[How to] แต่งหน้าไม่ให้หน้ามัน คสอ.ไหล ในวันที่ต้องออกกลางแจ้ง by Witii Makeup

17 9

สวัสดีค่า วันนี้ตาลจะมาแชร์เทคนิคการแต่งหน้าให้อยู่ยงคงกระพัน ไม่ไหล ไม่เยิ้ม ระหว่างวัน หรือที่เรียกกันว่า Long-lasting makeup นะคะ ช่วงนี้ตาลเห็นเพื่อนๆหลายคนเดินทางไปถวายความอาลัยที่ท้องสนามหลวง หรือไม่บางคนก็ต้องไปร่วมงานรับปริญญาบ้าง แน่นอนค่ะ อากาศบ้านเราไม่ต้องพูดก็รู้กัน ร้อนนนอะไรจะปานนั้น ร้อนนนจนทำให้ผู้หญิงอย่างเราต้องประสบกับปัญหาหน้ามัน หน้าเยิ้ม เครื่องสำอางค์ไหลกันไปไม่ใช่น้อย แต่อยากจะบอกว่าตาลก็เคยเป็นค่าาา ซับหน้ากันเข้าไปจนทุกสิ่งอันที่เพียรแต่งมาจากบ้านหลุดหายไปหมดเลยทีเดียว บางทีทนไม่ไหวก็แอบตบแป้งทับเหงื่อและความมันเข้าไป แล้วเป็นไงคะ กลับบ้านมาสิวเห่อเลยจ้าาา :(

วันนี้ตาลมีเทคนิคที่สุดแสนจะง่ายดายมาแนะนำค่ะ สาวๆอย่างเราจะได้ใช้ชีวิตกลางแจ้งได้อย่างมีความสุขกันสักที เคล็ดลับง่ายๆอยู่ที่"แป้งฝุ่น"ค่ะ ซึ่งตาลเชื่อว่าทุกคนต้องมีอยู่ในกรุเครื่องสำอางอย่างน้อยคนละ1ชิ้นแน่นอน

ลุคนี้ตาลจะไม่ติดขนตาปลอมหรือบล๊อคตาดำใดๆนะคะ เพราะโดยส่วนตัวรู้สึกว่ามันหนักเกินไปสำหรับวันที่ค่อนข้างร้อน พูดง่ายๆคือเป็นคนขี้รำคาญ ฮ่าๆๆ ก็เลยขอแต่งเป็นลุคเรียบๆแทนละกันนะฮะ

Step1: วันนี้ตาลจะไม่ทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เป็นเนื้อครีมนะคะ เนื่องจากต้องการให้หน้ามีความมันน้อยที่สุด แต่ยังไงเราก็ต้องบำรุงผิวให้ชุ่มชื่นก่อนแต่งหน้าทุกครั้ง ดังนั้นตาลเลยใช้เป็นเซรั่มบำรุงผิวแทนค่ะ 

Step2: แดดค่ะแดด!! วันนี้เราจะออกแดดนะคะ ดังนั้นขาดไม่ได้เลยคือครีมกันแดดเอสพีเอฟสูง(สำหรับประเทศไทย) ครีมกันแดดนี่นอกจากช่วยไม่ให้หน้าดำแล้ว ยังช่วยไม่ให้เกิดริ้วรอย หน้าลอก หน้าไหม้ เป็นมะเร็ง เป็นฝา เป็นกระ ด้วยนะคะ ทาเถอะค่ะเพื่อความงามที่ยั่งยืน

Step3: ทาไพรเมอร์เลยค่า ตัวนี้ตาลใช้ทุกวันจริงๆ นอกจากจะช่วยปรับสภาพผิวให้กระจ่างใสขึ้นแล้ว ยังแอบช่วยควบคุมความมันด้วยนะ

Step4: มาถึงขั้นตอนสำคัญแล้วค่ะซิสส หยิบแป้งฝุ่นที่มีในกรุออกมาที่สเตปนี้เลยนะคะ ใช้ฟองน้ำชุบน้ำหมาดๆแตะแป้ง แล้วทาลงบนบริเวณผิวที่ต้องการการควบคุมความมันเป็นพิเศษ นั่นก็คือบริเวณทีโซน (หน้าผาก+จมูก+คาง) และรวมถึงบริเวณข้างปีกจมูกทั้งสองข้างด้วยนะคะ จากนั้นก็ใช้ฟองน้ำเกลี่ยให้เนียนไปกับผิวเลยค่ะ

Step5: ลงรองพื้นเลยค่ะ เนื่องจากตาลไม่ได้เป็นคนที่หน้ามันมากขนาดนั้นก็เลยไม่ได้ใช้รองพื้นที่เน้นเรื่องควบคุมความมันอะไรนัก (ไม่งั้นผิวจะแห้งเกินไป) แต่ถ้าใครที่มีปัญหาหน้ามันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แนะนำว่าให้ใช้รองพื้นที่เค้าช่วยเรื่องควบคุมความมันจะดีกว่าค่ะ

TIP: ขั้นตอนการทารองพื้นนี้ ตาลแนะนำให้ใช้ฟองน้ำชุบน้ำหมาดๆค่อยๆกดรองพื้นลงไปบนผิวนะคะ พยายามอย่าปาดแต่ให้ใช้การกดลงบนผิวค่ะ เนื่องจากขั้นตอนที่แล้วเราลงแป้งฝุ่นที่ทำให้ผิวค่อนข้างแห้งและฝืด รองพื้นเลยเกลี่ยได้ยากขึ้น ดังนั้นการใช้ฟองน้ำลงรองพื้นจะทำให้ผิวเรียบเนียนและได้สีที่สม่ำเสมอมากกว่าค่ะ

Step6: อย่างที่บอกนะคะว่าตอนนี้ผิวเราจะค่อนข้างแห้งและฝืด ตาลเลยเลือกใช้คอนซีลเลอร์เนื้อเหลวลงบริเวณใต้ตาดำและรอยด่างดำต่างๆค่ะ จากนั้นใช้ฟองน้ำอันเดิมค่อยๆกดลงไปบนผิว

Step7: กลับมาที่แป้งฝุ่นกันอีกรอบจ้า บอกแล้วว่าวันนี้นางสำคัญ ตาลใช้ฟองน้ำชุบน้ำหมาดๆอันเดิมนะคะ แตะแป้งฝุ่นจำนวนมากพอสมควรปาดทับลงไปบนผิว บริเวณทีโซน ใต้ตา และใต้โหนกแก้มค่ะ หลายๆคนคงรู้จักเทคนิคนี้กันบ้าง นั่นก็คือการทำเบกกิ้ง (Baking) หรือ คุกกิ้ง (Cooking) นั่นเอง เทคนิคนี้นอกจากจะช่วยลดความมันบนใบหน้าลง ยังช่วยลดการเกิดร่องระหว่างวันอีกด้วยนะจ้ะ 

Step8: ทิ้งแป้งให้เซตตัวประมาณ 5-10 นาทีนะคะ จากนั้นใช้แปรงพุ่มโตปัดแป้งออก

Step9: ขั้นตอนนี้ขอรวบรัดตัดตอนเลยนะคะ เพราะไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ตาลเขียนคิ้วด้่วยพาเลทเขียนคิ้วแบบฝุ่นและปัดทับด้วยมาสคาร่าคิ้ว จากนั้นก็กรีดอายไลเนอร์และปัดมาสคาร่าทั้งขนตาบนและขนตาล่างตามปกติเลยจ้า

Step10: ใช้ดินสอเขียนขอบตาสีดำเขียนอินไลเนอร์ทั้งด้านบนและด้านล่างค่ะ แท่งนี้ปลื้มมากกกก ปกติตาลเป็นคนที่เขียนขอบตาล่างแล้วหลุด/เลอะตลอด แต่แท่งนี้นี่อยู่ทนตลอดวันจริงๆ 

Step 11: อ่าวเห้ย ก็เหมือนที่คุยกันไว้นี่แหละ ฮ่าๆๆๆ แป้งฝุ่นอะเกนค่าาา ใช้แปรงแต่งตาหัวเล็กที่สะอาดแตะแป้งฝุ่นแล้วมาทาลงบนบริเวณใต้ตาค่ะ ทาให้ชิดขอบตาล่างเลยนะคะ อย่างที่บอกว่าตาลเป็นคนที่ขอบตาล่างเลอะง่ายมากกก แม้ดินสอเขียนขอบตาจะไม่หลุด แต่เจ้ามาสคาร่าที่ว่ากันน้ำแล้วก็ทำให้อิฉันกลายเป็นหมีแพนด้าได้อยู่ดี การเน้นแป้งฝุ่นซ้ำลงบริเวณใต้ตาอีกทีจะช่วยให้ความแพนด้าไม่มาเยือนนั้นเองค่า

Step12: ขั้นตอนนี้ก็ทำตามปกติค่ะ ปัดบรอนเซอร์ให้หน้าบ่มแดด คอนทัวร์ให้หน้าเรียว ลงบลัชออนให้แก้มสดใส แล้วก็ทาไฮไลต์ค่ะ โดยตาลจะใช้อายแชโดวสี่อ่อนทาบริเวณโหนกแก้ม ปลายจมูก เหนือริมฝีปาก แล้วก็หัวตาทั้งสองข้างเพื่อทำให้ตาโตและมีชีวิตชีวาขึ้น

Step13: วันนี้ตาลเลือกใช้ลิปจิ้มจุ่มเนื้อแมตค่ะ เพราะถ้าทาลิปสติกแบบมันวาวแล้วล่ะก็ เจอความร้อนเข้าไป  อือหืออ เละ!! ><"

Step 14: สุดท้ายแล้ววว อย่าลืมทาครีมกันแดดที่ตัวด้วยนะจ้ะสาวๆ อยากแนะนำครีมกันแดดตัวนี้มาก คือแบบรักเว่ออออร์ รู้สึกว่าดีที่สุดตั้งแต่เคยใช้มาแล้ว แต่นางจะมีความเหนียวหนืดมากอยู่ ต้องค่อยๆทาและทำความสะอาดดีๆหน่อยนะคะ อีกอย่างคือหาซื้อค่อนข้างยาก ที่ตาลรู้คือมีขายที่ร้านเครื่องสำอางค์ใน Gourmet Market ที่พารากอนค่ะ

หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์ต่อเพื่อนๆนะคะ (สำหรับตาลมันเวิร์คมากเลยแหละ) แล้วเจอกันใหม่ค่าา 


TARNPEEP

TARNPEEP

FB page: TAANPEEP
IG: TAANPEEP
YouTube: TAANPEEP

FULL PROFILE