[Review] แป้งผสมรองพื้น+บลัชออนรุ่นใหม่ Anna Sui

สวัสดีค่ะ นี่เป็นรีวิวแรกก็อยากจะขอประเดิมด้วยไอเท็มใหม่ที่พึ่งถอยมาร้อนๆ เราเป็นคนหนึ่งเลยล่ะที่ซื้อเครื่องสำอางเพราะแพคเกจ แอนนนาซุยนี่เป็นอะไรที่หลงมากๆ แต่หารีวิวอ่านยากเกิ๊น...หวังว่าข้อมูลนี้คงเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่กำลังตัดสินใจและสนใจในสินค้าตัวเดียวกันนี้นะคะ ^_^

แค่กล่องกระดาษก็กินขาดแล้ว >_< ทีแรกได้มาแต่่รีฟิล ตลับขาดค่ะ ตามหาอยู่นานเหมือนกัน ในที่สุดก็ได้มาครบเซ็ต อันนี้ต่างจากรุ่นเก่าตลับกลมนะคะ รุ่นใหม่เป็นตลับสี่เหลี่ยมจตุรัสมีชั้นเดียว ไม่มีชั้นวางฟองน้ำ

Anna Sui Powder Foundation SPF 20 PA++ 

แป้งผสมรองพื้นรุ่นนี้เค้าโฆษณามาว่าผสมผงไข่มุกที่มีอณุภาคสีเงินเมื่อทาลงบนผิวแล้วจะทำให้ผิกระจ่างใสนวลเนียนเป็นธรรมชาติค่ะ ตอนเข้าไปดูในเว็บเค้าเราถึงกับหน้ามืดเพราะคำว่า Pure silver pearl powder คือแบบ...อยากหน้าวิ๊งแบบนั้นบ้าง 555+

มาดูเนื้อแป้งในตลับจริงๆ บ้างนะคะ เราใช้เบอร์ 101 ค่ะ ขาวเหลือง

เปิดออกมาแป้งจะมีลายปั๊มชื่อแบรนด์และลายกุหลาบเป็นโลโก้ของแอนนาซุย สีของแป้งเหลืองถูกใจมากเลยค่ะ เหลืองแบบที่แบรนด์ยุโรปหาได้ยากนะ แต่คิดไปมาก็เค้าแบรนด์ญี่ปุ่นนิ 555+ ปายเป็นคนผิวเหลืองมากค่ะ ถ้าใช้แป้งสีชมพู หรือโทนสีธรรมชาติของแบรนด์ฝรั่งบางแบรนด์หน้าจะเทาทันที เรื่องเฉดสีรองรับสีผิวชาวเอเชีย แอนนาซุยนี่ผ่านฉลุยอยู่แล้วค่ะ

อีกอย่างหนึ่งที่ประทับใจกับแอนนาซุยมาตลอดคือกลิ่นกุหลาบหอมอ่อนๆ นี่ ทาแล้วเคลิ้ม น้ำหอมที่ใส่มาไม่ได้เข้มจนฉุนนะคะ ทาบนหน้าซักพักกลิ่นจะจางหายไปเองไม่ได้ติดตัวทนนานแบบมองเล่ยะน๊าาา

ปาดเนื้อแป้งโชว์ค่ะ แป้งเนื้อเนียนและละเอียดมาก เนื้อนุ่มไม่หนักหน้า สามารถทาทับหลายชั้นได้เพื่อเพิ่มระดับความปกปิด แต่โดยปกติทารอบเดียวจะให้ระดับความปกปิดตั้งแต่ปานกลาง-ค่อนข้างมากค่ะ ยังไม่เนี๊ยบถึงขนาดเทลมีหรือ bsc ที่ทาปั๊บทุกอย่างหายไปทันที แป้งตัวนี้ยึดเกาะกับผิวหน้าในลักษณะที่ยังปล่อยให้ผิวหน้าได้หายใจอยู่

ลืมบอกสภาพผิวค่ะ เราเป็นคนผิวแห้งนะคะ รูขุมขนก็กว้างอยู่ มีรอยสิวและรอยกระให้ต้องปกปิดบ้างค่ะ ปกติทาแป้งผสมรองพื้นจะไม่ได้ทาคู่กับรองพื้นแบบน้ำนะคะ ดังนั้นผลที่ได้จากการรีวิวจะเป็น กันแดด-->ตามด้วยแป้งผสมรองพื้นเลย สำหรับลุคเวลาแต่งหน้าไปเที่ยวช่วงกลางคืนก็ไม่มีรองพื้นแบบน้ำเหมือนกันค่ะจะเป็น กันแดด+เบสคิสรุ่นมอยส์-->ตามด้วยแป้งผสมรองพื้น

ความติดทนของแป้งรุ่นนี้เราให้อยู่ในเกณฑ์ดีค่ะ 3-4 ชม. ก็ยังต้องเติมอยู่ คิดว่าแป้งไม่ได้คุมมัน เพราะขนาดเราผิวแห้งใช้แล้ววันที่อากาศเยิ้มจริงๆ ตรงจมูกมีหลุดนะคะ แต่ไม่ได้เป็นคราบอะไร ส่วนอื่นก็ติดหน้าดี ผ่องเด้ง สีไม่ดรอปเลยซักนิด (ข้อนี้นอนยัน) 

โดยรวมแล้วพอพิจารณาหลายๆ แง่ เราคิดว่ายังคุ้มค่าที่จะซื้ออยู่ค่ะ 

ลองสรุปคะแนนที่เราให้แอนนาซุยรุ่นตลับสี่เหลี่ยม 

product 8/10 

pigmentation 10/10

texture 9/10

longevity 7/10

application 7/10

packaging 9/10

เอา A- ไปละกันนะ

ต่อไปมาดูอีกชิ้นที่ตอนนี้ปลื้มมมมม....ลูกรัก

Anna Sui Rose Cheek Color #100

เปิดมาครั้งแรก กรี้ด >< ลายมันสวย มันน่ารัก มันโอ๊ยใช่ทุกอย่าง! เบอร์อื่นเป็นบลัชออนค่ะ ส่วนเบอร์นี้จะใช้เป็นไฮไลท์ก็ได้ จะว่ามันไม่ออกสีก็ไม่ใช่แฮะ สำหรับเรามันออกค่ะ ออกเยอะกว่าไฮไลท์ทั่วไปอยู่นะคะ จะเห็นแก้มเป็นสีม่วงอมฟ้าแบบเบาๆ ใครชอบแต่งหน้าสไตล์แกลเราว่าอันนี้เริ่ดเลยค่ะ แบบทามุจังชอบแนะนำว่าปัดแก้มสีชมพูอมฟ้า...คือแบบ อันนี้มันใช่เลย วิ๊งกำลังน่ารักค่ะ ติดทนทั้งวันไม่ต้องเติม

มีแบบซูมๆ ค่ะ

รูปนี้สีเป๊ะนะคะ ไม่เพี้ยน ออกไปนั่งถ่ายรูปนอกบ้านมา พอปัดรวมกันแล้วจะได้ม่วงอมฟ้าอ่อนวาวๆ ค่ะ ทาแก้มทาจมูกทาตาได้โม้ดดด...สีชมพูวิ๊งตรงกุหลาบซ้ายบนเอามาทำวีเชฟที่หัวตาน่ารักมาก

สรุปคะแนน

product 10/10 

pigmentation 9/10

texture 9/10

longevity 10/10

application 10/10

packaging 10/10

เอา A+ ไปเลยลูกรัก >_<

หวังว่าที่รีวิวไปคงพอเป็นข้อมูลอ้างอิงให้สาวๆ ได้บ้างนะคะ ขอลาไปด้วยรูปที่ทาแป้งแอนนาซุยไปแล้วประมาณ 2 ชั่วโมงค่ะ (กันแดด+แป้ง)

แล้วก็ภาพสุดท้ายนะคะ พอเอาไปปรับแสงในอินสตาแกรมแล้วจะเห็นว่าแป้งกระจายแสงดีมาก ให้ลุคพอร์ชเลน ผิวเนียนเรียบเหมือนกระเบื้องเลย