สวยร้ายร้าย, สไตล์สาวEMO!

รู้ว่าส่งHow Toเดือนนี้ไม่ทันแน่ๆเลยโมเมมั่วมาเสนอแนวอื่นแทน!

เพราะเห็นHitกันนักหนากับเทรนด์สาวสวยเหวี่ยงๆ ร้ายๆอย่าได้แคร์โลกในสไตล์ที่ถ้าเป็นแต่ก่อนก็คงเรียกว่าเป็นสาวPunk สาวRockแต่เดี๋ยวนี้มันต้องเรียกว่าอีสาวEMOเท่านั้น!!

เทรนด์Emoนี้ก็มีตั้งแต่ทรงผมเป๋ปาดปิดลูกกะตา Accessoriesเยอะๆงงๆเข้าไว้ และสำคัญที่Eyelinerว่าจะขาดไปเสียไม่ได้ นอกจากนั้นก็เป็นแฟชั่นขาเดปเสื้อดำ แล้วทำหน้าเหวี่ยงๆแบบหงุดหงิดกับโลก

ใครเป็นสาวกRetrospect(ที่เรียกขานตัวเองกันว่าชาวRetrorian)หรือสงสัยว่าสวยร้ายๆจะเป็นแบบไหนเพราะประพฤติตนเป็นสาวสวยสุภาพมาตลอดชีวิต, สามารถนำไปปฏิบัติได้

ป.ล. ร้ายแค่สไตล์ก็พอนะจ๊ะ, ชีวิตร้ายๆนี่ขอสงวนสิทธิ์ทรายไว้ใช้คนเดียว!!


 

สภาพก่อนแต่ง โหมงานจนตัวดำจากพิษแดด แถมมรสุมชีวิตพิษรักยังพัดกระหน่ำจนหน้าโทรม ศพ เหมาะจะนำไปฌาปณกิจเป็นอย่างยิ่ง

 

จริงๆสาวEmoต้องดูซีดนิดนึง, จะได้ขึ้นกับแฟชั่นเสื้อดำ แต่ในเมื่อทรายซีดไม่ได้เลยขอปรับผิวให้กระจ่างขึ้นนิดนึงด้วยซิลิโคนเบสของSmashboxสีส้มเหมาะกับสีผิวอย่างทราย และเนื้อซิลิโคนช่วยให้หน้าแห้ง เหมาะแก่การทำหน้าเหวี่ยงๆร้ายๆไปชมคอนเสิร์ตได้ตลอดโชว์

สาวEmoไม่ควรคิดถึงการลงรองพื้นเพราะไม่งั้นจะละลายไปกับเหงื่อยามออกไปActivityต่างๆ แถมดูเป็นสาวห่วงความงามผิดบัญญัติอีสาวEmoเป็นยิ่งนัก ดังนั้น, งดรองพื้นซะ! แต่อนุญาตให้ใช้Concealerหลอกสายตาประชาชนแทนจะเหมาะกว่า เลือกลงบริเวณที่มีปัญหาตามใจชอบ, ของทรายคือใต้ตาที่โบ๋ลึกเหมือนผีJu-on..

จึงต้องขอความช่วยเหลือจากConcealerชั้นเทพของลุงShu Uemura(ใครเป็นสาวโทนสีผิวเดียวกับทรายแนะนำให้ใช้คอนซีลเลอร์ออกเหลืองนะคะ, อย่าได้ไปใช้โทนชมพูตามเพื่อน ไม่งั้นจะน่ากลัวมากกกก!) และเกลี่ยเกินๆออกมาจากใต้ตาอีกนิดด้วยConcealerแบบปากกาของOriental Princess เพื่อความกลมกลืนกับผิวส่วนที่ไม่มีอะไรปกปิด

จากนั้นหลอกลวงประชาชนเพิ่มด้วยLemon-AidของBenefit จะเป็นครีมสีเหลืองอ่อนๆที่ช่วยลดอาการล้าโรยของใต้ตาและเปลือกตาได้เป็นอย่างดี(ใครที่ตื่นตอนเช้าแล้วรู้สึกตาบวมๆแดงๆเป็นจ้ำๆ หรือไม่สบายจนตาโรยใช้ตัวนี้ก็ดีนะ หรือครีมสีออกเหลืองๆของยี่ห้ออะไรก็ได้ค่ะ)ลงเพิ่มเข้าไปนิดๆ และใช้เป็นเบสสำหรับสีเปลือกตาให้ติดทนยิ่งขึ้นได้ด้วย

จากนั้นก็ทำการShadeสร้างกรอบหน้าและดั้งจมูกตามปกติด้วยArmani ด้านสีเข้มตลับเดิมๆ

สาวEmoไม่ควรมีแก้มใสเด็ก เด้งตามธรรมชาติ แต่ควรเน้นโหนกแก้มCheekboneเพื่อเพิ่มความเหวี่ยงให้กับสไตล์นี้ จึงขอเลือกสีBronzeจากตลับ4หลุมของPout(รักยี่ห้อนี้จริงๆนะ)มาปาดแก้ม เอาเฉพาะตรงโหนกๆก็พอจ้ะ เพราะเราไม่ได้เน้นสร้างสีสัน แต่ขอเน้นแสงเงาและความล้ำลึกมากกว่า
(ใครที่แก้มอิ่มน่ารัก, ให้แตะครีมเฉดสีเข้มๆตรงบริเวณกรามที่ใกล้กับหูที่สุดนิดนึงค่ะ จะหลอกให้หน้าดูตอบลงได้เยอะอย่างไม่น่าเชื่อ)

ลงครีมเสร็จแล้วก็ตบแป้งซ้ำ, ทรายใช้แป้งCKตัวเดิมอ่ะแหละ

 

ตบแป้งแล้วก็มาจัดการกับคิ้ว, คิ้วทรายมีโครงอยู่แล้วก็ไม่ต้องเขียนเพิ่มเพราะไม่ได้จะเน้นมันมากมายเดี๋ยวจะไปแข่งกับตาเสียเปล่าๆ ใครผมสีอ่อนๆกรุณาปัดสีคิ้วให้อ่อนตามผม, ส่วนทรายซึ่งสีผมเข้มตามธรรมชาติก็ขอแอบย้อมคิ้วให้ดูSoftลงเล็กๆเป็นสีน้ำตาลอมทองแดง(อย่าให้ออกแดงมากจะดีกว่านะคะ, ไม่งั้นหน้าจะตลกมากๆ)
ทรายใช้ของมาสคาร่าปัดคิ้วของLove Clover ซึ่งไปสอยมาตอนได้ไปญี่ปุ่น, ชอบแปรงมันจังเลย(รู้สึกมาสคาร่าคิ้วของRMKก็จะเป็นแปรงแบบนี้นะ) ปัดย้อนแนวขนคิ้วก่อนนะคะเพื่อให้สีมันติดเข้าไปถึงโคนขนคิ้ว แล้วค่อยมาจัดทรงอีกที ถ้าสีติดไปถึงผิวก็เอาคัตตอนบัดเกลี่ยๆได้ตอนปัดเสร็จแล้ว

 

จากนั้นเอาEyeshadowสีส้มอมเหลือง เนื้อMatteของลุงShuมาทาให้ทั่วตา(สีนี้ดูเหมือนจะน่ากลัวแต่ช่วยเพิ่มความสว่างให้หน้าของสาวผิวสองสีได้เป็นอย่างดี ใช้ทาเป็นพื้นก่อนลงสีทองก็จะยิ่งขับให้สีทองเด่นขึ้นอีกด้วยค่ะ) ใช้แบบไม่มีShimmer นะไม่งั้นอาจดูแวววาวผิดLookไปนิดนึง

 

ทาEyeshadowสีนี้ที่ใต้ตาตรงหัวตาด้วยแบบเล็กๆ, ช่วยให้ดูกระจ่างขึ้นอีกนิด, เพราะช่วงนี้ทรายตาโรยมากๆ

 

จากนั้นก็เป็นขั้นตอนสำคัญในการสร้างสไตล์Emo นั่นก็คือการเขียนตา!!

ใครรู้สึกว่าเขียนตาไม่แม่นทำตามขั้นตอนได้เลยนะจ๊ะ..

ก่อนอื่นก็ควักเอาEyelinerแบบดินสอ(ซึ่งเยินม้ากกกกก....เพราะพกไปด้วยตลอด)สีBronzeของStilaมาเขียนที่ขอบตาล่าง-เน้น-เขียนข้างล่างก่อนเน่อ!!
เพราะถ้าเขียนข้างบนแล้วลากหางออกมา, ตามสถิติแล้วส่วนใหญ่มันจะไม่พอดีกันตอนมาเติมขอบตาล่างทีหลังน่ะค่ะ เขีนยตาล่างก่อนจะแม่นกว่าจ้ะ
ลากจากตรงกลางๆตาดำไปถึงหางตาให้เฉี่ยวเฉียงเพิ่มความเหวี่ยงให้Look (แต่อย่าให้ยาวเกินหางคิ้วนะคะ) ถ้าเขียนออกมาแล้วเหมือนสองตาจะยาวไม่เท่ากันก็เอานิ้วเกลี่ยๆให้ดูฟุ้งๆได้ตามอัธยาศัย เราไม่เน้นเนี้ยบอยู่แล้ว และจะใช้เส้นสีน้ำตาลนี้เป็นโครงในการเขียนEyelinerในลำดับต่อไป

 

จากนั้น, ก็เขียนไลเนอร์สีดำทับลงไป ทรายใช้ยี่ห้อนี้(ก็อานิสงส์จากตอนไปญี่ปุ่นอีกนั่นแล..)มันเป็นOil Base Typeเขียนง่ายและติดทนมากๆ เพราะเคยพิสูจน์แล้วจากการไปPartyว่าไม่แพนด้า อย่างมากก็เลือนๆกันไปตามกาลเวลาแต่ไม่ตกลงมาเลอะๆแน่นอน(ถ้าหมดแล้วฉันจะฝากใครซื้อให้ดีเนี่ย??) ที่จริงเค้าแถมพู่กันมาด้วย แต่ทรายไม่ถนัด, ก็ใช้แปรงตามถนัดของเราวาดเข้าไปตามแนวเส้นดินสอสีน้ำตาลที่เราได้ลากเป็นโครงเอาไว้ก่อนแล้ว

ถมให้ดำทั้งด้านนอกและInnerLine เขียนขอบตาล่างด้วยนะจ๊ะเอาแบบเส้นเล็กๆก็พอเพราะมีสีน้ำตาลเป็นกรอบให้ก่อนอยู่แล้ว

เมื่อเขียนได้ดำสะใจก็เช็คความยาวได้, ข้อดีของการเขียนLinerแบบดินสอสีน้ำตาลไว้ก่อนก็คือถ้าเขียนหางตาไม่เท่ากันก็สามารถเอานิ้วหรือคอตตอนบัดเกลี่ยได้ง่ายๆ และสีดำของLinerจะไม่เลอะออกมาแต่จะออกเป็นสีน้ำตาลๆที่เราลงเป็นพื้นเอาไว้มากกว่า ดูฟุ้งๆ เบลอๆ เซอร์ๆได้Look แบบสวยมึนๆพอดี

อันนี้สำหรับคนที่รู้สึกว่าเขียนตาและเลอะง่าย, ขอแนะนำวิธีนี้ว่า เมื่อเขียนเสร็จแล้เรียบร้อยให้เอาพู่กันจุ่มแป้งขาว(ในที่นี้เค้าใช้แป้งTranslucent ของLM) ปัดเบาๆที่เปลือกตา มันจะลดความมันและทำให้Linerติดทนขึ้นด้วย

เมื่อปัดแป้งออกมาแล้วตาขาวเป็นเบ้าก็ไม่ต้องตกใจ ใช้แปรงเปล่าๆปัดแป้งที่เกินๆทิ้งไปและใช้พู่กันอันเดิมกับที่เขียนLinerเมื่อกี้นี้ลากเส้นทับอีกทีก็จะติดทนขึ้น

แต่สำหรับคนที่มีปัญหากับการเลอะเลือนของLinerจริงๆขอแนะนำผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้จากค่ายBenefitนะคะ

“She Laq” ใช้เคลือบได้หลายส่วนไม่ว่าจะเป็นLiner/คิ้ว หรือEye Shadow จริงๆในเซ็ทเค้าแถมแปรงขนาดต่างๆมาให้ด้วยนะ อยากจะFixตรงไหนก็ใช้พู่กันจุ่มแล้วแตะซ้ำได้เลย แต่ทรายไม่ถนัดแปรงเล็กที่ให้มาในชุดเลยขอใช้แปรงของตัวเองจุ่มแล้วแตะๆทับเส้นLinerค่ะ

ที่จริงไม่ปัดมาสคาร่าก็ได้นะ, เพราะแค่นี้ก็คมเข้มสุดๆแล้ว แต่ถ้าใครอยากปัดขอแนะนำให้เน้นความหนาของขนตาจะเหมาะกว่านะคะ ทรายใช้HRลายเสือสร้างความร้ายให้อารมณ์สาวEmo

จริงๆมาสคาร่ารุ่นนี้มันไม่กันน้ำนะ แต่ก็ติดทนเชียว ไม่ละลายไปกับเหงื่อหรือน้ำได้ง่ายๆถ้าไม่ได้ตั้งใจจะถูกันจริงๆ แต่เพื่อความมั่นใจนะคะ, ใครมีMascaraใสๆก็ปัดซ้ำลงไปเพื่อFixได้(แบบของEtudeที่ทรายใช้คราวHowtoที่แล้วก็เหมาะนะ)เผื่อไปกระโดดโลดเต้นจะได้เต็มเหนี่ยวไม่ต้องมากังวล
หรือถ้าใครไปถอยShe Laqมาแล้วเค้าก็มีแปรงลวดแบบเหมือนแปรงมาสคาร่าให้ปัดซ้ำได้เลยเหมือนกันค่ะ

ตาคมแล้วก็มาปัดแก้ม, ทรายShadeหน้าตัวเองซ้ำอีกทีด้วยMACตลับมุขเหมือนเดิม จากนั้นก็ใช้Blush OnของDarphin(ยี่ห้อนี้ไม่ได้ทำแต่Skincareนะคะ ทำเครื่องสำอางด้วย..สวยเชียว, ใครมีโอกาสขอแนะนำให้ลองซื้อมาใช้จ้า)โทนส้มธรรมชาติแบบไล่สี(เหมือนEstee’ก็จะมีบลัชไล่สีแบบนี้นะ, ถ้าจำไม่ผิด)ปัดซ้ำที่แก้ม ตรงที่เป็นโทนสีอ่อนๆของบลัชก็ใช้ปัดแทนHilightตรงช่วงหน้าผากกับคาง

แล้วก็งัดเอาDuo Bronzingของป้าLauraมาปัดแบบรวมๆอีกที เพื่อทำให้ผิวสีแทน(มากๆๆๆๆๆ)ของทรายดูมีมิติขึ้น

สาวEmoตัวแม่ต้องปากซีดๆนู้ดๆ จึงเลือกเอาลิปSuqquเบอร์4 มาขยี้ด้วยพู่กันแล้วปาดปากเพื่อความติดแน่นทนนาน(ลิปยี่ห้อนี้ราคาสูงก็จริง, แต่ลองเลือกซักสีที่เหมาะกับตัวเองและใช้ได้หลายๆโอกาสมาครอบครองแล้วจะชอบค่ะ มันติดทนดี)

จากนั้นก็ทาทับด้วยกลอสของStilaสีPraline นู้ดๆ เนื้อๆไม่มีวิ้งใดๆเพิ่มความฉ่ำให้ปาก

เสร็จแว้ว!!

 

 

 

ปล่อยผม

น้องลูกหมีมาทำผมปาดสไตล์Emoเอาใจคุณนายทรายด้วย!!!

สวย ร้าย เหวี่ยงได้ใจ จะไปโดด ไปเดินที่ไหนก็สวยไม่มีผิดLook ถ้าจะเลือกของเอาไว้เติมระหว่างวันก็ใช้แค่แป้งแข็งกับกลอสก็พอ เพราะเราก่อโครงไว้อย่างแน่นหนาแล้ว

ใครเบื่อๆอารมณ์สวยเรียบร้อยลองมาแต่งแบบนี้บ้างก็สนุกดีนะ, ทำให้เรารู้สึกเฉี่ยวเปรี้ยวขึ้นมาได้เยอะเลย

หวังว่าคงได้ประโยชน์กันนะคะ^^