Review skin care ราคาสบายๆสำหรับผิวหน้า ที่ใช้ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาค่ะ ^^

25 12
สวัสดีวันปีใหม่ไทยเพื่อนๆชาว Jeban ทุกคนค่ะ


หวังว่าทุกคนจะมีความสุข เล่นน้ำกันอย่างสนุกสนานกันนะคะ วันสบายๆแบบนี้เราไม่ได้ไปไหน
เลยอยากมาตั้งกระทู้ Review skin care ที่ใช้เองตั้งแต่ช่วงปีใหม่จนถึงเดือนเมษาอันร้อนฉ่านี้ว่ามีอะไรกันบ้าง

P.S. เขียนตามความรู้สึก และอธิบายแบบง่ายๆ ไม่เน้นวิชาการนะคะ 



ภาพรวมค่ะ


1. etude house moistfull white toner
2. flawless me vanilla mousse sunscreen spf 50 pa +++
3.  purevivi cleansing lotion
4. hada labo hada labo super hyaluronic acid moisturizing lotion
5. she says perfect skin day & night
6.  ladykin hydro white illumination emulsion
7. garnier dark spot corrector correcteur anti-taches
8. etude ac clinic gel lotion



etude house moistfull white toner

เป็นโทนเนอร์ที่ไม่ได้ตั้งใจแต่แรกว่าซื้อมา แต่ว่าช่วงต้นปีได้มีโอกาสไปพม่า
แล้วเห็นร้าน etude มาเปิดพอดีเลยลองเข้าไปดู พบว่า etude ที่พม่าราคาถูกดีค่ะ
หยิบๆจับๆก็ได้มา 2 - 3 ชิ้น อย่างโทนเนอร์ขวดนี้ราคาประมาณ 300.- ค่ะ

เหตุผลที่ใช้แล้วชอบอันดับแรกเป็นเพราะว่ากลิ่น ส่วนตัวเราไม่ค่อยชอบ skin care ที่มีกลิ่นหอมมากๆ
เพราะกัลวลว่าผิวจะแพ้ได้ง่ายๆ แต่ถ้าเป็นโทนเนอร์ยิ่งหอมก็จะยิ่งชอบเพราะเวลาเช็ดมันให้ความรู้สึกที่สดชื่นดีค่ะ
แต่ถ้าช่วงไหนที่เป็นสิวเราจะพยายามหลีกเลี่ยงไม่ใช้ skin care ใดใดที่มีส่วนผสมของน้ำหอมเลย

สำหรับโทนเนอร์ขวดนี้กลิ่นหอมแบบนมๆ เย็นๆ เช็ดแล้วให้ความรู้สึกอารมณ์ดีทุกๆเช้าและก่อนนอน
ส่วนตัวเรารู้สึกว่าครีมซึมลงได้ดีขึ้นด้วยค่ะ ขวดนี้ใช้ได้ประมาณ 3 - 4 เดือนนะคะ



flawless me vanilla mousse sunscreen spf 50 pa +++

เชือว่าหลายๆคนคงรู้จักกันแดดตัวนี้
เพราะว่าเป็นกันแดดของบลอกเกอร์ที่มีชื่อเสียงท่านหนึ่งคือคุณ Onn Baby นั่นเอง
เราเป็นคนชอบลองของใหม่ค่ะ อะไรออกใหม่ราคาไม่แรงก็อยากจะลองอยู่แล้ว
ยิ่งเป็นของจากคนรู้จักด้วยยิ่งอยากลองใช้ก็เลยสั่ง online มา

เนื้อกันแดดเป็นเนื้อมูส เวลาใช้ต้องเขย่าก่อนนะคะ แล้วเวลาบีบจะได้เนื้อกันแดดที่ฟูๆออกมา
เวลาทาจะช่วยปรับสภาพผิวให้กระจ่างขึ้นเหมือนใช้เบสค่ะ
อยากบอกว่ากันแดดตัวนี้ถ้าใครที่ผิวผสม - ผิวมันน่าจะชอบเหมือนเรา
เพราะว่าใช้แล้วระหว่างวันหน้าไม่มัน และไม่เป็นคราบด้วยค่ะ
ทาแล้วสามารถออกแดดได้สบาย กลับบ้านมาผิวหน้าไม่หมอง ไม่คล้ำขึ้นแต่อย่างใดค่ะ ^^



purevivi cleansing lotion

คลีนซิ่งที่ดังมาระยะหนึ่งแล้ว คนชอบลองของใหม่อย่างเราก็ไม่ขอพลาด
โชคดีมากที่หาซื้อได้ตอนที่ขาดตลาดอยู่พอดี

เบื้องต้นตอนที่ใช้รู้สึกว่าเป็นคลีนซิ่งที่ให้ความรู้สึกอ่อนโยนกับผิวมาก
ไม่ต้องกังวลว่าใช้แล้วจะแพ้หรือสิวขึ้นเพราะว่าไม่มีสีและกลิ่น เช็ดเครื่องสำอางอย่างเช่นรองพื้นออกง่ายดีค่ะ ปาดๆแป๊บเดียวเกลี้ยงแล้ว แต่สำหรับดวงตาที่ใช้มาสคาร่ากันน้ำอาจต้องเช็ดนานกว่านั้น แน่นอนว่าใช้แล้วไม่แสบตา แตถ้าต้องการความเร็วที่มากกว่าเราแนะนำให้ใช้เป็น eye remover โดยเฉพาะที่มีส่วนผสมของน้ำมันแทนค่ะ

สำหรับ purevivi ปกติเราจะหยดใส่สำลีแบบชุ่มๆเลย
ไม่เสียดายเพราะไม่อยากงกไม่เข้าเรื่อง กลัวเช็ดแล้วสำลีจะขูดไปกับผิวแทนเนื้อคลีนซิ่ง



hada labo hada labo super hyaluronic acid moisturizing lotion

เป็นตัวที่เลือกใช้ในช่วงที่รู้สึกว่าผิวไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ เช่นตอนที่นอนน้อยติดต่อกันหลายวัน
เพราะให้ความรู้สึกว่าเป็นผลิตภัณอ่อนโยนและปลอดภัยดี ช่วยเติมน้ำให้ผิว
หรือช่วงไหนที่รู้สึกว่าผิวหน้าขาดความชุ่มชื้นอย่างหนัก

แต่เราจะไม่ใช้เดี่ยวๆ จะใช้หลังเช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์ และทาครีมทับลงไปอีกรอบค่ะ
จุดที่ชอบอีกจุดหนึ่งคือไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และส่วนผสมของน้ำหอมเลย

ล่าสุดได้ดู review ของคุณแป้ง Kirarista เห็นว่าเป็นตัวที่คุณแป้งเลือกใช้ในช่วงที่ผิวบอบบางเช่นกัน
เช่นช่วงที่ทำเลเซอร์หน้า เพราะมีคุณสมบัติที่อ่อนโยนมากๆ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวได้จริง
สามารถทำเป็นมารค์โดยใช้คู่กับแผ่นมารค์อัดเม็ดหรือสำลีก็ได้ค่ะ แต่ส่วนตัวยังไม่เคยลอง



she says perfect skin day & night

skin care ของคนใกล้ตัวเราอีกคนที่เกิดขึ้นจากการที่เจ้าตัวเป็นคนหาครีมบำรุงผิวที่เข้ากับหน้ายากมาก
ผิวหน้าก็มักจะมีปัญหาผิวต่างๆนาๆเช่นเป็นสิว หรือแต่งหน้าไม่ติด
เลยปรึกษาผู้เชียวชาญเพื่อพัฒนาสูตรครีมขึ้นมาโดยเฉพาะ มีเลขที่จดแจ้งเรียบร้อยค่ะ
และก็เหมือนเดิมที่ว่าคนชอบลองของใหม่อย่างเรามีหรือจะปล่อยไป
 

day cream มีส่วนผสมของสารกันแดดด้วยค่า spf 15 เนื้อครีมจะกึ่งครีมกึ่งเบส
ทาแล้วจะมีคุณสมบัติคล้ายๆกันแเดดของ flawless me vanilla mousse sunscreen spf 50 pa +++
คือปรับสีผิวกระจ่างใสขึ้น ทาแล้วให้ความรู้สึกว่าเนื้อครีมครีมจะเคลือบปกป้องผิวหน้าด้วยค่ะ

night cream เนื้อจะเป็นกึ่งครีมกึ่งเจล ทาแล้วให้ความชุ่มชื่นกับผิวได้ดีมาก
จุดที่เราชอบคือถึงจะทาตรงที่เป็นสิว เช่นสิวฮอร์โมนที่ขึ้นที่คาง ตื่นเช้ามาสิวจะยุบลงค่ะ

ทั้ง 2 ตัวไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม แต่กลิ่นจะหอมเนื่องจากส่วนผสมตามธรรมชาติค่ะ



 ladykin hydro white illumination emulsion

เป็นอิมัลชั่นที่เราชอบมากตัวหนึ่งในการสร้าง look ผิวฉ่ำวาวแบบสาวเกาหลีได้
จากข้อมูลที่เราทราบมาคือสาวเกาหลีจะใช้ขั้นตอนในการบำรุงผิวที่เยอะมาก เรียกว่าเป็นเสต็ปๆกันเลย
และเคล็ดลับในการที่มีใบหน้าที่ดูชุ่มชื้นแวววาวก็มาจากการทาอิมัลชั่นนั่นเอง( ก็เลยเลียนแบบ
)

เนื้ออิมัลชั่นตัวนี้จะเป็นเนื้อขาวขุ่น กดออกมาแล้วสีเหมือนไขมุกเลยค่ะ
เวลาทาใช้นิดเดียวเพราะต้องลงครีมทับ ซึมเร็วมาก ย้ำว่ามาก นับ 1 2 3 ซึมแล้วค่ะ
มีส่วนผสมของน้ำหอมนิดหน่อย



garnier dark spot corrector correcteur anti-taches

ซื้อมาเพราะเห็น review ช่วงที่เปิดตัวใหม่ๆจากคุณแป้ง Kirarista
และส่วนตัวเราเปนคนชื่นชอบ skin care ที่มี vitamin c เป็นส่วนผสมหลักอยู่แล้วเลยจัดมา

เซรั่มตัวนี้เนื้อเป็นสีขาว มีน้ำหอมผสมด้วย ซึมเร็วระดับหนึ่ง
ความรู้สึกหลังใช้ส่วนตัวเราว่ารอยดำจากสิวจากลงจริงแต่ว่าค่อนข้างช้าถึงช้ามาก
อาจจะด้วยวัยของเราและ % ส่วนผสมของ vitamin c ที่มีไม่สูงมากด้วยค่ะ

ถ้าใครที่มีรอยดำจากสิวแล้วอยากจะหายเร็วทันใจ เราคิดว่าเซรั่มตัวนี้อาจไม่เหมาะ
แต่ถ้าไม่รีบมากนัก และมีงบจำกัดก็เป็นอีก 1 ตัวเลือกที่โอเคค่ะ
เพราะปริมาณเยอะมาก ใช้เป็นปีได้เลยเราว่า



 etude ac clinic gel lotion

เป็นอีกชิ้นที่ไม่ตั้งใจซื้อมา ซื้อมาพร้อมกับ จากช็อป etude ที่พม่า
เนื้อเจลไม่หนักไม่เบา กลิ่นค่อนไปทางสมุนไพรค่ะ จะใช้ทาบำรุงผิวช่วงที่เป็นสิว ใช้แล้วสิวจะไม่เห่อค่ะ

ส่วนตัวเรารู้สึกว่าซึมช้าและถ้าทากลางวันและไม่ใช้กันแดดที่ควบคุมความมันทาทับอีกรอบ
ช่วงกลางวันมีสิทธิหน้ามันได้ค่ะ



และนี่คือ skin care ที่เราได้ใช้ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาทั้งหมดค่ะ
ขอบคุณที่อ่านกันมาจนจบนะคะ แล้วไว้พบกันใหม่ มีความคิดเห็นอย่างไรบอกเล่ากันได้

ขอให้ทุกๆคนมีความทรงจำที่ดีๆในช่วงสงกรานต์ค่ะ ^^

L.o.v.e

 

 




 


Melon Pruksa

Melon Pruksa

FULL PROFILE