLUCOSE, PEG-32, BUTYLENE GLYCOL, PHYTOSTERYL/OCTYLDODECYL LAUROYL GLUTAMATE, MENTHYL LACTATE, HYDROGENATED LECITHIN, PEG-30 GLYCERYL COCOATE, POLYSORBATE 80, POLYGLYCERYL-10 LAURATE, CYCLODEXTRIN, CITRIC ACID, SODIUM CITRATE, PVP, CITRUS GRANDIS (GRAPEFRUIT) PEEL OIL, CITRUS AURANTIUM DULCIS (ORANGE) PEEL OIL, PHENOXYETHANOL


livelymoo

livelymoo

คนบ้าอ่านสารใน Skincare อ่านยันเบสที่ใช้ผสมกันไปเลยครับ :)

FULL PROFILE