REVIEW : COLOURPOP COSMETICS ULTRA MATTE LIPS & SHADOWS

37 14

สวัสดีค่ะ

วันนี้บีมมี item ที่สาวๆต่างก็กรี๊ดกร๊าดกันมารีวิว

นั่นก็คือ COLOURPOP COSMETICS

บอกก่อนนะคะว่าในการรีวิวครั้งนี้ เสียทุนทรัพย์เองนะคะ

สนองความอยากตัวเองล้วนๆ ไม่มีอะไรผสม 555

เริ่มที่ตัวดังของแบรนด์กันเลยค่ะ

นั่นก็คือ ลิปแมทต์ รุ่น ULTRA MATTE LIPS

บีมสอยมาด้วยกัน 4 สี(+สีก่อนหน้านี้ที่มีแล้ว1สี) รวมเป็น 5 แท่งค่ะ

ชอบกล่องมาก คือ สื่อมาประมาณว่าทำด้วยความรัก

ด้านท้ายของกล่องจะแปะสติ๊กเกอร์ที่ระบุชื่อสีไว้ค่ะ

บอกส่วนผสม รายละเอียดไว้ที่ข้างกล่อง

อีกด้านจะบอกแหล่งที่ผลิต

และที่ปลาบปลื้มมากคือ cruelty-free ด้วยค่ะ (คือผลิตภัณฑ์ไม่ทดลองกับสัตว์)

5 สีที่มีในกรุ (ไล่ชื่อจากบนลงล่างนะคะ)

TEENY TINY

AVENUE

FIRST CLASS

BE-DAZZLED

MR.BLONDE

ที่ตัวด้ามจะมีรายละเอียดบอกปริมาณ 3.2 g/0.11oz

และสถานที่ผลิตค่ะ

ที่ก้นของด้ามก็จะมีชื่อสีและล็อตที่ผลิตค่ะ

แพ็คเกจ : ตัวด้ามเป็นพลาสติกที่ใสๆเห็นสีเนื้อผลิตภัณฑ์ชัดเจน ฝาจะเป็นพลาสติกเงาๆ logo จะเป็นสีเงาๆสายรุ้งๆ(เรียกว่าอะไร?5555)

แอพพลิเคเตอร์จะเป็นแบบกำมะหยี่ที่ปลายๆ แปรงค่อนข้างแข็งอยู่ทรง(คือดัดแปรงไม่ได้ค่ะ)

หัวแอพพลิเคเตอร์ค่อนข้างพอดีกับริมฝีปาก

สวอชสีกันค่ะ

นี่คือหลังจากทาทันที(ยังไม่แห้งแมทต์)

เรียงสีจากซ้ายไปขวา

MR.BLONDE , BE-DAZZLED , FIRST CLASS , AVENUE , TEENY TINY

หลังจากลิปเซ็ทตัวแล้ว

ซูมดูเนื้อใกล้ๆกันค่ะ

เป็นไงคะ?? แห้งแมทต์มากกกก

ดังนั้นสาวๆท่านไหนที่ปากแห้งลอกเป็นแผ่นๆทาไม่รอดนะคะ

ต้องบำรุงเยอะๆก่อนทา

มาทดสอบความยืดหยุ่นของเนื้อกันค่ะ ว่าจะแครกแค่ไหน

สมมติว่าถ้าเราย้นปากแล้วยิ้ม

ผลคือโอเคค่ะ ไม่ตึงจนแครก สามารถยิ้มยืดหยุ่นได้พอสมควร

ล้างออกยากไหม? ส่วนตัวบีมว่าไม่ยากเท่าไหรค่ะ

บีมว่าใช้พวก eye&lip remover หรือพวกออยล์ล้างออกจะง่ายกว่าใช้พวก cleansing water

สรุป

ความทนทาน : 4/5 คือทนในระดับที่โอเค แต่ก็มีหลุดบ้าง

ความชุ่มชื่น : 0/5 โนวววววว ไม่มีความชุ่มชื่นนะคะ มันคือลิปแมทต์แห้งๆเลยค่ะ

ความคมชัด/เม็ดสี : 4/5 คือสีเข้มๆเม็ดสีแน่น แต่พวกสีอ่อนๆเม็ดสียังไม่แน่นมากค่ะ กลิ่น : ไม่ค่อยมีกลิ่นนะคะ ถ้าไม่ได้สูดดมแบบตั้งใจสูดดมจริงๆ

แพ็คเกจ : พลาสติกค่อนข้างแข็งแรง ไม่ง๊องแง๊ง ตัวแปรงแอบแข็งทื่อไปนิด

ถ้าด้ามไม่แข็งมากสามารถงอได้นิดหน่อยเวลาทาที่ริมฝีปากมันจะสมูธไปกับรูปปากกว่านี้ค่ะ

ราคา : 6$ เองค่ะ ตีเป็นเงินไทยเรท37บาท+ค่าชิปปิ้งบลาๆ บีมสอยมาไม่เกิน 300 บาทค่ะ

ซึ่งถือว่าราคาถูกถ้าเทียบกับคุณภาพ ถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุน

สีมีให้เลือกที่หลากหลาย ตั้งแต่นู้ดๆ ยัน สีเข้มๆ สีแปลกๆ คือสีค่อนข้างมครอบคลุมมากค่ะ

สีมีเยอะจนบางทีเวลาเลือกสี งงมาก สีคล้ายๆกันหมด 555555

อ่อ ถ้าใครปากแห้งมากและไม่ชอบฟิลลิ่งลิปแมทต์

แนะนำตัวใหม่ เนื้อ Ultra Satin Lip ค่ะ (ราคา 6$)

หรือตัว Lippie Stix ที่เป็นดินสอ (ราคา 5$) เนื้อไม่แห้งแมทต์ ทาง่ายค่ะ

มาต่อที่ Shadows & Pigments

บีมสอยมาแค่ 4 สีค่ะ ตัว Creme Gel เป็นตัวแถมค่ะ

ชอบแพ็คเกจแบรนด์นี้นะคะ คือดูไม่เยอะ ดูใสๆ

4สีที่สอยมา+1ของแถม

แพ็คเกจพลาสติก ค่อนข้างง๊องแง๊ง คือถ้าทำตกคือพังค่ะ ไม่ค่อยแข็งแรง

ที่ก้นจะมีชื่อสี ปริมาณ 2.1g/0.07oz สถานที่ผลิต เนื้อของผลิตภัณฑ์

ตอนแกะมาตื่นเต้นมาก เพราะสีสวยมาก และแอบเฟลด้วยค่ะ

เฟลอันนี้เลย

เป็นสีเดียวที่เนื้อผลิตภัณฑ์มันหดตัวหนักมาก งงมาก เลยได้แต่กดแบนๆไปแทน

ซูมสีใกล้ๆ คือสีดูชัดและสวยวิบวับมากกกก

บอกก่อนว่าตอนซื้อบีมไม่ได้ดูเนื้อนะคะ ว่าแต่ละสีเนื้ออะไร

ดูแต่สีที่ตัวเองชอบและอยากลองมาค่ะ เลยได้มา 2 เนื้อค่ะ

คือเนื้อ Ultra-Metallic และเนื้อ Metallic

2 เนื้อแตกต่างกันยังไง แล้วเนื้อไหนดีกว่า อยากรู้กันใช่ไหมคะ

งั้นดูที่สวอชเลยค่ะ

ตอนเอานิ้วปาดนี่คือดี๊ด๊ามาก คือตอนนั้นในใจคิดว่าเฮ้ยยยย สีชัดมากกกก

แต่ๆๆๆๆ พอปาดลงที่แขน ปรากฎว่า....

เรียงสีไล่จากซ้ายไปขวา

DARE เนื้อ Metallic

TELEPATHY เนื้อ Ultra- Metallic

MIDNIGHT เนื้อ Metallic

TEA PARTY เนื้อ Metallic

เหมือนสีจะชัดเนอะ แต่เปล่าเลย.....

ในภาพบีมทาเกิน 3 รอบค่ะ เพื่อให้ได้สีที่ชัดเจน

ดังนั้นสรุปได้ว่าคุณหลอกบีม แอบเสียใจมาก

แต่ใน 4 สีมีสี TELEPATHY ซึ่งเป็นเนื้อ Ultra- Metallicที่ทาแค่รอบเดียว

แต่สีชัดแน่นมากที่เหลือคือถูซ้ำๆหลายรอบมาก

มาเบลนด์สีต่อค่ะ ว่า ฟินิชลุคได้ประมาณไหน

สีอ่อนเบาใสๆมากกกก แต่กลิตเตอร์แน่นมาก ระยิบระยับแข่งกับชุดพระเอกลิเกเลยค่ะ

เรียงไล่สีจากซ้ายไปขวา

DARE , TELEPATHY , MIDNIGHT , TEA PARTY

TELEPATHY เนื้อ Ultra- Metallic

สีทองสีแน่นมากเป็นเนื้อที่ดีที่สุดค่ะ ใครตามหาสีทองเนื้อแน่นๆ ต้องตัวนี้เลยค่ะ

DARE เนื้อ Metallic

สีม่วงที่ดูเหมือนจะม่วงมากนะ แต่เปล่าเลยค่ะ เน้นสีอ่อนๆแต่กลิตเตอร์แน่นๆ

วิ้งวับระยับมากค่ะ สีเบาทาไม่ยากค่ะ

MIDNIGHT เนื้อ Metallic

ตัวนี้อธิบายสีไม่ออก สีคล้ายๆสีเขียวขี้ม้าที่ออกน้ำตาลเข้ม

สีไม่ได้เข้มมากเบลนด์ดูฟุ้งๆกลิตเตอร์แน่นๆ

TEA PARTY เนื้อ Metallicสีอ่อนใสๆ สไตล์คุณหนูมากค่ะ กลิตเตอร์แน่น

เน้นความระยิบระยับมากกว่าจะเห็นสี 555555

สรุป

ความทนทาน : 3/5 คือทนแต่ควรทา eyeprimer ช่วยจะดีกว่าค่ะ

ความคมชัด/เม็ดสี : อันนี้ขอแยกให้คะแนนตามเนื้อผลิตภัณฑ์นะคะ

เนื้อ Ultra-Metallic 5/5 เอาคะแนนเต็มไปเลยค่ะ สีชัดแน่นมาก เนื้อนุ่ม ปาดครั้งเดียวทาได้ทั้งเบ้าตายันคิ้วเลยค่ะ คือดีมาก ชอบมาก พอเบลนด์สีก็ยังสวยดูเหลือบๆประกายกลิตเตอร์เล็กสวยมาก

เนื้อ Metallic เอาไปแค่ 2/5 พอ ให้คะแนนตรงกลิตเตอร์แข่งกับเพชรที่ชุดพระเอกลิเกได้ค่ะ

เม็ดสีและความแน่นของสีที่เห็นอย่าไปหวังเลย มันไม่ได้แน่นแบบที่มือปาดขึ้นมาเลยค่ะ

แพ็คเกจ : พลาสติกค่อนข้างง๊องแง๊ง ดูพลาสติกไม่ค่อยหนามาก ตกคือพังค่ะ

ราคา : 5$ เองค่ะ ตีเป็นเงินไทยเรท37บาท+ค่าชิปปิ้งบลาๆ บีมสอยมา 200 กว่าๆ

คือถ้าจะสอยแนะนำเนื้อ Ultra-Metallic ค่ะ

แต่ถ้าชอบกลิตเตอร์ใสๆไม่เน้นสีก็ Metallic ค่ะ แล้วแต่ชอบ

จริงๆนางมีเนื้อเยอะมาก Matte ,Pearlized ,Satin ,Glitter Sheer ,Pressed Pigment

ซึ่งบีมยังไม่ได้ลองเลยไว้มีโอกาสและมีทุนทรัพย์จะสอยมาลองเนื้อแล้วมารีวิวเพิ่มนะคะ

มาที่ของแถมค่ะ

เค้ามีให้เลือกหลายอย่างแต่บีมเลือก Creme Gel มา

คืออยากลองเนื้อเลย ถ้าคุ้นกับตัวนี้ก็อารมณ์แบบ เมเบอลีนตัวแทททูคัลเลอร์ค่ะ

เปิดมาเห็นสีแล้วว่าสวยดีค่ะ

ลองเอานิ้วป้ายออกมา สีก็ดูสวยดีค่ะ แต่ไม่ได้สวยว๊าวไรขนาดนั้น

แต่พอปาดที่แขนแค่นั้นแหละ ร้องกรี้ดในความสวยของนางเลยค่ะ

สีสวยมากกกกก ประกายเหลือบสวย สีกำลังดีไม่ได้ดูเยอะ

ขนาดเบลนด์แล้วสีก็ยังสวยมาก

คือแบบของแถมมักดีกว่าของซื้อหรอ????? 5555

แต่เนื้อเค้ากึ่งเหลวนิ่มๆ ทำให้เกลี่ยง่าย แต่ไม่ทนทานนะคะ ปาดๆก็มีหลุดนะคะ

สรุป

ความทนทาน : 3/5 ทนกลางๆ ถ้าไม่ไปโดนหรือขยี้ ถือว่าดีค่ะ

เม็ดสี/ความแน่น : 4/5 สีสวยมาก สีไม่ได้แน่นแบบเว่อวัง

แต่สวยกำลังดีไม่น้อยบางและไม่ได้เยอะเกินไป คือดีมาก

แพ็คเกจ : อยู่ในกระปุกแก้ว ฝาพลาสติกสีขาว ความทนทานโอเคค่ะ

ลองทำตกแล้วไม่สั่นสะเทือน ไม่ง๊องแง๊ง

ราคา : ไปส่องมาคือเหมือนไม่มีขาย เป็นตัวแถม GET PAID ค่ะ

คืออยากได้ต้องมาพึ่งของแถมใช่ไหม?

*ถ้าเทียบกับตัว เมเบอลีน เนื้อคนละอย่างกันค่ะ เมเบอลีนบีมว่าเกลี่ย

และเบลนด์ยากกว่าเพราะมันเนื้อแมทต์ Colourpop จะสมูธเกลี่ยง่ายกว่า

แต่ความทนบีมว่า เมเบอลีนกินขาดค่ะ แต่ถ้าเรื่องเม็ดสีและความสวยยกให้ Colourpop

จบแล้วกับการรีวิว

ขอบคุณที่รับชมนะคะ


solarbeam

solarbeam

FULL PROFILE