60s Inspired Pastel Love | ♚ แต่งตาสีฟ้าพาสเทล สไตล์ Mod ♚

เฮลโหล~ สวัสดีค่ะสาวๆ ปิงเองนะคะ

ตั้งมาหลายกระทู้ แต่งมาหลายหน้า รีวิวมาหลายสิ่ง

แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ร่วมสนุกกับ How to Contest! ๕๕๕๕๕

พอเห็นโจทย์เดือนนี้ก็นึกสนุก

อยากลองใช้สีพาสเทลแต่งออกมาเป็นสไตล์เรโทรดูบ้าง

แน่นอนว่าครั้งแรก ต้องจัดเต็มค่ะ ทำดา(ธรรมดา)ที่ไหน

จะรอดไม่รอด ไปดูกันเลยเด้อ

ก่อนไปชมฮาวทู ขอเกริ่นถึงแรงบันดาลใจก่อน

(สั้นๆ ไม่ยาว สาบาน ชูสามนิ้ว ๕๕๕)

ลุคนี้ปิงได้แรงบันดาลใจมากจากแฟชั่น mod ในยุค 60s ค่ะ

หลายคนอาจจะคุ้นๆกับการแต่งตาแบบนี้

เพราะนี่คือ signature ลุคของนางแบบชาวอังกฤษชื่อดังในยุค 60

เธอคือ Twiggy ค่ะ เป็นหนึ่งในนางแบบที่ปิงชอบมากกก

เพราะนางมีความเก๋ เป็นอะไรที่ใหม่และโดดเด่นมากๆในยุคนั้น

สำหรับโจทย์ในเดือนนี้ซึ่งเป็นสี Pastel นั้น

ไอ้เราก็มาสายเกาแบ๊วใสไม่ค่อยไหว ๕๕๕๕

ก็เลยคิดว่าอยากลองอะไรสนุกๆดูบ้าง 

ไหนๆเราก็มาทางนี้ละ ต้องไปให้สุด!

ไปค่ะ!! 

และสำหรับลุคนี้

ปิงได้หยิบของขวัญ 1 ชิ้น ที่ได้จาก Greet Box มาใช้แต่งด้วยค่ะ

นั่นคือบลัชออนของ Passion Ville สี M09 Pink Dancing Rock Route, California

ส่วนอีกชิ้น ขอเก็บไว้สำหรับอีกลุคที่มีอยู่ในใจแล้ว อิอิ

**Contact Lens : Neo Cosmo Lucky 4 Blue**อายแชโดว์ essence สี Ocean Dive ค่ะ

เอาล่ะะะ เรามาเริ่มแต่งหน้ากันเลย(ซะทีเถอะแก๊)ดีกว่าค่า

ขั้นตอนและคำอธิบายอยู่ใต้รูปเลยนะคะ

ดูจากซ้ายไปขวา บนลงล่าง เป็นรูปแบบตัว Z นะๆคราวนี้ปิงอธิบายค่อนข้างละเอียดหน่อยน้า จะพยายามไม่ให้งงนะคะ ฮ่าๆๆๆ

ขั้นตอนการเตรียมผิว

1. หลังจากลงสกินแคร์แล้ว ปิงลงไพรม์เมอร์เพื่อพรางรูขุมขนและช่วยให้ผิวเรียบเนียนค่ะ

2. สำหรับลุคนี้ ปิงอยากให้ผิวแมตต์ เพราะในยุค 60 เค้าจะเน้นผิวเนียนกริบแต่ยังมีความเป็นธรรมชาติ วันนี้เลยเลือกใช้รองพื้นแมตต์ เม้าหน่อย บูจัวส์ตัวนี้แมตต์จริง แมตต์ลืม ถ้าใครอ่านฮาวทูเราก่อนหน้าจะรู้ว่าเราหน้าแห้งจากยาสิว ตอนนี้หน้าแข็งแรงขึ้นแล้ว เลยสามารถอนุญาตให้มีความแมตต์มาอยู่บนหนังหน้าได้ค่ะ ๕๕๕๕๕ ตัวนี้ใช้นิ้วมือลงเลยนะคะ

3. รองพื้นตัวนี้ปกปิดได้ดีปานกลาง ซึ่งแน่นอนว่าปิดรอยแดงจากสิวปิงไม่อยู่ ๕๕๕๕ ปิงเลยลงคอนซีลเลอร์เพิ่มค่ะ ตัวนี้ต้องวนๆเนื้อเค้าก่อนเป็นการวอร์มก่อนนะคะ แล้วค่อยมาแตะๆลงบนหน้า ใช้ฟองน้ำช่วยเบลนจะยิ่งเริ่ดค่ะ

4. เซ็ตทุกอย่างด้วยแป้งค่ะ วันนี้ใช้แป้งอัดแข็งแบบไม่มีสี ตัวนี้ดีมากๆ ฟาดไปไม่ต้องคิด ปิงใช้พัฟฟ์ค่อยๆกดลงบนหน้านะคะ เพื่อความติดทนแน่นนาน

5. เสร็จแล้วก็เขียนคิ้วเลยค่ะ แต่เราจะไม่เขียนคิ้วบางๆแบบยุค 60 นะ ไม่สามารถจริงๆ ๕๕๕๕๕ ก็เขียนคิ้วตามทรงคิ้วแต่ละคนเลย เทคนิกไม่มี เพราะปิงเขียนคิ้วไม่เก่งเลยยย T_T ใช้ดินสอเขียนคิ้วแล้วย้อมสีคิ้วด้วยมาสคาร่าคิ้วสีอ่อน

ขั้นตอนการแต่งตา 1

1. ทาอายแชโดว์แบบครีมลงบนเปลือกตาตามรูปตาเป็นรูปครึ่งวงกลม เพื่อเป็นเหมือนอายแชโดว์เบสให้เรา เพื่อที่ว่าเวลาลงแบบฝุ่นทับ สีจะได้ออกมายิ่งชัดค่ะ อย่าลืมเกลี่ยให้เนียนด้วยนะคะ ป้องกันการเป็นก้อน

2. จากนั้น ใช้แปรงหัวแบนลงอายแชโดว์สีฟ้าทับให้ทั่วเปลือกตา ตัวนี้ของเอซเซนส์สีสวยค่ะ แต่ว่าสีมันไม่ค่อยแน่นเท่าไหร่ ค่อยๆใช้แปรงกดสีลงไปบนตานะคะ หลีกเลี่ยงการถูเพราะอาจเป็นปื้นๆได้

3. ใช้อายแชโดว์สีดำหรือเจลไลน์เนอร์สีดำกับแปรงหัวตัด ค่อยๆวาดเส้นโค้งลงบนรอยพับของเปลือกตา ตรงนี้ต้องใจเย็นนิดนึงนะคะ ๕๕๕๕ ค่อยๆวาดๆลากๆไปค่ะ ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องกลัวเลอะ เสร็จแล้วเดี๋ยวเราจะใช้แปรงพุ่มๆเกลี่ยให้เนียนทีหลังค่ะ วิธีการหารอยพับเปลือกตาเราคือ ใช้แปรงจิ้มลงไปบนกระบอกตาเลยค่ะ ตามรูปทรงของตาเรา สำหรับคนตาชั้นเดียวก็สามารถแต่งได้นะคะ อาจจะต้องเขียนให้สูงจากชั้นตาจริงเพื่อเป็นการสร้างมันขึ้นมาใหม่ค่ะ เทคนิกนี้ฝาหรั่งเค้าเรียกว่า cut crease ค่ะ

อาจจะยังดูสะพรึงอยู่ แต่มาแค่ขั้นนี้แล้ว เราก็ถอยไม่ได้แล้วค่ะ ต้องไปข้างหน้าอย่างเดียว ๕๕๕๕๕๕๕๕

ขั้นตอนการแต่งตา 2

1. พอเราได้ cut crease มาแล้ว เราก็มาเขียนไลน์เนอร์กันค่ะ ปิงเลือกใช้แบบเจล แต่ว่าจะใช้แปรงปลายเรียวเป็นตัวช่วยลงแทน ถ้าเอาตาม Twiggy เป๊ะ นางจะเขียนไลน์เนอร์แบบลากหางตกค่ะ แต่เราคาดว่าจะไม่รอด ก็เลยขอเขียนแบบ wing หางขึ้นละกันเนาะ อิอิ จะไม่ลากยาวนะคะ เขียนที่ขอบตาล่างด้วยค่ะ

2. มาถึงขั้นตอนสุดระทึกที่สุด ๕๕๕๕ นั่นก็คือการวาดเส้นขนตาด้วยไลน์เนอร์ค่าา ถือเป็นไฮไลท์ของลุคนี้เลยทีเดียว มีความดอลลี่อาย ปิงแนะนำให้ใช้แบบปากกานะคะ เพราะเขียนง่ายดี ขั้นตอนนี้ ก็ต้องมีสตินะคะ ค่อยๆลากลง ตอนเขียนให้ส่องกระจก ก้มหน้าแล้วมองบนนะคะ ทริคเล็กๆคือให้ลองวาดเป็นเหมือนทรงสามเหลี่ยมเล็กๆ มันจะมีความเหมือนขนตาจริง หรือใครจะใช้วิธีติดขนตาล่างไปเลยก็ได้นะคะ

3. จากนั้น ดัดขนตาและปัดมาสคาร่าค่ะ วันนี้ปัดข้างบนเบาๆพอเพราะเดี๋ยวเราจะติดขนตากัน ส่วนขนตาล่าง ซัดไปเลยค่ะ เพื่อให้มันเนียนไปกับขนปลอมที่เราวาด ๕๕๕๕ ขนตาล่างปิงใช้เมเบอลีน ไฮเปอร์เคิร์ลค่ะ เพราะมันให้ความหนาดี

4. ใช้ดินสอสีขาวมุกเขียนที่หัวตาเบาๆ เพื่อความฉดใฉ <3 

ขั้นตอนการแต่งตา 3

1. ติดขนตาค่ะ ลุคนี้เลือกใช้ขนตาแบบธรรมชาติ เลือกแบบที่เรียงเส้นสวยงาม เพราะถ้าใช้ขนตาแบบปังมากมันอาจจะดูเกินพอดี และไปบังการแต่งตาที่เราทำมาค่ะ ๕๕๕๕๕

ขั้นตอนสุดท้าย ฮูเร่!

1. คอนทัวร์หน้าเบาๆค่ะ โดยลงที่ข้างแก้ม ข้างจมูก และกราม ปัดเบาๆให้ผิวมีความอุ่นค่ะ

2. ลงบลัชออนเนื้อแมตต์สีชมพูอมส้มค่ะ โดยปัดที่หน้าแก้มแบบตุ๊กตา ไม่ลากยาวเฉียงขึ้นไปค่ะ  

3. สำหรับไฮไลท์ ลุคนี้ปิงเลือกใช้ไฮไลท์ที่ค่อนไปทางแมตต์ คือไม่วาวมาก สามารถใช้อายแชโดว์สีครีมมาทำเป็นไฮไลท์ได้ค่ะ โดยลงที่โหนกคิ้ว สันจมูก กระจับปากและโหนกแก้ม โดยเราจะไม่ลากยาวไปถึงขมับ แต่จะลงวนๆใต้บริเวณหางตาแทนค่ะ

4. ปิดจ็อบด้วยลิปสติกเนื้อแมตต์สีส้มพีช ที่เข้ากันได้ดีมากๆกับสีตา (เหรอออ ๕๕๕๕๕)

The finished look!

สำเร็จไปอีกลุคสนุกๆนะคะ ถูกใจกันมั้ย ถ้าถามว่า แต่งลุคนี้คือไปไหนได้บ้างยะ? ๕๕๕๕๕ ถ้าจะไปสุดแบบนี้ก็เหมาะกับงานปาร์ตี้โลดค่าา แต่สำหรับ everyday look โดยใช้สีฟ้าแบบนี้ก็สามารถทำได้ง่ายมาก (เชื่อนี่ นี่ทำมาแล้ว ๕๕๕๕) ขั้นตอนเหมือนกันเลยค่ะ แค่เขียนเส้นโค้งที่รอยพับบางๆพอไม่ต้องติดขนตาปลอม ไม่ต้องเขียนเส้นขนตาล่าง หรือถ้าอยากเขียนก็แค่สะกิดนิด สะบัดหน่อย แค่นี้ก็ออกจากบ้านได้แล้วเด้ออ เชิญชมภาพสร้างกำลังใจด้านล่างนาจาา

หวังว่าฮาวทูนี้จะสร้างประโยชน์และความบันเทิงแก่มวลชน

๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ

แล้วพบกับลุคสนุกๆกันอีกในฮาวทูหน้าจ้าา

<3