Bobbi Brown University กับ Color Combination

เริ่มต้นด้วยการทดสอบโดยให้เวลาประมาณ 45 นาที เพื่อแต่งหน้าตามที่ได้เรียนไปครั้งที่แล้ว เริ่มตั้งแต่ลงคอนซีลเลอร์ รองพื้น แป้งฝุ่น คิ้ว แก้ม ปาก และตาเป็นอันดับสุดท้าย ตามขั้นตอน และอีก 15 นาทีเป็นการให้คะแนนโดย Makeup Artist จะเป็นผู้ให้คะแนน (ลืมถามว่าให้คะแนนเอาไปทำอะไร)

และก็มาเริ่มเข้าเรื่องเกี่ยวกับทฤษฎีของสีโทนร้อนและโทนเย็น

สีสันทั้งหมดของ Bobbi Brown จะมีสีน้ำตาลปน ซึ่งสีน้ำตาลเป็นได้ทั้งโทนร้อนและเย็น (เขาว่าอย่างงั้นนะ) ทำให้สีสันของ Bobbi Brown สามารถเข้าได้กับทุกสีผิว

เทคนิคของ Bobbi Brown ที่ทำให้สีสันที่เลือกออกมาลงตัวกันได้หรือเรียกว่า Perfect Shade นั้น แนะนำว่าให้เลือกสีของลิปสติกก่อน โดยดูจากสีปากของเราว่าอยู่ในโซนไหน (มี chart ให้ดูด้วยแต่ลืมถ่ายรูป) ซึ่งจะแบ่งสีของลิปสติกออกเป็น 3 โซนคือ neutral (สีของลิปสติกที่เป็นสีปากของเราเอง) Bright (สีของลิปสติกที่สว่างกว่าสีปาก) Deep (สีของลิปสติกที่เข้มกว่าสีปาก)

เมื่อได้สีของลิปสติกแล้ว ค่อยมา match กับสีของแก้ม และตาต่อไป ซึ่งจะเป็นไปตามทฤษฎีของโทนสีด้านบนนั่นแหละ

ทฤษฎีที่ว่ามาทั้งหมดนี้จะช่วยให้การแต่งหน้าของเราง่ายขึ้น เราสามารถเลือกจับคู่สีสันเพื่อละเลงบนหน้าได้แบบสุภาพ ลงตัว ไม่ดูเละเทะจนเกินงาม และสามารถเป็นช่างแต่งหน้ามือโปรสำหรับตัวเองได้ (เขาว่างั้นนะ) ว่ากันด้วยทฤษฎีกันแล้ว ก็มาเริ่มลงมือปฏิบัติจริง

อำลาอาลัยการเรียนครั้งนี้ด้วย... ของขวัญ หลังจากจบทั้ง 3 หลักสูตร (จริง ๆ แค่เข้าเรียนให้ครบทั้ง 3 ครั้งนั่นแหละ)