Review Sebo Vegetal Yves Rocher เคล็ดลับผิวสะอาด สดชื่น ไร้ความมันเงา 24 ชม.

12 15

อากาศร้อน ๆ ของเมืองไทยช่างน่าเบื่อหน่ายจริง เดินทางไปไหนมาไหนต่อมน้ำมันบนหน้าทำงานกันแบบเออเร่อ(error)

 เยิ้มจนหมดความสวย ซับมันกันทั้งวัน แต่งหน้าสวย ๆ ก็เป็นคราบหมดเลย ปัญหาหน้ามันยังทำให้ผิวอุดตันเป็นสิว ตามรักษากันไม่จบไม่สิ้น ยิ่งหมั่นล้างหน้าก็ยิ่งกระตุ้นให้หน้ามัน 

ปุ๊กได้ค้นพบทางออกในการดูแลผิวมันนั้นคือ ชุด Sebo Vegetal ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ของ Yves Rocher

ซึ่งYves Rocher ได้ค้นพบสารสกัดจาก Baikal power (ไบคาล พาวเดอร์) ซึ่งเป็นส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพในการทำให้ผิวผสมถึงผิวมันรู้สึกสะอาดหมดจน เรียบเนียนและไม่มันเงา

Baikal power (ไบคาล พาวเดอร์) สารสกัดที่สกัดด้วยวิธีธรรมชาติจากรากของ Skullcap (ชื่อภาษาลาตินเรียกว่า scutellaria) ,ซึ่งใช้กันมายาวนานเพราะมีความสามารถในการปรับสมดุลการทำงานของร่างกาย

Yves Rocher ได้ควบคุมระบบการปลูกที่มีประสิทธิภาพปราศจากสารตกค้าง

จึงมั่นใจได้ว่าทั้งปลอดภัยและช่วยให้ผิวผสมถึงผิวมันสะอาดหมดจด สดใส เรียบเนียนและไร้ความมันเงา นอกจากนี้ยังได้รับการทดลองและรับรองโดยแพทย์ผิวหนังแล้วว่า

-ปราศจากพาราเบน

-ปราศจากมิเนรัล ออยล์

-ปราศจากการแต่งสี

เอ๋!!พาราเบนคืออะไร? มิเนรัล ออยล์ คืออะไร ? สงสัยกันมั้ยคะ ?

พาราเบนคืออะไรและทำไมเราจึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีพาราเบนผสมอยู่

สารพาราเบนเป็นสารสังเคราะห์ขึ้นทางเคมี เพื่อใช้ในการรักษาสภาพของผลิตภัณฑ์ไม่ให้ขึ้นรา หรือถูกแบคทีเรียเข้าไป ทำปฏิกิริยาจนผลิตภัณฑ์เกิดการแปรสภาพ สารพาราเบนอาจถูกพบได้ในธรรมชาติ เช่น เมทิลพาราเบนที่พบในบลูเบอรรี แต่ส่วนมากในอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องสำอางค์หรืออุตสาหกรรมการผลิตยาจะไม่ใช้สารพาราเบนจากธรรมชาติ  เนื่องจากสารพาราเบนสังเคราะห์มีราคาถูกกว่ามากและสามารถควบคุมการออกฤทธิ์ได้แม่นยำตรงตามความต้องการได้มากกว่า และที่น่าตกใจคือมีการใส่สารพาราเบนมากกว่า 2 ชนิดในแต่ละผลิตภัณฑ์ สารพาราเบนที่ปรากฏบนสลากเป็นประจำคือ เมทิลพาราเบน, เอทิลพาราเบน, พรอพิลพาราเบน และบูทิลพาราเบน

แต่อย่างไรก็ตามได้มีนักวิจัยได้ทำการศึกษาถึงผลข้างเคียงของสารพาราเบนที่มีต่อมนุษย์ ซึ่งผลที่ออกมาทำให้ผู้บริโภคอย่างเรา ๆ รู้สึกตระหนกและกังวลใจไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว

Dr. S. Oishi นักวิจัยจากสถาบันพิษวิทยา สำนักงานวิจัยเพื่อสาธารณะแห่งมหานครโตเกียว ได้รายงานว่าพบความผิดปกติของทารกเพศชายที่ได้รับสารบูทิลพาราเบนจากการใช้ผลิตภัณฑ์ของมารดา โดยทารกเกิดความผิดปกติในระบบสืบพันธุ์ และ การหลั่งฮอร์โมนเทสทอสเทอโรน

Dr.Philipa Dabre นักชีวโมเลกุลชาวอังกฤษ ได้รายงานว่า พบสารพาราเบนในเนื้อร้ายจากผู้ที่เป็นมะเร็งเต้านม ซึ่งสาร พาราเบนที่พบน่าจะมาจากผลิตภัณฑ์ที่ผู้ป่วยใช้สัมผัสกับผิวหนังบริเวณรักแร้ หรือครีมทาผิว หรือสเปรย์ฉีดร่างกาย และนอกจาก นั้น Dr. Dabre ยังพบว่ากว่า 60% ของผู้ป่วยมะเร็งเต้านมจะพบเนื้อร้ายตรงบริเวณหน้าอกส่วนบนด้านหน้าใกล้กับบริเวณรักแร้

นอกจากนั้นยังมีการวิจัยจากมหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทิร์น รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา พบว่ามะเร็งเต้านมขั้นต้นที่พบ มีส่วนสัมพันธ์กับความถี่ของการใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายและเครื่องสำอางค์ที่มีสารพาราเบนของผู้ป่วย

สารพาราเบนนั้นเป็นสารสังเคราะห์ที่มีลักษณะคล้ายกับฮอร์โมนเอสโทรเจน ซึ่งฮอร์โมนนี้จะเข้าไปมีส่วนสำคัญในการทำ งานร่วมกับต่อมไร้ท่อในร่างกาย โดยเฉพาะต่อมไฮโปทาลามัสที่ควบคุมการเจริญเติบโตและการทำงานของร่างกาย ต่อมไทรอยด์ที่ควบคุมระบบเมตาบอลิซึม และรังไข่ซึ่งควบคุมระบบสืบพันธุ์ ดังนั้นการได้รับสารพาราเบนเป็นระยะเวลาต่อเนื่องจึงมีผลต่อการทำงานของร่างกายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ร่างกายสามารถรับสารพาราเบนจากการดูดซึมผ่านผิวหนังซึ่งมีรูพรุน โดยการดูดซึมสารพาราเบนผ่านผิวหนังมีอัตราสูง กว่าการรับสารพาราเบนผ่านการรับประทานถึง 10 เท่า ดังนั้นจึงเป็นเรื่องน่าวิตกว่าร่างกายของเรามีสารพาราเบนตกค้างอยู่มาก เท่าใด

หากเลือกได้เราควรที่จะพิถีพิถันในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากสารพาราเบนเสียดีกว่า เพราะในปัจจุบันมีผู้ผลิตจำนวนหนึ่งที่รับผิดชอบต่อผู้บริโภคเห็นว่าเราไม่ ควรที่จะต้องรับสารพาราเบนเข้าไปในร่างกายเพิ่ม เพื่อลดอัตราเสี่ยงในการเกิดมะเร็งหรือเกิดความผิดปรกติในระบบต่างๆของร่างกาย

 

น้ำมันมิเนอรัล Mineral Oil

เป็นน้ำมันที่ได้มาจากการกลั่นปิโตรเลียม ถ้าอยู่ในรูปของน้ำมันเราเรียกว่า Mineral Oil แต่ถ้าอยู่ในรูปของแวกซ์ เราเรียกว่า ปิโตรเลียมเจล ค่ะ น้ำมันประเภทนี้ได้มาจากกระบวนการกลั่นน้ำมันดิบ โดยใช้ความร้อนแปรสภาพน้ำมันให้กลายเป็นไอ จนลอยขึ้นสู่ชั้นบนของหอกลั่น กลั่นตัวกลายเป็นน้ำมันต่างๆ และที่อุณหภูมิจุดเดือดที่ 150 - 275 องศาเซลเซียส ที่ไอกลั่นตัวเป็นน้ำมันเบนซิล และเกิดสารเหลือค้างเกาะอยู่ชั้นบนขอหอกลั่น เรียกกันว่า พาราฟินที่นำมาทำ ปิโตรเลียมเจล หรือ Petroleum Jelly นั้น มีหน้าตาเป็นน้ำมันใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ซึ่งที่มาก็คือเป็นสารสกัดที่เป็นผลพลอยได้มาจากการทำน้ำมันปิโตรเลียมในธุรกิจพลังงานนี่เอง จึงสามารถหาได้ปริมาณมากและมีราคาถูก (ว่ากันว่าถ้าโรงกลั่นน้ำมันจะกำจัด Mineral Oil โดยการย่อยสลาย ค่าใช้จ่ายในการย่อยสลายMineral Oil แพงกว่าราคาที่ขายได้เสียอีก) แถมยังไม่เน่า ไม่หืน ไม่หมดอายุ จึงมักถูกนำมาใช้ในสูตรเครื่องสำอางประเภทมอยเจอร์ไรเซอร์ ทั้งชนิดราคาถูกและแพง ทำหน้าที่ในการให้ความชุ่มชื่นแก่ผิว แต่เบื้องหลังการทำงานของมันนี้ ก่อให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพตามมาได้ หากสะสมในปริมาณมาก

การทาครีมหรือโลชั่นที่มีส่วนผสมของ Mineral Oil ลงบนผิวนั้น สารสกัดตัวนี้จะทำหน้าที่เหมือนฟิล์มบางๆ มาเคลือบบนชั้นผิว ผลลัพธ์ก็คือ เมื่อผิวถูกเคลือบปิด จึงไม่สามารถกำจัดสิ่งสกปรกที่อยู่ใต้ชั้นผิวออกมาได้ เท่ากับเป็นการปิดกั้นการถ่ายเทของน้ำและอากาศระหว่างชั้นผิวกับภายนอก ผิวหายใจเข้าออกยาก และถ่ายเทของเสีย (เช่น เหงื่อ) ตามธรรมชาติไม่ได้รังสียูวีในแสงแดดเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผิวมีริ้วรอยก่อนวัย (Photo Aging) ทำให้มีกระแดด ผิวแห้งกร้าน มีริ้วรอย และการใช้เครื่องสำอางที่มี Mineral Oil จะยิ่งช่วยเร่งปฏิกิริยาการแก่ก่อนวัยของผิวมากยิ่งขึ้น แทนที่จะเป็นการให้ความชุ่มชื่น กลับเป็นการทำให้ผิวแห้งขึ้นในระยะยาว

หน้าที่ของ Mineral Oil ในพวกสกินแคร์ จะทำหน้าที่เป็นฟิลม์เคลือบผิวป้องกันการสูญเสียน้ำประมาณนี้ค่ะ น้ำมันตัวนี้ไม่ได้ช่วยในแง่ของการบำรุง

ดังนั้นเราจึงควรหลีกเลี่ยงสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากพาราเบน และ มิเนรัล ออยล์

เข้าใจตรงกันนะ 

 ปุ๊กจึงมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ Sebo Vegetal อ่อนโยนและไม่มีสารตกค้างที่อันตรายต่อผิว

ปุ๊กได้ทดลองใช้จริงเป็นเวลา30 วัน โดยหยุดใช้ผลิตภัณฑ์อื่นเพื่อการเห็นผลที่ชัดเจนค่ะ ซึ่งในชุด Sebo Vegetal มีทั้งหมด 7 ตัว 

เพรียวรีไฟอิง คลีนซื้งเจล : เป็นเจลใส ฟองไม่มาก แต่ทำความสะอาดได้หมดจด ล้างแล้วผิวไม่แห้งตึง

เพียวรีไฟอิง สครับ: เป็นสคลับเม็ดเล็กๆ ถูทั่วหน้า ขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว หลังใช้รู้สึกผิวหน้าเบาโล่ง สะอาดล้ำลึกยิ่งขึ้น

มิเซลลาร์ วอเตอร์ ทู อิน วัน : โทนเนอร์ใส่ สูตรน้ำ ปราศจากแอลกอฮอล์ ใช้เช็คเครื่องสำอางและเป็นโทนเนอร์เช็ดหน้าหลังล้างหน้าได้ในขั้นตอนเดียว  เพื่อกระชับรูขุมขนหลังล้างหน้า ใช้แล้วไม่แสบไม่ระคายเคือง รู้สึกผิวหน้าสดชื่นขึ้น :::::> ตัวนี้ปุ๊กจะนำมารีวิวอย่างละเอียดอีกครั้งด้านล่างค่ะ 

พอร์ มินิไมซิ่ง เซรั่ม : เซรั่มเนื้อบางเบาสีเขียวอ่อน ลูบเบาๆทาใบหน้าเช้าและก่อนนอน ซึมสู่ผิวไวไม่เหนอะหนะ 

ซีโร่ เบิลมีช เจลครีม : ครีมบำรุงสีขาวเนื้อเข้มข้น ปุ๊กจะทาก่อนนอน ตื่นเช้ามารู้สึกผิวนุ่มๆ 

แม็ททิฟายอิ่งครีม เจล : เนื้อครีมสีขาวขุ่น บางเบา ทาช่วงเช้าหรือช่วงเย็น รู้สึกไม่เหนอะหนะ                            แต่งหน้าแล้วไม่เป็นคราบ

เพียวรีตี้ มาร์ค : มาร์คเนื้อครีม มาร์คก่อนทาเซรั่ม มาร์คทิ้งให้แห้งประมาณ 5 นาที หรือจนกว่ามาร์คจะแห้ง ผิวจะตึงและรู้สึกเย็น หลังล้างออกด้วยน้ำป่าว รู้สึกผิวเบา สดชื่น แลดูใสขึ้น

ซึ่งก่อนได้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ได้ตรวจสภาพผิวหน้ากับทาง Yves Rocher ด้วยเครื่องที่ขยายให้เห็นปัญหาผิวหน้า ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็จะอธิบายให้เราฟังว่าผิวเรามีปัญหาเรื่องอะไรบ้าง

ถ้าดูด้วยตาเปล่า ผิวของปุ๊กไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่พอเห็นสภาพผิวจากเครื่องตรวจ จะเห็นได้ชัดมากว่า รูขุมขนกว้าง บางจุดมีรอยแดงอักเสบ มีเซลล์ผิวที่ตายแล้วตกค้าง สังเกตุเห็นความวาวของผิว

  เจ้าหน้าที่อธิบายว่า   "ผิวหน้ามัน" เกิดจากต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากเกินปกติ ซึ่งจะออกมาเคลือบผิว และทำให้รูขุมขนขยายกว้างเนื่องจากรูขุมขนต้องการทางออกของน้ำมัน เมื่อรูขุมขนเกิดการอุดตันทำให้น้ำมันหลั่งออกมาไม่ได้ เกิดปัญหาตามมา นั้นคือ “เป็นสิว” 

แต่ความมันเปรียบเสมือนฟิล์มเคลือบผิว ไม่ให้สูญเสียความชุ่มชื้น จึงเป็นข้อดีของคนผิวมันคือ                             “จะไม่เกิดริ้วรอยง่าย ๆ” ค่ะ

ปุ๊กแอบดีใจ ที่เราเกิดมามี “ผิวมัน”  แต่เกิดเป็นผู้หญิงอย่าหยุดสวยค่ะ ถ้าเราดูแลผิวหน้าให้ไม่ผลิตน้ำมันออกมาเกินปกติ เราก็จะสวยขึ้นได้อีกนะ จริงมั้ย ๆ 

 หลังจากทอลองใช้ 1 สัปดาห์  เมื่อดูภาพจากเครื่อง สังเกตุได้ว่ารูขมขนเล็กลง ผิวบริเวณที่เคยอักเสบแดงลดลง เซลล์ผิวที่ตายแล้วไม่มีตกค้าง ซึ่งเป็นผลให้รูขุมขนสะอาด ไม่อุดตัน ไม่มีสิ่งสกปรกสะสม สิวจึงลดลง เมื่อผิวกระชับและปราศจากความมันส่วนเกินแต่ไม่แห้งตึงจึงทำให้แต่งหน้าได้ง่ายขึ้น เครื่องสำอางไม่เยิ้มและติดทน

ใช้ครบ 3 สัปดาห์ จากรูปผิวหน้าแลดูเรียบเนียนขึ้น รูขุมขนกระชับเล็กลงได้อีก ผิวแลดูใสขึ้น ผิวหน้าปราศจากความมันวาวทั้งวัน แต่ยังคงความชุ่มชื้นไม่แห้งตึงไม่เป็นขลุย และที่สำคัญไม่มีอาการแพ้ใด ๆ หลังจากการใช้

ผลจาการใช้ ครบ 1 เดือน เห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน อาการผิวอักเสบ(บริเวณคาง)ลดลง ไม่มีเซลล์ผิวที่ตายแล้วตกค้าง ผิวหน้าสะอาดเรียบเนียนประดุจผิวเกิดใหม่

ตามมาดูรีวิว Sebo Vegetal Purifying Micellar Water 2 in 1  ให้เห็นชัด ๆ ถึงประสิทธิภาพการทำงาน ดีกว่าค่ะ 

หลังล้างหน้าหรือสคลับผิว ใช้สำลีแผ่นที่สะอาด หยด Sebo Vegetal Purifying Micellar Water 2 in 1  ลงบนสำลีให้พอชุ่ม แล้วนำมาเช็ดผิวหน้าให้ทั่ว ปุ๊กจะเน้นตรงจุดที่รูขุมขนกว้างเป็นพิเศษ(ซึ่งเราจะทราบว่าบริเวณไหนมีรูขุมขนกว้างได้จากเครื่องตรวจสภาพผิว ของ Yves Rocher ตรวจฟรีได้ทุกสาขา ยกเว้น เซ็นจูรี่ และ โลตัสรามอินทรา)  หลังเช็ดหน้าสังเกตได้ว่าสำลีที่ขาวสะอาดจะมีคราบสิ่งสกปรก บางครั้งจะมีคราบสีเหลืองอ่อน ๆ  ปุ๊กคิดว่ามันน่าจะเป็นน้ำมันส่วนเกินบนผิวที่ยังตกค้างอยู่ หลังเช็ดรู้สึกผิวโล่งและรู้สึกรูขุมขนกระชับดีจัง น่าจะเป็นการเตรียมผิวให้พร้อมบำรุง ช่วยให้เซเรั่มและครีมบำรุงซึมลงสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น 

นอกจากนี้ Sebo Vegetal Purifying Micellar Water 2 in 1  ยังสามารถเช็คทำความสะอาดเครื่องสำอางได้ด้วย แต่คงต้องเป็นเครื่องสำอางชนิดไม่กันน้ำนะคะ เพราะลองใช้เช็ดพวกมาสคาร่ากับอายไลเนอร์ชนิดกันน้ำ เช็ดไม่ค่อยออก ซึ่งคงต้องใช้คลีนซี่ง ออยล์ ที่เหมาะกับการล้างเครื่องสำอางชนิดกันน้ำ  ซึ่งปุ๊กรีวิวการเช็ดเครื่องสำอางบริเวณคิ้วให้เห็นว่า สามารถเช็คเครื่องสำอางออกได้จริง ขวดเดียว 2 in 1 จริง ๆ ค่ะ

 

สรุปแล้วปุ๊กชอบทุกตัวในชุด SeboVegetal ใช้ควบคู่กันช่วยลดความมันบนผิว ช่วยกระชับรูขุมขนได้จริง รูขุมขนเล็กลง ผิวสะอาดเรียบเนียนขึ้น ขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วได้หมดจด น่าจะช่วยลดการอักเสบของสิว    ผิวแลดูมีสุขภาพดีขึ้นด้วยค่ะ

 


korya

korya

สวัสดีค่ะ เราชื่อปุ๊ก อายุ 43ปี
เราเชื่อว่า ผู้หญิงทุกคนมีความงามในตัวเอง ดั่งสุภาษิต
"ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง"
ใช้นามปากกาใน Social "korya" อ่านเป็นไทย "กอหญ้า"
เพราะชอบความสวยงามแบบธรรมชาติของ กอหญ้า

ขอบคุณที่ติดตามและอ่านบทความของปุ๊กมาตลอดนะคะ
ยินดีแนะนำและแบ่งปันประสบการณ์ที่จะช่วยให้ทุกคนสวยและดูอ่อนเยาว์ค่ะ
ปุ๊กจะหาสิ่งดีดีมาแนะนำเรื่อยๆ ค่ะ

FULL PROFILE