เที่ยวมั้ยครับ ปลายฝนต้นหนาวหนีขึ้น"ภูสอยดาว"กัน

   สวัสดีมิตรรักแฟนจีบันทุกท่าน วันนี้ไม่ได้จะมาทำฮาวทูหรือรีวิวแต่งหน้าแต่อย่างใดแต่จะมารีวิวทริปเที่ยวขึ้นภูให้เพื่อนอ่านกันเผื่อใครยังคิดไม่ออกว่าหนาวนี้จะไปไหน เที่ยวภูไหน ดอยไหนดี เรามีภูนี้มาเสนอ นั่นก็คือ "ภูสอยดาว" ที่มียอดเขาสูงเป็นอันดับที่4ของประเทศไทย สูงจากระดับน้ำทะเล 2,102เมตรและมีลานสนจุดกางเต้นท์บนความสูง 1,633 เมตร หูยๆนอนเหนือเมฆเลยนะ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาวอยู่ในอำเภอบ้านโคกและอำเภอน้ำปาด ในจังหวัดอุตรดิตถ์ และพื้นที่อำเภอชาติตระการในจังหวัดพิษณุโลก เอาล่ะทางการพอละ มาเริ่มเลย

ตอนแรกไม่ได้มีความคิดในหัวว่าจะเที่ยวพวกภูรึดอยอะไรเลยเพราะเป็นคนชอบทะเลเอะอะลงทะเลอย่างเดียว แต่คุณเพื่อนนางร้องอยากจะเข้าป่าค่ะ เสี้ยมจนอิชั้นเออๆไปก็ได้วะไหนๆก็ว่างงี้ลุยค่ะชะนีสองนาง แต่พอดีมีพี่รหัสของเพื่อนอยากไปด้วยก็เลยเป็นชะนีเพาเวอร์พัฟเกิล แต่บอกก่อนทริปนี้ว่าจะมาถ่ายรูปแต่ก็ไม่ค่อยถ่ายเพราะฝนตกๆหยุดๆฟ้าเปิดบ้างไม่เปิดบ้าง เซ็งนิดหน่อยแต่ให้อภัยอากาศดี ฝนตกก็กินอย่างเดียวค่ะเอ่ะอ่ะทำกับข้าว55555

เริ่มต้นการเดินทางของเรา

นั่งรถทัวร์จากหมอชิต กรุงเทพ-พิษณุโลก 269บาท รถออก 4ทุ่มถึงตี 3 ใช้เวลา5ชม.เป๊ะ

เหมารถสองแถวไป-กลับอุทยานรอบละประมาณ 2 ชม.ครึ่ง คนละ500บาท มีคนนั่งไปด้วยอีก4คน แก๊งนึง3คนและอีก1มาคนเดียวจ้าเกร๋ๆ และบังเอิญสุดๆแก๊ง3คนนั้นเป็นแก๊งลาดกระบังจ้าา (เราจบลาดกระบังอิอิ)

ก่อนถึงอุทยานพี่เขาก็จะจอดรถแวะตลาดป่าแดงให้ซื้อเสบียงกินระหว่างทางเดินขึ้นเขา กับซื้อเสบียงไว้กินตอนอยู่บนภูเฟินซื้อพวกเนื้อสัตว์กับผักจากที่นี่แต่อย่างอื่นแบกมาจากบ้านแล้วจ้า เพราะข้างบนไม่มีน้ำไฟ ไม่มีของขายนาจาา ธรรมชาติมากๆ สัญญาณโทรศัพท์มีบางจุดเท่านั้น อาบน้ำก็ต้องตักน้ำในลำธารมาอาบ อ้อแต่ว่ามีน้ำกินให้กรอกจ้า (น้ำกินก็มาจากน้ำฝนที่เขารองไว้สะอาดค่ะ)

ถึงอุทยานปุ้บฝนต้อนรับเลยจ้าาานั่งมาตั้งนานไม่ตก ถึงแล้วเราก็ต้องไปลงทะเบียนค่าเข้าอุทยาน ค่ากางเต้นไม่กี่บาท และก็มีค่ามัดจำขยะด้วยย 200บาท เป็นคนดีของสังคมถ้านำขยะลงมาทิ้งด้วยก็จิได้ค่ามัดจำคืนนะจ้ะ อ่ะทีนี้ให้จะจ้างลูกหาบแบกของก็จ้างตรงนี้เลย กิโลละ30บาท ของเราล่อไป14กิโล แบกมาได้ไงเนี่ยย ของกินต่างหากอีก6โล ไม่ได้หรอกเรื่องกินเรื่องใหญ่ถ้าเราขึ้นไปแล้วอดตายทำไง 55555 ใครจะมาเช่าเต๊นท์ ถุงนอน แผ่นรองนอน หมอนไรที่อุทยานมีให้เช่าก็เช่าตรงนี้เลยค่ะ

โอเคเริ่มกันได้แล้ว เริ่มตั้งแต่10.30น. กับระยะทาง 6.5 กิโลแม๊ว กับ5เนินโหด เขาว่าใช้เวลา 4-7ชม.แล้วแต่คน มีช้าสุดคือ9ชม. อย่างที่บอกว่าถึงอุทยานปุ้บฝนตกปั้บ ทางก็เละเดินก็ลำบากต้องระวังให้มากๆนาจาา เราเดินสวนกับคนลงเยอะเลย เราขึ้นวันจันทร์ที่ 24 ตุลา 59 เพราะส่วนใหญ่ก็กลับกันแล้ว

1.เนินส่งญาติ

 แรกๆก็ฮึดแล่ะแต่นานอยู่กว่าจะถึงเนินแรกก็ล่อซะหอบ แรกๆยังมีบันไดให้เดินง่ายๆแต่บันไดเขาชันเหลือเกิน รู้สึกว่าบันไดมันตัดกำลังอ่ะ

2.เนินปราบเซียน

พูดกับเพื่อนว่าหิวพักกินก่อนแมะ นางบอกเดี๋ยวดิรอให้ถึงเนินสองก่อน โอ้โหเดินจนคิดว่าชาตินี้จะไม่ได้กินไก่ย่างที่ซื้อมาแล้วมันเหมือนจะไม่ถึงอ่ะแต่ก็ต้องเดินต่อไป

3.เนินป่าก่อ

รู้สึกว่าชิวสุดแล้วเดินตามแนวป่าขึ้นบ้างลงบ้างไปเรื่อยๆ เจอคุณลุงลูกหาบนั่งพักอยู่ที่แคร่ถามลุงๆหนูต้องเดินอีกไกลมั้ย ลุงชี้ไปนู้นนนอ่ะหนูต้องขึ้นไปยอดนั้นแล้วก็เดินลงไปอีก หืมมมมมมมมมมมมมม

4.เนินเสือโคร่ง

เนินนี้อยากจะกลายร่างเป็นอังกอร์แล้ววิ่งสี่ขาแบบสัตว์ร้าย T.T คือมันนนชันนมากกกไกลลมากก

5.เนินมรณะ

ตามชื่อค่ะ จะมรณะภาพกันตรงนั้นเลยทีเดียว เหมือนทำกรรมมาแล้วเดินทางไปในภพสู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น โพ้น โพ้นจนเมื่อไรตูจะถึงวะ ไหนบอกอีก1.5กม.ถึงลานสน คุณหลอกดาว

ปล.จิงๆถ่ายรูปกับป้ายทุกอันนะแต่สภาพหน้าไม่ไหวจิงๆนอนบนรถทัวร์ก็ไม่หลับ สรุปไม่ได้นอนมาเดินป่าค่ะ ไม่รู้ว่าจะกราบตัวเองดีไหมที่ไม่เป็นลม เดินๆก็ไม่ค่อยได้ถ่ายเดินไปหอบไปขี้เกียดควักกล้องในกระเป๋ามากกก แต่ก็พอจะมีรูปมาให้ชมกันไปดูเล้ยยย

พอขึ้นมาถึงป้ายผู้ชิพิตภูสอยดาวแล้วเราก็จะเจอลานสนทอดยาว กับดอกหงอนนาคสีม่วงสวยงามแต่ยังไม่ถึงจุดกางเต๊นท์นะจ้ะต้องเดินไปอีกหน่อยนึง สารภาพว่าขึ้นมาพระอาทิตย์ก็จะตกดินแล้ว เราใช้เวลาขึ้นตั้งแต่ 10.30น - 17.00น เป็นเวลาทั้งหมด 7 ชม.มายก๊อดดด นี่เธอพาชั้นมาทำอะไรนี่ ชั้นไม่เคยเดินเท้าขึ้นเขาขนาดนี้!!! แต่ก็คุ้มค่ามากพอขึ้นมาแล้วอากาศดีมากกก วิวสวยงาม

พอถึงลานกางเต๊นท์แล้วเราต้องไปรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ก่อนนะเขาจะได้รู้ว่ากรุ้ปเรามาถึงแล้วไม่ได้หลงอยู่กลางทาง เขาก็มีหม้อชามลามไห ถ่าน ฟลายชีท เตาแก๊ส ถังน้ำกับขันให้เช่าด้วย ใครขี้เกียจขนไปก็เช่าได้เลย ส่วนใครที่เช่าเต๊นท์ของอุทยานจากด้านล่างไว้แล้วก็ขนของเข้าอยู่ได้เลยค่ะเขากางไว้ให้อยู่แล้ว ที่นี่เขาจะเปิดให้ขึ้นได้ถึงบ่าย2 เท่านั้นนะใครมาช้ากว่านั้นก็รอขึ้นอีกวัน ใครเอาเต๊นท์มาเองก็จัดแจงกางได้เลยพื้นที่แล้วแต่ชอบ แต่อย่ากางไกลเลยจุดกางเต๊นท์นะเผื่อไปกางทับทีฝั่งลาวเขา ฮ่าๆๆ

ละคือตลกมากกพวกเราจริงจังสุดคือทำครัวแบบเหมาที่กางเต๊นท์ไปอีก(ดีนะคนน้อยเลยทำได้) ปกติเขาทำกันหน้าเต๊นท์เล็กๆพอประมาณใช่มั้ย นี่อลังเว่อวัง55555 ตอนแรกไม่มีฟลายชีทคุลมครัวนะ พี่ๆเจ้าหน้าที่เขาเห็นว่าพวกเรานั่งพัดฟืนกลางสายฝนปรอยๆไม่หวั่น จนเขาเห็นใจเดินมาทำหลังคาให้อู๊ยยยยยรู้สึกผิดมากๆเลยค่ะ55555

จริงๆมีอีกหลายเมนูเลยแต่ไม่ทันได้ถ่ายเหมือนแร้งลงทำเสร็จตักกินเลยค่ะ สุกี้เราก็มี เฟร้นฟรายเราก็มานะเอออออ ลงรูปกินมาเยอะแล้วมาดูวิวมั่งดีกว่า

โชคดีอีกหนึ่งเรื่องได้มีโอกาสรู้จักกับพี่ๆทียกกองถ่ายมาทำงานบนภูสอยดาว เป็นกองถ่ายโปรโมทการท่องเที่ยวของจังหวัดอุตรดิตถ์ พี่เขาก็ใจดีมากมาคอยบอกตลอดว่าเดี๋ยวฟ้าจะเปิดเดี๋ยวจะเห็นทางช้างเผือกนะ ให้ยืมเลนซ์วายให้ใช้ขาตั้งกล้องและสอนถ่ายดาวด้วยอ่ะ ส่องไฟให้คือเหมือนเรียนโฟโต้เลยก็ว่าได้555 คือเราพกไปแต่กล้องใส่เลนซ์ฟิกเพราะเลนซ์คิทพังก็ไม่ได้คิดว่าจะถ่ายดาวไรหรอก ถ่ายเฉยๆก็คงเห็นมั้งแต่ความจริงมันไม่ใช่555555 เขาก็สอนจนเราได้รูปสวยๆมาแบบนี้ดีใจมากอ่ะ ขอขอบคุณพี่ๆทุกคนนะค้า

จริงๆพวกเราลงไปน้ำตกด้วยแต่ไม่ค่อยได้ถ่ายรุปเพราะทางลงมันเหมือนต้องไต่เขาลง55555 มัวแต่มองทางรูปเริบไรไม่ได้ถ่าย แต่ลงไปสูงมากกกกกว่าจะถึงที่เล่นได้เหมือนเข้าค่ายลูกเสืออ่ะไต่เขาไรทำนองนั้น เจองูเขียวอยู่ตรงหน้าเลยจ้าเดินป่าจับๆกิ่งไม้ก็ระวังกันด้วยนะ

จบทริป3วัน2คืน ไปแบบไวมากๆ ทุกอย่างดีมากได้เจอเพื่อนใหม่ที่ดี พี่เจ้าหน้าที่ที่น่ารักทุกคน พี่ๆลูกหาบที่ขนของหนักๆขึ้นมาให้ แก๊งพี่ๆกองถ่ายที่สอนถ่ายดาว สนุกแบบลืมความเครียดทุกอย่างในชีวิตไปเลยอยู่ข้างบนนี้เหมือนได้ใช้ชีวิตจริงๆ ตัดขาดจากโลกภายนอก ตัดขาดจากโซเชี่ยล ได้นั่งคุยกันสนุกสนานช่วยกันทำอาหารถือว่าคุ้มค่าที่ยอมหลวมตัวมากับเพื่อน และคิดว่าต่อไปนี้จะหาโอกาสขึ้นป่าขึ้นเขาแบบนี้บ่อยๆ ใครที่สิ้นปีหนาวๆแบบนี้ลองขึ้นมาที่นี่ดูนะแล้วจะลืมความทุกข์ทุกอย่างเลยจริงๆขาลงก็ปวดเข่าไม่แพ้เล้ยยยเพราะมันชันมากฝนตกอีกและเท้านี่จิกเป็นไก่ แต่ลงไวกว่าขึ้นนะไม่ต้องห่วง5555

วันนี้ไปแล้วจ้าาา ไปนวดเข่าแปป555555

FRANCESCA