รวม Travel Size ไปทะเล ครั้งที่ 1

17 7

กระทู้นี้สดๆร้อนๆเลย เหตุเกิดจากการไปเที่ยวหัวหินเมื่อวันที่ 25 - 27 มีนาคม ที่ผ่านมา

หลังจากตื่นขึ้นมาในตอนเช้าวันที่ 27 แล้วพบว่า ฝนตกกกกกกก อย่างแรงงงงง

แผนที่จะไปว่ายน้ำเลยจบกัน ได้แต่ลงไปกินอาหารเช้าแล้วกลับมานั่งหงอยอยู่ในห้อง

ขณะที่กำลังจะเก็บของลงกระเป๋านั้น ก็เกิดปิ๊ง Idea ว่า น่าจะทำรีวิว Travel size ที่ใช้พกพาไปต่างจังหวัดให้เพื่อนๆได้ดูเป็นตัวเลือกดีกว่า เผื่อจะมีใครสนใจทั้ง Skincare และเครื่องสำอางขนาดเล็กๆที่พกพาง่ายๆ ขึ้นเครื่องก็ได้ ว่าแล้วก็ มาเริ่มเลยดีกว่า

ขอถ่ายภาพรวมให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยหน่อย

เริ่มจากหมวด Skincare อาบน้ำ เช็ดเครื่องสำอาง และลงรองพื้นก่อนดีกว่า

เริ่มต้นจาก

1. Eucerin DermatoClean Oxygen micellar Cleansing water

เป็นขนาดเล็กกระทัดรัด ใช้ได้หลายครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 หลังจากครั้งแรกที่พกไปเชียงใหม่ แม้จะเทใส่สำลีจนชุ่มและเช็ดซ้ำหลายครั้งก็ยังคงไม่หมด เหลือกลับมาให้ได้ใช้ในทริปถัดไป

ข้อดี ฝาไม่หกเลอะเทอะ กดแน่น ไม่ช้ำใจเหมือน Bifesta ขวดใหญ่ที่เคยมั่นใจว่าการมีที่ lock หัวปั้มแล้วจะไม่หก ใช้ได้หลายครั้ง เช็ดสะอาด ไม่เกิดสิว

ข้อเสีย ครั้งที่แล้วลืมพก Eye Remover ไปแล้วเอาเช็ดตา ปรากฎว่าแสบ สรุปคือ อย่าเอาไปเช็ดตาเลยเนอะ

แหล่งที่ได้มา ซื้อจากร้าน Boots ตอน 1 แถม 1 จากราคาปกติ 99 บาท

2. โฟมล้างหน้า Hada Labo

เป็นครั้งแรกที่ได้ลองใช้อันนี้ เพราะเมื่อก่อนเคยซื้อโฟมล้างหน้าอันใหญ่ของ Hada มา แล้วรู้สึกว่าไม่เข้ากัน ใช้แล้วสิวขึ้น เลยบ๊ายบายไป แต่ครั้งนี้พกมาเพราะไม่เหลือโฟมล้างหน้าอันเล็กอันอื่นให้เลือกแล้ว

ข้อดี ขนาดเล็ก พกง่าย ฝาปิดดีเป็นแบบหมุนไม่หกเลอะเทอะ ไม่มีกลิ่น สีขาว ไม่แน่ใจว่ารุ่นไหนเพราะมีแต่ภาษาญี่ปุ่น อ่านไม่ออก ค่อนข้างคิดว่าจะไม่ทำให้สิวขึ้น แต่ช่วงนี้สิวขึ้นเพราะประจำเดือนจะมา เลยไม่แน่ใจว่าจะทำให้สิวขึ้นมั้ย

ข้อเสีย ฟองน้อย เลยต้องบีบเยอะ พอบีบน้อยเลยรู้สึกเหมือนไม่ค่อยสะอาดเท่าไหร่

แหล่งที่ได้มา ซื้อตัว Lotion ที่ญี่ปุ่น แล้วมันแถมมาด้วยกัน

3. Etude Lip and Eyes Remover

เคยเปิดใช้เมื่อนานมาแล้ว จำไม่ได้เหมือนกันว่านานแค่ไหน อาจจะไม่มาก เพราะเป็นอันเดียวที่มีอยู่

ข้อดี ขนาดเล็ก พกพาง่าย ฝาปิดดีเป็นแบบหมุน ไม่หก เช็ดตาและปากได้สะอาด

ข้อเสีย เช็ดตาแล้วแสบ แบบแสบมาก แต่จำไม่ได้ว่าครั้งก่อนแสบมั้ย ไม่แน่ใจว่าเพราะเปิดใช้ไว้นานรึเปล่า ตอนนี้เลยอยู่ในถังขยะที่โรงแรมเรียบร้อย

แหล่งที่ได้มา ตอนนั้นซื้อของที่ร้าน Etude ที่เกาหลี เลยได้ฟรีมา

4. Renu น้ำยาใส่คอนแทคเลนส์

เป็นยี่ห้อประจำที่ใช้อยู่แล้ว ชอบซื้อขวดใหญ่ เพราะจะแถมขวดเล็กให้ได้พกไปไหนมาไหนได้ตลอด

ข้อดี ฝาเปิดปิดแน่นดี ไม่หกแน่นอน ขนาดใหญ่พอสมควรให้ใช้ได้หลายวันแบบไม่กังวล เลยพกไปต่างประเทศบ่อยมาก

5. Maybelline dream velvet

เป็นครีมรองพื้นที่เนื้อนุ่มละเอียด ทาแล้วเรียบลื่นไปกับผิว รู้สึกเหมือนมี primer ในตัว ใช้ดี ปกปิดก็เยี่ยม ชอบ รักกกก

ข้อดี ทรงสูง ไม่กินเนื้อที่ ไม่แตก หายก็ไม่เสียดาย ฝาหมุน ไม่หกไม่ปลิ้น

ข้อเสีย ไม่แน่ใจว่าจะอุดตันมั้ย เพราะเนื้อเหมือน silicone ก็เลยต้องพยายามเช็ดหลายๆครั้ง แล้วก็ใช้สลับกับตัวอื่น

6. Cetaphil Baby Shampoo

เมื่อก่อนเคยใช้แชมพูผู้ใหญ่แล้วสิวขึ้นรอบกรอบหน้า เลยลองเปลี่ยนมาใช้แชมพูเด็ก อยู่ดีๆสิวก็หายไปเลย ตอนนี้เลยต้องใช้แต่แชมพูเด็กมาตลอด

ข้อดี ใช้ได้ทั้งอาบน้ำ สระผม พกขวดเดียวอยู่ ใช้ง่าย ขนาดเล็ก พกก็สะดวก แถมฝาปิดเปิดตัวล๊อกแน่นหนาไม่หักง่าย 1 ขวด ใช้ได้ประมาณ 2 trips (trip ละ 2 คืน)

ข้อเสีย แชมพูเด็กมักจะทำให้ผมแห้ง ไม่เป็นทรง ตอนนี้ใช้ johnson & johnson ขวดสีชมพูอยู่ที่บ้าน รู้สึกว่าดีกว่าอันนี้ ผมก็ไม่แห้งเท่า อันนี้ผมฟูฟ่องเลย

แหล่งที่ได้มา น่าจะซื้อผลิตภัณฑ์ Cetaphil ในร้าน boots เลยได้แถมมาฟรี

7. Cream De Latex Serum

จิงๆเคยใช้ตัวนี้มาก่อนหน้านี้หลายเดือนมาแล้ว แล้วก็ได้กลับมาใช้อีกครั้งเพราะครีมตัวอื่นที่บ้านมีแต่ขวดใหญ่ เมื่อก่อนตอนใช้ก็ว่าดี รู้สึกเหมือนขาวขึ้น ไม่ค่อยดำเวลาตากแดดเยอะๆ แล้วหน้าก็ไม่ค่อยมัน แต่เก็บไปเพราะหน้าหนาว หน้าลอก เลยต้องไปใช้ครีมที่เนื้อหนักๆก่อน

ข้อดี ผิวไม่แห้งแสบ ไม่ลอก หลังจากตอนแรกที่ลงน้ำทะเลแล้วรู้สึกแสบหน้า หลอดขนาดเล็ก พกง่าย ฝาหมุน ไม่หกเลอะเทอะ

ข้อเสีย ไม่ค่อยชอบที่มีน้ำหอมเท่าไหร่ รู้สึกไม่ถูกกัน แต่สิวก็ยังไม่ขึ้น

8. Biore UV Aqua

ตัวนี้มีตุนไว้เยอะมาก ไปญี่ปุ่นกี่ครั้งก็ซื้อกลับมาทุกครั้ง ใช้ดี ใช้แล้วสบายใจ เนื้อแบบน้ำ ทำให้รู้สึกเหมือนจะไม่เป็นสิว

ข้อดี ทาทับเครื่องสำอางได้ ทาแล้วรู้สึกเหมือนมีน้ำในนั้น เวลาอากาศร้อนๆแล้วไม่ชอบพวกเนื้อครีมเลย เหมือนจะทำให้หน้ามัน ตัวนี้เลยตอบโจทย์หน้าร้อนดีสุด

ข้อเสีย ไม่เหมาะกับทาตอนหน้าหนาวเพราะแห้งไว เหมือนไม่ได้ทาอะไรเลย ก่อนหน้านี้เลยถูกพับเก็บใส่ตู้ไปสักพักเหมือนกัน

หมวดต่อไปเป็น Cosmetic ล้วนๆจ้า

เข้าสู่หมวดเครื่องสำอางแล้ว กว่าจะถึง เหนื่อยแทบแย่ T.T

1. Nars Blush Orgasm

บลัชตัวโปรด แม้ว่าช่วงหลังจะถูกปันใจไปให้ยี่ห้ออื่นอย่าง Hourglass แต่ก็ยังเป็นสีที่ยัง love love อยู่เสมอ เอาไว้ปัดยามที่แต่งหน้าแบบเบสิค แบบคิดไม่ออก แบบสุภาพ แบบดูดี ที่สำคัญคือยังติดทนกว่ายี่ห้ออื่น

ข้อดี ขนาดเล็กมากกกกก กระทัดรัดสุด เหมาะสำหรับพกพา เห็นแบบนี้มีกระจกด้านในนะจ๊ะ แม้จะไม่เคยส่องเลย เพราะเห็นแค่ลูกกะตาข้างเดียว

แหล่งที่ได้มา อันนี้ได้มาฟรี เพราะสั่งซื้อตัวบรัชอันใหญ่เวอร์ล่าสุดใน central online

2. Cezanne UV Foundation

ข้อดี อันนี้ก็ตุนไว้เยอะเหมือนกัน ซื้อมาจากทั้งที่ญี่ปุ่น และ eve and boy ส่วนใหญ่จะซื้อตลับจริงคู่กับรีฟิล เพราะมันค่อนข้างบอบบางอยู่ อย่างอันนี้ก็ได้แยกเป็น 2 ส่วนเรียบร้อย ระหว่างฝาและตัวถาด ใช้มาน่าจะตลับที่ 2 รีฟิลอันที่ 2 เท่ากับว่าใช้มา 4 อันแล้ว ค่อนข้างใช้ดี ไม่ปกปิดมาก ราคาประหยัด ที่สำคัญ ไม่เป็นสิว

3. Maybelline Mascara rocket

ข้อดี อันนี้ก็แบบใช้ดีมากกกกกก ปัดแล้วเด้ง ราคาประหยัด ใช้มานานเกิน 2-3 ปี ไม่แน่ใจใน watson ยังมีมั้ย เพราะเป็นรุ่นเก่าแล้ว อันนี้ตุนจาก king power ไปล่าสุดก็ยังมีอยู่นะ คุ้ม เป็นกล่อง ซื้อ 2 แถม 1 อีกตะหาก ไม่ไหล ไม่เป็นคราบ ดีจิงๆ

4. Blinc Ultrathin eyeliner

ข้อดี อันนี้ก็ดี เส้นบางมาก บางที่สุด บางแบบไม่เคยเห็นมาก่อน ใช้ดี ติดทน แน่นสนิท ไม่เป็นคราบเมื่อหนังตามัน เป็นลูกรักตอนนี้เลย ใช้เกือบทุกวัน (สลับใช้กับ 1 day tattoo อันนั้นก็ดีเหมือนกัน แต่หัวใหญ่กว่า)

ข้อเสีย แต่จากการลงทะเลทำให้รู้ว่า ไม่กันน้ำทะเลจ้า ไหลเป็นคราบเหมือนใน MV เลย

5. Etude Cookie Blush

ข้อดี บรัชมุ้งมิ้งในตำนาน อันนี้ไม่มี Shimmer ถือว่าดี เพราะว่าเอามาปัดคู่กับ Nars เป็นการผสมผสานระหว่างเด็กและผู้ใหญ่ ใช้ได้นาน

ข้อเสีย ไม่ติดทนเลยยยยย ครึ่งวันก็หายไปแล้วจ้า

6. Shu Uemura Brow palette

ข้อดี เป็นอีกอันที่แนะนำต่อที่สุด เพราะใช้คุ้มมาก ซื้อมานานมากกกก ใช้จนหมดไปหลุมนึงแล้ว นี่ใช้อีกหลุมยังไม่หมดเลย และฝาหักไปเรียบร้อย แม้จะราคาสูง แต่คุุ้มจิง ซื้อเถอะ สีสวยเป็นธรรมชาติ คือดี

ข้อเสีย ไม่ทนนะ บ่ายๆเย็นๆก็เหมือนจะเลือนแล้ว

7. YSL Lip Gloss สี 404

lip gloss ล่าสุด แบบสีสวย ดูเป็นธรรมชาติ คือทากับอะไรก็ได้ก็สวยหมด

8. L'oreal Lips สี R518 Flaming Kiss (สีแดง) และ CSR4 Pure Garnet (สีม่วงมะเหมี่ยว)

ใช้ 2 สีนี้ทาคู่กัน โอ้ยยยยย สวยยยยยย แต่เป็นแบบแมทนะ ต้องลงด้วยลิปมันนิดนึงก่อน เราชอบทาสีม่วงก่อนแล้วค่อยลงสีแดงด้านใน คือ ดี

9. Maybelline Lips สี REB03 Rebel Bouquet (สีชมพูแปร๋น)

อันนี้ไม่ค่อยได้หยิบมาใช้ แต่มาทะเลทีไรต้องได้ใช้ทุกทีสิน่า ลิปแมทสีชมพูแปร๋นนนนนน ที่ทาปุ๊ปสดใสทันที

ส่วนของยาสีฟันนั้นต้องยกให้ Sensodyne เพราะมันดีจิงๆ ใช้แล้วไม่ค่อยเสียวฟันเท่าไหร่ ไม่หวาน รู้สึกดีต่อสุขภาพช่องปาก อันนี้ซื้อขนาดเล็กที่ 7-11 พกง่าย สะดวก ใช้ได้นาน

ในส่วนของครีมกันแดดทาตัวนั้น

ขอพกตัวนี้มา Cancer Council เพราะตั้งใจพกมาสำหรับลงน้ำสระ และน้ำทะเล แม้ว่าทาแล้วระหว่างวัน จะรู้สึกเหนอะๆ เหมือนหนักๆ สงสัยต้องใช้สำหรับลงน้ำเท่านั้นแล้วมั้งงงงง

ส่วนของฝากจากหัวหิน

1. Lip Lime Crime จากร้าน stardust ที่ Bluport

เหตุเกิดจาก Promotion ซื้อ 1 แถม ซื้อ Beet it แถม pumpkin สีสวย สด ชัดทั้งคู่ แถมเป็นสีที่เคยอยากได้อยู่แล้ว เลยสอยมาทาตั้งแต่อยู่หัวหินเป็นที่เรียบร้อย

2. แหวนหมีเซรามิก

ได้มาจากตลาดจั๊กจั่น วงละ 89 บาท ต่อมาได้เหลือ 80 ใส่แล้วเรียบร้อยจนถึงกรุงเทพเช่นกัน

และแล้วก็ต้องขอจบบทสรุปของ Travel size พกไว้ไปเที่ยวแต่เพียงเท่านี้ และกราบขออภัยหากหมวด Cosmetic นั้นไม่ใช่ขนาดพกพา เพราะเราว่าเครื่องสำอางมันก็เล็กอยู่แล้ว คงไม่ต้องทำ Travel size ให้เสียตังเพิ่มหรอกเนอะ

ไว้ครั้งหน้าไปเที่ยว แล้วมี Travel Size ใหม่ๆมาลอง ก็จะมาบอกอีกครั้งเน้อออออออออออออออ

บ๊ายบายยยยยยยยยยยยย


Socheezesomsom

Socheezesomsom

FULL PROFILE