เปิดกระเป๋าเดินทาง ดูไอเท็มกันตาย ไปเที่ยวเมืองญี่ปุ่น

สวัสดีค่า เพื่อนๆ เราได้มีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่นบ้างแล้ว หลังจาก รอโอกาสมานาน เพราะไม่ว่างสักกะที เฮ้อ!! จะไปทีไรก็ติดงาน แต่คราวนี้ ฮิฮิ ความหวังของเราเป็นจริงแล้นนน ตื่นเต้นจัง นี่กลับมาก็รีบมาอวดเลย ถ่ายรูปไว้ทุกช๊อต ตั้งแต่แพ็คกระเป๋ากันเลยวันนี้เราเลยอยากจะมาเปิดกระเป๋าโชว์ไอเท็มที่จัดไปกันตายตอนไปเที่ยวเมืองญี่ปุ่นซะหน่อย  แบบว่าประหยัดทั้ง เสื้อผ้า ของใช้ต่างๆนานา ก็อัดรวมกันไป อะไรใช้ด้วยกันได้ก็ใช้  เพราะกะว่าจะไปช๊อปปิ้งกันเต็มที่ และที่สำคัญด้วยความที่ไม่อยากไปใช้ของมั่วซั่วที่อื่น ก็ต้องคัดของที่จำเป็นขาดไม่ได้เน้นๆไป มาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่พกไปแล้วมั่นใจไม่ต้องไปหาซื้อเพิ่มแน่นอน เช่น ผ้าขนหนูผืนเล็กๆ โฟมล้างหน้า, คลีนซึ่งสูตรน้ำสำหรับเช็ดเครื่องสำอาง, กันแดด, Make up ทั้งหลาย โดยเฉพาะงานคิ้ว คิ้วไม่เข้ม เราไม่ออกไปไหนแน่นอน, น้ำยาแช่คอนแทคเลนส์, เสื้อผ้าชุดเก่ง หมวก พร็อพ ถ่ายรูปที่ไหนก็สวย, กระเป๋าใบเล็กๆ พกของ พก passport 

ลืมบอกไปเราเที่ยวกันเองไม่ได้ไปกับทัวร์จ้า  ไปถึงวันแรกก็เหนื่อยสุดๆ เย็นแล้ว ยังไม่มีเวลาไปไหน วันนี้กว่าจะมาถึงโรงแรมก็เจอสิ่งสกปรกมาทั้งวัน ทั้งเหงื่อ ทั้งอะไร เยอะแยะไปหมด แถมยังเหนื่อยสุดๆ ก็ได้เวลารื้อของที่มีมาใช้กันก่อน สิ่งแรกเลย เราก็จัดการเช็ดหน้า เช็ดเครื่องสำอางด้วยคลีนซิ่งสูตรน้ำของนีเวีย นั่นคือ ไมเซล่า วอเตอร์ ที่เอามานี่แหละ คือบางคนอาจจะคิดว่าไปหาที่นู่นก็ได้ แต่เรารู้ว่าวันแรกไปถึงเย็นไม่มีเวลาไปช๊อปหาแน่นอนอ่ะ  แล้วไปซื้อใหม่ก็ไม่รู้ว่าถูกกับหน้าเรารึป่าวด้วย  และไมเซล่า วอเตอร์ของนีเวียที่เอามานี้ฝาปิดสนิทมาก ไม่หกเลอะเทอะเลยสักนิด จะคว่ำจะโยนกระเป๋ายังไง ไม่มีหก เช็ดสะอาดทุกสถานการณ์ด้วย จะแต่งหน้ามากน้อย สกปรกมากหรือน้อยก็ไม่ต้องกลัว เพราะเช็ดเครื่องสำอางได้ดีทีเดียวค่ะหน้าสะอาด ขจัดความมันส่วนเกิน แต่ผิวยังชุ่มชื้นเพราะเป็นสูตรออกซิเจน บูทส์ เหมือนเติมออกซิเจนให้กับผิวทุกครั้งที่ใช้ที่สำคัญไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ไม่แสบผิว ไม่แพ้ด้วยค่า หน้าตาไมเซล่าวอเตอร์ของนีเวียที่เราพูดถึงเป็นแบบนี้นะจ๊ะ 

วันรุ่งขึ้น เราก็พร้อมสำหรับการเดินทางกันแล้ว ความจริงเราต้องไปซื้อตั๋วรถไฟใช้มะ แต่ว่าเราอ่ะซื้อจากเมืองไทยไปแล้ว แต่ว่าถ้าใครไม่มีก็สามารถซื้อตั๋วรถไฟกันได้ จะแบบเติมเงินหรืออะไร ก็มีหลายแบบอยู่ต้องไปเลือกดู ที่นี่เราจะเดินทางด้วยรถไฟกันตลอด แทบจะทุกทีจะไปด้วยรถไฟหมดเลย ต่อสายนู่นสายนี้ วันแรกๆก็งง มีหลงมีเลยบ้าง แต่พอหลังๆก็สบายล่ะ ที่นี่เดินทางสะดวกและรวดเร็วมาก

นี่ก็เป็นที่ท่องเที่ยวที่เราไปเที่ยวมา มันไม่ครบหรอก พอดีนี่เป็นรูปที่ถ่ายไว้ในมือถือ ความจริงไปหลายที่มาก อ่อ ตอนไปเจอแผ่นดินไหวด้วยย น่ากลัวมากกก

หิวแล้วอาหารหลักๆที่นี่ ก็ลองราเมงที่นี่สักหน่อยเลย ที่นี่เวลาสั่งอาหารเค้าจะเป็นตู้ๆ หยอดเหรียญเอา แล้วก็ไปนั่งรอ ก็จะมีคนทำออกมา แล้วเรียกเราไปเอา ไม่ต้องมีคนคอยคิดเงิน คอยเสริ์ฟ ประหยัดแรงงานมาก

ร้านยาที่นี่ คนไทยอย่างเราๆ ชอบของแบบนี้ ช๊อปมาได้บาน ราคาถูกกว่าที่ขายในบ้านเรามาก  และร้านแบบนี้จะมีเรียกว่าทั่วเมืองเลยก็ว่าได้ ต่างชาติไปซื้อ ซื้อครบหมื่นเยนก็เคลมเเท็กได้อีก ยิ่งถูกไปใหญ่ เข้าแต่ละร้าน ก็ได้ของมาเพียบ

นี่ตอนไปตลาดปลาจ้า โห้ จะบอกว่าเค้า แร่ปลากันตรงนั้นเลย อย่างเช่น เราอยากกินปลาดิบก็จะมีร้านที่เค้าขายกันในตลาดเลย  แล้วก็จะขายกันเฉพาะตอนเช้า บางวันก็จะมีประมูลปลา ซึ่ง ปลาเค้าสดมากจริงๆและอร่อยมากๆด้วย มีทุกชนิด แต่ราคาก็ค่อนข้างแพงเลยนะ

ส่วนแบบที่เป็นร้าน เวลาเราเข้าไปนั่ง ก็จะมีพ่อครัวของแต่ละคน คอยปั้นซูชิให้เรา โดยจะมีแท่นใส่ซูชิวางอยู่หน้าเราเลย เค้าจะมีมีดประจำตัวด้วย ของใครของมัน เราอยากกินอะไรก็ติ้กๆใส่ใบละเค้าก็จะทำตามนั้น จะคิดราคาเป็นคำๆ แต่เนื้อนี่หนาและเยอะจริงๆ ราคาเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน แต่มาถึงถิ่นแล้วก็ลองหน่อย ร้านนี้คนเยอะมาก มีซุชิเกือบทุกแบบ กว่าจะได้กิน รอนานมาก ที่นี่เค้าจะใส่วาซาบิเข้าไปในซูชิเลย มีแต่ซอสให้เราจิ้ม

จะบอกว่างานนี้ งานนี้สนุกมาก ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ อาหารก็อร่อย คนก็มีมารยาทและสุภาพมาก ที่สำคัญมีไปลืมของไว้ กลับมาเอาอีกชั่วโมงนึงก็ไม่หาย ขอบอกเลยถ้าใครมีเวลาว่างหาโอกาสไปเที่ยวดู เที่ยวเองไม่มีไกด์ เดาๆมั่วๆกันไป จากความสามารถที่มี ฮ่าๆๆ แต่คนที่นี่พูดภาษาอังกฤษ ไม่ค่อยได้นะ เพราะเราไปถามทางเค้า เค้าฟังไม่รู้เรื่องง่าา ขากลับก็ได้ของกลับมาเยอะมาก น้ำหนักกระเป๋าที่มีก็เต็มแถมเกินมานิดหน่อยด้วยแต่ว่าของที่เอาไปทั้งหมดที่ขาดไม่ได้จริงๆเลยคือคลีนซิ่งของนีเวียตัวนี้นี่ละ คุ้มมากที่เอามา มาเที่ยวสิบกว่าวันกลับไปหน้ายังใสสะอาดเหมือนเดิม