เปลี่ยนสีผมบ่อยขนาดนี้ ถึงเวลาต้องบำรุงซะหน่อย ไปลองทำสีกับ Olaplex กัน

สาวๆ ที่ชอบเปลี่ยนสีผมบ่อยๆ น่าจะมีประสบการณ์ผมพังไม่แพ้กัน นี่ก็กะว่าจะไม่ทำแล้ว แต่มันก็อดใจไม่ได้ เห็นสีผมติดเหลืองทีไร เป็นต้องวิ่งเข้าร้านทุกที หมดเงินเป็นหมื่น ผมเทาได้ 2 วัน มันสะเทือนไต!

ล่าสุดได้ไปลองเปลี่ยนสีแบบที่ซ่อมผมเสียไปในตัว กับ Olaplex ไปดูกันว่าจะช่วยเปลี่ยนผมพังกลับมาสวยปัง ได้จริงมั้ย

ส่วนตัวเป็นคนที่เปลี่ยนสีผมบ่อยมากก ด้วยความอินกับผมเทา แต่พื้นผมดันเป็นสีเข้มมาก ฟอก ล้างสี หลายรอบก็ยังไม่หายเหลืองซะที นี่ก็เลยทำสี ไฮไลท์ ไล่สีบ้าง เอาที่สบายใจ แต่มาพักหลังผมเริ่มไปต่อด้วยไม่ไหว ต้องหมักทรีตเม็นต์กันรัวๆ เพราะยิ่งฝืนทำไป สีใหม่ก็ติดได้ไม่นาน สระสองทีหลุดหมด แชมพูม่วงเบอร์ไหนก็เอาไม่อยู่

สภาพผมล่าสุด พังแค่ไหนถามใจเธอดู ลงน้ำเงินก็แล้วพอเฟดปุ๊บเหลืองนำมาเลยจ้าา ปลายผมเสียจนต้องตัดทิ้ง แต่ใจยังสู้อยู่ อะไรที่เค้าว่าดีก็หามาใช้หมด แต่ก็ได้แค่นี้แหละ!

คราวนี้เริ่มมีความหวัง ได้มาลองทำสีกับ Olaplex ที่เค้าเคลมว่าไม่ใช่ทรีตเม็นต์ทั่วไปที่แค่เคลือบเส้นผม แต่จะช่วยซ่อมเกร็ดผมจากข้างใน ปรับโครงสร้างเส้นผมให้ค่อยๆ ดีขึ้น เหมาะกับผมที่ทำเคมีมาหนักๆ อยากทำเคมีซ้ำซ้อนก็ได้ สบายใจหายห่วง

โอลาเพล็กซ์นี่เข้าไทยมาได้ 2 ปี แล้ว ตอนนี้ก็เห็นมีในหลายๆ ซาลอนที่เริ่มใช้กัน ราคาก็จะบวกเพิ่มจากค่าเซอร์วิสปกติ 30% ก็ประมาณ 1,500 บาทขึ้นไป แล้วแต่ระดับของซาลอนที่เลือก

ครั้งนี้เราได้มาลองมาเปลี่ยนสีผมให้เป็นสีโทนเทาหม่นแบบที่ตั้งใจ กับโอลาเพล็กซ์ สีที่ใช้คราวนี้เป็นสี ORDEVE กล่องสีชมพูจากญี่ปุ่น ที่ช่างแนะนำว่าเป็นสีที่ไม่ติดเหลือง พอสระออกแล้วสีจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีธรรมชาติ Mode Line ให้อารมณ์พาสเทลแบบที่สาวญี่ปุ่นชอบกัน เฉดสีที่เลือกคราวนี้เป็นสีผสมระหว่าง เบอร์ 7 สีโทนเข้ม และเบอร์ 8 สีโทนอ่อน ทำให้ผมที่ออกมาดูมีเลเยอร์ที่ชัดขึ้น

ระหว่างผสมสีก็เติม Olaplex เบอร์ 1 ลงไปด้วย โอลาเพล็กซ์ที่ใช้จะมี 3 เบอร์ คือเบอร์ 1 ใช้ในขั้นตอนผสมสี เบอร์ 2 ใช้ในขั้นตอนหมักผมหลังทำสี ทั้ง 2 สูตรต้องทำที่ซาลอนเท่านั้น ส่วนเบอร์ 3 เป็นสูตรหมักผม ที่เอาไปใช้ต่อได้เองที่บ้าน เพื่อการบำรุงที่ต่อเนื่อง

เราลงทั้ง 2 สีที่ผมแล้วทั่วหัว ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที เพราะพื้นผมเดิมเป็นสีอ่อนอยู่แล้ว ขั้นตอนเลยไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องฟอกหลายรอบก็ได้สีเทาหม่นแบบที่ตั้งใจ

ลงสีเสร็จแล้วล้างออก หมักด้วย Olaplex เบอร์ 2 นวดทิ้งไว้ 10 นาที เห็นความเทาแบบไล่สีแล้ว มันดีต่อใจจริงๆ ค่ะ >__<

มาถึงขึ้นตอนการเซ็ต แต่งทรง ลืมบอกไปว่าเรามาสีทำที่ร้าน Marsi Salon and Spa อยู่ตรง BTS เอกมัย พี่เจ้าของร้านใจดีเซ็ตผมให้เต็มที่ ใส่ oil บำรุง จัดทรงให้อย่างเนียบ แบบเปลี่ยนเป็นคนละคนเลยค่าา

ท้าดา !!!  ... ใต้ความทุยของหัวนั้น สวยปิ๊ง ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน 55 เลิกอวยตัวเอง แล้วคิดในใจว่าทรงนี้จะอยู่กับเราไปได้นานแค่ไหนกัน (เศร้าแป๊บ)

ก็เก๋ๆ นะ เอา Olaplex เบอร์ 3 ไปหมักผมต่อที่บ้าน แล้วสระด้วยแชมพูม่วงช่วยล็อกสีผมไม่ให้เหลือง รอดูผลลัพธ์ แต่ที่สำคัญก็ต้องเลิกสระผมด้วยน้ำอุ่น เลิกเป่าผม หนีบผมด้วยความร้อน ไม่งั้นเกร็ดผมที่ฟื้นมาได้คงไปหมด ชีวิตสาวผมสีนี่อยู่ยาก มีเงินเปลี่ยนสีผมอย่างเดียวไม่ได้นะ! 55

วันนี้ลาไปก่อน เจอกันคราวหน้ากับสีผมใหม่แน่นวลล ถ้าผมเราแข็งแรงแล้ว จะฟอกอีกกี่รอบก็ด้ายย ... ไปให้สุด ... เหรอออ!